#หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้ พ.ศ. 1803 1837 #พรรณีเกษกมล
#กุบไลข่าน
#พรรณีเกษกมล
#หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้ พ.ศ. 1803– 1837
หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์หยวน บางแห่งอาจนับว่า หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์แรกแห่งราชวงศ์หยวน
หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้หรือจูหวางตี้ฮ่องเต้หรือซีโจ๊วฮ่องเต้ เดิมเป็นชาวมองโกลชื่อ กุบไลข่าน เป็นพระนัดดาของเจงกีสข่าน พระบิดาชื่อโตลุย พระมารดาพระนางซอร์กาตานิ เบกิ ประสูติวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 1758
กุบไลข่าน เป็นข่านองค์ที่ 6 ของมองโกลวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 1803 และเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์หยวนในคราวเดียวกันด้วย
พ.ศ. 1822 หยวนซื่อจู่ฮ่องเต้หรือกุบไลข่านมีฮองเฮาถึง 4 คน มีพระโอรส 5 องค์ อภิเษกสมรสกับชาบิฮองเฮา และมีพระสนมชื่อเตกูลัน สวรรคตวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 1837 รวมพระชนม์78 พรรษา
กุบไลข่านนับเป็นฮ่องเต้องค์แรกในราชวงศ์หยวนของประเทศจีน
ชาวมองโกลจะใช้คำว่า ข่าน แทน ฮ่องเต้ มีความหมายแสดงถึง ความเป็นผู้ยิ่งใหญ่เช่นกัน
กุบไลข่านหรือคนจีนเรียกว่าหยวนซื่อจู่ฮ่องเต้ หรือจูหวางตี้ฮ่องเต้หรือซีโจ๊วฮ่องเต้ อาจจะเป็นฮ่องเต้องค์เดียวของราชวงศ์นี้ ที่ประชาชนยอมรับและเทิดทูน
เมื่อกุบไลข่านโค่นอำนาจราชวงศ์เหลียวและซ่งใต้ได้สำเร็จ ได้ปราบดาภิเษกตั้งตนเป็นใหญ่ และตั้งราชวงศ์หยวน ย้ายเมืองหลวงไปที่กรุงปักกิ่ง
แต่เดิมกรุงปักกิ่งชื่อว่า เมืองต้าตู ชื่อเมืองปักกิ่งจะมีหลายคำขึ้นอยู่กับเสียงที่ออกมาจากแต่ละภาคส่วนที่แตกต่างกัน
เมื่อตั้งใจเป็นฮ่องเต้ที่ดีให้ประชาชน ได้ทำสมความตั้งใจจริง ทั้งที่ความจริงแล้วชาวมองโกลเป็นพวกที่เร่ร่อนและมีความโหดร้าย
กุบไลข่านขยายดินแดนออกไปกว้างไกลมาก รวมทั้งตั้งใจจะบุกโจมตีญี่ปุ่นด้วย แต่บังเอิญเกิดมรสุมเรือรบอับปางจึงทำไม่สำเร็จ
ช่วงนี้ชาวมองโกลมีฝีมือในการศึก สามารถครอบครองดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล ทั้งของอาณาจักรจิน อาณาจักรซีเซี่ยและอาณาจักรซ่งใต้ และยึดครองตอนเหนือของเกาหลี กลุ่มประเทศมุสลิมในเอเชียกลาง และยุโรปบางส่วน
นอกจากกุบไลข่านจะเป็นนักรบที่เก่งกาจแล้วยังสนใจในเรื่องของการบ้านการเมือง มีการเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างชาติ เช่น ทูตจากสำนักวาติกัน มีบันทึกการเดินทางของมาร์โคโปโลมาถึงกรุงปักกิ่ง
การทำแผนที่ทางภูมิศาสตร์ ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์การพิมพ์ การทำเครื่องปั้นดินเผา การเป่าแก้วการแพทย์
เรื่องศิลปวัฒนธรรมและวรรณกรรมกุบไลข่านได้ส่งเสริมจนปรากฏผลงานชัดเจน เขาว่ากันว่า บทงิ้วที่ดีที่สุดมาจากสมัยราชวงศ์หยวนยุคของกุบไลข่านนี่เอง
ด้านวัฒนธรรมเกิดการผสมผสานระหว่างชาวจีนกับชาวมองโกลรวมทั้งต่างชาติอื่น ๆ ที่ไปยึดดินแดนมาได้
การพัฒนาวรรณกรรม การประพันธ์ การเขียน การแสดง ได้ผ่านถ่ายจากราชสำนักไปสู่ระดับชาวบ้าน ศาสนาที่เข้ามาเผยแผ่มีทั้งคริสต์ อิสลามทำให้เกิดการฟื้นฟูลัทธิขงจื๊อ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวฮั่นขึ้นมาอีกครั้ง
ถึงแม้กุบไลข่านจะปกครองประเทศจีน ด้วยระบบการปกครองของจีน
ทว่าชาวจีนหรือชาวฮั่นคิดว่า ไม่ได้รับความยุติธรรมหรือเสมอภาคในด้านสังคมและการเมือง เพราะตำแหน่งสำคัญทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่นเป็นของชาวมองโกล บางครั้งได้จ้างชาวต่างชาติ เช่น ชาวเอเชียกลาง ตะวันออกกลาง หรือชาวยุโรป แต่จะไม่ให้ชาวจีนทำ
การพัฒนาบ้านเมืองในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านคมนาคมขนส่งเพิ่มการคมนาคมทางน้ำ สร้างถนนเพิ่มขึ้นทำให้กรุงปักกิ่งกลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมของประเทศ ด้านสาธารณูปโภคได้สร้างสร้างยุ้งฉางทั่วราชอาณาจักรเพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหาร สร้างพระราชวังใหม่ให้ใหญ่โตประกอบด้วยสระน้ำ สวนหย่อม เนินเขาภายในวัง