All Blog
#หยวนติ้งจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1789 – 1791 #พรรณีเกษกมล
#พรรณีเกษกมล
#หยวนติ้งจงฮ่องเต้ พ.ศ. 1789 – 1791
หยวนติ้งจงฮ่องเต้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์หยวน และเป็นข่าน
องค์ที่ 3 ของมองโกล
หยวนติ้งจงฮ่องเต้พระนามเดิมกูยุกข่าน ประสูติในตระกูลนัยมาน เป็นพระโอรสของโอเกไดข่าน พระมารดาชื่อโทเรยีน คาทูน เป็นฮองเฮาลำดับที่ 2 เมื่อฮองเฮาลำดับที่ 1 ไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้ 
เจงกีสข่านจึงได้มอบโทเรยีน คาทูนให้แก่โอเกไดข่านและสามารถให้กำเนิดพระโอรสถึง 5 องค์
โทเรยีน คาทูนได้แผ่ขยายอิทธิพลของนางเหนือบรรดานางสนมทั้งหลายรวมไปถึงขุนนางข้าราชสำนัก นอกจากนี้ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายที่สำคัญหลายอย่างเช่นระบบการจัดเก็บภาษีชาวนาในจีน
หลังจากที่โอเกไดข่านสวรรคต ฮองเฮาโทเรยีน คาทูน หรือทูรากินาได้เป็นคาทูนที่ยิ่งใหญ่ ปกครองมองโกล ช่วง พ.ศ. 1785 – 1789 จนมีการเลือกตั้งให้พระโอรสองค์โตกูยุกข่านได้ครองบัลลังก์ต่อมา
เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้หญิงสามารถก้าวขึ้นสู่ที่สูง เพื่อปกป้องอำนาจสูงสุดให้กับลูกชายของเธอ 
ช่วงการครองราชย์ฮ่องเต้ราชวงศ์หยวนจากรัชกาลที่ 3 มาถึงรัชกาลที่ 4 ขาดช่วงหายไป 4 ปี นั่นแสดงว่า โทเรยีน คาทูนคงไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่เป็นแค่เมียและแม่ของลูกเท่านั้น แต่นางต้องมีพละกำลังและอำนาจมากพอที่จะควบคุมอำนาจในการปกครองต่อจากพระสวามีของนางได้
ทันทีที่โอเกไดข่านสวรรคต ช่วงแรกอำนาจได้เปลี่ยนถ่ายไปที่โมคี ภรรยาคนหนึ่งของเจงกีสข่านที่โอเกไดข่านได้ยกย่องและให้บรรดาศักดิ์ 
ต่อมาโทเรยีน คาทูนสามารถรวบอำนาจกลับคืนมาได้ด้วยการสนับสนุนของชากาไตและลูกชายของนาง ให้แอ๊บเดอรรามันในตำแหน่งสูงสุดในการปกครองจีนตอนเหนือและฟาติมามีอำนาจในศาลมองโกล  
การทำเช่นนี้ทำให้เกิดระบบการจัดเก็บภาษีอากรจากพวกเจ้าขุนมูลนายของมองโกลได้
ถึงแม้โทเรยีน คาทูนจะเป็นเพียงผู้หญิง แต่นางสามารถใช้อำนาจปกครองประเทศจีนได้ในช่วง 4 – 5 ปี ของการเปลี่ยนผ่านรัชกาลจากพระสวามีไปยังพระโอรส 
ในประวัติศาสตร์จีนมีหลายครั้งที่ผู้หญิงสามารถก้าวสู่อำนาจสูงสุดได้เช่นกัน 
นางสามารถควบคุมอำนาจหลายฝ่ายในอาณาจักรให้สมดุลกันและอยู่ภายใต้การบงการของนางเรียกว่า มีความสามารถในการประสานประโยชน์ ให้ทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์ในอัตราส่วนที่ทุกคนพึงพอใจ
โทเรยีน คาทูนต้องการให้กูยุกข่านได้ครองอำนาจ ในขณะที่โอเกไดข่านปรารถนาจะให้ชายมันบุตรชายของโกชูพระโอรสที่เกิดจากพระสนมคนอื่นมีอำนาจแทน 
บางคนต้องการให้คอชพระโอรสอีกองค์ของนางได้ครองอำนาจ 
การขัดแย้งระหว่างกันไม่อาจตกลงกันได้จนสิ้นโอเกไดข่าน และโทเรยีน คาทูนสามารถรวบอำนาจได้ทั้งหมด จึงส่งต่ออำนาจมาที่กูยุกข่านพระโอรสองค์โตของนาง
ถึงแม้ว่ากูยุกข่านจะได้ขึ้นครองบัลลังก์แล้ว แต่การแย่งชิงอำนาจคงจะยังเกิดขึ้นโดยที่กูยุกข่านได้ยืมมือของฟาติมา ให้จัดการกับโคเดนพระอนุชา 
เมื่อทำสำเร็จฟาติมาได้เสียชีวิตตามไป ตามมาด้วยพระมารดาโทเรยีน คาทูน เรื่องราวช่วงนี้เป็นการกล่าวหาซึ่งกันและกัน แต่คงจะเกิดจากการแย่งชิงอำนาจภายในราชสำนัก ถึงแม้ว่าโอเกไดข่านพยายามที่จะให้พระโอรสทั้งหมดรักใคร่กันแล้วก็ตามแต่คงไม่สำเร็จ 
พระโอรสแต่ละองค์คงมีผู้ชักใยและคอยให้ท้ายอยู่เบื้องหลัง อำนาจแต่ละฝ่ายจะเกิดขึ้นเมื่อพระโอรสในฝ่ายของตนเท่านั้นที่ได้ขึ้นสู่อำนาจ
ช่วงที่โอเกไดข่านสวรรคต มีแต่ผู้มีสิทธิ์ในบัลลังก์ และคิดว่าสิทธิ์นั้นควรจะตกเป็นของตนกันทั้งนั้น 
แม้แต่บาตูรีบกลับจากยุโรปเพื่อหวังในบัลลังก์เช่นกัน
นอกจากนี้เตมูเจพระโอรสองค์สุดท้องของเจงกีสข่านได้คิดหวังในบัลลังก์เช่นกัน เกิดการแย่งชิงระหว่างผู้มีสิทธิ์หลายคนหลายฝ่าย แต่กูยุกข่านรีบกลับจากเมืองอีมิลเพื่อมารับมอบราชสมบัติได้ทันท่วงที
ราชวงศ์หยวนเป็นราชวงศ์ที่ไม่มีกฎมณเฑียรบาล ทำให้พระราชวงศ์ทั้งหลายต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนมีสิทธิ์ในบัลลังก์เช่นกัน 
เรื่องนี้อาจทำให้ใครบางคนที่เคยคิดว่า พระญาติวงศ์ทั้งหลายควรมีสิทธิ์เช่นกัน คงพอจะเรียนรู้ว่า การที่มีจำนวนผู้ที่คิดว่าตนมีสิทธิ์มากเท่าใดย่อมทำให้เกิดความวุ่นวายในราชสำนักได้มากเท่านั้น หรือบางคนที่เคยคิดว่าการจำกัดสิทธิ์เฉพาะพระโอรสองค์โตนั้นเป็นสิ่งไม่ดี คงต้องคิดหนักพอควรจากบทเรียนอันแสนวุ่นวายในราชสำนักหยวน
  กูยุกข่านได้รับการฝึกในกองทัพและเคยออกรบร่วมกับพระอัยกาและพระบิดาในการรบสู้กับรัสเซียและยุโรปตอนกลาง
กูยุกข่านได้เสกสมรสกับโอกูลไคมิชแห่งตระกูลเมอร์คิด 
กูยุกข่านสวรรคตโดยไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน 
บางคนกล่าวหาเช่นเคยว่า คงจะได้รับสารพิษ ถึงแม้บางคนจะมองโลกในแง่ดีว่าเกิดจากสุขภาพที่ไม่ดี ฮองเฮาโอกูล ไคมิชได้ว่าราชการแทน แต่ไม่สามารถครอบครองอำนาจได้ยาวนานตามที่นางต้องการ
ราชวงศ์หยวนเป็นนักรบทะเลทรายและยังคงเป็นนักดื่มเช่นกัน 
การสวรรคตของฮ่องเต้ส่วนใหญ่จึงเกิดจากสุขภาพที่ได้รับแอลกอฮอลล์มากเกินไป
โอกูล ไคมิชเป็นฮองเฮาเอกของกูยุกข่านได้ครองมองโกลหลังจากสิ้นพระสวามีในปี พ.ศ. 1791 อยู่ในตระกูลเมอร์คิดแต่บางแห่งบอกว่าอยู่ในตระกูลออยรัท 
เมื่อเจงกีสข่านปราบกบฏที่มีตระกูลของนางเป็นตัวตั้งตัวตีได้สำเร็จจึงยกนางให้กับกูยุกข่าน และนางให้กำเนิดพระโอรส 2 องค์ คือ โคจากับนากู เมื่อสิ้นบุญพระสวามีนางได้ผู้ช่วยพระสวามีที่เป็นหัวหน้าใหญ่มากอบกู้อำนาจให้ 



Create Date : 17 มีนาคม 2568
Last Update : 25 มีนาคม 2568 7:34:48 น.
Counter : 138 Pageviews.

0 comments
(โหวต blog นี้) 
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments