ซ่อนใจไว้ใต้ดาว นิยายสืบสวนรักเล่มใหม่ปลายเดือนนี้่ค่ะ
แนะนำนิยายของตาที่กำลังจะวางแผงปลายเดือนตุลาคม 2555 นี้ค่ะ




ซ่อนใจไว้ใต้ดาว / ณิชนิตา /ชุด Love Square / ราคา 200 บาท

เรื่องราวความรักที่เรียกว่
า สมภาร หน้าเถื่อน ปากหนัก และไก่วัดที่น่ารักใสซื่อ << อันนี้เกริ่นเอง ฮ่าๆๆๆ

โปรยเรื่องค่ะ

เมื่อสารวัตรหนุ่มมาดเถื่อน
หัวใจด้านชา
ต้องมาหวั่นไหวเพราะถูกผู้ห
มวดสาวหน้าใสสยบ

หากไม่เคยรักย่อมไม่เข้าใจถ
ึงความปรารถนา บางสิ่งบางอย่างแม้ไม่ได้มา ความชิงชังริษยาก็ไม่มีวันดับมอดลง

เจตต์ นายตำรวจหนุ่มที่ถูกเรียกตั
วเข้าหน่วยสอบสวนคดีพิเศษเพื่อต่อกรกับคนร้ายคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่แสนโหดหินแต่เรื่องงานยังไม่หินเท่ากับได้ลูกทีมอย่างปริญญา หมวดสาวหน้าใสที่มาคอยช่วยงานใกล้ตัว...เพราะอยากให้เขายอมรับว่าเธอทำได้และขออยู่ใกล้ใจ...เพราะอยากให้เขารับรู้ว่าโลกนี้ยังมีผู้หญิงที่รักมั่นคง

ท่ามกลางการสืบคดีที่วกวนไปมาราวกับพายเรืออยู่ในอ่างกลับมีอันตรายคืบคลานเข้ามา...เมื่อฆาตกรไม่ได้ต้องการเพียงแค่ฆ่าแต่มันยังท้าทายและหลอกล่อเจตต์ราวกับรู้จักเขาเป็นอย่างดี!

งานนี้นอกจากเจตต์จะต้องคลี่คลายคดีให้ได้โดยเร็วแล้ว เขายังต้องคลี่คลายปมในหัวใจไปพร้อมกันอีกด้วย




ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกท่านด้วยนะคะ ^^




Create Date : 23 ตุลาคม 2555
Last Update : 11 ธันวาคม 2556 9:00:52 น.
Counter : 1162 Pageviews.

1 comment
หลงกลิ่นจันทน์ นิยายที่ออกเดือนมิ.ย.นี้ค่ะฝากด้วยนะคะ^^
ขอโฆษณานิยายเล่มล่าสุดค่ะ

หน้าปกมาแล้วค๊า~~~




เรื่องวุ่นๆ ชวนให้ลุ้นของสารวัตรสาวสวยกับคดีฆาตกรรมที่สุดพิสดาร เมื่อคนร้ายเลือกที่จะปักดอกจันทน์กะพ้อไว้แทนมีดที่หน้าอกของเหยื่อ! ยิ่งสืบ...ยิ่งถูกสวนกลับด้วยเงื่อนงำที่อำพรางคดีให้มืดมิด หากในความมืดนั้นยังพอมีแสงสว่างวูบไหวอยู่บ้าง ก็เธอมีผู้ช่วยหนุ่มหล่ออยู่เคียงข้างถึงสองคนนี่นา..




"กำหนดการวางแผงเดือนมิ.ย.54 นี้คะ  ยังไงอดใจรอกันหน่อยนะคะ ^^"


ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของคนอ่านด้วยนะคะ




Create Date : 03 มิถุนายน 2554
Last Update : 11 ธันวาคม 2556 8:59:48 น.
Counter : 858 Pageviews.

0 comment
หลงกลิ่นจันทน์





ว่านรักตำรวจหญิงแสนห่ามถูกส่งตัวมาทำงานต่างจังหวัดเพราะความที่ทำเกินเหตุยุ่งไม่เข้าเรื่อง แต่เมื่อย้ายมายังพื้นที่ไกลปืนเที่ยงขนาดนี้กลับมีคดีให้เธอต้องคลี่คลายโดยมีหมอหนุ่ม ปฐพีคอยช่วยเหลือแต่เพราะปากร้ายๆอย่างเขาก็มักจะกัดจิกเธอเป็นประจำ.."หัดใช้สมองมั่งสิคุณตำรวจ" คำนี้ทำให้ว่านรักเร่งทำคดี"จันทน์กะพ้อ"อย่างเต็มที่ หญิงสาวที่ตายปริศนาถูกฝังใต้ต้นจันทน์กะพ้อ..ยิ่งค้นหาต้นตอยิ่งทำให้ใครหลายคนเจ็บปวด..ระหว่างการค้นหาเรื่องราวพร้อม ๆกับความรักที่ก่อตัวทีละนิด..


----------------------------------------------------------------------------------------------


แรงบันดาลใจ  เกิดจากความรักจากคนคู่หนึ่งที่รู้จักกัน..มันเป็นความรักที่เรามองอยู่ไกลๆแล้วรู้สึกอึดอัด..ทั้งช่วงนั้นสนใจแนวเสน่หาฆาตกรรมอยู่เลยลองวางพล๊ิอตเขียนอีกครั้ง


 สถานที่ที่ใช้จำลองในงานเขียนชิ้นนี้  จากที่ใครเคยอ่านจะเห็นได้ว่า ตา ไม่เคยเขียนชื่อจังหวัดที่เกิดเหตุเลยนอกจากจังหวัดที่ตัวละครเอกตัวหนึ่งเดินทางมา คิดว่าดีกว่าหากเว้นไว้..แต่ภาพที่คิดในหัวคือ อำเภอหนึ่งของอุบลฯที่เคยไปฝึกงานที่นั่นประมาณ 3 เดือน  จำบรรยากาศได้ดีคะชอบจนเอามาเขียนเลย..อิอิ



ขอบคุณทุกคนที่เข้าไปอ่านค่ะ+กำลังใจที่มีให้คือน้ำหล่อเลี้ยงหัีวใจคนเขียนเช่นกัน ^^




Free TextEditor



Create Date : 02 เมษายน 2553
Last Update : 5 พฤษภาคม 2556 20:32:56 น.
Counter : 712 Pageviews.

7 comment
หอมหัวใจใส่ครีม


ฮันจา..ผู้หญิงชื่อแปลกเจ้าของร้านกาแฟ”เพื่อนกัน”ดันรับปากเพื่อนสมัยเรียนช่วยพาหนีจากผู้ชายจอมบ้าอำนาจคนหนึ่ง...(ก็เจ้าหล่อนดันอ้อนวอนทั้งน้ำตานี่นะจะไม่ช่วยก็ใจร้าย)..เพื่อนเธอหนีไปได้แต่ทำไมเธอหนีเขาไม่พ้น แม้จะทั้งปากกัดมือผลักใสให้เขาออกไปจากชีวิตแต่ฮันจาก็ไม่เคยทำได้ซักที ..แต่เมื่อเขาหายไปทำไมใจหายก็ไม่รู้นะ?


นินนาท ผู้ชายที่ทั้งบ้าอำนาจ ไม่เคยรักใครจนเมื่อคนที่คิดว่าจะแต่งงานด้วยหายตัวไป เขาก็เริ่มไม่มั่นใจจนเมื่อเจอยัยเจ้าของร้านกาแฟแม้จะวุ่นวายแต่ทำไมทุกครั้งที่เจอหัวใจเขามันเต้นแรงขึ้น...มันทำให้...เขาเกือบจะเชื่อแล้วว่าความรักมีจริง..ที่แท้ก็ไม่ใช่!!เธอโกหกทั้งเพ..


----------------------------------------------------------------------------------------------- 




“ตุ้บ!!” ฮันจาแทบจุกเพราะมีคนวิ่งมาชนเธอเข้าทำให้โทรศัพท์มือถือหล่นลงพื้นกระจัดกระจายเป็นสองท่อน...หญิงสาวได้แต่อ้าปากค้าง


“โอ..ลูกแม่..ทำไมเป็นสองท่อนอย่างนั้นเล่า?”เงยหน้าขึ้นมองคู่กรณีแทบจะทันที..ชายหนุ่มร่างสูงสวมสูทสีดำตัดกับเชิ๊ตสีขาว ใบหน้าคมคายนั้นก้มลงมองเธออาการตกใจเช่นกัน แต่เขากลับยกข้อมือขึ้นมองดูเวลาแล้วจะควักกระเป๋าเงินออกมาดึงนามบัตรยื่นให้เธอแทนคำกล่าวขอโทษอย่างที่มันควรจะเป็นอย่างนั้น


“พอดีผมรีบคงไม่ได้ตกลงค่าเสียหายกับคุณ ยังไงก็โทร.หาผมละกัน” หญิงสาวรับกระดาษนั้นมาอย่างงงๆ มองผู้ชายตรงหน้า..หน้าตาก็หล่อเหลาแต่ทำไมนิสัยแย่อย่างนี้หนอ?.


“นี่คุณ..ขอโทษก่อนค่อยไป” เธอเสียงแข็งออกคำสั่ง ดวงตาคมมองชายหนุ่มกร้าว เขาเองก็ดูเหมือนจะรำคาญผู้หญิงตรงหน้าอยู่เหมือนกัน


“ผมบอกแล้วว่าผมรีบ ถ้าคุณต้องการให้ผมชดใช้ก็ค่อยโทร.หาผม”


“ก็ในเมื่อโทรศัพท์ฉันพังแล้วจะให้เอาโทรศัพท์ที่ไหนโทร.หาคุณละ อีกอย่างฉันจะเชื่อได้ยังไงว่าไอ้กระดาษแผ่นเล็ก ๆ นี่เป็นชื่อกับเบอร์โทรศัพท์คุณจริง ๆ แต่สิ่งที่ฉันต้องการไม่ได้ต้องการโทรศัพท์เครื่องใหม่แต่ฉันต้องการให้คุณขอโทษฉันเท่านั้นเอง” ชายหนุ่มถอนหายใจยาว เขาไม่เคยเจอผู้หญิงเรื่องมากอย่างนี้เลยจริง ๆ


“เอางี้..ถ้ากลัวผมเบี้ยว...”เขาควักเอาโทรศัพท์ในกระเป๋าสูทยื่นให้กับหญิงสาว ฮันจามองมือถือรุ่นใหม่นั้นอย่างงๆ


“แล้วผมจะโทร.หา คุณคงไม่ต้องกลัวว่าผมจะเบี้ยวเพราะดู ๆ แล้วของผมมันแพงกว่าของคุณแน่” พูดจบเขาก็เดินจากไป..ปล่อยให้หญิงสาวถอนหายใจยาวเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้..นับถึงร้อยมันก็ไม่ยอมดับไฟราคะ..เอ๊ย!!..ไฟอารมณ์....แค่เขาพูดขึ้นมามันก็จี๊ดเข้าสู่ต่อมโมโหของเธอแล้ว...คิดได้เธอก็เดินตามไปคว้าแขนเขาไว้


“โอเค..งั้นให้มันแฟร์ ๆ ..”เธอพูดพร้อมกับขว้างมือถือรุ่นไฮโซนั้นลงกับพื้นจนมันแตกกระจาย ชายหนุ่มมองดูตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


“นี่คุณทำบ้าอะไร..” เธอค้ำเอวมองอย่างสะใจ พร้อมกับแสยะยิ้มหวานอย่างพึงพอใจเป็นที่สุด...เหมือนไม่เคยพอใจอะไรอย่างนี้มาก่อน


“ก็ให้มันแฟร์ไง..ถึงแพงกว่ามันก็แตกได้เหมือนกันนั่นแหละว่าไหมคะ คุณ..ฉันพอใจแล้วเชิญคุณไปทำธุระของคุณเถอะคะ” เธอเดินกลับไปเก็บเศษโทรศัพท์ของตัวเองเข้ากระเป๋า ชายหนุ่มถอนหายใจยาวเขาก้มลงเก็บเศษส่วนที่บรรจุซิมการ์ดไว้แล้วเดินตรงดิ่งมาที่ตัวหญิงสาวต้นเหตุกระชากแขนเธอดึงตามเขาออกมา








Free TextEditor



Create Date : 14 กรกฎาคม 2552
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2554 11:31:52 น.
Counter : 706 Pageviews.

1 comment
ปมร้าย..หัวใจเสน่หา


หากเข็มสั้นหยุดเดิน เข็มยาวก็หยุดเช่นกัน

การที่แบ่งปันความเจ็บปวดด้วยกัน สักวันหนึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นความสุข

ไม่ว่าใครก็ตามก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ผ่านเวลาที่ไม่สามารถย้อนคืนได้

เพียงคนเดียว หนึ่งเดียว ชั่วขณะเดียว วินาทีเดียว แม้แต่ครั้งเดียว โดยไม่หวั่นไหว


เมื่อได้พบคนที่ตามหาการพบพานเช่นนั้น

เพียงคนเดียว หนึ่งเดียว ชั่วขณะเดียว วินาทีเดียว เพียงแค่ครั้งเดียว .......ก็เพียงพอแล้ว



 “ตอนที่ 1 ฆาตกรรม”


 “ลาออก!!” เสียงตะโกนด้วยความตกใจดังออกมาจากห้องทำงานของผู้จัดการทำให้พนักงานอื่น ๆ ที่ทำงานอยู่ด้านนอกต่างหันมามองเป็นจุดเดียว เงี่ยหูฟังเรื่องกันอย่างตั้งใจ  บ้างก็วิ่งเข้าไปเอาหูแนบกับประตูห้องเสียอย่างนั้นเพราะทุกคนรู้ว่าในห้องของผู้จัดการมีวิศวกรหนุ่มรูปหล่อฝีมือดีอยู่ในนั้นด้วย


                “ครับ”เสียงรับคำนั้นหนักแน่นไม่มีวี่แววของการลังเลเลยแม้แต่น้อย  ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามได้แต่หมุนปากกาไปมาพลางคิดเรื่องของหนุ่มรุ่นน้องไปด้วย  หลังจากที่รัชต์ลาพักไปเกือบหนึ่งเดือน เมื่อกลับมาทำงานเช้าวันนี้ กลายเป็นว่ารัชต์ยื่นใบลาออกแทน  ปราโมทย์เข้าใจดีว่าหนุ่มรุ่นน้องคนนี้กำลังเสียใจเรื่องของน้องสาวที่เพิ่งเสียชีวิตไปแต่ก็ควรไม่มากมายจนถึงขั้นลาออกจากงานได้ นอกเสียจากรัชต์จะไม่เชื่อผลการสันนิษฐานของตำรวจและตั้งใจที่จะทำอะไรบางอย่าง


 “พี่รู้ว่ามันทำใจยาก..แต่ลาออกไปแล้วแกจะไปทำอะไร..พี่เองก็เสียดายฝีมือของแกนะรัชต์..เอาเป็นว่าพี่ให้แกลาพักร้อนอีกสามเดือนเลยเอ้า!...สบายใจค่อยกลับมายังไงพี่ก็ไม่ยอมให้แกลาออก..แกทำงานกับพี่มาตั้งแต่เริ่มตั้งบริษัทใหม่ ๆเป็นเหมือนพี่น้องกันตอนนี้เรากำลังไปได้ดีแกจะลาออกเพราะเรื่องนี้ไม่ได้นะเว้ย..เห็นแก่พี่นะรัชต์..อยู่ต่อ..”วิศวกรหนุ่มถอนใจเมื่อสบสายตารุ่นพี่ เขาเองก็เสียดายงานนี้เช่นกันแต่ว่าถ้ายังทำงานอยู่เขาก็ไม่สะดวกที่จะตามหาความจริงอย่างที่ตั้งใจไว้


 “ก็ได้ครับ..งั้นผมขอลาพักร้อนละกันครับ”


 “แกจะไปพักร้อนก็พักจริง ๆ นะเว้ย...อย่าคิดที่จะทำอะไรแปลกๆ...บางอย่างถ้ามันเห็นทางตันก็อย่าฝืนมันนัก..ตำรวจเขาสรุปว่าดาวฆ่าตัวตายก็น่าจะเป็นอย่างนั้น..พี่เข้าใจแกดีนะรัชต์ว่าแกรักน้องแต่มันสายเกินไปแล้วที่จะทำอะไรอีก” รัชต์พยักหน้ารับ..ใช่..มันสายไปแล้วจริง ๆที่จะกลับมาดูแลน้องสาว..


รัชต์เดินออกมาจากห้องเจ้านาย เขานั่งลงที่โต๊ะทำงานของตัวเองพร้อมกับควักเอารูปครอบครัวจากกระเป๋าเงินออกมาดู   เด็กหญิงผิวขาวผมดำยาวสยายเต็มบ่าใบหน้าสดใส ดวงตาเป็นประกายยิ้มหวานแขนบางโอบกอดผู้เป็นแม่ส่วนเขาเป็นหนุ่มน้อยวัยรุ่นผมเกรียนสั้นยืนอยู่ข้างพ่อเป็นรูปครอบครัวใบเดียวที่สดใสที่สุดที่เขามี...รัชต์กับดาวโตมาในครอบครัวเดียวกันก็จริงแต่หลังจากที่พ่อแม่หย่าร้างกัน ดาวไปอยู่กับพ่อซึ่งก็คงไม่ค่อยมีเวลาดูแลทำให้ติดเที่ยวมากกว่าจะเรียนหนังสือ  ส่วนรัชต์หลังจากพ่อกับแม่หย่ากันก็ไม่ได้ติดต่อกับน้องสาวอีกเลย..ส่วนหนึ่งก็เป็นความผิดของเขา...เสียงล่าสุดที่ได้ยินจากปากของดาวก็คือ..เธอโทรศัพท์มายืมเงินเขาเกือบสองหมื่นซึ่งเขาเองก็ไม่เห็นความจำเป็นที่เด็กเรียนมหาวิทยาลัยจะต้องใช้..ยิ่งเขารู้ข่าวจากเพื่อนเสมอว่าเห็นน้องสาวเขาตามสถานบันเทิงต่าง ๆ อยู่เนือง ๆ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะไม่ให้เงินจำนวนนั้น..หลังจากนั้นสามวัน..เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่าพบศพน้องสาวกระโดดตึกห้องพักฆ่าตัวตาย...ตำรวจลงความเห็นว่าเธอฆ่าตัวตายหนีหนี้จากการยืมเงินนอกระบบ...เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ..เขาเห็นร่างน้องสาวห้อยตัวอยู่นอกหน้าต่างตัวผูกติดกับเชือกที่ผูกกับลูกกรงอีกทอดหนึ่ง...ร่างกายมีเพียงยกทรงกับกางเกงขาสั้น...มันผิดปกติวิสัยสำหรับคนที่จะฆ่าตัวตาย..เขาไม่เชื่อมาตั้งแต่ต้นว่าดาวจะฆ่าตัวตาย..ดังนั้นจึงคัดค้านการเผาศพน้องสาว...จะมีเพียงการทำพิธีโดยเผารูปและเสื้อผ้าของดาวแทนร่างกายของเธอตามพิธีทางศาสนา..รัชต์ติดต่อให้หมอที่เชี่ยวชาญช่วยชันสูตรศพของดาวอีกครั้งเพื่อให้ได้หลักฐานที่สามารถยืนยันได้ว่าเธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย..คำร้องของเขาได้ผล...หวังว่ามันจะทำให้เขาได้ความกระจ่างอะไรบ้าง


ช่วงเย็นของวันหนึ่งรัชต์ขับรถมาถึงร้านอาหารที่เป็นร้านประจำของเขาแลเพื่อนสนิท หลังจากโทรศัพท์นัดหมายกันไว้  เมื่อมาถึงเขาก็นั่งลงที่โต๊ะตัวเดิมในร้าน  เพื่อนสนิทที่ว่านี้ก็คือ นัทธี เพื่อนสมัยเด็กเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมปลายแต่พอเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยก็แยกกันเรียนตามที่ตัวเองใฝ่ฝัน นัทเป็นเพื่อนคนเดียวที่เขาสนิทที่สุดและเป็นที่พึ่งของเขามาตลอด  ไม่ว่าจะร้ายจะดีแค่ไหน นัทธีก็อยู่เคียงข้างเขาเสมอมา


“เฮ้ย..ไงวะ..รอนานไหม”เสียงทุ้มนั้นเป็นของนัทธี  นัทธีเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงได้สัดส่วนรูปร่างหน้าตาดี ผิวขาวละเอียดแต่ติดที่ชอบทำหน้า’เฉย’ เลยทำให้เขากลายเป็นหนุ่มผู้เงียบขรึมและไม่น่าหลงใหล นั่นเป็นฉายาของ นัทธีสมัยเรียนมัธยมปลาย


“เออ..ไม่นานแล้วยังไงวะมาสายกว่าปกติ..ไหนแกบอกว่าอยู่แถวนี้ไง”รัชต์ทักเพราะตอนที่คุยกันทางโทรศัพท์นัทธีบอกว่าเขาอยู่แถวร้านอาหารพอดิบพอดี


“อืม..ติดไปเจอคน ๆ หนึ่งเข้า..นี่แกจำยัยแว่นเพื่อนห้องเราได้ไหมวะ..”นัทธีรู้ว่าการเอ่ยถึงผู้หญิงคนนี้จะทำให้เพื่อนชายตื่นเต้นมากแต่ก็อดใจไว้ไม่อยู่จริง ๆ


“แว่นไหนวะ”ฉายาที่ไม่ได้พูดถึงมานานถึงเจ็ดปีทำให้ต้องมีการรื้อฟื้นความทรงจำกันอีกครั้ง


“ก็..กีรติ...สมัยนั้นเราล้อว่า..ยัยแว่น...”รัชต์พยายามนึกถึงหน้าของเพื่อน ๆ สมัยเรียนมัธยมจนนึกถึงยัยหน้าหมวยใส่แว่น ผมยาว ท่าทางโก๊ะๆที่มักจะกวนประสาทเขาเสมอ  แถมยังชอบทำอะไรตัดหน้าเขาประจำ  ยิ่งเรื่องการเรียนด้วยแล้วเธอคือคู่แข่งอันดับหนึ่งของเขาเลยละ..จนเมื่อเรียนจบ...มันก็เปลี่ยนไป..พอคิดได้หัวใจเขาก็เริ่มเต้นแรงขึ้น


“อ้อ...ยัยแว่น..บ้าพลังน่ะเหรอ..แกไปเจออยู่ไหนวะ”รัชต์สีหน้าตื่นเต้น


 “แถวนี้แหละ..พอดีเห็นที่ร้านถ่ายรูปด้านหน้านี่แหละ..เขาไม่ได้ใส่แว่นแล้วนะเว้ย..หน้าตาน่ารักใช่ย่อย..แต่ยังแต่งตัวประหลาดเหมือนเดิม...ถามว่าทำอะไรอยู่ก็บอกว่าว่างงาน..ทั้ง ๆที่จริงตอนจบมัธยมฉันได้ยินว่ายัยนี่เอนท์ติดหมอนี่หว่า..แต่ทำไมถึงได้บอกว่าว่างงาน..”นัทธีแม้จะรู้ว่าเพื่อนรอคอยเวลานี้มานานแค่ไหนก็ตาม..แต่เขาก็พยายามที่จะไม่ตื่นเต้น  ไม่ส่งเสริมให้เพื่อนออกไปตามหาผู้หญิงคนนี้อีก..ในเมื่อเธอจากไปแล้ว..กลับมาทำไมตอนนี้...


“ถ้าไม่ประหลาดก็คงไม่ใช่หล่อนหรอก..”รัชต์พูดตาลอย   มือจับแก้วในมือแกว่งไปมาเหมือนกับคิดอะไรอยู่..


 “เออวะ..ใช่อย่างที่แกพูดนั่นแหละ..”นัทหัวเราะก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง


 “แล้วเรื่องดวงดาวเป็นไงบ้าง”


 “พรุ่งนี้ฉันนัดหมอที่ช่วยชันสูตรไว้..จริง ๆ เขาก็ไม่อยากช่วยฉันนักหรอกแต่พอดีพี่หนุ่มเจ้านายฉันช่วยติดต่อให้..”นัทพยักหน้ารับพลางคิดถึงเรื่องที่เพื่อนหนุ่มมีปัญหาอยู่  ไม่มีใครเชื่อรัชต์นอกจากเขา..






Free TextEditor



Create Date : 14 กรกฎาคม 2552
Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2554 11:27:38 น.
Counter : 656 Pageviews.

1 comment
1  2  3  

ดนตรีในสายลม
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ฟังดนตรีไม่มีเสียงร้อง..บ่นเป็นตัวหนังสือมากกว่าพูด..