All Blog
#หยวนเทียนซุนตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 1871 - 1871 #พรรณีเกษกมล
#หยวนเทียนซุนตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 1871 - 1871
#พรรณีเกษกมล
หยวนเทียนซุนตี้ฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 12 แห่งราชวงศ์หยวน
หยวนเทียนซุนตี้ฮ่องเต้พระนามเดิม ราจิบากข่าน ประสูติ พ.ศ. 1863 เป็นพระโอรสองค์โตของฮ่องเต้องค์ที่ 11 หยวนจินจงฮ่องเต้หรือหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้ กับพระมารดาบาบูคาน คาทูน ตระกูลคุนกิรัทมีอำนาจในราชสำนัก ได้ตำแหน่งองค์รัชทายาท ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ ใน พ.ศ. 1867 
เมื่อพระบิดาสวรรคตกะทันหัน หนึ่งเดือนหลังจากนั้นจึงมีโอกาสได้ครองราชย์เมื่อพระชนม์ 8 พรรษา พ.ศ. 1871 โดยการชักนำของดอลัทชาห์ ที่ปรึกษาหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้ ซึ่งเป็นชาวมุสลิม ครองราชย์ได้ไม่ถึงปี สวรรคต วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 1871 นับเป็นฮ่องเต้ที่ครองอำนาจสั้นมาก
ประเทศจีนในช่วงนี้ตรงกับรัชสมัยของราชวงศ์หยวนที่มีฮ่องเต้เป็นคนเดียวกับข่านของชาวมองโกล ไม่ใช่คนจีนไปมีอำนาจเหนือมองโกลแต่เป็นมองโกลมีอำนาจเหนือจีน
ทำไมชาวจีนจึงยินยอมให้คนต่างชาติมาเป็นฮ่องเต้และเป็นผู้ปกครองรัฐนานถึง 12 รัชกาล 
ทั้งที่ชาวมองโกลเป็นคนบ้านป่าเมืองเถื่อนในสายตาของคนจีน ที่ถือตัวว่า มีอารยธรรม แถมยังเป็นนักรบทะเลทรายที่ร่อนเร่ไปตามทะเลทรายอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ไม่มีอารยธรรมที่เจริญทัดเทียมกับจีน ยิ่งชาวมุสลิมมีอำนาจในการปกครองเคียงคู่กับฮ่องเต้ในราชสำนักและรัฐบาล มีการลดทอนอำนาจของขุนนางจีนจากรัชกาลก่อน 
การต่อต้านโดยขบวนการใต้ดินเพื่อคิดล้มล้างอำนาจราชวงศ์หยวน ของชาวมองโกล จึงยิ่งเพิ่มความเข้มข้นทวีคูณ 
โดยเฉพาะในช่วงที่ฮ่องเต้เป็นเด็กเล็ก ๆ ชาวบ้านเองคงรู้สึกขมขื่นเป็นอย่างมาก ที่คิดว่าจีนตกเป็นเมืองขึ้นของมองโกล ทั้งที่เป็นประเทศมหาอำนาจมีแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล เท่ากับจีนสูญเสียเอกราชให้แก่มองโกล 
ข่านแห่งมองโกลแก้ไขด้วยการยอมมี 2 สถานะเป็นฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หยวนไปพร้อมกับเป็นข่านแห่งมองโกล เพื่อไม่ให้จีนเป็นเมืองขึ้นของมองโกล 
ฮ่องเต้เองคงรู้สึกถึงแรงต้านจากขุนนางจีนและชาวบ้าน จึงยอมผ่อนปรนในหลายเรื่องราวเพื่อให้อำนาจของตนยังคงอยู่ต่อไปได้
หลังการสวรรคตของหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว 
อำนาจในการปกครองจึงตกอยู่ในกำมือของดอลัทชาห์ ทำให้เกิดการลุกฮือขึ้นต่อต้านอำนาจเผด็จการที่เกิดตั้งแต่รัชสมัยของหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้ในการผูกขาดทางการค้า ได้เกิดอย่างรวดเร็วมากขึ้น 
ใช่แต่ชาวจีนที่ไม่พอใจมานาน มันคุกรุ่นมานานแล้ว และยิ่งรุนแรงพัดโหมทวีมากดั่งพายุ ถูกกดขี่ข่มเหงโดยนักรบทะเลทรายยังไม่พอ มาโดนชาวมุสลิมกดขี่เพิ่มซ้ำอีก
แม้แต่ชาวมองโกลเองไม่พอใจเช่นกัน ได้ก่อการรัฐประหารนำโดยชิพชัก เอลเตมูร์ ที่กุมอำนาจทางทหาร อยู่ที่เมืองต้าตูได้ยกกองทัพมา และขอให้แต่งตั้งพระโอรสของคายิชาน ทิวช์เตมูร์เป็นข่านและฮ่องเต้ 
ดอลัทชาห์รีบแต่งตั้งให้ราจิบากพระโอรสองค์โตของหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้ขึ้นเป็นข่านและหยวนเทียนซุนตี้ฮ่องเต้ในเดือนเดียวกัน 
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงอำนาจสูงสุดระหว่างคนสองกลุ่มได้เกิดขึ้นอีกแล้ว
ในช่วงแรกกองทัพฝ่ายราจิบาก สามารถมีชัยเหนือกำแพงเมืองจีนในหลายจุด และทะลวงฝ่าฟันไปยังเมืองต้าตูได้อีกด้วย แต่มาพ่ายแพ้แก่กองทัพของเอลเตมูร์ จากเดือนตุลาคมจนถึงพฤศจิกายน ฮาซาร์ลูกหลานของอารักเตมูร์เข้ามาควบคุมสถานการณ์ทางตะวันออกของมองโกลและบูคาเตมูร์ปิดล้อมเมืองฉางตู ไปอยู่เคียงข้างเอลเตมูร์ ทำให้กองทัพฝ่ายราจิบากต้องยอมจำนน 
ดอลัทชาห์โดนจับกุมและราจิบากหายตัวไป 
หลายกระแสบอกว่า โดนเก็บเสียแล้ว
เอลเตมูร์คนนี้ต่อมา มีอำนาจเหนือราชสำนักจนถึงสิ้นชีวิต 
เขาสามารถกำหนดได้ว่า ใครควรขึ้นมาเป็นฮ่องเต้องค์ต่อไปจากการกุมอำนาจในราชสำนักได้ทั้งหมด



Create Date : 22 มีนาคม 2568
Last Update : 25 มีนาคม 2568 7:30:20 น.
Counter : 196 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments