มุมมองความรักของ Donutart
เราพยายามดึงให้ใครคนนึงเข้ามาในโลกของเรา พยายามให้เขารู้ว่าเรารักเขา ทำไมเราไม่ลองคิดว่า เราจะใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ ไม่ต้องให้ใครมาอยู่ในโลกของเรา ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในโลกของเขา แค่เปิดให้เขาเข้ามาและออกไป พยายามทำให้เขารับรู้ว่าเรารักเขาแล้วก็พยายามรับรู้ถึงความรักที่เขามอบให้เรา แบบนี้ดีกว่ามั้ย เพราะความรัก เป็นเรื่องของคนสองคน ที่มีความคิด มีเหตุผลของตัวเอง ต้องนึกถึงใจเขาใจเรา แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นรักฝ่ายเดียวหรือ 2 ฝ่ายก็มีความสุขได้ ถ้าความรักของเราเป็นฝ่ายเดียว เราก็อยู่ในโลกของเรา แอบไปส่องเขาบ้าง แสดงออกในโลกของเรา แบบนี้ก็พอ ถ้ารักแล้วกำหนดขอบเขตชีวิต กำหนดขอบเขตเวลา แบบนี้อีกฝ่ายก็อึดอัด
ถ้าจะรัก ต้องไม่คิดที่จะเปลี่ยนแปลงใคร เป็นตัวของตัวเอง เพราะถ้าเราเปลี่ยน เขาเปลี่ยน พอวันนึงที่กลับไปเป็นตัวเอง ก็จะมองว่าเปลี่ยนไป ถ้าจะรัก ต้องรู้จักให้อภัย ยอมรับข้อเสีย ไม่ใช่มองแต่ข้อดี เพราะคนเราจะอยู่ด้วยกันได้ ก็เพราะยอมรับข้อเสียของเขาได้ แะรู้จักให้อภัยเวลาที่ใครทำผิดและสำนึก ถ้าจะรัก ต้องรู้จักคำว่า ขอบคุณ และ ขอโทษ เพราะถ้าเรานึกถึงที่ดีๆ ที่เขาให้มา แล้วขอบคุณ เราก็จะให้สิ่งดีๆ ตอบแทนเขากลับไป และถ้าเรารู้จักขอโทษเวลาที่เราทำอะไรผิด เขาก็จะรู้ว่าเราสำนึกและให้อภัยเรา ถ้าจะรัก ต้องรู้จักเสียสละอดทน เสียสละเพื่อให้อยู่ตรงกลาง อะไรที่อยู่ตรงกลาง คือความสมดุล คือความมั่นคง อดทนช่วยกันต่อสู้ปัญหาต่างๆ ถ้าจะรัก ต้องรู้จักรับฟัง และพูดความจริง เราจะต้องฟัง แม้บางครั้ง อีกฝ่ายไม่พูดอะไร แต่นั่นก็อาจเป็นการบอกอะไรบางอย่าง ต้องรับฟังเพื่อช่วยเหลือ เพื่อให้กำลังใจ และต้องพูดความจริง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ช้าหรือเร็ว การพูดความจริงออกจากปากเรา ทำให้เราไม่อึดอัด ทำให้เขาเชื่อใจ แม้ความจริงจะทำให้เจ็บปวดบ้าง แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงความจริงใจ
สิ่งสำคัญที่สุดคือ มีสติ สติทำให้เราสงบ ทำให้เรามีสมาธิ ถ้าต่างฝ่ายต่างมีสติก็จะสามารถคิด ไตร่ตรอง ต่อให้มีปัญหาเล็กใหญ่ก็ผ่านพ้นไปได้ สติคอยเตือนให้เรารอบคอบและใจเย็น ใช้ปัญญาในการวิเคราะห์
สุดท้ายคือ เวลา เมื่อเรามีสติ ก็ต้องใช้สตินั้นทบทวน โดยต้องให้เวลา อดทน ใจเย็น เวลาเป็นสิ่งที่ช่วยแก้ปัญหา เป็นสิ่งที่ช่วยแสดงออกถึงอะไรหลายๆ อย่าง เวลาอาจจะไม่มีอยู่จริง เป็นสิ่งที่คนเราสมมติขึ้น เพราะฉะนั้น เราก็ไม่ควรจะไปเร่งมัน ปล่อยให้มันผ่านไป เราจึงกำหนดเวลาไม่ได้ว่าจะเร็วหรือช้าแค่ไหน อดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็อาจไม่มีอยู่จริง ที่มีอยู่จริง คือความทรงจำ การกระทำ และความหวังต่างหาก อดีตคือความทรงจำของเรา ที่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจดจำมันได้มากน้อยแค่ไหน เราเลือกที่จะนึกถึงมัน เพื่อใช้ประโยชน์หรือทำร้ายเรา หรือเราจะเก็บมันเอาไว้กับกาลเวลา ปล่อยให้มันผ่านไปและจางไปช้าๆ ปัจจุบันคือการกระทำ เป็นสิ่งที่ชี้ชัดที่สุด ทำอย่างไร ก็ได้ผลอย่างนั้น ถ้าไม่มีการกระทำ ก็ไม่มีผล ขึ้นอยู่กับว่าจะทำอะไร ทำในสิ่งที่ดีหรือไม่ดี อย่างน้อยๆ ที่สุดก็เกิดผลที่ใจเรา รู้สึกดีหรือแย่ ความหวังคืออนาคต เราหวังไว้ว่าในภายภาคหน้าจะเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่มีใครกำหนดอนาคตได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าความหวังของเราจะสำเร็จมั้ย แต่ถ้าเราได้หวัง อย่างน้อยก็เป็นเหมือนการลากเส้นประ ที่เชื่อมโยงการกระทำของเรา จะสำเร็จหรือไม่อย่างน้อยก็ขอให้ได้ทำตามที่หวัง อดีต ปัจจุบัน อนาคต แม้ไม่มีอยู่จริง แต่เป็นสิ่งที่จะคอยพิสูจน์และเปิดเผย ช่วยให้เรามีโอกาสแก้ไขสิ่งที่ผิด หรือทำให้เราสงบยิ่งขึ้น
ทั้งนี้อยู่ที่ตัวเรา แต่ละคนมีความคิดที่ไม่เหมือนกัน มีมุมมองที่แตกต่างกัน ไม่มีใครที่จะคิดเหมือนกัน 100% ไปซะทุกเรื่อง เวลาที่เรารักใคร เราถึงอยากที่จะเรียนรู้ และตัดสินใจตามเหตุผลของตัวเอง ความรัก จะเป็นความสุข ก็ต่อเมื่อเราพอใจกับความรักที่เรามีอยู่ความรัก จะเป็นความทุกข์ ก็ต่อเมื่อเราไม่พอใจที่มันไม่เป็นดั่งใจเราคาดหวังจะสุขหรือทุกข์จึงขึ้นอยู่กับเราเองเช่นเดียวกัน เราเอาตัวเองไปผูกติดกับความรักแบบไหน
Create Date : 24 เมษายน 2556 | | |
Last Update : 24 เมษายน 2556 1:05:51 น. |
Counter : 526 Pageviews. |
| |
|
|
|