Dinner31
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Dinner31's blog to your web]
Links
 

 
เครื่องบันทึกเสีย

อุปกรณ์ที่ควรจะมีติดตัวไว้อย่างขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ทำอาชีพสื่อ
โดยเฉพาะสื่อสิ่งพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร
จำเป็นต้องมี 'เครื่องบันทึกเสียง' ไว้บันทึกข้อมูลที่สมองก้อนเดียวไม่อาจจำได้หมด
(หรือจำได้หมด..แต่คงจำไม่ทัน)

อาจจะดูห่างไกลจากชีวิตประจำวันของคนทั่วไป
เครื่องบันทึกเสียงในความทรงจำของพวกเขาจึงเป็นเครื่องเล่นเทปอ้วนๆ
ใช้เทปเปล่าม้วนละ 35 บาท เป็นสมุดบันทึกเสียง
เมื่อการพูดคุย-สัมภาษณ์-สัมมนา-เสวนา-ปราศัย ผ่านไป 30 นาที
เทปจบครบหน้าเสียง 'แป้ก' จนปุ่มเด้ง ก็ต้องเร่งกลับหน้าเทปให้ทันท่วงที
ช้าไม่ได้-พลาดไม่ได้ เพราะข้อมูลสำคัญอาจโผล่มาช่วง 3-4 วินาทีนี้ก็ได้

เทปไม่พอก็ไม่ได้ ก็เลยต้องพกเทปกันเป็นกระบุง
เหมือนคนดนตรีที่พกเทปพร้อมซาวน์บาวด์ไปนั่งฟังเพลงตามสยามเมื่อสิบปีก่อน

แต่เอาเข้าจริงแล้ว เด็กอายุช่วง 22-25 อย่างผมคงจำกันได้อยู่
ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่วัยรุ่น ม.ปลายเขานิยมอัดเพลงลงเทปไปให้คนที่ชอบพอกัน
สมัยนั้นเทปลายต่างๆ ขายดิบขายดี
ผมจำได้มีว่าเคยได้รับเทปสีน้ำเงินลายปลาโลมากระโดด
ในนั้นบรรจุเพลงที่ผมจำได้ดี แม้ว่าเธอคนที่ให้เทปม้วนนั้นหายหน้าไปจากความทรงจำผมแล้วก็ตาม

แต่หลังจากนั้นม้วนเทปก็หายไปพร้อมกับ CD ที่เข้ามาแทนที่...

เข้าเรื่องต่อ-มีข้อเท็จจริงของการประกอบอาชีพที่ใกล้เคียงกันอย่าง นิตยสาร และหนังสือพิมพ์
่หากมองเชิงตื้น, เป็นอาชีพที่มีแก่นคล้ายกันคือรายงาน นำเสนอ ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลที่ได้มาจากการเขียน
หากมองเิชิงลึก, ความว่องไวในการทำงาน กระบวนการทำงาน หรือแม้กระทั่งการขยับตัวก็ยังต่าง
จนเรียกได้ว่าเป็นคนละศาสตร์ได้ไม่ขุ่นเคือง

การบันทึกเสียงสำหรับหนังสือพิมพ์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่นิยม
เพราะทุกครั้งที่ได้รับหมายก็มีประเด็นที่ต้องเตรียมไปตักตวงอยู่แล้ว
จดก็เพียงพอแล้ว อาศัยความสามารถของหูดี สมองดี ที่ต้องเอะใจกับประเด็นที่แปลกใหม่น่าสนใจ
หลังจากนั้นก็เรียบเรียงเป็นแพทเทินของข่าว ที่อ่านง่าย กระชับ เรียงประเด็นสำคัญชัดเจน รวดเร็ว
การถอดเทปต้องใช้เวลา หนังสือพิมพ์ไม่มีเวลามากขนาั้ดนั้นแน่

สำหรับนิตยสารนั้น บางครั้งไม่มีประเด็น หรือมีก็เลือนลางมาก
เรียกว่าพูดชื่อใครสักคนขึ้นมา หลังจาก เออ ออ เห็นว่าเจ๋งหรือเหมาะที่จะลงในเล่มก็ปลงใจสัมภาษณ์
การสัมภาษณ์ครั้งหนึ่งกินเวลาไม่ใช่เล่น บ้าง 1 ชั่วโมง บ้าง 2 บ้างลามปามไป 4 ก็มี
จดประเด็นได้ แต่คำตกหล่น ครั้นจะอุตริสร้างประโยคขึ้นมาเองก็จะเป็นการไม่ให้เกียรติผู้ถูกสัมภาษณ์ได้

ดังนั้นเครื่องบันทึกเสียงจึงขาดเสียไม่ได้

ทุกวันนี้น้อยคนที่จะใช้เครื่องเล่นเทปอ้วนๆ อย่างที่ทุกท่านคิดถึงกัน
แต่ก็ยังมีบ้างที่ใช้เครื่องแบบนั้นอยู่ เคยถามกันเล่นๆ เขาว่ามันถนัดและคุ้นมือดี
แต่ส่วนใหญ่แล้ว พวกกระผมส่วนมากใช้เครื่องเล่น MP3 กันแล้ว
เพราะส่วนใหญ่แล้วสามารถบันทึกเสียงได้ด้วย
รวยหน่อยก็ iPod เครื่องเป็นหมื่น จนหน่อยก็เครื่องไม่กี่ร้อย 900-1,500 ก็มี
ส่วนผมไม่รวย ค่อนไปทางจน ก็ต้องหาอะไรที่มันสะดวกในระดับนึง
เครื่องละสี่พันน่าจะเหมาะและใช้ได้ดีแล้ว

หรือมีอีกชนิดหนึ่งที่เป็นเครื่องบันทึกเสียงโดยตรง
ผมไม่รู้ว่ามันใช้กันยังไงและดีกว่ากันตรงไหน
อาจจะชัดเจนกว่า และมีความสามารถในการบันทึุกเสียงมากกว่า
แต่สิ่งที่เหมือนอย่างหนึ่งคือเสียงที่ได้จะเป็นไฟล์ดิจิตอล

ซึ่งเจ้าไฟล์ดิจิตอลนี่มันสะดวกสะบายกว่าเทปธรรมดาตรงที่
1.ไม่ต้องพกเทปไปหลายๆ ม้วนกันเสีย หรือเทปไม่พอ บันทึกกันได้เ็ป็นวัน พูดจนลิงหลับ
2.ไม่ขัดจังหวะขณะเทปจบม้วน ไม่พลาดสักเสี้ยววินาที
3.ไม่กลัวน้ำ ไม่กลัวความร้อน
4.ไฟล์ที่ได้ก็สามารถนำเข้าโปรแกรมปรับเสียงให้ชัดเจนขึ้นไ้ด้ หรือทำให้ช้าลงได้
5.การถอดเทปง่ายดาย ใช้ปุ่มบนคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องย้ายมือไปมาระหว่างเครื่องเล่นเทป(แต่ไม่ลดทอนความน่าเบื่อ)
6.ไม่เปลืองเงินค่าม้วนเทป

ข้อเสียมันก็มี
1.ไฟล์ดิจิตอลเป็นสิ่งไม่จีรัง เกิดเครื่อง MP3 เสียขึ้นมาก็ท่องว่า ชิปจะหายไปพร้อมไฟล์เสียงที่หายไป
2.การบันทึกเสียงที่ยาวนาน อาจจะทำให้การสัมภาษณ์ยืดเยื้อเกินความจำเป็น น้ำอาจท่วมเนื้อได้
3.ซึ่งมันจะทำให้การถอดเทปยาวนาน
4.หากเป็นเครื่อง MP3 ที่ใช้การชาร์ตแบต มีโอกาสแบตหมดระหว่างสัมภาษณ์ได้-หมายความว่า ซวย

สิ่งที่ทำให้คนอาชีพอย่างผมผูกพันกับเครื่องอัดเสียง
คือมันเป็นสิ่งที่ทำให้ได้งาน งานดีมีความสุข แบ่งเบาภาระในการทำงานได้มากโข
ไม่ต้องเพ่งพินิจพิจารณาถึงความแม่นยำในการจดประเด็น
สามารถปล่อยใจไปคิดคำถามต่อเนื่องอื่นๆ ได้มากมาย
ระหว่างปล่อยใจนั้นก็ปล่อยให้เครื่องบันทึกเสียงทำหน้าที่ของมัน

แต่อีกเรื่องหนึ่งที่จะตามมาติดๆ คือการ 'ถอดเทป'
หลายคนคงงงว่ามันคืออะไร?

การถอดเทปคือการแปรคำพูดที่เป็นเสียง ให้ออกมาในรูปแบบอักษร
ผ่านเครื่องมือ ที่ใช้มือจริงๆ ไปจิ้มคีย์บอร์ด
ใครไม่เคย แนะนำให้ลอง พูดกับเพื่อนแล้วลองมาถอดกันสักชั่วโมง
เป็นช่วงการทำงานที่เขาว่ากันว่าเป็นช่วงที่น่าเบื่อที่สุด
ผมเห็นด้วย! บางครั้งน่าเบื่อชนิดที่ว่าทำกันวันเดียวไม่ได้
ต้องเก็บไปทำกันที 3-4 วัน ยิ่งเทปยาวๆ ไม่ต้องพูดถึง ไม่อยากจะแตะ

แ่ต่หลายครั้งที่ผมได้แง่คิดดีๆ หรือข้อมูลที่รู้สึกว่าไม่เคยได้ยินจากการถอดเทป
จากเสียงที่เจ้าเครื่อง MP3 นี่พูดให้ฟัง
อาจเป็นเพราะความสะเพร่าที่ผมเองละเลยข้อมูลบางอย่างไประหว่างสัมภาษณ์
บางครั้งเป็นถ้อยคำที่ตรึงใจไม่อาจลืม
บางครั้งเป็นแนวความคิด ที่อยากใช้ชีวิตต่อ

การทำอย่างนี้บ่อยๆ ทำให้ผมอยากทบทวนชีวิตที่ผ่านมา
การเขียนไดอารี่ทุกวันเป็นส่วนหนึ่งจากผลกระทบ
ขณะที่เราใช้ชีวิตไปแต่ละวัน ละเลยบางเรื่องไปอย่างช่วยไม่ได้
หากไม่ได้รับการระลึกถึง คงไม่มีทางนึกถึง
ทั้งที่เรื่องบางเรื่องล้วนมีค่า กว่าเรื่องที่น่าจดจำในแต่ละวันอีก

เหมือนหนังที่กว่าจะดูเข้าใจ ก็ต้องรอบสอง รอบสาม
เหมือนเพลงที่ยิ่งฟังมากรอบ ก็ยิ่งซึ้งกินใจ
เหมือนหนังสือ ที่ต้องอ่านระหว่างบรรทัด รอบแล้ว รอบเล่า

เครื่องบันทึกเสียงบอกสิ่งที่มันไม่ได้บันทึกมาอย่างนั้นเหมือนกัน

เหมือนสายตา หู จมูก ปาก
ทุกคนล้วนมีเครื่องบันทึกเสียงแบบที่ผมมีอยู่
ผมก็มีเครื่องบันทึกเสียงแบบที่ทุกคนมีอยู่เช่นกัน

อยู่ที่ใครจะทบทวน เปิดสิ่งที่ผ่านเข้ามาทบทวนดู
อาจได้รู้ ว่าในฝุ่นมีอะไร
แดดวันไหนบอกอะไรเราบ้าง
ลมที่พัดมายามเย็น มันเย็นแท้แค่ไหน
หรือน้ำที่อาบไป มันช่วยให้น้ำตาจากความเศร้าในแต่ละวันติดไหลไปตามท่อรึเปล่า

เร็วเข้านะครับ
ก่อนที่เครื่องบันทึกมันจะเสีย
จะพาลให้งานมันไม่ดีเสียเปล่าๆ





Create Date : 16 เมษายน 2551
Last Update : 16 เมษายน 2551 0:41:16 น. 5 comments
Counter : 982 Pageviews.

 
จะมาแจ้งว่าสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อนร่วมงานดี ๆ จะทำให้งานออกมาดี๊ดีจริง ๆ จ้ะ

อากาศร้อน ๆ ทำใจให้ร่ม ๆ นะจ๊ะ


โดย: A-Chee วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:2:05:12 น.  

 
"อยู่ที่ใครจะทบทวน เปิดสิ่งที่ผ่านเข้ามาทบทวนดู
อาจได้รู้ ว่าในฝุ่นมีอะไร
แดดวันไหนบอกอะไรเราบ้าง
ลมที่พัดมายามเย็น มันเย็นแท้แค่ไหน
หรือน้ำที่อาบไป มันช่วยให้น้ำตาจากความเศร้าในแต่ละวันติดไหลไปตามท่อรึเปล่า"

ใ่ช่...การทบทวนเป็นสิ่งที่ดีของชีวิต
โดยกระบวนการ มันทำให้เราเิดินลึกลงไปในตัวเราเอง..
และรู้จักกะตัวเอง..ในหลาย ๆ ด้าน
อืม...

ขอบใจสำหรับคำเตือนสติที่ไปบอกที่บล็อกเรา..

ตอนนี้โอเคขึ้นแล้วล่ะ..
เพราะเราผ่านกระบวนการทบทวนและสำนึุกในบางสิ่ง
วันนี้...สดใสดี..


โดย: a_Qi วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:13:48:43 น.  

 
ขอลิงค์บล็อกหน่อยนะ เราว่าน่าสนใจดีน่ะ..

อยากรู้เรื่องของคนทำหนังสือค่ะ.


โดย: a_Qi วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:13:50:11 น.  

 
เขียนอัพบ่อยๆนะ จะได้รวบรวมส่งให้รุ่นน้องคุณอ่านด้วย


โดย: สายน้ำกับสายเมฆ วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:18:00:59 น.  

 
หูย ขอบคุณมากค่ะ
รู้แล้วว่า ถอดเทปเป็นไง ได้เงินเยอะดี แฮ่ๆ


โดย: หญิงจ๊ะ วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:08:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.