ชาวฮั่นคือชาวจีน
ชาวฮั่นนับเป็นชนพื้นเมืองกลุ่มใหญ่สุดในจีน จึงคิดว่า ตนนั่นแหละคือชาวจีน
ตั้งแต่ราชวงศ์ฉินปกครองดินแดนอันกว้างใหญ่ แล้วตั้งตนเป็นฮ่องเต้ ใหญ่กว่าอ๋องทั้งปวง ชาวฮั่นได้ปกครองจีนมาตลอด จวบจนถึงวาระที่ต่างชาติต่างภาษาเข้ามายึดครอง
เมื่อชาวมองโกลเก่งกล้าสามารถมายึดผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ จีนจึงกลายเป็นเมืองของชาวมองโกลไปจนหมดสิ้น นานนับ 181 ปี ด้วยราชวงศ์หยวนได้ครองแผ่นดินจีนในช่วง พ.ศ. 1749 – 1930 แต่เป็นไปอย่างกดขี่ข่มเหงชาวฮั่น โดยเฉพาะ
ชาวนาผู้ยากไร้ การกู้ชาติได้เกิดขึ้น โดยชาวนาฮั่น ผู้ทนต่อแรงกดดันและความลำบากยากแค้นไม่ไหว มาถึงจุดหนึ่งจึงระเบิดออกมาด้วยแรงแค้น แรงรักชาติที่ปล่อยให้พวกมองโกลมาปกครองชาวฮั่น
ภัยพิบัติอย่างรุนแรงครั้งใหญ่ ก่อให้เกิดจุดเปลี่ยน จากชาวนาผู้ยากไร้ได้กระอักเลือดไม่หยุด สุดจะทนทาน
ชาวนาผู้มีนามว่า จูหยวนจาง ชักชวนเพื่อนสนิทมิตรสหาย ลุกขึ้นมาต่อต้านชนชั้นผู้นำและราชวงศ์หยวนอย่างจริงจัง หวังคืนแผ่นดินถิ่นเกิดให้กลับคืนมาเป็นของชาวฮั่นดังเดิม
ที่จีน ชาวนาได้ก่อกบฏหลายครั้ง และสามารถก่อการสำเร็จตั้งตนเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ปกครองจีน
ถ้าเป็นบ้านเรา แค่ชาวนาเอาตัวให้รอดได้นับว่าเก่งมาก หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินไปวัน ๆ มิมีเวลาคิดเรื่องปัญหาบ้านเมือง ได้แต่ทนและทน คงจะไม่มีปัญญาก่อกบฏและตั้งตนเป็นผู้นำประเทศได้
นอกจากระบบการบริหารปกครองบ้านเมืองล้มเหลวแล้ว ภัยพิบัติเป็นตัวกระตุ้นให้ชาวบ้านเบื่อหน่ายราชวงศ์หยวนมากขึ้น
ชาวนาหลายกลุ่มเป็นกำลังสำคัญในการลุกฮือขึ้นต่อสู้กับทางการ แล้วมาถึงวันที่ราชวงศ์หยวนล่มสลายเมื่อกลุ่มกบฏชาวนานำโดยจูหยวนจางเข้าปราบทางการและตั้งเมืองหลวงที่นครนานกิง
เมื่อราชวงศ์หยวนเริ่มซวนเซมีแต่ความวุ่นวาย กบฏมีบ่อยครั้ง
เมื่อบ้านเมืองไม่เข้มแข็ง ย่อมมีอยากลองดี กล้าท้าประลองเพื่อเปลี่ยนขั้วอำนาจ
กบฏหลายกลุ่มก้อน ประเดประดังมาท้าทายอำนาจรัฐ
สุดท้ายผู้นำกบฏชื่อจูหยวนจางได้ก่อกบฏเป็นผลสำเร็จสามารถล้มล้างราชวงศ์หยวนได้จึงปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นฮ่องเต้ชื่อหมิงไท่จู่ฮ่องเต้ สถาปนาราชวงศ์หมิงปกครองบ้านเมืองสืบแทน
