โรคลำไส้ในเด็ก

มองดูเผิน ๆ แล้ว อวัยวะอย่างลำไส้ ไม่น่าจะสร้างปัญหาอะไรกับเจ้าตัวเล็ก
แต่ใครจะรู้ว่า ถึงแม้ลูกจะยังเล็กอยู่ ก็เป็นโรคลำไส้ได้เหมือนกัน
ว่าแต่โรคลำไส้แบบไหนบ้าง ที่เด็กขวบปีแรกมีโอกาสเป็นแล้ว เรามาดูไปพร้อม ๆ
กันเลย


1. ติดเชื้อในลำไส้ ลำไส้อักเสบ หรืออุจจาระร่วงเฉียบพลัน

อาจเกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย
เป็นสาเหตุของโรคลำไส้ที่พบบ่อยที่สุดในเด็ก
ส่วนเด็กที่อยู่ในเขตเมืองมักเกิดการติดเชื้อไวรัส
โดยไวรัสที่พบบ่อยที่สุดคือ ไวรัสโรต้า


จากรายงานของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 2551
มีผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน 1,256,711 ราย อัตราป่วย 1,988.03
ต่อประชากรแสนคน ซึ่งอัตราป่วยนี้เพิ่มขึ้นจาก 1,564.27
ต่อประชากรแสนคนในปี 2542) โดยกลุ่มอายุที่พบอุจจาระร่วงเฉียบพลันสูงสุด
คือกลุ่มอายุ 0-4 ปี อัตราป่วย 9,691.3 ต่อประชากรแสนคน


สังเกตอาการ ลูกจะมีอาการอาเจียน
ถ่ายอุจจาระเหลวมีน้ำมาก หรือมีมูกเลือดปน อาจมีไข้ร่วมด้วย
ในกรณีที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาจมีอาการไอ น้ำมูกไหลร่วมด้วย
ถ้าสูญเสียน้ำมาก จะมีอาการขาดน้ำ เช่น ปากแห้ง น้ำลายน้อย เบ้าตาลึก
กระหม่อมบุ๋ม ปัสสาวะน้อยผิดปกติ ซึม ตัวเย็น ฯลฯ


ดูแลอย่างถูกวิธีี สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลรักษาคือ
การแก้ไขและทดแทนภาวะขาดน้ำและเกลือแร่
เด็กที่เสียชีวิตจากโรคลำไส้อักเสบมีสาเหตุจากการขาดน้ำอย่างรุนแรงจนช็อก
ในกรณีที่ลูกขาดน้ำไม่มาก คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลเองที่บ้าน
โดยให้ลูกดื่มสารละลายเกลือแร่ และกินอาหารตามวัย
แต่ถ้ามีอาการขาดน้ำรุนแรงหรืออาเจียนมาก
ก็ต้องนำไปพบแพทย์และอาจต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
เพื่อให้สารน้ำทางหลอดเลือด ไม่จำเป็นต้องให้ยาปฏิชีวนะทุกคน
เนื่องจากการติดเชื้อในลำไส้ที่พบในเด็กมักเกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย
ที่ไม่รุนแรง


ป้องกันอย่างไร
คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมนม น้ำ และอาหารให้สะอาด ควรต้มขวดนมและจุกนม
ใช้ภาชนะปกปิดอาหารและน้ำเพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจากแมลงวัน
และคนที่ดูแลต้องมีสุขอนามัยที่ดี ล้างมือก่อนป้อนอาหารให้ลูก
หมั่นเช็ดถูพื้น โต๊ะและล้างของเล่นบ่อยๆ เนื่องจากเด็กวัยต่ำกว่า 1 ปี
มักชอบเอาของเล่นหรือมือเข้าปาก
และทุกวันนี้มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้าซึ่งเริ่มให้ได้ตั้งแต่
ทารกอายุ 6 สัปดาห์ แต่ไม่ใช่ว่าลูกจะไม่ท้องร่วงเลยนะคะ
เพราะโรคนี้ยังมีสาเหตุจากเชื้ออื่นๆ ได้อีก


2. ลำไส้กลืนกัน

ในทารกสันนิษฐานว่า อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส
ทำให้ต่อมน้ำเหลืองบริเวณส่วนปลายของลำไส้เล็กโตขึ้น
เป็นจุดนำทำให้ลำไส้เล็กมุดเข้าไปในลำไส้ใหญ่


สังเกตอาการ ลูกจะมีอาการร้องไห้เป็นพักๆ เนื่องจากปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นเมือกสีแดง และอาจอาเจียนร่วมด้วย


ดูแลอย่างถูกวิธี ทำให้ลำไส้ที่กลืนกัน
คลายออก อาจใช้วิธีสวนแป้งหรือลมเข้าทางทวารหนัก
แต่ถ้าลำไส้กลืนกันนานจนเกิดลำไส้ขาดเลือดมากหรือลำไส้ทะลุ
จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด


3. ลำไส้อักเสบจากการแพ้โปรตีน

ที่พบบ่อยที่สุดคือแพ้โปรตีนนมวัว รองลงมาได้แก่ โปรตีนจากถั่วเหลือง ไข่ อาหารทะเล และถั่วเปลือกแข็ง


สังเกตอาการ ลูกอาจมีอาการถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายมีมูกเลือดปน


ดูแลอย่างถูกวิธี
ต้องให้ลูกงดอาหารที่แพ้ กรณีที่แพ้นมวัวแต่ไม่แพ้ถั่วเหลือง
อาจให้ลูกกินนมถั่วเหลืองได้ แต่ถ้าแพ้ถั่วเหลืองด้วย
ต้องเปลี่ยนเป็นนมพิเศษที่โปรตีนมีขนาดเล็กลง


ป้องกันอย่างไร
พยายามให้ลูกกินนมแม่อย่างเดียวให้ได้นานอย่างน้อย 6 เดือน
ถ้ามีสมาชิกในครอบครัวมีปัญหาภูมิแพ้ ควรเริ่มอาหารเสริมหลังอายุ 6 เดือน
และไม่ควรให้อาหารทะเลก่อนอายุ 1 ปีค่ะ


4. ลำไส้สั้น

พบได้น้อย สาเหตุมักเกิดจากเด็กมีความผิดปกติของทางเดินอาหารแต่กำเนิด
หรือเป็นทารกคลอดก่อนกำหนดที่มีภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงลำไส้
เมื่อรักษาด้วยการผ่าตัด แพทย์จำเป็นต้องตัดลำไส้ออกบางส่วน


สังเกตอาการ
เด็กจะมีอาการถ่ายอุจจาระเหลว มีน้ำปริมาณมาก และเลี้ยงไม่โต
เนื่องจากลำไส้เล็กมีหน้าที่สำคัญในการดูดซึมน้ำ แร่ธาตุ และสารอาหาร
เมื่อเด็กถูกตัดลำไส้เล็กออกไปทำให้การดูดซึมดังกล่าวบกพร่อง


ดูแลอย่างถูกวิธี กรณีที่ยังเหลือความ
ยาวลำไส้เล็กพอประมาณ เด็กสามารถรับอาหารทางปาก
หรือทางสายให้อาหารทางกระเพาะอาหารได้ แต่ถ้าลำไส้เล็กมีขนาดสั้นมากๆ
จำเป็นต้องให้อาหารทางหลอดเลือดแทน
ในต่างประเทศมีการผ่าตัดปลูกถ่ายลำไส้ในกรณีที่เด็กมีลำไส้สั้นมากและไม่
สามารถหยุดการให้อาหารทางหลอดเลือด


5.ท้องผูก

ในเด็กเล็กมีสาเหตุหลัก 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่มีลำไส้ผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
เช่น ผนังลำไส้ใหญ่ไม่มีปมประสาท ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งพบบ่อยกว่าคือ
กลุ่มที่มีท้องผูกโดยลำไส้ปกติดี กลุ่มนี้มักมีสาเหตุจากกินผักผลไม้น้อย
หรือเกิดจากเด็กเคยถ่ายอุจจาระแข็ง เบ่งยากหรือมีการฉีกขาดที่รูทวาร
ทำให้กลัวการถ่ายจึงพยายามกลั้นอุจจาระไว้


สังเกตอาการ เด็กกลุ่มที่มีลำไส้ผิดปกติ
ตั้งแต่กำเนิด อาจไม่สามารถถ่ายอุจจาระได้เองตั้งแต่เกิด
ต้องเหน็บหรือสวนทวารบ่อยๆ และอาจมีท้องอืดมาจากภาวะลำไส้ใหญ่อุดตัน


ส่วนเด็กที่กินผักผล ไม้น้อยหรือเคยถ่ายอุจจาระแข็ง
เวลาที่ปวดท้องถ่ายเด็กจะมีพฤติกรรมกลั้นอุจจาระคือ เขย่งขา เกร็งขา
ทำขาไขว้กันเป็นกรรไกร บีบก้น และมักหลบมุมไม่ให้ใครเข้าใกล้
ถ้ามีปัญหาไปนานๆ เด็กจะสามารถกลั้นได้เป็นเวลาหลายวันหรือเป็นสัปดาห์
แต่มีข้อยกเว้นในทารกช่วงอายุ 1-4 เดือน ที่กินนมแม่
อาจถ่ายอุจจาระห่างเป็นทุกๆ 7-10 วัน แต่อุจจาระก็นิ่มหรือเหลวเป็นปกติ
ทารกเหล่านี้ไม่จัดว่ามีปัญหาท้องผูก และจะค่อยๆ
กลับมาถ่ายอุจจาระถี่ขึ้นได้เอง


ดูแลอย่างถูก วิธี
ในกลุ่มที่ผนังลำไส้ใหญ่ไม่มีปมประสาท
จำเป็นต้องรับการผ่าตัดเพื่อตัดลำไส้ส่วนที่ผิดปกติทิ้งไป
ส่วนเด็กที่กินผักผลไม้น้อยก็ต้องพยายามหาวิธีชักจูงให้ลูกกินผักผลไม้ให้
เพิ่มขึ้น อาจให้ดื่มน้ำลูกพรุน


ส่วนเด็กที่ถ่ายอุจจาระแข็งทั้งที่กินผักผลไม้ เพียงพอแล้ว
ต้องให้กินยากลุ่มที่ทำให้อุจจาระนิ่ม เพื่อเด็กจะได้หายกลัวการถ่ายอุจจาระ
ส่วนทารกที่กินนมแม่และถ่ายอุจจาระห่างแต่นิ่ม
ไม่ต้องใช้สบู่หรือกลีเซอรีนเหน็บรูทวารเพื่อกระตุ้นให้เด็กถ่าย
ปล่อยให้ทารกเบ่งถ่ายอุจจาระด้วยตนเอง


ป้องกันอย่างไร ต้องฝึกให้ลูกกินผักผลไม้ และกินอาหารเสริมที่เหมาะสมตามวัย


6. ติ่งเนื้อในลำไส้

เกิดจากการอักเสบของเนื้อเยื่อลำไส้


สังเกตอาการ ลูกจะมีอาการถ่ายอุจจาระมีเลือดปน โดยอาจไม่มีอาการปวดท้องก็ได้


ดูแลอย่างถูกวิธี
ถ้าเป็นติ่งเนื้อที่ลำไส้ใหญ่
แพทย์จะส่องกล้องเข้าไปในรูทวารและตัดติ่งเนื้อได้เลย
แต่ถ้าเป็นติ่งเนื้อที่ลำไส้เล็กจำเป็นต้องรับการผ่าตัด


ทำความเข้าใจเรื่องลำ ไส้กับเด็กขวบปีแรกกันละเอียดขนาดนี้แล้ว
เชื่อว่าแม่ ๆ คงคลายกังวลไปได้ไม่น้อย การดูแลลูกเล็กไม่ใช่เรื่องยาก
สิ่งสำคัญคือความใกล้ชิดและการดูแลอย่างเหมาะสม
รวมไปถึงการรู้จักสังเกตด้วย เท่านี้ลูกก็ห่างไกลจากโรคและอาการต่าง ๆ
เติบโตพร้อมสุขภาพที่แข็งแรงและพัฒนาการที่สมวัยแล้ว


ข้อมูล : //www.momypedia.com/








Free TextEditor


Create Date : 02 ตุลาคม 2553
Last Update : 2 ตุลาคม 2553 11:30:13 น. 0 comments
Counter : 368 Pageviews.  
 
Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

dinshay
 
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ออกกำลัยกันเถอะ
[Add dinshay's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com