All Blog
แด่เธอเจ้าของอีเมลฉบับหนึ่ง...
  วันนี้....โพสต์บล็อกหลังจากไม่ได้ทำมานาน เพราะอยากไว้อาลัยให้กับคนๆหนึ่งที่เคยเป็นหนึ่งในความรู้สึกดีๆในชีวิต ที่บัดนี้ เขาลาจากโลกนี้ไปแล้ว ขอให้ไปดี สู่ภพโลกที่ดีนะ

ครั้งหนึ่งเคยเขียนจดหมายเล็กๆ ถึงเขา เลยเอามาอ่านอีกครั้ง
ขอบคุณสำหรับความเอื้อเฟื้อที่เคยมีให้กันนะ





---อีเมลที่ไม่ได้ส่ง---


ฉันเริ่มต้นเขียนอีเมล์ฉบับนี้หลังจากฝึกซ้อมรับปริญญาเสร็จเนื่องจากความรู้สึกบางอย่างที่มันเกิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวในสายของวันฝึกซ้อมวันที่สองฉันนั่งมองด้านหลังของใครบางคน ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในใจแม้ว่าข้างในหัวใจดวงนี้จะเจ็บปวดเล็ก ๆ

คุณเคยบ้างไหม..ที่คอยแต่จ้องมองด้านหลังของคนที่ชอบ..

มองอยู่อย่างนั้นไม่ยอมแม้แต่จะทักทาย..ไม่แสดงตัวตนให้เขารู้ว่าชื่นชอบเขามากมายแค่ไหน..

ฉันคือหนึ่งในนั้น..คนที่ทำได้แค่มอง..

เขาคงจำฉันไม่ได้ด้วยซ้ำ ระยะเวลา 4 ปีใครจะไปจำได้ละจริงไหม...แต่ฉันกลับจำได้ดีแม่นยำเหลือเกิน..เราเจอกันโดยบังเอิญในขณะที่เรียนปี1 เรียนวิชาหนึ่งด้วยกันแม้ว่าจะอยู่คนละโปรแกรม เขาเรียนดนตรีสากลส่วนฉันเรียนการประชาสัมพันธ์..

ความประทับใจไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความหน้าตาดีของเขาหรอกนะ..แต่เพราะนิสัยดีๆ ที่เขาแบ่งปันให้ในยามที่เราต้องการความช่วยเหลือต่างหาก..

สมัยนั้นฉันทำกิจกรรมเป็นเรื่องหลักแทนที่จะเป็นเรื่องการเรียนความสนุกและความชื่นชอบกิจกรรมทำให้ฉันกลายเป็นประธานชมรมอาสาพัฒนาซึ่งปกติทางสถาบันฯจะให้งบประมาณมาพอสมควรการจัดสรรก็แล้วแต่ว่าจะได้รับกันมากน้อยเท่าไหร่ ชมรมเล็ก ๆ ก็จะได้น้อยหน่อยโดยที่ชมรมของเราก็อยู่ในกลุ่มขนาดเล็กนั้นด้วย

เพื่อนๆจึงตกลงใจกันหารายได้เสริมด้วยการเล่นดนตรีเปิดหมวกแต่ทว่าไม่มีใครเล่นเป็นกันซักคน อีกทั้งเพื่อนที่มีอยู่ก็มีจำนวนน้อย จึงได้ให้เพื่อนคนหนึ่งติดต่อไปยังโปรแกรมดนตรีเนื่องจากรู้จักกันเป็นการส่วนตัว..และนั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้คุยกับเขา..ความประทับใจเริ่มต้นจากรอยยิ้ม..ความเอื้อเฟื้อในเรื่องต่างๆ ค่าตัวที่ไม่ขอรับ แค่อาหารเมื้อเดียวก็เพียงพอแล้ว..

กิจกรรมเปิดหมวกในวันนั้นดำเนินไปด้วยดีได้เงินเยอะพอสมควร เพราะเขานั่นแหละที่เป็นตัวดึงดูดความสนใจของสาว ๆเขาได้รับเสียงกรี๊ดเป็นระยะ..

เมื่อจบงานเขาถามด้วยความสงสัยว่าเงินที่ได้จะพอไหมกับกิจกรรมที่ทำ..ฉันยิ้มและบอกด้วยความยินดีว่าเกินพอขอบใจมากกับสิ่งที่ทำให้..

หลังจากนั้น..ฉันก็แอบมองเขามาโดยตลอด..ไม่แม้แต่จะพูดคุย..เพราะฉันรู้ว่า..ฉันคงทำได้แค่เพียงเท่านั้น..จนถึงวันนี้..วันที่ฉันได้เจอเขาอีกครั้ง...เขาก็ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง...ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่ไม่ยอมแสดงตัวออกไป..เพราะฉันชอบเขามากเกินกว่าจะเอาความรักไปทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป...

แม้ฉันจะรู้จักความรักได้ไม่นานแต่ฉันก็รู้ว่ามันมีพลังร้ายแรงแค่ไหน..ฉันได้รักคนๆหนึ่งไปแล้วและคงไม่อาจจะเลิกรักเขาได้..เพราะความรักมันทำให้ฉันอยากเป็นเจ้าของ..อยากอยู่กับเขา..อยากให้เขารักตอบฉัน..และความผิดหวังมันเจ็บปวดร้ายกาจแค่ไหน..ฉันรู้ดี..

ฉันจึงไม่ทำให้ความชื่นชอบเหล่านั้นเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น..ความรักกับความชอบมันต่างกันนะ...มันมีคุณค่าต่างกัน...เรียกความรู้สึกนี้ว่า..รักบริสุทธิ์ได้ไหมนะ...

ฉันขอแค่..ได้มองเขาก็พอ..มองด้านหลังของเขา..ได้แต่คิดเอาว่า..เขาจะเป็นอย่างไรบ้างในอนาคต..เขาจะมีความสุขไหม....ครั้งสุดท้ายท้ายที่เจอ...เราสบตากันแต่มันมีความว่างเปล่าที่สุขใจอยู่ลึกๆ ..

ฉันจะเป็นคนที่เดินตามเงาของนายต่อไปนะ....จะยืนมองอยู่ข้างหลังไปเรื่อย ๆ ....

ความรักจะทำให้เราอยากยึดติด..อยากเป็นเจ้าของ..ฉันจึงไม่กล้าที่จะรักนาย....

แต่ฉันจะชอบนายไปอย่างนี้เรื่อย ๆเรื่อย ๆ...เป็นแค่คนข้างหลังนายก็พอ...

ฉันรู้ว่าอีเมลฉบับนี้คงจะไม่ถึงเขา..มันจะเป็นเพียงจดหมายที่ไม่ได้ส่ง..แต่ฉันก็อยากเขียนมันขึ้นมาด้วยความตั้งใจจริง...ที่เกิดจากความรักบริสุทธิ์จากคนเดินดินคนหนึ่งที่พระเจ้าได้มอบหัวใจมาให้...ฉันจะรักษาความรู้สึกดี ๆ นี้ตลอดไป..

ฉันเชื่อว่าทุกคนจะมีคนที่เดินนำหน้าอยู่..จงรักเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อไปเถอะ..

................คีตา............................

17 สิงหาคม 2548 เวลา 13.21 น.

-----------------------------------------------------------------

เคยลงไว้ ตอนนี้ //www.bloggang.com/viewblog.php?id=dontree&date=25-06-2009&group=1&gblog=8



Create Date : 28 ตุลาคม 2556
Last Update : 28 ตุลาคม 2556 16:36:38 น.
Counter : 840 Pageviews.

1 comments
  
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยค่ะ ยินดีกับความสุขเงียบๆคนเดียวแบบนี้จัง
โดย: ความสุข IP: 118.172.86.51 วันที่: 28 ตุลาคม 2556 เวลา:19:17:32 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ดนตรีในสายลม
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ฟังดนตรีไม่มีเสียงร้อง..บ่นเป็นตัวหนังสือมากกว่าพูด..