All Blog
สู่ประวัติศาสตร์อันยาวนาน กับการเดินทางของไก่ทอด ..... Southern Fried Chicken
ไก่ทอด อาหารแห่งสากลโลก อาหารที่ไม่มีข้อกำจัดแห่งศาสนาหรือลัทธิความเชื่อใดๆ ทุกประเทศในโลกล้วนมีตำรับไก่ทอดในแบบฉบับของตัวเอง ครั้นแล้วจึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า เมนูอาหารยอดนิยมชนิดนี้มันถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อใด ใครเป็นผู้ริเริ่ม แล้วทำไมถึงกลายมาเป็นอาหารแห่งมวลมนุษยชาติได้มากถึงเพียงนี้

ตำรับไก่ทอดสามารถสืบย้อนไปได้ในช่วงยุคสมัยโบราณของชาวสก็อต ที่นิยมการนำสัตว์ปีกมาถอนขน หั่นเป็นส่วนๆ แล้วนำไปคลุกเครื่องเทศแห้งๆคลุกแป้ง แล้วจึงนำทอดในไขมันสัตว์ร้อนๆ โดยในยุคสมัยนั้นจะนิยมใช้ไขมันของหมูป่ามาเจียวเป็นน้ำมัน แต่ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งแถบแอฟริกาตะวันตก จะนิยมการนำสัตว์ปีกไปคลุกแป้ง จากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันปาล์มแค่ให้พอเหลืองๆ แล้วจึงนำไปเคี่ยวกับน้ำซุปจนเปื่อย 

ต่อมาในช่วงประมาณศตวรรษที่ 17-19 ผลลัพธ์จากลัทธิจักรวรรดินิยมนำมาซึ่งการค้าทาสชาวแอฟริกัน การผสมผสานของสูตรเมนูไก่ทอดจึงเกิดขึ้นระหว่าง สูตรของนายทาสผิวขาวชาวสก็อตกับสูตรของทาสผิวสีชาวแอฟริกัน โดยการฟิวชั่นสูตรอาหารดังกล่าวเกิดขึ้นบนแผ่นดินแห่งทวีปอเมริกาเหนือทางตอนใต้ 

สูตรไก่ทอดแบบชาวใต้ คือการนำเนื้อไก่ไปหมักกับเครื่องให้ชุ่มฉ่ำก่อน แล้วค่อยนำมาคลุกกับแป้งที่ผสมเครื่องเทศทีหลัง จากนั้นจึงนำไปทอดในน้ำมันปาล์มจนเหลืองกรอบ เป็นสูตรสำเร็จที่ผสมผสานระหว่างสูตรของสก็อตกับสูตรของแอฟริกัน 

แต่ถึงกระนั้นเมนูไก่ทอดในสมัยนั้นก็ไม่ได้เป็นเมนูที่ดาดดื่นเหมือนสมัยปัจจุบัน เพราะยังไม่มีการเลี้ยงไก่ในเชิงอุตสาหกรรม แต่กลับเป็นการเลี้ยงไก่ขนาดย่อมในเชิงเกษตรกรรมโดยทาสชาวผิวสีเสียมากกว่า การเลี้ยงไก่จึงมักเป็นการเลี้ยงไก่เพื่อเอาไข่ ส่วนการกินเนื้อไก่ก็จะมีเฉพาะเวลาช่วงเวลาโอกาสสำคัญๆเท่านั้น นายทาสจะได้กินไก่สาวที่เนื้อยังนุ่มเพราะอายุยังน้อย ส่วนเหล่าบรรดาทาสก็จะได้กินไก่แก่ปลดระวางที่เนื้อและหนังเหนียวแทน ดังนั้นสูตรไก่ทอดของทาสชาวผิวสีจึงมักจะมีการนำไก่ไปเคี่ยวจนเปื่อยก่อน แล้วค่อยนำมาทอดในภายหลัง

ภายหลังจากมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม การเลี้ยงไก่จำนวนมากในเชิงอุตสาหกรรมจึงเกิดขึ้น เมนูไก่ทอดชาวใต้ก็กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลกในช่วงปี 1950-1970 โดยคนที่ใครๆล้วนรู้จักกันดีซึ่งก็คือผู้พันแซนเดอร์ผู้คิดค้นสูตรไก่ทอดชื่อดังและได้ถูกซื้อลิขสิทธิ์จนกลายมาเป็น chain restaurant มหาอำนาจอย่าง KFC ในภายหลังนั่นเอง


เตรียมทำน้ำซุปแช่ไก่กันก่อนเลย โดยผัดเนยกับ
แครอทหั่น
ขึ้นฉ่ายหั่น
หอมใหญ่หั่น
กระเทียมทุบ 
พริกไทยบด
ผัดจนเนื้อหอมใหญ่เริ่มมีความใส


เติมน้ำซุปไก่ลงไปแล้วตั้งไฟจนเดือดจัดๆสักพัก แล้วค่อยลดไฟให้เดือดอ่อนๆแล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆจนเนื้อแครอทมีความเปื่อยนิ่มแล้วค่อยปิดไฟ


รอให้น้ำซุปอุ่นหรือเย็นก่อน แล้วนำเนื้อไก่ลงไปแช่ วันนี้ใช้เนื้อสะโพกหนาๆสองชั้น กับน่องหนาๆอีกสองชิ้น แช่ไก่ทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างต่ำๆ 6 ชั่วโมง


หลังแช่ไก่ในน้ำซุปเสร็จ ก็นำไก่ไปสะเด็ดน้ำซุปก่อน แล้วนำไก่ลงไปแช่ในโยเกิร์ตสูตธรรมชาติที่ผสมกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แช่ทิ้งไว้อีกประมาณ 6 ชั่วโมง


หลังจากหมักกับโยเกิร์ตเสร็จ ก็นำไก้ไปคลุกกับแป้งชุบทอดได้เลย สมัยนี้มีแบบสูตรปรุงสำเร็จก็เลือกเอาจะเอาแบบรสกระเทียมพริกไทยหรือรสพริกเผ็ดๆก็แล้วแต่
หรือจะผสมแป้งเองก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผงกระเทียม ผงกะหรี่ พริกป่น พริกไทยบด ผงพะโล้ ผสมกับแป้งสาลีปนแป้งมันเล็กน้อย


ตั้งกระทะไฟปานกลางค่อนไปทางอ่อนหน่อยๆ พอน้ำมันร้อนก็นำไก่ลงทอดประมาณ 15-20 นาที จนไก่สุกนุ่มถึงแกนกระดูก
ถ้าอยากได้แบบแป้งผิวกรอบจัดๆก็ทอดไฟแรงอีกรอบแค่ประมาณ 1-2 นาที


ทอดเสร็จจัดใส่จาน กินคู่กับซอสตามชอบ


ด้วยเหตุที่เนื้อไก่ถูกแช่อยู่ในน้ำซุป แถมหมักด้วยโยเกิร์ตต่อในภายหลัง เนื้อไก่จึงมีความมันและนุ่มชุ่มฉ่ำมากๆ มิหนำซ้ำยังถูกเคลือบไปด้วยผิวแป้งกรอบๆรสเข้มข้น 
เนื้อไก่ชิ้นหนาๆฉ่ำๆที่ถูกห่อหุ้มด้วยแป้งกรอบๆรสเข้มข้น นี่คือนิยามที่ชัดเจนของ southern fried chicken แบบอเมริกัน ต้นกำเนิดแห่งไก่ทอดยอดนิยมของชาวโลก 
การผสมผสานระหว่างสูตรของชนชาวผิวขาวและชนชาวผิวสี การสร้างสมดุลย์ระหว่างสองชนชาติ ความลงตัวในความขัดแย้ง ในที่สุดจึงกลายมาเป็นบ่อเกิดแห่งสูตรอาหารของมวลมนุษยชาติ 
ท่ามกลางความเห็นต่าง ถ้าเราสามารถมองหาความลงตัวให้มันได้ อาจจะเกิดบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ขึ้นตามมาก็ได้


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 23 มีนาคม 2564
Last Update : 23 มีนาคม 2564 9:30:07 น.
Counter : 3336 Pageviews.

1 comment
ผัดเส้นใหญ่ไทยประยุกต์ ..... "ก๋วยเตี๋ยวคั่ว(หมู)"
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ถึงแม้จะมีหลายๆร้านพยายามเคลมว่า สูตรของร้านตัวเองเป็นสูตรแบบโบราณ แต่ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่นั้น เชื่อว่าเพิ่งจะถือกำเนิดมาในประเทศไทยแค่ประมาณ 50-60 ปีนี่เอง คิดสูตรโดยชาวไทยจีนที่มีเชื้อสายกวางตุ้ง หลักๆคือการนำก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่มาผัดกับน้ำมันหมูจนเกรียมหอม มีการใส่เนื้อไก่และไข่ กินคู่กับซอสพริกแบบบ้านๆ โดยในสมัยก่อนนั้นมักจะเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวไก่คั่ว 

ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ดังๆส่วนใหญ่จะอยู่ในกรุงเทพ มักอยู่ตามเขตที่มีชาวไทยจีนอาศัยอยู่เช่น ย่านพลับพลาไชย ย่านสวนมะลิ และย่านเยาวราช เวลาเดินผ่านร้าน กลิ่นไหม้ๆของเส้นจากการคั่วกระทะกับน้ำมันหมูหอมฟุ้งเตะจมูกอยู่เนืองๆ

ส่วนใหญ่การผัดก๋วยเตี๋ยวคั่วมักจะผัดกับกระทะเหล็กหรือกระทะทองแดง เพราะการใช้ความร้อนสูงและการกระจายความร้อนอย่างทั่วถึง ตัวกระทะเองก็สมควรไปเผาน้ำมันให้มีความลื่นไม่ติดกระทะก่อน ไม่อย่างนั้นก็ได้ใช้น้ำยาล้างจานกับแผ่นสก๊อตไบร์ทคั่วกับน้ำเย็นกันมันมือแน่ๆ 

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ก็เสมือนเป็นญาติกับผัดซีอิ๊ว แต่ต่างกันตรงที่ผัดซีอิ๊วจะใส่ซีอิ๊วดำลงไปผัดด้วย ในขณะที่ก๋วยเตี๋ยวคั่วจะใช้แค่ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลาเท่านั้น และมักจะไม่มีการใส่ผักใดๆลงไปผัดนอกจากต้นหอมซอยที่โรยลงไปปิดท้าย และเนื่องการการทำก๋วยเตี๋ยวคั่วจำเป็นต้องผัดเส้นจนเกรียม จึงมักจะเห็นได้ว่าตามร้านเจ้าดังๆ เส้นก๋วยเตี๋ยวมักจะเกรียมติดกันมาเป็นแผ่นๆแลดูคล้ายๆหอยทอดอยู่กลายๆ


วันนี้เราจะมาทำก๋วยเตี๋ยวคั่วหมู เพราะคั่วไก่ใครๆเค้าก็ทำกัน
เริ่มต้นง่ายๆแค่ใส่กุนเชียงหั่นเต๋ากับเบคอนแผ่นหนาหั่นเต๋าลงผัดกับน้ำมันไฟปานกลางเล็กน้อย ผัดให้น้ำมันหมูออกมาสักหน่อย แล้วตักกุนเชียงกับเบคอนออกไปพักไว้ก่อน


กระทะใบเดิมผัดกระเทียมสับกับพริกไทยบดให้ส่งกลิ่นหอม ถ้าใครมีรากผักชี ก็บดใส่ลงไปสักหน่อยก็ได้


เร่งเป็นไฟแรง แล้วเอาเส้นใหญ่ลงผัดเร็วๆไปเลย ผัดเร็วให้น้ำมันคลุกเส้นทั่วๆ ปรุงรสง่ายๆด้วยซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลา จากนั้นก็แผ่เส้นให้กระจายทั่วๆกระทะทิ้งไว้สักแป๊ปให้เส้นพอเกรียม แล้วกลับด้านเหมือนกลับไข่เจียว


หลังจากกลับด้านก็ตีไข่ใส่ลงไป แล้วกระจายเกลี่ยไข่ให้ทั่วๆเส้น จากนั้นก็กลับด้านอีกรอบ แล้วรออีกสักแป๊ปก็ยกใส่จานได้เลย


เอาใส่จานโรยด้วยเบคอน กุนเชียง และต้นหอมซอย ใครชอบรสร้อนๆก็โรยพริกไทยลงไปเพิ่ม กินคู่กันกับซอสพริกง่ายๆ หรือน้ำจิ้มไก่ง่ายๆ บางคนก็เอาซอสพริกกับน้ำจิ้มไก่ผสมกันอย่างละครึ่งก็ดูเก๋ไปอีกแบบ

เรียบร้อยแล้วครับกับเมนูก๋วยเตี๋ยวคั่ว(หมู)แบบง่ายๆสไตล์เสือตะหลิว หอมกลิ่นเส้นใหญ่เกรียมกับน้ำมันหมู กินคู่กับเบคอนมันๆเค็มๆและกุนเชียงมันๆหวานๆ จิ้มซอสพริกเผ็ดๆตัดเลี่ยนสักนิด รสชาติอร่อยลงตัว 

วัตถุดิบก็น้อยแถมทำได้ไม่ยากใช้เวลาการทำเพียงแค่ไม่ถึงสิบนาที ถ้าลองทำดูแล้วอร่อยอาจจะติดใจจนไม่อยากจะไปเสียตังค์ซื้อกินตามร้านที่ให้น้อยแถมยังแพงอีกก็เป็นได้ 55555


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 18 มีนาคม 2564
Last Update : 18 มีนาคม 2564 10:22:02 น.
Counter : 1301 Pageviews.

0 comment
อาหารไล่หวัด สวมเกราะสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ..... มะเขือเทศผัดไข่สไตล์จีน
พอเข้าช่วงฤดูฝน ฝนก็ตกตามหน้าที่แทบทุกวัน พายุลูกนู้นลูกนี้แวะเวียนมาเยือนแผ่นดินไทยอยู่เรื่อยๆ ของแถมที่มักจะมาพร้อมกับฤดูก็คือเหล่าบรรดาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยเฉพาะพวกไข้หวัดที่ทำให้คนส่วนใหญ่พากันขับน้ำมูกไอจามกันอยู่เนืองๆ 

อาหารในวันนี้จึงจะเป็นอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ต้านทานโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์มากมาย แถมรสชาติยังอร่อยทานง่าย เหมาะสมสำหรับคนทุกเพศทุกวัยอีกด้วย 

เมนูนั้นก็คือ"มะเขือเทศผัดไข่" แต่มันไม่ใช่แค่การนำมะเขือเทศไปผัดกับไข่เฉยๆ เพราะมันคือมะเขือเทศผัดไข่สไตล์จีน มีกรรมวิธีการทำที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด แต่รับรองว่าไม่ยากและง่ายกว่าที่คิด ใครๆก็ทำได้แถมวัตถุดิบเครื่องปรุงต่างๆยังเรียบง่ายและไม่ยุ่งยากอีกด้วย

มะเขือเทศมีสรรพคุณในการบำรุงผิวพรรณ ชะลอวัยให้ดูสดใสอยู่เสมอ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง ส่วนไข่ไก่นั่นอุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินรวม ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตาและสมอง มิหนำซ้ำยังช่วยคลายเครียดได้อีกด้วย


เริ่มต้นง่ายๆด้วยการทำไข่คนกันก่อน ตีไข่คนให้เข้ากันแล้วเอาลงคนในกระทะน้ำมันเล็กน้อยไฟอ่อนๆให้ค่อยๆสุกและจับตัวเป็นก้อนอย่างช้าๆ กะเอาว่าพอไข่สุกประมาณ 80% ก็ตักไข่ออกมาพักไว้ก่อน
ปริมาณไข่กะเอาเลยว่า ไข่ 1 ฟอง ต่อมะเขือเทศ 1 ลูก แต่ถ้าหากใช้มะเขือเทศลูกใหญ่ ก็อาจจะใช้ไข่ 2 ฟอง ต่อมะเขือเทศ 1 ลูก ก็ได้
สำหรับวันนี้เสือตะหลิว ใช้ไข่ 3 ฟอง มะเขือเทศท้อ 3 ลูก


ตั้งกระทะใหม่ใช้ไฟปานกลางน้ำมันเล็กน้อย ผัดกระเทียมสับหนึ่งช้อนโต๊ะกับพริกไทยครึ่งช้อนชาจนเริ่มส่งกลิ่นหอม


ใส่มะเขือเทศหั่นลงผัด ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำตาล 1-2 ช้อนชา เกลือ 1-2 ช้อนชา จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำละลายแป้งมันลงไปอีกหน่อย ผัดไปเรื่อยๆจนซอสเริ่มที่ความข้นเหนียว


จากนั้นเทไข่คนที่เตรียมลงไปแล้วปิดไฟทันที โรยต้นหอมแล้วรีบๆคลุกเคล้าให้เข้ากันก็เป็นอันเสร็จ
เนื้อไข่มีความเนียนนุ่มละลายในปาก เข้ากับรสชาติเปรี้ยวหวานของมะเขือเทศที่ผัดออกมาเป็นน้ำข้นๆ เป็นเมนูไข่ที่กินแล้วไม่มีความมันเลี่ยน ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆหรือข้าวต้มควันฉุยๆ รับรองว่าอร่อยถูกปากเจริญอาหารกันถ้วนหน้า
อย่าลืมมาสร้างเสริมภูมิคุ้มกันด้วยกันกับเมนูมะเขือเทศผัดไข่สไตล์จีนแบบง่ายๆ หวังว่าทุกคนจะผ่านฤดูกาลอันฉ่ำแฉะนี้ไปด้วยกันอย่างแข็งแรงและสมบูรณ์


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 09 มีนาคม 2564
Last Update : 9 มีนาคม 2564 8:59:52 น.
Counter : 1372 Pageviews.

1 comment
มีกลิ่นตุๆ แต่ทั้งยาวทั้งมัน ฮั่นแน่!!!อย่าพึ่งคิดลึก ...... "มะเขือยาวผัดปลาเค็ม"
วันนี้เสือตะหลิวจะของยาวๆมันๆแถมมีกลิ่นตุๆมาทำอาหาร แต่อย่าพึ่งคิดลึก เพราะมันคือ "มะเขือยาวผัดปลาเค็ม" เห็นไหม ทั้งยาว ทั้งมัน แถมมีกลิ่นตุๆด้วย แต่ถึงจะเปิดตัวแบบฟังดูสองแง่สองง่าม เมนูนี้รับรองอร่อยกันแบบลืมผัวลืมเมียกันเลยทีเดียว 55555

เมื่อก่อนเวลาไปนั่งตามภัตตาคารจีนใหญ่ๆ ก็มักจะมีเมนูมะเขือยาวผัดปลาเค็มอยู่ในเมนูตลอด ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า มะเขือยาวๆ ปลาเค็มบ้านๆ แค่เอามาผัดรวมกันมันจะอร่อยระดับขึ้นเหลาเลยอย่างนั้นหรือ สุดท้ายก็ลองสั่งมากิน ผลลัพธ์ก็แทบไม่ต้องพูดถึง กลายเป็นเมนูแบบที่ว่าถ้าเจอในเมนูก็มักจะสั่งแทบทุกครั้ง รสมันๆของมะเขือยาวกับกลิ่นตุๆของปลาเค็มที่ถูกผัดจนสุกหอม เป็นส่วนผสมของความอร่อยที่ลงตัวมากๆ 

ว่ากันที่เรื่องของมะเขือยาว จัดว่าเป็นผักที่เหมาะกับการบำรุงระบบย่อยอาหารและทางเดินอาหารมากๆ เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ แถมยังช่วยดักจับไขมันคอเลสเตอรอลต่างๆ อีกทั้งยังมีแคลเซียมบำรุงธาตุกระดูกต่างๆ รวมถึงโพแทสเซียมในการปรับสมดุลย์ของฮอร์โมนส์ในร่างกาย สรุปก็คือมากสรรพคุณแถมหอมอร่อย แบบนี้ก็ต้องลองทำกันดูสักตั้ง


ขั้นแรกเอามะเขือยาวไปล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นท่อนตามชอบ วันนี้เสือตะหลิวหั่นแบบแฉลบเฉียงๆเป็นชิ้นหนาๆ แล้วเอามาคลุกกับแป้งมันบางๆให้ทั่วๆ


เอามะเขือยาวลงทอดในไฟกลางจนผิวเริ่มมีความกรอบ


ทอดเสร็จก็สะเด็ดน้ำมันพักไว้ก่อนสักแป๊ปหนึ่ง


ตั้งกระทะไฟปานกลาง ผัดปลาเค็มหั่นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ 
กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ 
พริกไทยบด 1 ช้อนชา 
ผัดให้เข้ากันจนส่งกลิ่นหอม


ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
น้ำตาล 1-2 ช้อนชา
เหล้า 2 ช้อนโต๊ะ
เติมน้ำเปล่าลงไปแค่พอท่วมก้นกระทะนิดๆแล้วใส่น้ำละลายแป้งมันลงไปอีกนิดหน่อย เร่งเป็นไฟแรงแล้วเคี่ยวจนซอสเริ่มมีความข้น


ใส่มะเขือยาวที่เตรียมไว้ลงไปผัดเร็วๆคลุกเคล้าให้ทั่ว โรยต้นหอมซอยคลุกอีกสักทีแล้วปิดไฟ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เรียบร้อยแล้วครับกับเมนู "มะเขือยาวผัดปลาเค็ม" ทั้งยาว ทั้งมัน แถมกลิ่นตุๆยังเปลี่ยนเป็นกลิ่นหอมฟุ้งแสนอร่อย มะเขือยาวทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน เคลือบไปด้วยซอสปลาเค็มรสเค็มๆมันๆอมหวานนิดๆกลิ่นหอมฟุ้งจรุงจิต 
วัตถุดิบหาไม่ยาก แถมทำได้ง่ายๆ ผลลัพธ์ก็ยังออกมาอร่อย รับรองว่าลองดูสักครั้ง แล้วจะติดใจกันแบบลืมผัวลืมเมียกันเลยทีเดียว 55555


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 19 มกราคม 2564
Last Update : 19 มกราคม 2564 10:12:47 น.
Counter : 965 Pageviews.

1 comment
พระกระยาหารทรงโปรดในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ..... "แกงหอง"
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หรือที่พระสวามีมักเรียกติดปากว่า "แม่สิริ" ซึ่งหมายความว่า "ผู้เป็นศรีแห่งกิติยากร" เป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และในปัจจุบันเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวงในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

หนึ่งในพระกระยาหารทรงโปรดก็คือเมนูแกงหอง ซึ่งเป็นแกงไทยตำรับชาววังโบราณ ลักษณะคือเป็นการเคี่ยวหมูสามชั้นกับหน่อไม้ต้มหรือแห้งจนเปื่อยนุ่ม รสชาติและหน้าตาแลคล้ายต้มพะโล้แต่กลับไม่เหมือนซะทีเดียว เพราะไม่มีการใส่เครื่องปรุงแบบจีนหรือสมุนไพรจีนใดๆ แต่จะใส่สมุนไพรแบบไทยๆเป็นส่วนใหญ่แทน 

ส่วนประกอบหลักๆของเมนูแกงหองคือหน่อไม้ โดยคนส่วนใหญ่มักคิดว่าหน่อไม้เป็นพืชที่แสลง ถ้าเลี่ยงได้ควรเลี่ยง แต่หน่อไม้นั้นมีสรรพคุณมากมาย ทั้งมีกากใยอาหารช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหารและระบบย่อยอาหาร มีวิตามินและแคลเซียมช่วยบำรุงกระดูกเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แต่การทานหน่อไม้นั้น ไม่สมควรกินดิบ แต่สมควรต้มจนนิ่มเท่านั้น และบริโภคแต่พอดีเพื่อคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างสูงสุด


เริ่มต้นง่ายๆจากการเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะจนละลายและมีสีที่เกรียมๆเข้มๆ


เติมน้ำเปล่าลงไปละลายน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ประมาณสักถ้วยตวง เราจะได้น้ำเชื่อมสีเข้มๆเกรียมๆ เทใส่ถ้วยพักไว้ก่อน


ผัดกระเทียมทุบ 2 ช้อนโต๊ะ รากผักชี 2 ราก พริกไทย 2 ช้อนชา จนส่งกลิ่นหอม


ใส่หมูสามชั้นลวกหั่นชิ้นหนาๆประมาณ 2 ขีด 
หน่อไม้ต้มเปื่อยซอยเป็นเส้นประมาณ 2 ขีด 
ถั่วลิสงคั่วประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำปลา 2-4 ช้อนโต๊ะ


เทน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ลงไป กะให้พอท่วมๆชิ้นหมู ถ้าน้ำไม่พอก็เติมน้ำลงไปเพิ่มก็ได้ 
เร่งไฟจนน้ำเดือดสักพัก


ลดไฟจนเดือดอ่อนๆ แล้วเคี่ยวทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ถ้าน้ำงวดเร็วเกินไปก็เติมน้ำเปล่าลงไปเพิ่มได้ตลอด


ผ่านไป 3 ชั่วโมง เนื้อหมูเปื่อยนุ่ม น้ำแกงนัวเข้ากัน ลองชิมดูแล้วปรุงรสอีกรอบ จะเอาเค็มเพิ่มก็น้ำปลา เอาหวานเพิ่มก็น้ำตาล กะให้รสเค็มๆหวานๆนัวๆพอๆกัน 
ถ้าอยากให้น้ำแกงข้นๆก็ใส่น้ำละลายแป้งลงไปเคี่ยวสักเล็กน้อยก็ได้


ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ เรียบร้อยแล้วครับกับเมนู "แกงหอง" หรือ "หมูสามชั้นต้มหน่อไม้" 
เนื้อหมูสามชั้นเปื่อยนุ่มแทบละลายในปาก หน่อไม้ต้มเนื้อซอยเป็นเส้นกรุบๆหวานๆอมฝาดนิดๆ ถั่วลิสงคั่วเปื่อยเนื้อมันๆ น้ำแกงรสเค็มๆมันๆนัวๆอย่างลงตัว นี่แหละคือองค์ประกอบของตำรับแกงชาววังโบราณแบบไทยๆที่ไม่ง้อส่วนผสมและเครื่องปรุงต่างชาติเลยสักนิด 
หนึ่งในพระกระยาหารทรงโปรดของพระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ราษฎรก็สามารถเข้าถึงได้ นี่แหละคือนิยามอาหารชาววังที่แท้จริง


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชาตรี "
 



Create Date : 13 มกราคม 2564
Last Update : 13 มกราคม 2564 9:31:54 น.
Counter : 1483 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

เสือตะหลิว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้ชายธรรมดาๆที่รสชาติไม่ธรรมดา
just a man with a nice taste
New Comments