WALK IN DREAM'S on the way to no I
Group Blog
 
All blogs
 

Fanbook THE LEGEND/ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ พร้อมจำหน่ายแล้วค่ะ

ตอนนี้โดฯเสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ พร้อมรอแฟนๆแม่ทัพน้ำเงินชอโรมาอุดหนุนแบ่งเบาต้นทุนแล้วค่า ^^

Tae Wan Sa Shin Gi

~The Legend~

Fanbook by Walk in dream & Blue Ageha




ขนาด B5 ( เกือบเท่ากระดาษ A4 ค่ะ)

จำนวน 88 หน้า ประกอบด้วย

Woonsa’s Heart (โดจินชิ) โดย walk in dream จำนวน 36 หน้า

Azure Maiden (นิยาย) โดย Blue Ageha จำนวน 52 หน้า

ราคา 170 บ.ค่ะ



อ่านรายละเอียดการสั่งซื้อทางไปรษณีย์ได้ที่นี่นะคะ //ffman2.exteen.com/the-legend-fanbook


ตัวอย่างภาพด้านในค่ะ






 

Create Date : 13 มกราคม 2552    
Last Update : 13 มกราคม 2552 1:19:38 น.
Counter : 774 Pageviews.  
Share

ฉลองปก Fanbook THE LEGEND ด้วยอุบัติเหตุส่งท้ายปีค่ะ

ทิ้งบล็อกไปนาน เนื่องจากอุบัติเหตุจราจรที่เกิดแบบไม่คาดฝัน ทำเอาทุกอย่างของชีวิตต้องติดขัดชั่วคราวค่ะ ตอนนี้สภาพร่างกายดีขึ้นแล้ว ยังมีหัวปูดอยู่หน่อย กับมือซ้ายยังใช้การไม่ได้ค่ะ

สงสารคู่กรณี ถึงเค้าเป็นคนขับเหาะเหินข้ามเกาะกลางถนนมาชนเรา แต่เค้าก็เป็นฝ่ายล่วงลับไปซะแล้วค่ะ เห็นว่าต้องงัดร่างออกจากรถกันเลย walkฯจำอะไรไม่ได้ เพราะหัวกระแทกสลบเหมือดในที่เกิดเหตุค่ะ

ปีนี้เป็นปีที่ดวงไม่ดีเอาเลย (ในหลายๆเรื่อง) ถ้าไม่ได้ทำบุญไว้ก่อนอาจถึงตายได้มั้งคะนี่

ผ่านเหตุการณ์นี้ ได้ข้อสรุปที่อยากบอกกับทุกคนไว้ว่า

1. จงคาดเซฟตี้เบลท์เสมอ ถึงแม้ใกล้จะถึงที่หมายในไม่กี่เมตรแล้วก็ตาม

2. จงใส่กุงเกงลิงสวยๆไว้เสมอ เพราะทีมกู้ภัย/แพทย์/พยาบาล อาจต้องกรุณาใส่สายสวยปัสสาวะให้เรา กรณีเราถึงขั้นช็อค(กร๊าก พูดเล่น แต่คิดจริง)

3. จงทำบุญเป็นระยะๆ จากใจจริง เพราะเจ้ากรรมนายเวรอาจอารมณ์เสียขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้


เหตุการณ์ของประเทศก็ยังไม่สู้ดี ขอให้เราทุกคนที่ร่วมนาวาแห่งวัฏสังสารเดียวกันนี้ มีพลังที่จะครองสติไว้ให้ดีเสมอ และเชื่อมั่นในแสงสว่างที่รออยู่ปลายทางนะคะ (โอ...พิมพ์ประโยคนี้ออกมารู้เลยว่าอายุอานามของตัวเองมิใช่น้อยแล้ว)

walkฯเห็นจากตัวเลขหน้าจัดการบล็อกว่ายังมีพี่น้องที่แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนเป็นระยะๆ เลยต้องเข้ามาทำอะไรกับบล็อกซะหน่อยนะคะ

