Group Blog All Blog
|
#หยวนจินจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1866 - 1871 #พรรณีเกษกมล #หยวนจินจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1866 - 1871 #พรรณีเกษกมล หยวนจินจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 11 แห่งราชวงศ์หยวน หยวนจินจงฮ่องเต้หรือส่วนใหญ่ขนานพระนามว่าหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้พระนามเดิมเยซูนเตมูร์ข่าน ประสูติวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 1836 เป็นรุ่นเหลนของกุบไลข่าน เป็นพระโอรสขององค์ชายกัมมาลา ซึ่งเป็นพระโอรสขององค์ชายเฉิงจิน ซึ่งเป็นพระโอรสของกุบไลข่านอีกที ความหมายชื่อหมายถึง เป็นข่านที่มีธาตุเหล็กเก้าอย่างในภาษามองโกเลียน ภาษาชาวบ้านอาจแปลความว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง ได้ขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนม์ 30 พรรษา หลังจากที่หยวนอิงจงฮ่องเต้สวรรคต 1 เดือน และเป็นข่านที่ปกครองมองโกลเป็นคนที่ 10 ครองราชย์ได้นาน 5 ปี อภิเษกสมรสกับซูกาบาลาแต่ไม่มีพระโอรสสืบอำนาจต่อ สวรรคต วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 1871 ที่น่าสังเกตคือราชวงศ์นี้มีฮ่องเต้สวรรคตโดยไร้ผู้สืบสกุล ในรัชกาลที่ 7 ของราชวงศ์หยวน หยวนเฉินจงฮ่องเต้หรือเตมูร์ข่านได้ขึ้นครองราชย์ทั้งที่เป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ขององค์ชายเฉิงจิง พระองค์มีพระเชษฐา 2 องค์ คือ องค์ชายกัมมาลากับองค์ชายดารมาบาลา พอมาถึงรัชกาลที่ 8 ฮ่องเต้สืบเชื้อสายมาทางองค์ชายกัมมาลาซึ่งควรจะมีสิทธิในการครองราชย์ตั้งแต่แรกเริ่ม คนที่จะขึ้นครองราชย์ล้วนสืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลคือกุบไลข่าน แต่สลับกันไปมาระหว่างพระนัดดาและพระปนัดดา ขึ้นอยู่กับใครมีอำนาจบารมีและความสามารถสูงกว่าคนอื่น ไม่ได้กำหนดลำดับการขึ้นครองราชย์เหมือนคนจีนหรือราชวงศ์อื่น ทำให้ฮ่องเต้ไม่ได้สืบเชื้อสายตรงจากฮ่องเต้องค์เดิม หยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้ขึ้นครองบัลลังก์ระหว่างที่ประทับในมองโกเลีย ริมฝั่งแม่น้ำเคอร์เรนวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 1866 เนื่องจากหยวนอิงจงฮ่องเต้โดนลอบสังหารขณะเดินทางจะกลับเมืองหลวงโดยเทคชีโจมตี ตอนแรกเยซูนเตมูร์คิดว่า ตนเป็นเพียงหุ่นเชิดจึงตอบปฏิเสธ แต่เมื่อองค์ชายอีกห้าองค์มาขอร้องจึงตอบรับ เมื่อได้ครองบัลลังก์ ขุนนางจีนได้เสนอให้ลงโทษเทคชีและพรรคพวก ด้วยความที่ได้อำนาจมาจากเทคชีถึงแม้จะได้มาโดยมิชอบ หยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้คงรู้สำนึกในบุญคุณบ้าง จึงไม่ได้ลงโทษและออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษพร้อมทั้งคืนทรัพย์สินที่ยึดไว้ให้แก่ครอบครัวของพวกเขาดังเดิม เมื่อการก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ไม่สวยงาม บางคนอาจคิดว่า ฮ่องเต้องค์ใหม่มีส่วนร่วมในการวางแผนลอบสังหารฮ่องเต้องค์เดิม เพราะการอภัยโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด และการต่อต้านความไม่ชอบธรรมจากบรรดาขุนนางจีน ทำให้พระองค์ทรงคิดจะประสานรอยร้าวครั้งนี้ ด้วยการยินยอมให้เกิดการปฏิรูปวัฒนธรรมจีนผสมผสานกับมองโกเลียนมากขึ้น ทั้งที่ใจจริงของพระองค์ต้องการฟื้นฟูแต่วัฒนธรรมมองโกเลียนเท่านั้น ทั้งนี้เป็นเพราะหลังจากที่สองรัชกาลก่อนได้ส่งเสริมวัฒนธรรมจีนมากเกินไป จนชาวมองโกลรู้สึกไม่พอใจจนนำไปสู่การลอบสังหารหยวนอิงจงฮ่องเต้ ขณะเดินทางออกจากพระราชวังฤดูร้อนนานโปกลับเมืองหลวง หยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้ที่นิยมวัฒนธรรมดั้งเดิมแบบชาวมองโกลเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะประสูติและเติบโตในมองโกล ถึงแม้จะชื่นชอบในความเป็นชาวมองโกล แต่สิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงคัดค้าน คือ การห้ามบูชาฟ้าดินแบบชาวมองโกล พระองค์ได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์จีนว่า เป็นผู้ที่มีความสามารถมากคนหนึ่ง ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะมีบาทหลวงชื่อ ฟรานซิส ออดอริคมาเยือนจีนในขณะนั้น จึงปรากฏหลักฐานทางตะวันตกชัดเจน ความสามารถที่จารึก คือ เป็นผู้ที่คิดและทำอย่างชาวตะวันตกให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เป็นผู้ปกครองนครที่มีคุณธรรม ดอลัทชาห์ เป็นที่ปรึกษาและมีเลขาธิการฝ่ายกิจการของรัฐ 2 คนเป็นชาวมุสลิม ชื่อ อูไบดุลลาห์กับบายันชาร์ ส่วนสำนักกิจการทหารให้มาฮูหมัด ชาห์กับฮาซัน โคจาเป็นผู้จัดการ เท่ากับมุสลิมมีอำนาจในการปกครองมากขึ้น และลดทอนอำนาจของขุนนางจีนลง การค้าให้ชาวมองโกลจัดการ แต่ยังอยู่ภายใต้การดูแลของฮ่องเต้โดยตรงในการจัดเก็บภาษีของพวกมุสลิมกับคริสเตียน มีการค้าอัญมณีกับชาวต่างชาติโดยขายต่อในราคาที่สูงกว่าเดิมถึงสิบเท่า และสินค้าที่มีราคาสูง เช่น ทอง เงิน เงินสด และผ้าไหม การห้ามชาวบ้านและลามะค้าสินค้าที่มีราคาเช่นนี้ทำให้ลามะไม่ชอบใจเกิดการต่อต้าน สุดท้ายฮ่องเต้สั่งห้ามลามะเข้าประเทศจีน การปกครองได้แบ่งจักรวรรดิเป็น 18 แคว้น จากแต่เดิมที่แบ่งไว้ 12 แคว้น และมีผู้ปกครองในตำแหน่งเจ้าผู้ครองนคร การเพิ่มจำนวนแคว้นและเจ้าผู้ครองนครย่อมนำมาซึ่งความชอบใจของผู้ที่มีโอกาสก้าวสู่ตำแหน่งนี้ ผู้ที่มีอำนาจมากในรัชสมัยนี้ คือ ดอลัทชาห์ ที่ปรึกษาชาวมุสลิม เมื่อหยวนไท่ติงตี้ฮ่องเต้สวรรคตกระทันหันในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 1871 พระโอรสได้ครองราชย์ต่อภายใต้อำนาจของดอลัทชาห์ |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |