มองทะเลผ่านการเห็นอันบริสุทธิ์
การอยู่คนเดียวแล้วใช้สายตาทอดยาวมองไปยังท้องทะเลอันกว้างใหญ่ เห็นเส้นขอบฟ้าที่เป็นจุดบรรจบกันระหว่างผืนน้ำและผืนฟ้า ณ ขณะนั้นเรามักไม่รู้ว่าเราเป็นใคร ราวกับว่าตัวเรากับธรรมชาติที่ปรากฏตรงหน้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
แท้จริงมนุษย์ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เราต่างถือกำเนิดขึ้นมาจากปรากฏการณ์แห่งความเกิด ความงอกงามเติบโต เฉกเช่นเดียวกับต้นไม้ใหญ่หรือทะเลกว้าง สิ่งที่แตกต่าง คือ เราที่เป็นมนุษย์นั้นมีธรรมชาติแห่งความรับรู้ติดตัวมาด้วย และธรรมชาติของความรับรู้นี้เองที่พัฒนางอกเงยขึ้นเป็นธรรมชาติของความปรุงแต่ง
แทนที่การเห็นและสัมผัสกับธรรมชาติแวดล้อมด้วยความรู้สึก เรากลับค่อยๆใช้ความปรุงแต่งมาบดบังสภาพอันแท้จริงของทุกสิ่งไว้ เราคุ้นชินกับการวิพากษ์ ตัดสิน และให้คุณค่ากับทุกสิ่งทุกอย่างที่รับรู้ และนั่นย่อมทำให้การรับรู้ของเราเป็นความรับรู้ที่ไม่บริสุทธิ์ ถึงจะมองเห็นก็เป็นการมองเห็นที่เจือด้วยความคิด เจือด้วยการแปลความหมาย และเสพมันผ่านแว่นของความคิดความเห็น แน่นอนว่าการเห็นแบบนี้ย่อมไม่บริสุทธิ์และไม่ได้ฉายภาพของความจริงแท้ในตัวมันเองออกมา เรียกว่าไม่ได้เห็นตามเป็นจริง ไม่ได้เห็นแบบยอมรับถึงความ เป็นเช่นนั้นเอง ของทุกสรรพสิ่ง เพราะเราเห็นแบบมีผู้เห็น และมีสิ่งที่ถูกเห็น เราได้แยกเอาธรรมชาติของความเห็นและสิ่งที่ถูกเห็นออกจากกัน โดยหลงลืมไปว่า แท้ที่จริงธรรมชาติทั้งสองสิ่งล้วนเป็นธรรมชาติที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
จึงไม่แปลกที่เวลาเรามองไปยังทะเลกว้างใหญ่ เราจะรู้สึกลางๆว่าเราไม่ใช่ ใครคนหนึ่ง เพราะธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้กลืนกินความเป็นเราลงไป เป็นช่วงเวลาที่เราจะเป็นอิสระจากความคิด และชีวิตได้ถูกปลดล็อคจากโซ่ตรวนแห่งทิฏฐิมานะที่พันธนาการเรามาตลอด ( อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาหนึ่ง )
นั่นคือเหตุผลที่คนทั่วไปมักชอบไปทะเลเวลาที่มีปัญหาชีวิต เวลาที่ชีวิตกำลังกลุ้มรุมไว้ด้วยความหนักใจและรู้สึกว่าถูกขังไว้ด้วยปัญหาอย่างไม่มีทางออก..แท้ที่จริงแล้วไม่มีทางออก และไม่มีใครถูกกักขังพันธนาการไว้ มีแต่ความคิดปรุงแต่งเท่านั้นที่เราสร้างขึ้นมาจองจำเราไว้เอง และทำให้รู้สึกจริงๆว่ามีเราอยู่ มีปัญหาอยู่จริงๆ และมันช่างยิ่งใหญ่เสียเหลือเกิน
การมุ่งหน้ามาที่ทะเลอย่างน้อยก็เป็นการหลบตัวเองออกมาจากปัญหาชั่วคราว อย่างน้อยก็เพื่อให้ความคิดที่กำลังสับสนยุ่งเหยิงนั้นได้มีเวลาผ่อนพักบ้าง ได้ใช้ความเป็นธรรมชาติที่แท้เยียวยาตนเองดูบ้าง
ทะเลจึงเหมือนเป็นแหล่งพักพิงสุดท้ายที่รอคอยที่จะปลดเปลื้องความมีความเป็นของมนุษย์ ให้มนุษย์ได้ตระหนักถึงความไม่มีไม่เป็นอะไร ..อย่างน้อยก็ในช่วงเวลาหนึ่ง
( แรงบันดาลใจจากการฟัง ทัศนะสู่ธรรม ของท่านอาจารย์โกวิท เอนกชัย เขมานันทะ )
Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2553 |
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2553 10:20:23 น. |
|
0 comments
|
Counter : 203 Pageviews. |
|
|