ถึงแม้ทุกอย่างจะติดขัด อย่างน้อยโดฯก็เสร็จจนได้ค่ะ ตอนนี้รอแค่สภาพร่างกายดี แวะไปโรงพิมพ์ได้เท่านั้นเองค่ะ แต่ท่าจะติดปีใหม่ซะแล้วล่ะมั้งนี่



สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้านะคะ ทุกๆโคนนนนนนน




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2551    
Last Update : 17 ธันวาคม 2551 17:33:35 น.
Counter : 376 Pageviews.  
Share

doujinshi THE LEGEND/ตำนานจอมกษัตริย์เทพสวรรค์ ใกล้ความจริงแล้วค่ะ

ตอนนี้ไม่มีเวลาอัพบล็อกเลยค่ะ เพราะมัวแต่ทำงานกับทำโดฯนี่เองค่ะ
*ขอโทษที่ไม่มีเวลาไปทักทายเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนเลย แต่ขอบอกให้รู้ว่าคิดถึงทุกคนนะคะ*

เอาภาพปกโดจินชิมาแปะค่ะ


งาน fanwork เล่มนี้จะประกอบด้วย fanfiction จากน้อง BLUE AGEHA (แห่ง Sweet Poison) และ doujinshi โดย walk in dream นะคะ
คงต้องขอทำเป็น 2 เล่มจบค่ะ เพราะถ้ารอให้เนื้อหาเสร็จทั้งหมด กว่าจะได้พิมพ์ หลายคนอาจลืมหนังเรื่องนี้กันไปแล้ว

ตอนนี้ใกล้ความจริงแล้ว เล่ม1จวนเสร็จแล้วล่ะค่ะ




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 22 กรกฎาคม 2551 10:30:15 น.
Counter : 674 Pageviews.  
Share

ปัดฝุ่นบล็อกด้วยรูปคู่ เบยองจุนกับฟิลิป ค่า!!!

ฮ้า... THE LEGEND ช่อง3 จะจบแล้ว!? ทำไมเร็วแบบนี้ล่ะคะ ตั้งใจว่าจะทำโดฯให้เสร็จก่อนเรื่องจบนะเนี่ย แงๆ

*ต้องขออภัยเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่เข้ามาแล้วรู้สึกเซ็งที่เจ้าwalkฯไม่ยอมอัพบล็อกซะที* วันนี้เลยเอารูปหนุ่มหล่อมาให้แก้เซ็งค่ะ ( เดาเองว่าเพื่อนๆที่เข้ามาเยี่ยมบล็อกwalkฯ ส่วนมากคงเป็นสาวน้อยซะส่วนใหญ่ )

ตอนนี้ติดงาน ติดเวร ติดสอบปลายมิ.ย.นี้น่ะค่ะ เลยไม่ได้อัพบล็อกตามที่ตั้งใจไว้(อีกแล้ว โลกจวนเจียนจะแตก แต่มนุษย์ส่วนมากก็ยังหนีไม่พ้นคำว่า"ไม่มีเวลา"อยู่ดี ...ช่วงนี้คิดบ่อยๆเลยว่า มันอาจใกล้ถึงวันที่แผ่นดินถล่มไปต่อหน้าต่อตา แล้วสิ่งที่เราคิดเราทำมาตลอด อาจถึงคราวหมดความหมายเร็วๆนี้ก็ได้นะ...เชื่อว่าช่วงเวลานี้คงมีหลายๆคนรู้สึกคล้ายๆกันสินะคะ...)

มาดูรูปให้ชื่นใจกันค่ะ ไหนๆเค้าก็เกิดมาหล่อๆกัน เราก็ต้องบริโภคซะหน่อย เป็นอาหารตาเนอะ (พูดง่ายๆคือ ขอบ้าปู้จายซักครู่น่า เด๋วค่อยไปอ่านหนังสือต่อ 555)

ทัมด๊ก-โชโร >> (ช่างเป็นคู่ที่เหมาะจะมาแปะใกล้ๆกันอะไรอย่างนี้เนาะ)


วันก่อน เปิดไฟล์THE LEGEND ที่เก็บไว้ อยู่ดีๆเห็นรูป2คนนี้แล้วเกิดนึกอยากเอารูปมารวมกันขึ้นมาซะได้
ไม่มีเจตนาอะไรจริงๆน้า เหอๆๆๆ มันเป็นงานอาร์ต ค่ะ งานอาร์ต



เชิญเซฟกันตามสะดวกค่า











































รูปล่าสุด(มั้ง) กำลังจะไปญี่ปุ่นกันค่ะ >>




ยังมีอีก (รูปมันสวยดีอะ จะไม่เอามาแปะไว้ก็เสียดายค่ะ) จะเอามาลงอีกเรื่อยๆในห้อง my art นะคะ









 

Create Date : 03 มิถุนายน 2551    
Last Update : 6 มิถุนายน 2551 12:07:21 น.
Counter : 524 Pageviews.  
Share

ยอดฝีมือเกาหลีกับสุดยอดกลยุทธ์แห่งTHE LEGEND

อัพบล็อกฉลอง THE LEGEND ลงจอ(ช่อง 3) วันแรกค่ะ!!!


THE LEGEND
Tae Wan Sa Shin Gi / The story of the first king’s four gods


สำหรับเราแล้ว เรื่องนี้คือ จูมง( Jumong ) + The Lord of The Rings แล้วหารสองค่ะ

จูมง >>

สนุกมาก แต่แพ้ความยาวของเรื่อง เลยทำให้ไม่มีเวลาดูจนจบ80ตอน


วันนี้โดดเรียนมาร่ายยาวเพื่อเซ่นสรวงความชื่นชอบที่มีต่อ THE LEGENDแบบสมวัยจขบ.หน่อยนะคะ

พูดถึงเรื่องจูมง คนที่มาร่วมนั่งดูกับเราแบบติดหนึบ น่าจะเป็นคนที่มีอายุสักหน่อย
แต่ถ้าเป็นเรื่อง THE LEGEND นอกจากผู้ใหญ่แล้ว เด็กเล็กๆก็จะดูได้อย่างสนุก และสาวๆก็จะร่วมกรี๊ดกร๊าดด้วยเป็นระยะๆ (โดยเฉพาะสาวๆที่ชื่นชอบของสวยๆงามๆ) ^^

สำหรับคนที่วัยเกิน 30 ไปไกลแล้ว อาจจะบอกว่า จูมง สนุกกว่า เพราะเป็นเรื่องที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากกว่า ตัวละครแต่ละตัวเหมือนเป็นคนเดินดินธรรมดาที่ต้องต่อสู้กับชะตาชีวิตด้วยการใช้เลือดเนื้อ ความอดทน และสติปัญญาของตนเข้าแลก
ในเรื่องจูมงมีแฟนตาซีแทรกเล็กน้อย พอให้ไม่เกินพื้นฐานความเป็นจริงทางโลก
(กว่าพระเอกจูมงของเราจะมีปาฏิหาริย์เข้าช่วย ก็ต้องขัดเกลาตัวเองกันชนิดถึงเลือดถึงเนื้อ)

แต่คนที่อายุน้อยกว่า 30 ส่วนใหญ่น่าจะรู้สึกโดนใจกับ THE LEGEND มากกว่า เพราะเรื่องนี้เปรียบเสมือนประวัติศาสตร์ภาคต่อของจูมง ที่นำตำนานโบราณมาผนวกให้เป็นแนวแฟนตาซีแบบเต็มๆ จนเรียกว่าเป็น The Lord of The Rings แห่งเกาหลีก็ว่าได้ เนื้อเรื่องก็กระชับกว่าจูมง มาก
------------------------------------------------------------


และแน่นอน ความเป็นแฟนตาซีคือสิ่งเดียวกับความสวยงาม ดังนั้นภาพของ THE LEGEND ที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นฉากหรือตัวละครจะขาดความสวยงามไปไม่ได้

คาแรกเตอร์ที่ไม่อาจละสายตา >>



ฉากการถ่ายทำสุดอลังการ >>



ฉากและลีลาการต่อสู้ที่พริ้วไหวอันเป็นเอกลักษณ์ของเอเซีย พร้อมด้วยมุมกล้องชวนเร้าใจแบบเกมส์ออนไลน์(ไม่เคยเล่นเกมส์ค่ะ แต่รู้สึกว่าเป็นแบบนั้นนะ) รวมทั้งอนิเมชั่นตระการตา >>



war scenes สุดงาม >>




-------------------------------------------------------



**เห็นได้ชัดว่าดาราเกาหลีที่เราคุ้นเคยมาแล้วหลายๆคน เมื่อมาเล่นเรื่องนี้ ก็จะดู “งดงาม”กว่าปกติ

เบยองจุน ปกติก็เป็นเจ้าชายของวงการอยู่แล้ว แต่คราวนี้เป็น “เทพ”มาจุติเลยล่ะค่ะ หล่อลากกระชากวัยจนสาวๆเจแปนนีสกรี๊ดสลบไปแล้ว




**ส่วนดาราหน้าใหม่ ก็ได้แจ้งเกิดกันแบบเต็มๆ เพราะภาพลักษณ์อัน(จำต้อง)สวยงามโลดแล่นในเรื่องราวแห่งตำนานเทพชวนฝัน (พูดง่ายๆคือ “บทส่ง”นั่นเองล่ะค่ะ เหมือนกับที่Orlando Bloom ได้แจ้งเกิดจาก LotR นั่นเอง) 2 คนนี้ไงคะ..... >>


ลีจิอา(LeeJiAh) กับบทแรกที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ - ซูจินี หญิงสาวที่ท่านเทพหลงรัก หนังเรื่องนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของ ลี จิอา จากคนธรรมดาให้กลายเป็นดาราที่ใครๆจับตามอง เหมือนซูจินี หญิงสาวชาวเผ่าที่กลายเป็นที่รักของเทพสวรรค์


อี ฟิลลิป (Lee Philip) กับครั้งแรกของชีวิตการแสดงในบท ชอรุ (จริงๆเราชอบอ่านว่า"โชโร"มากกว่าค่ะ แต่มีผู้สันทัดภ.เกาหลี แนะว่าอ่าน "ชอรุ"น่าจะดีกว่า) ร่างประทับของมังกรน้ำเงิน ที่พาเขาโด่งดังเป็น hot star ของสาวๆทั้งในและนอกประเทศ สำหรับคนนี้ เรียกว่า บทส่ง อย่างเดียวไม่พอค่ะ ต้องบอกว่า “คน กับ บท พากันส่งให้ดังเป็นพลุแตก” เราคิดว่า สิ่งที่ขาดๆเกินๆ ในตัวของฟิลิป ผู้รับบท กับ สิ่งที่เกินๆขาดๆ ในตัวของ ชอรุ มันรับส่งกันอย่างดี จนชอรุ กลายเป็นคาแรกเตอร์ที่มีเสน่ห์ล้นเหลือเลยค่ะ (อย่างเช่น ข้อเท็จจริงที่ว่า อี ฟิลิป เกิดและโตที่เมืองนอก ทำให้พูดภาษาเกาหลีแทบไม่ได้ อาจส่งผลให้ทีมงานต้องปรับบทชอรุให้เป็นหนุ่มมังกร สงบเสงี่ยม พูดน้อย ซึ่งใบหน้าหล่อๆ กับการแขวนป้ายเบอร์5ประหยัดไฟ เอ้ย ประหยัดคำพูดนี่แหละ พาเอาสาวๆเทใจให้เป็นแถว)



**คาแรกเตอร์อื่นๆ รับบทโดยนักแสดงหลายคนที่แฟนหนังเกาหลีคุ้นหน้าเป็นอย่างดี >>


















---------------------------------------------------------


** ที่สำคัญ จะเห็นว่าเรื่องนี้ครบถ้วนด้วยจริตทางการตลาดทีเดียวเชียว >>

- ใช้ superstarเบิกทาง เบยองจุน ผู้เป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นและเป็นที่คุ้นเคยของชาวต่างชาติที่เสพหนังเกาหลี มารับบทตัวเอกผู้เป็นทั้งเทพ และ กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์ ทั้งคนทั้งบทส่งกันไปไกลสู่ดวงดาว โกอินเตอร์แบบฉลุยๆ

- ฉากสถานที่และการต่อสู้อลังการ มุมกล้องและการแพนกล้องเยี่ยมยอด คล้ายกับที่คนยุคใหม่คุ้นเคยในเกมส์ และอนิเมชั่น จนเราแอบสงสัยว่า ทีมผู้สร้างน่าจะตั้งใจวางพื้นฐานให้กับการต่อยอดเป็นเกมส์หรืออนิเมชั่นแน่เลย

- เน้นการเสพอรรถรสทางสายตาได้ดีเยี่ยม ทุกมุมกล้อง ทุกท่าทางของตัวละคร รวมทั้งการโคลสอัพใบหน้าหรือการแสดงอารมณ์ (โดยเฉพาะตัวละครเอก) ตลอดทั้งเรื่องได้รับการวางแผนมาอย่างละเมียดละไม (จนทำให้คนที่ไม่ได้ตั้งใจดู แค่เดินผ่านมา ก็อดไม่ได้ที่จะหยุดยืนมอง)




สีสันรูปแบบของเครื่องแต่งกายของแต่ละตัวแสดง ในแต่ละฉากแต่ละตอน ก็ได้รับการใส่ใจเต็มที่ ; สีเข้มในตอนที่หม่นหมอง, สีสันสดใสในบรรยากาศหวานๆ, รูปแบบของเกราะที่เปลี่ยนตามสถานการณ์





หรือแม้กระทั่ง สีพื้นฉากที่แสดงถึง “วิถี”ของแต่ละคน เช่น ฉากของคิฮา หรือโฮเก 2คนที่สวรรค์ทอดทิ้งจนต้องเลือกหนทางชั่วร้าย เกือบทุกครั้งที่เอ่ยถึง2คนนี้ก็จะใช้สีพื้นฉากเป็น “สีแดง”




หรือฉากที่มังกรน้ำเงินถูกปลุกให้ตื่น เมื่อโคลสอัพกลับไปยังกษัตริย์ จะเห็นภาพวาดมังกรฟ้าเป็นฉากอยู่ด้านหลังพระองค์ ก็เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่แฝงอยู่อย่างมีกึ๋น


การ “แฝงสัญลักษณ์” นี้เป็นความละเอียดอ่อนของหนังเอเซีย ที่หาไม่ได้ในหนังฮอลลีวู้ดนะคะ

- วางพล็อตเรื่องกระชับ มีฉากย้อนระลึกเหตุการณ์สำคัญเป็นระยะๆ ซึ่งปกติหนังเกาหลีทำได้ดีตรงจุดนี้อยุ่แล้ว แต่เรื่องนี้ดูใส่ใจเอามากๆ ชนิดที่ว่าคนที่ไม่ได้ดูตั้งแต่ตอนแรกก็ยังดูรู้เรื่อง

- เพลงประกอบเพราะมากๆ TVXQ /ดงบังชินกิ รับหน้าที่ร้องเพลงหลัก ลากแฟนเพลงของพวกเค้ามาเป็นแฟนหนังได้อีกหนึ่งกลุ่มใหญ่


-----------------------------------------------------


**ง่ายมากต่อการตกหลุมรัก**


สำหรับคนธรรมดาอย่างเรา มองเห็นหลุมที่ผู้สร้างตั้งใจขุดไว้ดักคนดูสาวๆเข้าจังๆ ...ก็ไม่รู้ว่าเค้า “ตั้งใจขุด” มากขนาดไหนหรอกนะคะ นอกจากพระเอกแบยองจุนที่หล่อใสราวเทพ อ่อนโยน และเปี่ยมด้วยสติปัญญาความกล้าหาญแบบที่ใครๆก็ต้องรักแล้ว .....
ยังมีหลุมขนาดใหญ่อีกหลุมหลุมที่เราและสาวๆหลายคน ยอมตกลงไปอย่างเต็มใจเลย

หลุมใหญ่ชัดเจนที่เรายินดีตกลงไป ต้องยกให้ “ชอรุ” ค่ะ >>



บทนี้ ยอมรับเลยว่างามบริสุทธิ์ราวกับเทพมังกรจริงๆ อย่างที่ว่า.. คนกับบทช่วยส่งกันสู่ดวงดาวค่ะ
(ขอยกย่องคนคัดเลือกผู้แสดงจากใจจริง ช่างมีวิสัยทัศน์กว้างไกลอะไรเยี่ยงนี้ เอ๊ะ หรือ มันบังเอิญ!?)

นอกจากจะเปิดตัวคาแรกเตอร์ช่วงแรกในคราบของนักรบหน้ากากที่น่ากลัวราวปิศาจ ยังตอกย้ำความน่ากลัวด้วยใบหน้าใต้หน้ากากอันแสนน่าเกลียด แต่กลับแง้มให้เห็นหัวใจพิสุทธิ์อย่างนักรบและเจ้าเมืองที่แสนดี เพื่อย้ำให้เรารู้สึกลุ้นอย่างจดจ่อว่า ตัวจริง จะเป็นอย่างไรแน่
สุดท้ายก็กระชากใจคนดูอย่างแรง เมื่อเผยให้เห็นว่าใบหน้าที่แท้นั้นงดงามราวเทพ มีบุคลิกที่นิ่งขรึม พูดน้อย ก่อนจะเผยให้เห็นทีละน้อยในตอนต่อๆมา ถึงความใสซื่อบริสุทธิ์ ราวลูกมังกรที่เพิ่งออกจากเปลือกไข่อันน่าเกลียดน่ากลัว แล้วกลายมาเป็นมังกรที่ทั้งสวยและเชื่อง จอมขโมยซีนของทุกๆคนค่ะ



ขอให้ฉายาว่า “จอมพลิกบทซดเลือด(กำเดา)คนดู” ละกันนะคะ

เชื่อแน่ว่า ความสวยงามน่ารักระดับนี้ ต่อไปจะได้เห็นอีกมากในรูปของงานแฟนอาร์ตค่ะ เพราะชอรุ ช่างมีพลังกระตุ้นจินตนาการให้กว้างไกล......

~ ถ้าคุยกันในโหมดโชโจ ท้องเรื่องก็เหมือนจะปูพื้นให้น้องนางเอกกับชอรุ แอบกิ๊กกันหน่อยๆอยู่แล้ว (มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนน่ะนะ) ลองรอดูนะคะว่าจะมีโดจินชิของคู่นี้ออกมามั้ย น่ารักใช่ย่อยเลยล่ะ เวลาอยู่คู่กัน
~ ถ้าคุยในโหมดY ความงามระดับเทพก็จิ้นได้หายห่วงค่ะ แต่ถ้าจะให้มาแพ็คคู่ ขอบอกตรงๆว่าไม่รู้จะให้คู่กับใคร พี่พยัคฆ์ขาวก็มีเมียมาคุม กับ king ก็จะกลายเป็นเคะชนเคะ อือม์ แต่ไม่ใช่ปัญหาค่ะ เพราะงานYไม่จำเป็นต้องมีคู่นี่คะ แค่ความสวยงามในคาแรกเตอร์ก็แอบYได้แล้ว

ซูจินี
นี่ก็พลิกภาพลักษณ์ได้น่าสนใจค่ะ จากสาวชาวเผ่าแสนสวยในตำนาน มาเป็นเด็กเฮี้ยวทอมบอยกะโปโล ยอดฝีมือด้านยิงธนู บู๊เก่งสุดๆ ทั้งที่ตัวเล็กนิดเดียว แต่โผล่มาที ชายร่างยักษ์ยังล้มเป็นแถบๆ
......ทำให้คนดูรอลุ้นว่า เมื่อไหร่หล่อนจะสวย(อีก)ซะทียะ ยัยตัวร้าย

เป็นคาแรกเตอร์ที่ถูกใจสาวแกร่งสมัยใหม่ค่ะ มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และสามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้ชาย (หมดสมัยของนางเอกเจ้าหญิงแสนสวยบอบบางที่นั่งงอมืองอเท้า รอพระเอกมาช่วย)



**เอ่อ แอบกระซิบนิดนึงว่า หนังเรื่องนี้แอบสะท้อนภาพของสังคมสมัยใหม่รึเปล่าเนี่ย หญิงสาวแต่ละคนในเรื่อง "ถึก" สุดๆ ส่วนหนุ่มๆก็ "ง้ามงาม" ซะ

-------------------------------------------------


ยังไม่ทันจะเข้าฉายในเมืองไทย รู้มั้ยคะว่า เรื่องนี้
ถูกนำไปเขียนเป็นมังงะ โดยนักวาดชาวญี่ปุ่น อิเคดะ ริโยโกะ ผู้วาดกุหลาบแวร์ซายส์

กำลังจะสร้างเป็นอนิเมชั่น
ได้ข่าวว่าจะสร้างภาคสองแล้ว (เย้ จริงอะ)
ต่อจากนี้คอยดูซิว่าจะตีตลาดในรูปแบบเกมส์ด้วยรึเปล่า

กระแสวัยรุ่น อย่าง โดจินชิ และคอสเพลย์ น่าจะบูมไปถึงต่างประเทศ
(จะรอดูค่ะว่าจะได้เห็นในไทยเมื่อไหร่ ในเมื่อคาแรกเตอร์เค้าช่างสุดเท่ห์ กระตุกต่อมจิ้นของเหล่านักวาดให้คันไม้คันมืออยากทำโดจิน แฟนอาร์ต แถมเครื่องแต่งกาย ชุดเกราะ ศาสตราวุธต่างๆเอย ก็อลังการกันซะขนาดนั้น ท้าทายเหล่าคอสเพลเยอร์น่าดูนะคะ~~~ เอ้า น้องๆคอสเพลเยอร์เตรียมตัวได้เล้ย)

อย่างน้อยตอนนี้ ก็มีน้อง ffman แห่ง DJFarm คลอด fanfiction เรื่องนี้มาแล้ว
เป็นเรื่องราวโรแมนซ์แห่งมิตรภาพลูกผู้ชาย ประสากษัตริย์อัจฉริยะมาดนุ่ม(+ขี้เล่น เจ้าสำราญ แต่ก็แอบขี้เหงาและแอบซ่อนความร้อนแรง)อย่าง ทัมด๊ก กับ มังกรฟ้าแสนงามและใสซื่ออย่าง ชอรุ
ถ้าผู้อ่านมีวุฒิภาวะมากพอ และไม่มีอคติกับแนวคิดที่แตกต่างไปจากตัวเอง อ่านfanfic เรื่องนี้แล้ว ต้องรู้สึกทึ่งถึงพลังแห่งจินตนาการไร้ขอบเขต อันเป็นปฏิกิริยาก่อกำเนิดระหว่างคนๆหนึ่งกับงานภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่สามารถเปิดมุมมองของคนทั่วไปให้กว้างไกลมากขึ้นค่ะ
และ walkฯ ก็ตั้งใจจะคลอดโดจินชิเรื่องนี้ตามมาด้วยค่ะ(หวังว่าจะเสร็จก่อนฉายตอนจบในไทยน้า)
-----------------------------------------------------------------------------


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ >>> แนะนำที่มาที่ไปของกษัตริย์จูชิน และ เทพผู้พิทักษ์ทั้งสี่






 

Create Date : 19 เมษายน 2551    
Last Update : 19 เมษายน 2551 22:24:00 น.
Counter : 1071 Pageviews.  
Share

1  2  

walkin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]

walk in dream,always.
Friends' blogs
[Add walkin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.