Group Blog
 
All blogs
 
<<< One night stand in London with Photosoc >>>

กราบสวัสดีงามๆ ซักสามที หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาอัพบล็อคเป็นเวล่กว่าสามปี (เว่อร์) เหอะๆ ก็มันไม่มีเรื่องจะอัพนี่หน่า

เพิ่งได้ฤกษ์งามยามดีก็วันนี้ หลังจากนั่งใส่กรอบจนตาแฉะสามสิบกว่ารูปจนเสร็จ ก็ถึงคราที่จะต้องอัพบล็อคกันซักกะที เหนื่อยมากๆ เลย...




LONDON


อาทิตย์ที่ 3 ที่ผ่านมานี่เอง มะวานเนี่ย มีนัดออกทริปถ่ายรูปกันกะชมรมฮะ จะไปลอนดอน เห็นตารางการออกทริปพร้อมจ่ายเงินเรียบร้อยตั้งแต่สองสัปดาห์ที่แล้วโน่นเห็นว่ามันน่าสนใจดี เลยอยากไป เพราะคราวนี้เค้าจะพาไปขึ้นลอนดอนอายด้วย

จะว่าไป ตั้งแต่กลับมาจากไทยครั้งก่อน ก็ไม่ได้ไปลอนดอนอีกเลยนะ ครั้งล่าสุดก็แวะเปลี่ยนรถไฟที่ St. Pancras แค่นั้นเอง สองเดือนที่แล้วโน่น

ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปแล้ว พอดีคุณปีเตอร์เพื่อนคนจีนเค้าเป็นไข้คืนก่อนเดินทาง โชคดีที่หายทัน ไม่งั้นไม่ไปแน่ เพราะผมไม่มีเพื่อน

รุ่งเช้าก็ตื่นเช้าหน่อย ซักเจ็ดโมงกว่า (เช้าแล้วเหรอเนี่ย ?) อาบน้ำแต่งตัว แต่งหน้าทาปากเสร็จ กึ๋ยส์ส์ส์ ก็คว้าเจ้า D70 ลูกรัก พร้อมขาตั้งกล้องสุดแสนจะเบา ราวกับปุยนุ่น !!! รีบไปรอคุณปีเตอร์ที่ห้องพูล (ตามจริงมันมารอตรู) แล้วก็บึ่งไปยังจุดนัดพบทันที

รถออกจากมหาลัยที่บริเวณสโมสรณ์นักศึกษา หรือเรียกสั้นๆ กันว่า Union 9 โมงเช้าเป๊ะ ตามกำหนดบอกว่าน่าจะถึงลอนดอนราวๆ เที่ยง

ออกทริปคราวนี้มีกันทั้งหมด 17 ชีวิต ถ้าไม่นับผิด รวมกะลุงคนขับ ซึ่งไม่เกี่ยวไรกะเราอยู่แล้วก็เป็นสิบแปดฮะ ตอนแรกนึกว่าจะได้นั่งรถบัสโรงเรียน เหมือนในหนังอ่ะ แต่โชคดีหน่อยที่เค้าเหมารถทัวร์มาให้เลย นั่งสบายเลยแหละ

หลับๆ ตื่นๆ ตลอดทางจนประมาณห้าโมงครึ่ง เริ่มๆ เข้าลอนดอนแล้วครับ รถก็ไต่ไปเรื่อยๆ การจราจรที่จะว่าคับคั่งก็ไม่เท่าไหร่ (ถ้าเทียบกับ กทม.) จะว่าหนาแน่นก็ได้ (ถ้าเทียบกับลัฟบร้า) เหอะๆ

รถก็ไต่ไปเรื่อยๆ จากบริเวณ ไม่คุ้นตา ไปจนถึงสถานที่ๆ เริ่มรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ตอนนี้กะลังอยู่ส่วนไหนของลอนดอน ไปเริ่มจำได้ก็ตอนแถวๆ Hyde Park โน่น รถก็ยังคงวกไปวกมา ผ่านนั่นผ่านนี่ จนไปทะลุ Knightsbridge ทะลุ South Kensington ก่อนจะไปหยุดแถวๆ Imperiall College อ้อ... ลืมไป มัวแต่ดูจนเพลินด้วยความบ้านนอก เราจะไปดูนิทัศการภาพถ่ายนี่หว่า

นานๆ เข้ามาที มันก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้อะนะ ก็นะ เรามันอยู่บ้านนอกนี่หน่า เห็นแสงสีก็ต้องมีหลงใหลบ้างเป็นธรรมดา ลอนดอนนี่หนา... มาคราวใด ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ซักกะที

หลังจากขนอุปกรณ์ลงรถเรียบร้อย ชาว Photosoc ก็พร้อมลุยครับ




MUSEUM


ที่แรกที่พวกเราจะไปลุยกันก็คืองานแสดงภาพถ่ายสัตว์ป่าประจำปี (Shell Widlife Photographer of the year : Every picture tells a story) ว่างั้น ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเดินอีกนิสนึง ก็ถึงแล้ว พวกเรามุ่งหน้ากันไปที่ Natural History Museum ครับ



<<< ระหว่างทางไปพิพิธภัณฑ์ เค้าเล่นสกีกลางแจ้งกันอยู่ น่าหนุกจัง >>>




<<< นี่ไงทางเข้า อลังการมั้ย คิวยาวเหยียด เพราะมันฟรีครับ แหะๆ >>>


กว่าจะเข้ามาได้ ต้องผ่านด่านตรวจก่อนครับ มีควักๆ ล้วงๆ ด้วย ถ้าไม่ติดว่าคนรอคิวเยอะ จะยืนให้เค้าล้วงต่ออยู่ เอ้ย ไม่ช่าย เค้าบอกขาตั้งกล้องเอาเข้าไปได้ แต่ห้ามใช้ครับ ซวยชี้หาย

เข้ามาได้ปุ๊บ ไม่เสียชื่อชมรมถ่ายภาพครับ ต่างคนต่างคว้ากล้องขึ้นมาแชะเป็นการใหญ่ ไอ้ผมก็มัวตะลึงอยู่ครับ ไม่ค่อยได้เข้าพิพิธภัณฑ์อะไรกับเค้า เลยไม่รู้ว่าที่นี่มันตั้งทำสวย หรือว่าที่ไหนๆ ก็สวยเหมือนกันหมด



<<< ห้องโถงใหญ่ครับ อลังการงานสร้างจริงๆ มีทางผ่านไปยังส่วนย่อยๆ อีกหลายส่วนแสดง >>>


ตอนแรก แชะออกมา มืดมากๆๆๆ ดูไม่ได้เลย ทั้งๆ ที่เพื่อนๆ งี้พกกล้องคอมแพคตัวเล็กๆ แชะเอาๆ ภาพออกมาสวยเช้ง ไอ้เราเริ่มขวัญเสียเลย เปิดหน้ากล้องนานๆ ก็แล้ว เพิ่มรูรับแสงสุดๆ ก็แล้ว ก็ยังไม่ได้เรื่อง เอ๊ะ... รึเป็นเพราะเราปรับค่าไม่สมดุลวะ ยอมๆ ใช้ออโต้ไปเลย ยังดีกว่าไม่ได้ถ่ายซักรูป แต่... ก็ยังไม่ได้เรื่องอีก ถ้าจะให้เปิดหน้ากล้องนานๆ เป็นวินาทีโดยที่ใช้ขาตั้งกล้องไม่ได้เนี่ย ไม่มีทางเป็นไปได้แน่ๆ ทำไงดีๆๆๆๆๆ

เหมือนสวรรค์เมตตาครับ ได้ยินแว่วๆ เพื่อนมันพูดกัน อะไร ISOๆ นี่แหละ เลยถึงบางอ้อ ว่าแล้วก็ซัดซะแปดร้อย - พัน ไปเลย น้องน้อยส์แวะมาเยี่ยมเยียนมากหน่อยก็ช่างมัน ไม่มีทางอื่นแล้ว แฟลชเฟลิชเราก็ไม่มี หัวกล้องอย่างเดียว ขอบคุณเพื่อนคนนั้นที่ทำให้เราตาสว่าง

หลังจากพอใจกะรูปที่ถ่ายได้ในระดับหนึ่ง ก็มารวมตัวกันพร้อมเข้าชมงานแสดงภาพถ่ายแล้ว



<<< รวมตัวก่อนเข้าชม พวกเราพร้อมแล้วฮ่า >>>


บอกตามตรงครับ ไม่อยากดูเลย งานแสดงอะไรนั่นน่ะ อยากออกไปถ่ายรูปมากกว่า ทั้งๆ ที่รู้นะว่ามีแต่ภาพสวยๆ แล้วก็ดีต่อการพัฒนาฝีมือต่อไปในอนาคตด้วย แต่... มัน (คง) น่าเบื่ออ่ะ ฝีมือเราไม่ถึงขั้นพอที่จะเข้าใจเทคนิคอะไรของพวกเค้าหรอก

ว่าแล้วก็เดินตามกันไป ซื้อตั๋วเข้าชมคนละสามสี่ปอนด์ จำไม่ได้ ชมรมจ่าย แล้วก็เข้าไป กล้องเกลิ้ง ห้ามถ่ายครับ (ใครเค้าจะบ้าจี้ให้ถ่ายเล่า !!!)

โอ้ว... แว้บแรกที่เห็นรูป เปลี่ยนความคิดทันทีเลยครับ มันสวยมากๆ ไม่ได้เว่อร์นะ แต่ละภาพที่เอามาโชว์นี่ สวยมากๆ เพิ่งรู้ว่าการดูงานแสดงภาพถ่ายเป็นไงก็วันนี้ แต่ก่อนนึกสงสัยว่า รู้ก็รู้ว่าสวย แล้วไปเดินๆ ดู เดินไปเดินมา น่าเบื่อ สู้โหลดมานั่งดูอยู่บ้านดีกว่า ... แต่มันไม่ใช่แค่นั้นฮะ มันมีอะไรมากกว่าการไปเดินดูภาพที่เค้าเอามาตั้งไว้

อย่างที่สโลแกนเค้าบอกไว้เลย ทุกภาพสามารถบอกเล่าเรื่องราว ขอชมฝ่ายจัดงานนี้เลย มีการใช้เสียง และแสงประกอบ พร้อมประวัติ ที่มา และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับภาพแต่ละภาพ เสียอย่างเดียวขาดการใช้กลิ่นประกอบ (ซึ่งก็ไม่น่าจะน่าพิศมัยเท่าใดนัก เพราะนี่คืองานแสดงชีวิตสัตว์โลก !!! )

การจัดภาพออกเป็นหมวดๆ ตามประเภทของสัตว์ และอีกหลายๆ เกณฑ์ ทำให้ผู้เข้าชมเพลิดเพลินได้ดีจริงๆ ภาพอิริยาบทต่างๆ ของสัตว์โลกจากทุกมุมโลก ทุกภาพล้วนแต่ทำให้อึ้งครับ แต่ที่อึ้งไปกว่านั้นก็คือการที่ได้รู้ว่า ในบรรดาหมวดต่างๆ ที่เค้าจัดแสดงกัน มีหมวดนักถ่ายภาพรุ่นเยาว์ด้วย 8-17 ปี ไม่บอกไม่รู้อะครับ ว่าเป็นฝีมือเด็ก

น่าเสียดายที่เค้าห้ามเก็บบรรยากาศ เลยได้แค่บอกเล่า สำหรับใครที่สนใจ สามารถติดตามได้ทางเว็บไซต์นะครับ

//www.nhm.ac.uk/wildphoto

เสร็จจากงานแสดงภาพ ก็เกือบๆ บ่ายโมง ไอ้กระผมต้องเลือกระหว่างหาไรมากระแทกปาก เพราะยังไม่มีไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า กับการไปเดินชมส่วนต่างๆ ที่ยังไปดูไม่หมด ก่อนที่จะเรียกรวมกันอีกครั้งบ่ายโมงครึ่ง

ผมเลือกส่วนหลังฮะ ทนๆ หิวหน่อยละกัน เพราะก่อนไปดูภาพ เหลือบไปเห็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ฟรีซะด้วย ยังงี้ไม่ดูไม่ได้แล้ว แล้วก็ตัดสินใจไม่ผิดครับ...




Dinosaur Museum


ส่วนหนึ่งไปหาของกิน แล้วก็คงเลยออกไปรอข้างนอก แต่ส่วนหนึ่งก็ใจตรงกัน เข้ามายังส่วนแสดงไดโนเสาร์ครับ





<<< ทางเข้า มุมแคบมากๆ โชคดีได้เจ้า 10-20ช่วยไว้ได้ อิอิ >>>




ส่วนทางเข้ามีแค่นี้แหละครับ เป็นห้องเล็กๆ เก็บมาได้ไม่กี่ตัว ก็ต้องเดินขึ้นบันไดไปยังดาดฟ้าสำหรับชมไดโนเสาร์ที่เหลือ



<<< ดาดฟ้าที่ต้องเดินเพื่อรับชมโครงกระดูกที่จัดแสดงอยู่สองข้างทาง >>>




<<< มีป้ายบอกด้วยนะ ว่าอะไรที่กำลัง "ห้อย" โชว์อยู่น่ะ >>>


สังเกตดูว่ามีคนอยู่ข้างล่างด้วย ใช่ฮะ เราต้องผ่านสะพานนี้ไปก่อน แล้วถึงจะผ่านเข้าไปห้องโถงข้างล่างได้



<<< มีเลนส์สองตัว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา วุ่นไปตาหน่าย >>>


และแล้วก็สุดทาง ไอ้เราก็มองๆ อย่างงงๆ รู้นะว่า T - rex เค้าเป็นไดโนเสาร์ระดับดาราฮอลลีวู้ด แต่มาโชว์ทั้งที แค่ฟันแค่นี้เหรอ ... หารู้ไม่ว่า หลังฉากนี้ เป็นไฮไลต์ของทางมิวเสี้ยมเค้าแหละ



<<< โชว์แต่ฟันเนี่ยนะ ??? กลัวตายหละ >>>


เดินผ่านทางลาดลงไปเรื่อยๆ คาดว่าจะเป็นทางออก เริ่มได้ยินเสียงร้อง และแล้วก็เจอคนกลุ่มใหญ่ กะลังล้อมยืนดูบางสิ่งอยู่...



<<< พี่ทีเร็กซ์นี่เอง เด็กๆ ชอบใจกันใหญ่ ขยับได้ด้วยนะ >>>


แชะจนเพลิน ลืมดูเวลาครับ ปาไปบ่ายครึ่งแล้ว ว่าแล้วก็รีบบึ่งออกไปยังหน้าพิพิธภัณฑ์ทันทีครับ

เจอเจนนี่ สตาฟสุดสวยหวานใจผมเอง ยืนรอ ทำหน้าไม่พอใจนิดๆ แล้วบอกว่าพวกคุณมาสายสิบนาที แล้วก็มีบ่นๆ นิดหน่อย ถ้าสายอีก รถจะไม่รอนะ ยังงั้นยังงี้ เฮ้อ... กรูหละหน่าย เออๆ คราวนี้กรูผิดจริงๆ

พวกเราเดินกันต่อไปยัง Science Museum ครับ กว้างมาก ใหญ่มาก เข้าฟรี แต่ใช้ขากล้องไม่ได้อีกและ ผมไม่มีเวลามากนะครับ คือเกร็ง กลัวสายอีก เลยได้แต่เดินๆ ถ่ายรูปๆ ไม่มีเวลาทำความเข้าใจเทคโนโลยีอะไรหรอก (น่าน... แถซะ จริงๆ โง่ ไม่รู้เรื่องต่างหาก)

คือยังไงหละ ที่ถ่ายๆ มา ก็ไม่แปลกอ่ะ ไปได้บางส่วนเท่านั้น เพราะมันใหญ่จริงๆ เข้าไปลึกๆ กลัวกลับไม่ทัน มีเวลาเดินไม่ถึงชั่วโมง ไอ้ส่วนที่เข้าไป ก็แค่เอาของเก่าๆ มาจัดแสดงเหมือนๆ เอาของมาตั้งโชว์แล้วเล่าประวัติศาสตร์เฉยๆ



<<< เห็นว่าแปลกดี ไม่รู้ของจริงรึของจำลอง Apollo 10 >>>


นัดกันบ่ายสอง 45 ว่าแล้วไอ้เรากลัวโดนสุดที่รักโกรธอีก
เลยรีบไปรอก่อน ไปถึงก่อนเวลานัดหมาย 2-3 นาที เจอเพื่อนรออยู่แล้วกลุ่มนึง รอแล้วรออีก ผ่านไปสามโมง ค่อยเห็นสุดที่รักและคณะเดินมา ... เธอไม่รอช้าครับ สอดสายตามองหาผมก่อนเลย หวัดดีคร้าบ กรูอยู่นี่แล้ว ไม่ต้องรอกรูแล้ว สาด !!!

นับจากนั้น อารมณ์เริ่มตะหงิดๆ แล้วครับ เริ่มชักไม่หนุกแล้ว แค่เราสาย 10 นาที บ่นจะเป็นจะตาย แถมจ้องแต่จะจับผิด แวะถ่ายรูปที่ไหน ทั้งๆ ที่ข้างทาง แล้วก็เดินกันอยู่ด้วย (กรูไม่โง่ขนาดหลงวิ่งตามคนเดินไม่ทันหรอก) ก็ไม่ได้ ต้องหันมามอง ไม่ก็อย่างน้อยขอให้หล่อนได้บอกผมว่า "อย่าช้านะ" "เด๋วสาย" "รีบๆ ถ่ายนะ เด๋วตามกลุ่มไม่ทัน" กรูชักทนไม่ไหวแล้วนะ ทีคุณสายสิบห้านาที ผมยังไม่พูดไรซักคำ (เพราะผมด่าภาษาฝรั่งไม่เป็น )

ออกจาก Science Museum พวกเราก็พร้อมไปต่อแล้วครับ สามโมงกว่าแล้ว ฟ้าเริ่มมืด พวกเรามีแผนต้องไปที่ตึก Lloyds Building เค้าบอกว่าสวย เอ้า ไปก็ไป

... ไปต่อบล็อคหน้าสิ บล็อคนี้ภาพเยอะแล้ว ไม่ขี้เกียจโหลดรึไง ??? เอ้า... ยังช้าอีก รีบตามมา เด๋วเจนนี่บ่นอีกหรอก เห่อ !!!





Create Date : 05 ธันวาคม 2549
Last Update : 5 ธันวาคม 2549 8:02:51 น. 6 comments
Counter : 249 Pageviews.

 
เม้นประเดิม

ขออ่านก่อนละกัน

แต่เท่าที่ดู

รูปสวยดีอ่า



โดย: ช้าน.....คนสวยๆน่ะ IP: 161.200.255.162 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:15:43:14 น.  

 
เพิ่งได้เข้ามาอ่านว่ะแก

โทดทีๆ

ฝรั่งเค้าแคร์เรื่องเวลามากเลยเนอะ

ก็อย่างว่าแหละ....มันก็เป็นสิ่งที่ดีอะชั้นว่า

อยากไปเที่ยวอย่างนี้มั่งอ่า

เหอะๆ คงต้องเก็บตังค์อีกเป็นชาติเลย

แกรู้ป่าวว่าแกมีโอกาสที่ดีกว่าใครหลายๆคนมากๆ

อย่างน้อยก็ชั้นคนนึงแหละ

อ่าฮ่า........แค่นี้ก่อนนะ

เด๋วแว่บมาอ่านอีก

หนาวแล้ว....อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วย

ที่นี่ก็หเริ่มหนาวแล้วเหมือนกัน

เหอะๆ


โดย: ช้าน.....คนสวยๆน่ะ IP: 161.200.255.162 วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:21:20:29 น.  

 
Nice pics naja bro'....keep going!!! u're good at this things....


โดย: wasaaabi IP: 158.125.9.4 วันที่: 6 ธันวาคม 2549 เวลา:4:31:55 น.  

 
ถ่ายรูปมาซะสวยเล่นนะแก bgแกเนี้ยมึดเหมือนตัวแกเลยอ่ะ ทำให้มันสดใสหน่อยดิว่ะ แต่ไม่เป็นไรรูปที่แกถ่ายมาสวย ชดเชยกันได้จ๊ะ


โดย: princess_huyin IP: 161.246.1.32 วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:16:28:11 น.  

 
วันนี้มันดูความเปลี่ยนแปลงสักหน่อย ครั้งก่อนที่เข้ามาไม่ได้อ่านจนหมด มันเยอะตาลายไปหมดเลยแก วันนี้เลยเข้ามาอ่านดู พูดได้คำเดียวเลยว่า...สุดยอด


โดย: princess_huyin IP: 161.246.1.34 วันที่: 11 มกราคม 2550 เวลา:22:12:13 น.  

 
เปลี่ยนธีมหรอแก

น้องแต้ว...น่ารักเจงๆว่ะ

แวะมาน่ะ อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ

ชั้นเอง....ก็กะลังวุ่นวาย...มากกกกกกกกกกกกกกก

เซ็งว่ะ

เง้อออออออ


โดย: ช้าน IP: 161.200.255.162 วันที่: 18 มกราคม 2550 เวลา:21:31:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

^^PIANIST^^
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ^^PIANIST^^'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.