แท็กซี่ในหังโจว โอ้โห...หายากฉิบ! (杭州的出租车非常难找)
สำหรับปุถุชนคนเดินถนนที่ไม่ได้ครอบครองหรือมีรถสี่ล้อเหล็กหุ้มเนื้อเป็นของตัวเอง และยังคงใช้บริการรถแท็กซี่อยู่ หากท่านคิดว่าการหารถแท็กซี่ในเมืองไทยในช่วงเวลาชั่วโมงเร่งด่วนเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญพอๆ กับวัลลีที่ต้องวิ่งจากโรงเรียนไปดูแลแม่ที่บ้าน อีกทั้งการที่ต้องมาหงุดหงิด จิตแตกกับแท็กซี่กวนประสาท ประเภทหนักไม่เอา เบาไม่สู้ ไกลไป กรูจะส่งรถ... ขอให้ยิ้มสู้กันต่อไป และระลึกอยู่เสมอว่า เรื่องขึ้นแท็กซี่ คนบ้านเรายังโชคดีกว่าคนจีนในหังโจวมากมาย มากมาย
รถแท็กซี่ในเมืองหังโจว
จากหนังสือพิมพ์หังโจววีคลี่ย์ รายงานสถานการณ์ของแท็กซี่ในช่วงปีใหม่ไล่ยาวไปถึงตรุษจีนว่า คนหังโจวต้องรอรถแท็กซี่ ชนิดที่เรียกได้ว่านานแสนนาน อาอึ้มอีบ่นว่า อั๊วเดินหาแท็กซี่มาตลอดทาง เดินมาก็หลายไฟแดง เดินไปเดินมา อ้าว! ถึงบ้านอั๊วแล้วนี่หว่า ความทุกข์ยากของคนไม่มีรถ (รวมทั้งผมด้วย) ในการหาแท็กซี่ทวีความลำบากมากขึ้นเมื่อช่วงนี้เป็นช่วงฤดูหนาว หิมะตกเป็นครั้งคราว อุณหภูมิติดลบ ต้องเดินอยู่กลางลมหนาวสู้ทนฟันฝ่า กายที่มันอ่อนล้าแทบยืนไม่อยู่ รอมันอยู่อย่างนั้น ช่างเดป็นช่วงเวลาอันแสนยาวนาน ไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมรถแท็กซี่ในหังโจวถึงหายากเย็น เพราะจากสถิติที่เขาทำวิจัย พบว่า จำนวนแท็กซี่ในหังโจวเฉลี่ยแล้วมีเพียง 8,000 กว่าคัน ซึ่งหากเทียบอัตราส่วนกับจำนวนประชากรในหังโจว นั่นเท่ากับว่า ทุกๆ 10,000 คน จะมีแท็กซี่รองรับเพียง 13 คันเท่านั้น! หลายคนอาจอยากจะมาเป็นคนขับแท็กซี่ที่นี่ เพราะคงรวยจริงอะไรจริง แต่ในมุมมองของคนขับเอง อาแปะคนขับก็ถอนหายใจเฮือกแล้วเฮือกเล่า "จะบ้าเหรอ รถแท็กซี่น้อยก็จริง แต่รายได้อั๊วนี่ไม่ยาไส้นะ เฮ้อ!"
"ทุกๆ วัน อั๊วจะต้องทำเงินให้ได้วันละ 500 หยวน (2,500 บาทไทย) แต่เอาเข้าจริงๆ ได้อย่างดีก็ประมาณ 400 หยวนเอง (2,000 บาท) เฮ้อ!"
"เงินที่ได้มาต้องจ่ายให้บริษัทเช่ารถแท็กซี่ แถมต้องเสียค่าน้ำมันอีก 160 หยวน (800 บาท) เฮ้อ!" นอกจากนี้คนขับแท็กซี่ที่นี่ยังต้องอดทนกับรถติดอย่างยาวนานในชั่วโมงเร่งด่วน (หังโจวยังไม่มีบริการรถไฟใต้ดินเหมือนเมืองใหญ่อื่นๆ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง) ซึ่งอาแปะจอมเฮ้อ ยังบอกอีกว่าเขาต้องรอรถติดเฉลี่ยแล้วตกวันละ 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว แม้แท็กซี่จะหายาก แต่ความน่ารักของแท็กซี่ในหังโจวคือ "ขึ้นมาเถอะ ไปหมดทุกที่ ไกลแค่ไหนก็ไป ไม่อิดออด" ไม่แน่ใจว่าเป็นข้อปฏิบัติของที่นี่หรือเปล่า ที่คนขับรถห้ามเลือกลูกค้า หรือเป็นเพราะนิสัยติดตัวของคนจีนประเภท หนักก็เอาเบาก็สู้ อันนี้ผมยังไม่กระจ่างนัก ความหายากของแท็กซี่ ส่งผลให้แท็กซี่ในหังโจวเปรียบเหมือนเทพบุตรเทพธิดาที่ลงมาโปรดมนุษย์ผู้ลำเค็ญ ส่งผลให้เวลาแท็กซี่มาแต่ละคัน ทุกคนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันต่างวิ่งกันตาตั้ง โดยไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น เรื่องราวหงุดหงิดประเภทคนตัดหน้าแย่งแท็กซี่หน้าตาเฉยจึงมีอยู่บ่อยครั้ง เพื่อนหญิงใจเด็กของผมเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการขึ้นแท็กซี่ในหังโจวว่า ระหว่างที่เธอรอรถแท็กซี่ท่ามกลางความร้อนระอุของเปลวแดดแผดเผา เธออดทนรอรถแท็กซี่อย่างเยือกเย็น ในทีสุดรถแท็กซี่ว่างๆ ก็ขับมา ไม่รอช้า เธอโบกรถสุดกำลัง พร้อมคิดในใจ "กรูได้ขึ้นแล้วๆ" ในจังหวะที่รถแท็กซี่จอดนั้น มีสาวรุ่นชาวจีนเปิดประตูเข้ามาและพุ่งตัวเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว ความร้อนทำให้เธอปรี๊ดแตก ตวาดสาวจีนนางนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยภาษาจีน สาวจีนตกตะลึงในความแรงจัดชัดเจน และจุดยืนของหญิงไทยใจห้าวหาญ ด้วยปณิธานแสนเรียบง่าย "กรูมาก่อน คันนี้ของกรู กรูจะขึ้นคันนี้" สาวจีนนางนั้นรีบกระเถิบก้นลนลานลงจากรถทันที เล่นกับใครไม่เล่น... ริมาเล่นกับหญิงไทยอารมณ์เดือดที่มองหาแท็กซี่เลือดตาแทบกระเด็น! รู้ไว้ใช่ว่า ธรรมเนียมปฏิบัติของการขึ้นแท็กซี่ในหังโจว (น่าจะรวมถึงเมืองอื่นๆ ด้วย) คือเมื่อถึงที่หมาย ราคามิเตอร์บอกไว้ที่ราคาเท่าไหร่ จะต้องบวกเพิ่มเข้าไปอีก 1 หยวน ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติและอาจสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนขับแท็กซี่ต่อไปภายภาคหน้า ภายในรถแท็กซี่ตรงที่นั่งคนขับจะมีแผ่นพลาสติกกั้นเอาไว้ ป้องกันผู้โดยสารกัดหู หรือคนขับพ่นน้ำลายใส่
ราคาเริ่มต้นของมิเตอร์อยู่ที่ 10 หยวน (50 บาท) 3 กิโลเมตรขึ้นไปจะเพิ่มขึ้นทุกๆ 2 หยวน (10 บาท) หากเกิน 10 กิโลเมตร จะขึ้นมากิโลเมตรละ 3 หยวน (15 บาท)
Create Date : 28 มกราคม 2554 |
Last Update : 28 มกราคม 2554 12:47:59 น. |
|
9 comments
|
Counter : 800 Pageviews. |
|
|