เรียนรู้จากอดีต ประเทศไทยต้องดึงคนเก่งจากทั่วโลก สร้างไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก เดอะพร็อพส์ ตัวแทนเช่า-ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า กรุงเทพฯ ยังครองใจชาวต่างชาติกลุ่ม Expat เป็นตัวเลือกแรกในแถบเอเชีย เว็บไซต์ usnews.com เผยแพร่ข้อมูลการจัดอันดับประเทศที่เหมาะในการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลกประจำปี 2020 พบว่า “ประเทศไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะสมในการเริ่มต้นธุรกิจ” นอกจากนี้ บทสัมภาษณ์ “เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ เรื่องการดึงคนเก่งจากทั่วโลกมาสร้างธุรกิจใหม่ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างเศรษฐกิจในประเทศไทย ทำให้นึกถึงอดีตที่ว่า ประเทศไทยก็เคยดึงดูดชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติฝรั่ง จีน แขก ให้เข้ามาช่วยงานราชการ จนปัจจุบันล้วนเป็นคนไทย รักประเทศไทย และเป็นต้นตระกูลไทย เชื้อสายต่างประเทศหลายตระกูล 1. นายปินโต ชาวโปรตุเกส เข้ามาเป็นทหารรับจ้างอยู่ในกองทัพพระไชยราชาธิราช ในการทำสงครามกับรัฐเชียงใหม่ โดยนำปืนใหญ่ไปใช้รบเป็นครั้งแรกในเมืองไทย 2. นายเซาเตน ชาวฮอลันดา เข้ามาเป็นหัวหน้าสถานีการค้าฮอลันดาในรัชกาลพระเจ้าทรงธรรม 3. อ๋องไหล่หู (Ong Lai-Hu) และบุตรคนโตคือ มั่วเส็ง (Mua Seng) มั่วเส็งได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นหลวงอภัยพานิช และนำเรื่องการค้าบนเรือสำเภาพาณิชย์มาในไทย 4. หลิน วู่ (Lin Wu) ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์จากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เป็นพระพิไชยวารี รับผิดชอบการค้าสำเภาหลวง 5. จีนเต้กฮะ มารับราชการจนได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น พระยาศรีราชอากร เป็นต้นตระกูลสมบัติศิริ 6. นายโยส เซาเตน เข้ามาในไทยตั้งแต่ปี 2179 และได้บันทึกเรื่องราวสยามเป็นภาษาฮอลันดา เขียนประวัติศาสตร์ไทย นับเป็นฉบับแรกของประเทศนี้ 7. นายยอห์นครอเฟิด คนไทยเรียก “กาลาผัด” เป็นทูตอังกฤษ มาในรัชกาลที่ ๒ ของกรุงรัตนโกสินทร์ 8. หมอกิศลับ ชาวเยอรมัน เป็นมิชชันนารีฝ่ายโปรเตสแตนต์คนแรกที่เข้ามาเมืองไทย เขารู้ภาษาไทยขนาดทำพจนานุกรมอังกฤษ-ไทย เป็นฉบับแรก 9. นายมัลล้อก พ่อค้าอังกฤษ มาในรัชกาลที่ ๔ การค้า และเศรษฐกิจของเมืองไทย 10. นายมูโอต์ นักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส เข้ามาในรัชกาลที่ ๔ เขาใช้เวลา 3 ปีสำรวจภูมิประเทศและการดำรงชีวิตของคนไทย 11. เซอร์เฮนรี นอร์แมน เป็นขุนนางอังกฤษ เข้ามาในรัชกาลที่ ๕ (พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ) 12. กุสตาฟ โรลิน ยัตมินส์ เป็นเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจฯ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายชาวเบลเยียม มาช่วยเจรจากับฝรั่งเศสสมัยรัชกาลที่ ๕ ประเทศต่าง ๆ ในโลกอย่างอเมริกาก็ดึงคนเก่งทั่วโลก ให้ถือสัญชาติอเมริกัน ญี่ปุ่นดึงคนเก่งไปเป็นพลเมืองญี่ปุ่น สิงคโปร์ให้คนทั่วโลกเข้าไปทำงาน ตั้งออฟฟิศ สร้างธุรกิจ ประเทศไทยจึงไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะคนเหล่านี้ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย จ่ายภาษีให้ประเทศไทย เพียงแต่ประเทศไทยต้องวางเป้าหมายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ เปิดรับนักลงทุน ดึงดูดคนเก่ง คนทำงาน นักธุรกิจ หรือนักวิทยาศาสตร์ สักประมาณ 5 ล้านคน แล้วปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ กฎหมาย ตลอดจนสิทธิประโยชน์บางอย่าง เพื่อดึงดูดคนกลุ่มนี้ให้เข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มภาษีให้ประเทศได้กว่า 5 ล้านล้านบาทต่อปีอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรตั้งกำแพงหรือกลัวว่า คนต่างชาติจะเข้ามาแย่งงาน เพราะคนเหล่านี้จะมาช่วยสร้างงาน ช่วยในด้านการพัฒนา ซึ่งการผสมผสานคนเก่งของไทยกับคนเก่งจากต่างชาติ จะเกิดเป็นดรีมทีมที่สร้างจุดแข็งให้ประเทศไทยเช่นในอดีต ขอเพียงเปิดใจ กล้ายอมรับ และทำจริง ----------------- จากบทความใน MGR Online |
สมาชิกหมายเลข 3761838
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |