ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1705 1732
#พรรณีเกษกมล#ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1705 – 1732
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ซ่งใต้หรือองค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์ซ่ง
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้พระนามเดิมเจ้าเชิน ประสูติ วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 1670 ครองราชย์ต่อจากซ่งเกาจงฮ่องเต้ที่สละบัลลังก์ในปี พ.ศ. 1705
พระนามฮ่องเต้ หมายถึง ผู้ปกครองที่ผูกพันกับประชาชน ครองราชย์เมื่อพระชนม์ 35 พรรษา สวรรคตวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 1737 เมื่อพระชนม์ 67 พรรษา
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้เป็นลูกหลานรุ่นที่ 7 ของซ่งไท่จู่ฮ่องเต้
นับเป็นการข้ามสายตระกูลจากฮ่องเต้องค์ที่ 2 ซ่งไท่จงฮ่องเต้ พระอนุชาของซ่งไท่จู่ฮ่องเต้ องค์ที่ 1 มายังสายเดิม และได้สืบต่อกันจนสิ้นราชวงศ์ซ่งใต้เลยทีเดียว
คงจำกันได้ว่า เคยมีข่าวลือว่า ซ่งไท่จงฮ่องเต้ทรงฆ่าซ่งไท่จู่ฮ่องเต้และฆ่าผู้เกี่ยวข้องที่มีโอกาสจะขึ้นครองราชย์ทั้งหมด สายของซ่งไท่จงฮ่องเต้จึงได้ครองราชย์ต่อกันมาจนสิ้นราชวงศ์ซ่งเหนือ และได้กอบกู้บัลลังก์จนเป็นองค์แรกแห่งราชวงศ์ซ่งใต้
ต่อจากนั้นจึงเป็นสายของซ่งไท่จู่ฮ่องเต้มาตลอดนับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
ช่วงที่เกิดสงครามกับจินนั้น ราชสำนักจินได้จับตัวลูกหลานที่มีเชื้อสายใกล้ชิดกับซ่งเกาจงฮ่องเต้ที่อาศัยอยู่เมืองไคเฟิง ไปที่เมืองจีนทางตอนใต้เกือบหมด นี่จึงเป็นคำตอบว่าทำไมสายของซ่งไท่จงฮ่องเต้จึงหมดสิ้นลงที่รัชกาลที่ 10 เท่านั้น
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของเจ้าซิเฉิงหรือองค์ชายซิแห่งซิหยวน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่ 6 ของซ่งเกาจงฮ่องเต้และซ่งชินจงฮ่องเต้
เจ้าซิเฉิงเป็นโอรสของเจ้าหลิงหัวหรือดยุคแห่งชิง ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องลำดับที่ 5 ของซ่งฮุยจงฮ่องเต้และซ่งเจ๋อจงฮ่องเต้ ไล่เรียงลำดับกันเป็นพระญาติสนิทที่ยังคงหลงเหลือรอดชีวิต เมื่อมีบุญย่อมได้ในสิ่งที่ควรได้
ส่วนฮองเฮาคงเป็นพี่น้องจากตระกูลเดียวกัน คือ ตระกูลเฉิง 3 คนด้วยกัน เฉิงหมู เฉิงกง และเฉิงซุ่ย
บ้านเมืองยังอยู่ในช่วงสงครามกับจิน
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ยอมเสียศักดิ์ศรีเพื่อแลกกับตำแหน่งของตนเองที่จะได้เป็นฮ่องเต้และความสงบสุขของบ้านเมือง
ซ่งเสี้ยวจงฮ่องเต้ทำสัญญาสงบศึกกับจิน ยอมจ่ายเงินเป็นเครื่องบรรณาการต่อจินปีละ 200,000 ตำลึง กับผ้าไหมอีก 200,000 พับ
จำนวนนี้ไม่นับว่ามากเมื่อเทียบกับสมัยของซ่งหนิงจงฮ่องเต้ในรัชกาลต่อ มา เพราะต้องเพิ่มเงินที่ต้องจ่ายเป็นเครื่องบรรณาการต่อจินเป็นปีละ 300,000 ตำลึง กับผ้าไหมอีก 300,000 พับ
อาณาเขตของซ่งใต้ลดลงจากซ่งเหนือเหลือเพียงสองในสาม ชาวฮั่นเองไม่อาจลืมตาอ้าปากได้เลยนับเป็นช่วงที่ชาวฮั่นตกต่ำสุดขีดในประวัติศาสตร์