ราชวงศ์หมิงหรือราชวงศ์เม้งในภาษาจีนแต้จิ๋วได้ปกครองประเทศจีนระหว่าง พ.ศ. 1911 – 2187
ราชวงศ์หมิงยืนยาวมานาน รวม 276 ปี สิ้นสุดราชวงศ์
เริ่มต้นราชวงศ์หมิงด้วยการเอาชนะชาวมองโกลและท้ายสุดสิ้นราชวงศ์เพราะพ่ายแพ้ชาวแมนจูหรือราชวงศ์ชิง
เมื่อมีเกิดย่อมมีดับ เมื่อมีจุดเริ่มต้นย่อมมีจุดสุดท้ายเป็นธรรมดาของโลกจริง ๆ คงไม่มีใครอยู่ยั้งยืนยงได้ตลอดกัลปาวสาน
ถ้าราชวงศ์ใดทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองชาวบ้านอยู่เย็นเป็นสุขและร่ำรวยมีกินมีใช้แล้ว ราชวงศ์นั้นย่อมอยู่ได้อย่างยาวนาน แต่ถ้าราชวงศ์ใดกดขี่ข่มเหงรังแกประชาชน สังคมวุ่นวายเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า จุดอวสานย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
น่าสังเกตว่าฮ่องเต้ราชวงศ์ใหม่ที่ปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นฮ่องเต้ และสถาปนาราชวงศ์ใหม่นั้นจะเป็นผู้ที่เก่งกาจล้ำเลิศ สามารถถีบตนเองให้ก้าวสู่จุดสูงสุดของประเทศด้วยความสามารถเฉพาะตัว
แต่ละราชวงศ์อาจล้มลุกคลุกคลาน สูงบ้างต่ำบ้าง ท้ายสุดเสื่อมถอยจนถึงจุดต่ำสุด รอให้คนเก่งที่สุดอีกคนหนึ่งมากอบกู้ประเทศและตั้งราชวงศ์ใหม่อีกครั้ง เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ
ไม่เว้นแม้แต่จีน จากราชวงศ์ฉินสิ้นสุดที่ราชวงศ์ชิง เป็นวัฏจักรทางการปกครองในระบอบฮ่องเต้ผู้ซึ่งมีอำนาจสูงสุดเหนือทุกแว่นแคว้น ยังต้องเจอชะตากรรมเช่นนี้
ราชวงศ์หมิงก่อตั้งขึ้นและเจริญสูงสุดด้วยการแผ่ขยายอาณาเขตทั้งภาคพื้นดินและขอบเขตทางทะเล แผ่ขยายอาณาเขตไปถึงตอนเหนือของเวียดนามและยึดมองโกเลียคืนได้ ด้านทะเลนำโดยแม่ทัพเรือใหญ่ชื่อเจิ้งเหอไปถึงทะเลจีน มหาสมุทรอินเดีย ชายฝั่งทะเลตะวันออกของทวีปอัฟริกา
การล่มสลายของราชวงศ์หมิงมาถึง เมื่อรายจ่ายมากกว่ารายรับ หมดตัวสิครับ
ราชวงศ์ได้ทุ่มเทอย่างไม่อั้น จุดเน้นที่ความเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ การทุ่มทุนเพื่อแผ่ขยายอาณาเขตทางภาคพื้นดินและน่านน้ำทะเลลึกไปพร้อม ๆ กันทำให้งบประมาณทางการคลังถดถอยลดลงอย่างรวดเร็ว
ราชสำนักเองเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง ขาดเอกภาพในการปกครอง เมื่อชาวแมนจูเข้ามาบุกยึดเมืองหลวงนครนานกิง ราชวงศ์หมิงเป็นอันสิ้นสุด
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [