All Blog
ภูมิปัญญาแห่งความอยู่รอดของชาวแต้จิ๋ว ...... "ข้าวผัดกานาฉ่าย"
กานาฉ่าย เป็นหนึ่งในรูปแบบการถนอมอาหารของชาวแต้จิ๋วที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ เป็นการแปรรูปวัตถุดิบอย่างผักกาดดองให้มีรสชาติอร่อยและมีความหลากหลายมากขึ้น นำมากินแกล้มกับข้าวต้ม หรือเก็บไว้ปรุงอาหารอื่นๆ สามารถเก็บได้นานข้ามปี 

โดยปกติการทำกานาฉ่ายจะเริ่มจากการนำผลกานา(ลูกสมอ)ดิบมาทุบจนแตก แล้วจึงนำมาแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อยๆหนึ่งวันเต็มๆเพื่อลดความฝาด แล้วจึงนำผักกาดดองเปรี้ยวมาแช่น้ำทิ้งไว้อย่างน้อยๆหนึ่งชั่วโมงเพื่อลดกลิ่นหมัก แล้วจึงนำมาสับหยาบๆผัดกับน้ำมันเยอะๆ ใส่ลูกสมอที่เตรียมไว้ เคี่ยวไปเรื่อยๆประมาณ 2-4 ชั่วโมง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลตามชอบ อาจมีการใส่วัตถุดิบอื่นๆตามสูตรของแต่ละบ้านอย่างเห็ดหอมหรือพืชผักอื่นๆ นิยมทำกันครั้งละมากๆแล้วเก็บใส่ไห ใครมีญาติพี่น้องเยอะก็ทำแจกจ่ายกันไปตามกระแสน้ำใจ แบ่งกินกันไปเป็นมื้อๆได้นานนับปี

กานาฉ่ายนอกจากจะกินแกล้มข้าวต้มกันสดๆ หลายๆบ้านก็นำมาผัดกับถั่วแขก ถั่วฝักยาว หรือถั่วลันเตา หรืออาจนำไปผัดกับข้าวกับเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ได้ รสชาติโดยรวมของกานาฉ่ายคือจะมีรสเค็มๆมันๆ มีรสหวานอมเปรี้ยวตามเล็กน้อย เหมาะมากๆสำหรับการกินแกล้มข้าวต้มสดๆหรือนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงเมนูอื่นๆ เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สมควรมีติดตู้เย็นไว้เพราะเก็บได้นาน รับรองไม่อดตายกันทั้งบ้านอย่างแน่นอน 55555


วันนี้เรามาทำข้าวผัดกานาฉ่ายกัน เริ่มต้นง่ายๆคือนำกานาฉ่ายประมาณ 2-3 ช้อนโต๊ะ ผัดกับน้ำมันไฟปานกลาง ใส่กระเทียมสับ แครอทสับ ขึ้นฉ่ายสับ หอมใหญ่สับ อย่างละประมาณช้อนโต๊ะ โรยพริกไทยลงไปอีกหน่อย ผัดให้ส่งกลิ่นหอม


เร่งไฟเป็นไฟแรง ใส่ข้าวสวยประมาณ 1-2 ขีดลงไปผัดให้เข้ากัน ใช้ข้าวหุงทิ้งไว้ค้างคืนก็ดี ข้าวได้เป็นเม็ดสวยๆร่วนๆ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวกับซีอิ๊วดำตามชอบ


ใส่เห็ดหอมลวกกับถั่วลิสงคั่วลงไปผัดเร็วๆให้เข้ากัน โรยต้นหอมหั่นแล้วปิดไฟ คลุกให้เข้ากันอีกที โปะไข่ดาวลงไปสักฟอง บีบมะนาว กินแกล้มคู่กับต้นหอมสักสองสามต้น รับรองอร่อยครบรส ข้าวผัดเนื้อร่วนๆมันๆกับกานาฉ่ายผัดหอมๆรสมันๆเค็มๆกลมกล่อม คู่กับเห็ดหอมเนื้อหนึบๆกับถั่วคั่วเนื้อกรอบๆ
หนึ่งในอาหารแสนอร่อย หนึ่งในเมนูแห่งความอยู่รอดของชาวแต้จิ๋ว หากานาฉ่ายติดบ้านไว้สักกระปุกสองกระปุก รับรองไม่อดตายแถมได้อร่อยกันข้ามปีอย่างแน่นอน


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 15 มิถุนายน 2564
Last Update : 15 มิถุนายน 2564 8:12:01 น.
Counter : 2088 Pageviews.

2 comment
หนึ่งใน street food ยอดฮิตแห่งประวัติศาสตร์ ..... "bread omelette"
วันก่อนนั่งดูคลิปพวกทำอาหารแนว street food ของอินเดียใน youtube แล้วก็ดันไปเตะตากับเมนู bread omelette เข้าให้ พ่อค้าในคลิปเอาไข่ไก่มาตีแล้วเทราดลงไปทอดในกระทะ จากนั้นนำขนมปังลงไปชุบไข่แล้วทอดพลิกไปทั้งไข่ จากนั้นก็พับครึ่งจนดูเหมือน sandwich กินคู่กับซอสมะเขือเทศง่ายๆ เห็นดังนี้แล้วก็เลยนึกคันมืออยากลองสวมวิญญาณพ่อค้า street food ดู เผื่อว่างๆจะได้ทำขายกับเค้าบ้าง 55555 

จะว่าไปประวัติศาสตร์การนำขนมปังมาชุบไข่ทอดมันก็มีมานานมากๆ ตั้งแต่ยุคโรมันโบราณโน่นเลย ลักษณะเมนูก็คล้ายๆกับเมนู french toast ที่นิยมกินกันในปัจจุบัน คือเอาขนมปังไปชุบไข่แล้วนำมาทอด แล้วกินคู่กับเครื่องจิ้มหวานๆอย่างน้ำผึ้งหรือแยม แต่ถึงแม้จะขึ้นชื่อว่า french toast ก็ไม่ได้หมายความว่า การทำขนมปังชุบไข่ทอดจะนิยมกันแค่ในฝรั่งเศส แต่ประเทศทางแถบยุโรปหลายๆประเทศอย่าง เยอรมัน ออสเตรีย และอิตาลี ก็มีเมนูลักษณะดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่ถูกเรียกขานในชื่อที่แตกต่างกันไป

ต่อมาในช่วงยุคสมัยล่าอาณานิคม เหล่าบรรดาประเทศผู้ล่าทั้งหลาย ก็ได้นำวัฒนธรรมการกินขนมปังชุบไข่มาเผยแพร่ด้วย ประเทศอื่นๆที่อยู่ภายนอกดินแดนยุโรป ก็เลยได้รับวัฒนธรรมดงักล่าวมาปรับให้เข้ากับท้องที่ไปโดยปริยาย ไม่ว่าจะเป็นทางแถบแอฟริกา อเมริกา และเอเชีย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีวัตนธรรมการกินขนมปังชุบไข่ที่ถูกนำมาปรับใช้ในแบบของตัวเอง

วันนี้เสือตะหลิวจะมาทำ bread omelette ซึ่งจะเรียกว่าเป็น french toast ในแบบอินเดียก็ว่าได้ รับรองว่าอิ่ม อร่อย แถมยังทำได้ง่ายๆเครื่องปรุงแล้ววิธีการทำก็ไม่ยุงยากอีกด้วย


เริ่มต้นง่ายก็แค่ตีไข่ไก่ประมาณ 2-3 ฟอง แล้วใส่วัตถุดิบกับปรุงรสตามชอบ 
วันนี้เสือตะหลิวใส่ แครอทสับ ก้านขึ้นฉ่ายสับ หอมใหญ่สับ กระเทียมสับ อย่างละช้อนโต๊ะ โรยพริกไทยลงไปอีกเล็กน้อยพอให้เผ็ดร้อนนิดๆ เหยาะน้ำปลาอีกนิดหน่อยให้พอเค็มๆปะแล่ม


เทไข่ลงไปทอดกับเนยประมาณ 2 ก้อน ในกระทะร้อนไฟปานกลางค่อนไปทางอ่อนหน่อยๆ


เอาขนมปังแผ่นสองแผ่นลงชุบกับไข่ในกระทะทั้งสองด้าน


พอเห็นว่าไข่ด้านล่างเริ่มจะสุกดีก็พลิกตลบทั้งไข่ทั้งขนมปังไปเลย


จากนั้นก็นำชีสมาวางบนขนมปังสัก 2 แผ่น อย่าลืมพับขอบไข่เก็บเข้ามาสักหน่อย เวลาพับทบขนมปังจะได้ออกมาสวยๆ


พับทบขนมปังไปเลย แล้วทอดต่อไปอีกสักพักแค่กะว่าพอให้ชีสข้างในละลายก็เป็นอันเสร็จ


ผ่าครึ่งออกมาชีสละลายเยิ้มกำลังดี หรือจะกินไปเลยทั้งแผ่นแบบไม่ต้องผ่าครึ่งก็ได้


เรียบร้อยแล้วครับกับเมนู bread omelette หรือบางคนก็เรียกว่า egg toast อาหาร street food แบบบ้านๆสไตล์อินเดีย ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก french toast ของทางยุโรป 
เนื้อขนมปังหอมนุ่มชุ่มไข่กับไส้ชีสข้างในเยิ้มๆมันๆ ถือเป็นอาหาร street food ที่ให้พลังงานสูง ได้กินไปสักชิ้นสองชิ้น รับรองว่าได้อิ่มไปเป็นมื้อๆ 
ขอเพียงแค่เปิดใจ ยอมรับสิ่งใหม่ๆ แล้วนำมาปรับใช้ สุดท้ายย่อมอาจจะเกิดผลลัพธ์ดีๆขึ้นมาในชีวิตก็เป็นได้


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 09 มิถุนายน 2564
Last Update : 9 มิถุนายน 2564 8:49:27 น.
Counter : 1256 Pageviews.

2 comment
จากปลายสวน...หวนสู่ทะเล "หอยแมลงภู่ผัดใบโหระพา"
หอยแมลงภู่เป็นเนื้อสัตว์ที่สามารถเข้ากันได้ดีมากๆกับใบโหระพา เนื้อหอยหวานๆหนึบๆกับกลิ่นหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์ของใบโหระพา ผสานรวมกันจนเป็นเมนูอร่อยที่มากคุณประโยชน์และดีต่อสุขภาพ

หอยแมลงภู่เป็นหอยทะเล ที่มีศูนย์รวมของวิตามินบีรวม บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตและป้องกันอาการเหน็บชา ลดอาการไมเกรนและบรรเทาอาการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยในการคลายเครียดได้อีกด้วย มิหนำซ้ำยังเป็นเนื้อสัตว์ที่แคลอรี่ต่ำ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ควบคุมอาหาร

ส่วนทางด้านใบโหระพาก็ไม่น้อยหน้า ช่วยในการขับลม ขับน้ำ ขับสารพิษต่างๆในร่างกาย ช่วยขับพยาธิ แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ทำให้เจริญอาหาร อีกทั้งยังช่วยลดคอเรสเตอรอล ล้างหลอดเลือด ช่วยป้องกันเหล่าบรรดาอนุมูลอิสระอีกด้วย

ด้วยการจับคู่ทางรสชาติที่แสนจะเข้ากัน อีกทั้งยังอุดมไปด้วยสรรพคุณมากล้น เมนูในวันนี้ก็คือเมนูง่ายๆอย่าง หอยแมลงภู่ผัดใบโหระพา ส่วนผสมไม่มากแถมวิธีการเตรียมก็ไม่ยุ่งยาก เหมาะมากๆสำหรับการทำทานเองในครัวเรือน หรือจะทำขายก็อร่อยไม่หยอกเช่นกัน


ตั้งกระทะไฟปานกลาง น้ำมันเล็กน้อย ผัดหอมใหญ่สับ ก้านขึ้นฉ่ายสับ แครอทสับ กระเทียมสับ พริกไทยบด ผัดให้เข้ากันจนส่งกลิ่นหอม


เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย เร่งเป็นไฟแรง ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เหล้าจีน และน้ำตาล ให้รสออกเค็มนำ มีรสหวานตบเล็กน้อย 
ใส่น้ำละลายแป้งมันลงไปอีกนิดหน่อยเจือให้ซอสพอข้นๆนิดๆ


ใส่หอยแมลงภู่ลงไปผัดให้เข้ากันเร็วๆ วันนี้ใช้เป็นหอยแมลงภู่แกะเนื้อประมาณ 2 ขีด หรือถ้าใครอยากใส่ทั้งเปลือกก็แล้วแต่สะดวก


ตบใบโหระพาปิดท้ายประมาณสักกำสองกำเล็กๆ แล้วปิดไฟได้เลย ถือว่าเป็นอันเสร็จพิธี ถึงจะดูเรียบง่าย แต่รับรองอร่อยเข้ากันแถมยังมากสรรพคุณ 
รสหวานหนึบเป็นอันธรรมชาติของหอยแมลงภู่ กับกลิ่นหอมมันอันเป็นเอกลักษณ์ของใบโหระพา การผสานเข้ากันอย่างลงตัว ทั้งทางรสชาติและสรรพคุณแห่งวัตถุดิบ 

จะกินกับข้าวต้มร้อนๆหรือข้าวสวยหุงสุกใหม่ก็รับรองว่าได้อร่อยจนลืมอิ่มอย่างแน่นอน 
อย่าลืมลองไปทำกันดูนะครับ


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 01 มิถุนายน 2564
Last Update : 1 มิถุนายน 2564 9:30:46 น.
Counter : 1131 Pageviews.

2 comment
เรื่องของเจ้าแม่เป็ดจอมซุก "กะเพราไข่เยี่ยวม้า"
ไข่เยี่ยวม้า หรือบางคนก็มักจะเรียกว่าไข่พันปี เป็นกรรมวิธีถนอมอาหารชนิดหนึ่ง โดยใช้ไข่เป็ดสดๆมาบ่มกับส่วนผสมที่มีความเป็นด่างสูง อย่าง ขี้เถ้า ดินประสิว หรือปูนหมัก ใช้เวลาบ่มประมาณ 1-2 เดือน ไข่ที่ได้หลังจากบ่มเสร็จจะมีลักษณะไข่ขาวเป็นวุ้น ไข่แดงเป็นยางมะตูมมันเหนียวๆ และมีกลิ่นฉุนอันเป็นเอกลักษณ์ สามารถเก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1ปี

แล้วใครล่ะเป็นผู้อุตริริเริ่มกรรมวิธีดังกล่าว ตามตำนานจีนโบราณตำนานหนึ่งเล่าว่า มีครอบครัวชาวนาผู้ยากจนอยู่ครอบครัวหนึ่ง ทำนาและเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ไว้เพื่อเก็บไข่บริโภคไปวันๆ พอตกดึกก็มักจะก่อไฟเพื่อสุมไฟไล่ความหนาว แต่หลังจากกองไฟมอดดับดีแล้ว เจ้าเป็ดที่เลี้ยงไว้ก็มักจะแอบไปออกไข่และซุกไข่ไว้ในขกองขี้เถ้ามอดๆเหล่านั้น

ไข่เป็ดที่ได้ก็มีลักษณะแปลกๆ เหมือนจะเสียก็ไม่เชิง จึงได้แต่เก็บเอาไว้เฉยๆ ต่อมาภายหลังเมื่อภัยแล้งมาเยือน ครอบครัวชาวนาไม่มีอาหารกิน เก็บเกี่ยวผลผลิตใดๆก็ไม่ได้ จึงได้ลองเอาไข่ที่เจ้าแม่เป็ดชอบซุกขี้เถ้ามาลองปอกกินดู ผลที่ได้คือไข่นั้นไม่เน่าเสีย มีเนื้อสัมผัสขึ้นรูปมันๆเด้งๆและมีกลิ่นฉุนอย่างเป็นเอกลักษณ์ ด้วยไข่แปลกๆเหล่านี้เอง จึงช่วยทำให้ครอบครัวชาวนามีชีวิตอยู่รอดพ้นภัยแล้งมาได้ และภายหลังจึงได้ลองนำไข่เหล่านี้ออกขายแก่คนในหมู่บ้านจนกลายเป็นที่ชื่นชอบและกลายเป็นตระกูลขายไข่เยี่ยวม้าที่มั่งคั่งในเวลาต่อมา 

ข้อควรแนะนำในการบริโภคไข่เยี่ยวม้า เนื่องด้วยกรรมวิธีการบ่มไข่มักจะมีสารตะกั่วปนเปื้อนอยู่บ้าง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารและระบบประสาท ดังนั้นการบริโภคไข่เยี่ยวม้าจึงไม่สมควรเกิน 1-2 ฟองต่อวันต่ออาทิตย์ก็จะยิ่งดี เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาขับสารเคมีตกค้างๆและเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืน


เด็ดใบกะเพราเป็นใบๆแล้วนำไปทอดเสียส่วนหนึ่ง แล้วเก็บน้ำมันทอดเอาไว้ก่อน


ไข่เยี่ยวม้า เอามาเปลือกปอกและผ่าเป็นซีกๆ จากนั้นนำไปคลุกแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดบางๆแล้วทอดไฟแรงด้วยน้ำมันเมื่อกี้แค่ไม่ถึงหนึ่งนาที


หมูสับวันนี้เราจะใช้หมูสับหมักเนื้อมันๆเด้งๆ
หมูสับประมาณ 2 ขีด คลุกเคล้ากับ ผงฟู 1/2 ช้อนชา แป้งมันหนึ่งช้อนโต๊ะ ไข่ขาว 1/2 ฟอง น้ำมันพืชหนึงช้อนโต๊ะ หมักทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องประมาณ 1 ช่วโมง 
จากนั้นนำไปรวนกับน้ำมันเมื่อกี้ด้วยไฟอ่อนๆประมาณ 5 นาที


เตรียมผัดกะเพรากันเลย ใช้น้ำมันเมื่อกี้ตั้งไฟแรงปานกลาง ผัดน้ำพริกแกงเผ็ดประมาณ 1/2 ช้อนชา กระเทียม 1-2 ช้อนโต๊ะ พริกสับ 1-2 ช้อนโต๊ะ ผัดจนส่งกลิ่นหอม


เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่น้ำตาลปรุงรสเพิ่มตามชอบ ไฟแรง ใส่น้ำละลายแป้งมันอีกสักหน่อย เร่งเป็นไฟแรงแล้วเคี่ยวจนน้ำซอสเริ่มข้น


ใส่หมูสับหมัก ไข่เยี่ยวม้า ลงไปผัดเร็วๆประมาณ 1 นาที จากนั้นโรยใบกะเพราสดตบท้ายสักกำแล้วปิดไฟคลุกเคล้าให้เข้ากันเร็วๆ


จัดใส่จานโรยใบกะเพราทอดกรอบก็เป็นอันเสร็จ 
ผัดกะเพรากลิ่นหอมฉุนรสจัดจ้าน ผสมผสานกับเนื้อหมูสับหมักเด้งๆและไข่เยี่ยวม้าเนื้อมันๆ แถมมีใบกะเพราโปะหน้าอีก รับรองว่าเคี่ยวเพลินกินอร่อย ข้าวสวยร้อนๆต้องตามมาติดๆ 
ไม่คิดเลยว่าไข่หมักขี้เถ้ามันจะอร่อยได้ถึงเพียงนี้ 55555


facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 25 พฤษภาคม 2564
Last Update : 25 พฤษภาคม 2564 9:04:51 น.
Counter : 1094 Pageviews.

2 comment
ไม่ต้องง้อเฟรนช์ฟราย เพราะเรามี ..... "ไชนีสฟราย" (มะเขือยาวทอด)
เฟรนช์ฟราย (มันฝรั่งทอด) กลายเป็นหนึ่งในอาหาร fast food แห่งสากลโลก ด้วยความเรียบง่ายของกรรมวิธีการทำ แต่ผลลัพธ์ทางรสชาติกับเนื้อสัมผัสที่กรอบมันเค็มโดดเด่น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อาหาร fast food สากลจานนี้ จะเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่สิ่งนี้กลับสวนทางกับคุณประโยชน์ทางโภชนาการ เป็นเสมือนกับบ่อนทำลายสุขภาพที่จะค่อยๆลดทอนอายุขัยของผู้บริโภคไปทีละนิด

แต่ไม่ใช่ในวันนี้ เพราะเสือตะหลิวมีทางเลือกใหม่มานำเสนอที่ทั้งดีต่อสุขภาพและแถมมีความอร่อยลุ่มลึกเหนือกว่าเฟรนช์ฟรายเสียอีก โดยเมนูนั้นก็คือ "ไชนีสฟราย" ว่ากันง่ายๆ "ไชนีสฟราย" ก็คือ มะเขือยาวทอดกรอบแบบแท่ง กรรมวิธีการทำก็ง่ายเสียกว่า เฟรนช์ฟราย เสียอีก แต่สรรพคุณทางโภชนาการนั้นกลับมากกว่ามากๆ

มะเขือยาว เปรียบเสมือนกับพืชที่ช่วย botox ระบบทางเดินอาหาร ล้างคราบไขมันในร่างกาย ลดคลอเรสเตอรอล รักษาอาการไขมันอุดตัน บำรุงหัวใจ มิหนำซ้ำยังช่วยกำจัดอนุมูลอิสระ มีวิตามินและแร่ธาตุช่วยในการปรับสมดุลย์ฮอโมนส์ต่างๆในร่างกาย


เริ่มต้นง่ายๆ แค่หั่นมะเขือยาวเป็นแท่งๆท่อนๆ ปอกเปลือกออกให้หมด แล้วแช่ในน้ำเปล่าผสมเกลือเย็นๆไว้ประมาณ 30 นาที
แต่ถ้าหากอยากได้เนื้อสัมผัสแบบเนื้อในหนึบๆ ก็เอาไปแช่ในน้ำปูนใสเย็นๆประมาณ 3 ชั่วโมง แล้วค่อยเอามาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด


เอามะเขือยาวที่เตรียมไว้มาคลุกกับแป้งมันหรือแป้งข้าวโพดให้ทั่วๆ


เอาลงทอดในน้ำมันไฟปานกลางจนผิวกรอบ 
ถ้าหากอยากให้กรอบมากๆก็ทอดซ้ำสองรอบ โดยที่รอบที่สองใช้น้ำมันไฟแรงจัดๆ และทอดแค่ประมาณ 1 นาที


เรียบร้อยแล้วกับเมนูไชนีสฟราย จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มซีอิ๊วดำหวานแบบง่ายๆ โรยกระเทียมกับต้นหอมสักหน่อยอร่อยเหาะ เนื้อมะเขือยาวทอดผิวกรอบมัน เนื้อในนุ่มละลายในปาก ยิ่งกินยิ่งเพลิน ยิ่งเพลินยิ่งหมด ความสุขในชีวิตมักจะมาเพียงชั่วครู่ ลองหาทำกันดู วัตถุดิบหาไม่ยาก วิธีการทำก็ไม่ซับซ้อน นับเป็นอีกเมนูหนึ่งที่คู่ควรแก่การลองปรุงและลองชิม


Facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
 



Create Date : 18 พฤษภาคม 2564
Last Update : 18 พฤษภาคม 2564 10:01:17 น.
Counter : 1128 Pageviews.

2 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  

เสือตะหลิว
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้ชายธรรมดาๆที่รสชาติไม่ธรรมดา
just a man with a nice taste
New Comments