Group Blog All Blog
|
#ราชวงศ์หยวน พ.ศ. 1822 1911 #พรรณีเกษกมล #พรรณีเกษกมล #ราชวงศ์หยวน พ.ศ. 1822 – 1911 หลังจากแผ่นดินจีนแตกแยกเป็นหลายส่วน มาถึงคราวที่จีนได้รวมตัวเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง และรวมเป็นหนึ่งเดียวได้ตลอดมา จากเจงกีสข่านชาวมองโกลผู้ยิ่งใหญ่ ทำให้ลูกหลานก่อตั้งราชวงศ์หยวน แต่ไม่มีกฎมณเฑียรบาลในการสืบทอดอำนาจ ทำให้เกิดความยุ่งเหยิงและแย่งชิงในหมู่เครือญาติ คนเก่งเท่านั้นจึงมีสิทธิ์สืบครองบัลลังก์ ในปี พ.ศ.1777 เจงกีสข่านหัวหน้าชนเผ่าชาวมองโกลได้ฉายแววแห่งความเป็นผู้นำ ที่จะควบรวมอาณาจักรอันยิ่งใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน โดยการนำทัพชาวมองโกล พร้อมลูกหลานของพระองค์ บุกยึดอาณาจักรจิน เมื่ออาณาจักรจินล่มสลาย เจงกีสข่านได้บุกยึดอาณาจักรซีเซี่ยและอาณาจักรซ่งใต้ ทำให้อาณาจักรซีเซี่ยและอาณาจักรซ่งใต้ล่มสลายเช่นกัน อาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล จากเทือกเขาซิงอันทางตอนเหนือจรดแม่น้ำหวยเหอทางตอนใต้ และจากแนวชายฝั่งทะเลตะวันออกไปจรดส่านซีทางภาคตะวันตกของอาณาจักรจิน กลายเป็นอาณาจักรของชาวมองโกลผู้ได้รับชัยชนะ เจงกีสข่าน นักรบชาวมองโกล รวบรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งเดียว กุบไลข่าน ผู้หลานก่อตั้งราชวงศ์หยวน ปกครองแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ เจงกีสข่าน กุบไลข่าน ช่วงแรกเจงกีสข่านยังไม่ได้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนเป็นแต่เพียงผู้ปกครองอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาล กุบไลข่านได้ปกครองจีนภายใต้อำนาจแห่งราชวงศ์หยวน และเป็นข่านปกครองมองโกลในคราวเดียวกัน ชาวจีนที่แทนตัวเองว่าชาวฮั่นและเป็นผู้ที่ถือตัวว่ามีอารยธรรมอันแสนจะเจริญรุ่งเรืองแล้ว ต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจของชนต่างเผ่าพันธุ์ที่เป็นเพียงนักรบทะเลทรายร่อนเร่ไปรบตามสถานที่ต่าง ๆ และเอาชนะดินแดนทุกแห่งที่เหยียบย่างไปได้เท่านั้น จึงเป็นความขมขื่นในใจพอสมควร ช่วงแรกกุบไลข่านผู้ซึ่งเป็นหลานของเจงกีสข่าน ได้ก่อตั้งราชวงศ์หยวนซึ่งเป็นราชวงศ์แรกที่เป็นชนต่างเผ่าที่ไม่ใช่คนจีนฮั่น และขานพระนามว่าข่าน เพราะปกครองมองโกลพร้อมกัน ช่วงแรกอาจจะมองว่า มองโกลคือเมืองของพระองค์ ส่วนจีนเป็นเพียงเมืองที่ตีมาเพิ่มเติมอาณาจักรเดิมเท่านั้น ต่อมาเริ่มขานพระนามเป็นฮ่องเต้เพราะประเทศจีนกว้างใหญ่ไพศาลกว่ามาก และเริ่มจะคิดว่า ได้ปกครองทั้งสองเมืองอย่างมีศักดิ์ศรีทัดเทียมกัน เพราะได้คงพระนามว่า ข่าน อยู่ตามความเป็นชาวมองโกลแต่ดั้งเดิม บางแห่งนับเจงกีสข่านเป็นต้นราชวงศ์หยวน แต่บางแห่งนับกุบไลข่านเป็นต้นราชวงศ์หยวน เพราะผู้ที่ก่อตั้งราชวงศ์หยวนจริง ๆ คือกุบไลข่าน กุบไลข่านได้ยกย่องบรรพบุรุษของพระองค์ว่าเป็นฮ่องเต้เช่นกัน การขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้ สำหรับราชวงศ์หยวนไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนแตกต่างจากราชวงศ์จีนอื่น ที่มักกำหนดให้พระโอรสองค์โตเป็นฮ่องเต้องค์ ต่อมา การให้ลูกหลานที่เก่งกว่าคนอื่นได้มีโอกาสทัดเทียมกันในการก้าวสู่อำนาจทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นระหว่างผู้ที่อยู่ในข่ายที่มีสิทธิ์ทั้งหลาย วิธีการนี้อาจดีต่อประชาชนที่จะได้ผู้ปกครองประเทศที่เก่งกาจ แต่ความมั่นคงในราชวงศ์อาจลดน้อยถอยลงไปได้ จริงหรือไม่ คงต้องรอดูต่อไป ซึ่งเป็นบทเตือนใจให้คิดว่า วิธีการแบบใดจะดีกว่ากันระหว่างกฎมณเฑียรบาลที่กำหนดชัดเจนให้พระโอรสองค์โตเท่านั้น ที่มีสิทธิ์ในการครองราชย์ต่อ กับหลักการที่เปิดโอกาสให้พระโอรสที่มีความสามารถสูงกว่าพี่น้องใช้ความสามารถ และเอาชนะใจกรรมการในการคัดเลือกให้ได้เป็นผู้นำสูงสุด กำหนดกฎเกณฑ์ตายตัว โอรสองค์โตได้เป็นฮ่องเต้ หรือ โอรส พระนัดดาที่เก่งกาจ คือผู้ที่จะได้สืบครองอำนาจ เช่นไรดีที่สุด ฮ่องเต้ในราชวงศ์หยวนบางคนได้ขึ้นสู่อำนาจ ไม่นานก็โดนอีกคนแย่งชิงอำนาจไปต่อ จึงไม่มีความมั่นคงในอำนาจ บางองค์ครองราชย์ในช่วงสั้น ๆ และสวรรคตลงโดยไม่ทราบสาเหตุ ฮ่องเต้องค์สุดท้ายของราชวงศ์หยวน ชื่อหยวนซุ่นตี้สามารถอยู่ในราชสมบัติได้นานกว่าใคร ๆ แต่แล้วไม่สามารถรักษาอำนาจไว้ได้ ต้องอพยพแล้วไปตั้งราชวงศ์หยวนเหนือแทน ราชวงศ์หยวนปกครองประเทศจีนได้ 90 ปีเศษก็ล่มสลายลง ทั้งนี้เป็นเพราะชาวมองโกลมีความสามารถด้านการรบ มีกำลังทหารและอาวุธที่ดี แต่ขาดความสามารถด้านการปกครอง ราชวงศ์หยวนปกครองในยุคที่บ้านเมืองวุ่นวาย อันเนื่องมาจากเกิดกบฏมากมาย ทั้งนี้เป็นเพราะขุนนาง เชื้อพระวงศ์ชอบข่มเหงรังแกชาวบ้าน ด้วยพื้นเพเป็นนักรบอยู่กลางทะเลทรายเคยชินแต่การรบพุ่ง แต่ไม่สันทัดในการปกครองประเทศที่มีอารยธรรมเก่าแก่เช่นจีน ถึงแม้จะมีฮ่องเต้บางองค์ที่พอจะมีฝีมือในการปกครองอยู่บ้าง แต่จะไม่กล้าออกนอกกรอบกฎระเบียบที่ราชสำนักได้ตั้งไว้ ทำให้ชาวจีนคิดก่อการล้มล้างราชวงศ์ ในที่สุดจูหยวนจางได้ก่อการกบฏและทำได้สำเร็จสามารถปราบดาภิเษกเป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิงราชวงศ์ต่อไปของจีนได้ |
สมาชิกหมายเลข 4665919
![]() ![]() ![]() ![]() ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |