จงเฝ้าอธิษฐานอยู่ เพราะคุณอยู่ในการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ PRAY, You're in Spiritual Combat!





จงเฝ้าอธิษฐานอยู่ เพราะคุณอยู่ในการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ

คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าตนกำลังอยู่ในการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณ พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งนี้...และนั่นก็คือเหตุผลว่าทำไม่พวกเขาจึงถูกจู่โจม..แต่แล้วพวกเขาก็ยังไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง..

พวกเขายังคงถูกโจมตีอต่อไปเรื่อยๆ และก็ยังคงแย่ลงไปเรื่อยๆ(**ฝ่ายวิญญาณที่อ่อนแอ) และพวกเขาก็ยังคิดว่าทุกอย่างยังโอเคอยู่...
****พวกเขากำลังตกเลือดอยู่ภายใน!!! .... พวกเขาไม่รู้เลยเพราะว่าทุกอย่างก็ยังดูโอเคอยู่ ไม่มีใครพูดท้วงติงอะไร

****เมื่อพระเยซูเรียกคุณให้อธิษฐาน คุณก็ต้องอธิษฐาน!!!
!

... มีหลายครั้งที่วิญญาณชั่วจะจู่โจม...และถ้าคุณไม่ลุกขึ้นมาอธิษฐานในเวลากลางคืน และคุณได้แต่หลับอยู่ คุณก็จะถูกข้าศึก(ฝ่ายวิญญาณ)เข้าโจมตี เมื่อคุณตื่นขึ้นมา..คุณอาจไม่รู้ว่าคุณถูกโจมตีแล้ว..****แต่มันจะมีผลต่อจิตวิญญาณของคุณครับ!!!

สิ่งนี้ก็อาจเกิดขึ้นในเวลากลางวันเช่นกัน มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ นี่คือเหตุผลว่าทำไม...”เราต้องเฝ้าอธิษฐานอยู่” การต่อสู้ของเราไม่ใช่เป็นกรต่อสู้กับมนุษย์คนใด ..ไม่ใช่การต่อสู้กับเศรษฐกิจหรืออะไรประมาณนั้นเลยนะครับ..แต่เป็นการต่อสู้วิญญาณชั่ว ต่อสู้กับอิทธิเทพ เทพในย่านฟ้าอากาศ และวิญญาณชั่วต่างๆครับ

ไม่มีทางที่คุณจะต่อสู้กับภูตผีปีศาจเหล่านั้นได้ด้วยปืนหรือมีดพร้าชนิดใดก็แล้วแต่ครับ ...

****มีสิ่งเดียวที่เป็นอาวุธสำคัญของคุณคือการอธิษฐานครับ!!!!...

...จงทำตัวคุณให้เข้มแข็งและมุ่งมั่นในการอธิษฐาน..ทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มาสถิตกับคุณ...ขอให้พระองค์ส่งเหล่าทูตสวรรค์มาปกป้องคุณ...ขอให้พระองค์นำทางคุณ..และขอให้พระองค์ช่วยให้คุณจดจ้องสายตาอยู่ที่พระองค์เท่านั้น

คุณกำลังอยู่ในการต่อสู้ฝ่ายวิญญาณครับ..จงจดจ้องอยู่ที่พระเยซูคริสต์..เมื่อพระองค์เรียกให้คุณอธิษฐาน..จงลุกขึ้นแล้วอธิษฐาน..แม้ว่าจะเป็นเวลาตีสามแล้วก็ตาม..

ขอพระคุณของพระเยซูอยู่กับคุณครับ



Create Date : 28 มกราคม 2555
Last Update : 28 มกราคม 2555 14:47:12 น.
Counter : 1804 Pageviews.

0 comment
Did the Vatican create Islam? (full version)


ศาสนาคาทอลิคก่อตั้งศาสนาอิสลามเพื่อเข้าควบคุมชาวอาหรับทั้งหมด


มี 3 ศาสนาหลักๆ มีสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องเดียวกัน คือแต่ละศาสนามีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะเป็นแนวทาง ; โรมันคาทอลิค อยู่ที่วาติกัน, ยิวก็อยู่ที่กำแพงหินในกรุงเยรูซาเล็มที่พวกชาวยิวไปร้องไห้ในวันศุกร์ , และมุสลิมก็จะไปที่นครเม็กกะ ทุกกลุ่มเชื่อว่าพวกเขาจะได้รับพรตลอดชีวิตถ้าพวกเขาได้ไปตามสถานที่ดังกล่าว

ในสมัยของ Augustine มาเป็นบิชอปที่อัฟริกาเหนือ เขาสามารถนำชาวอาหรับให้มานับถือศาสนาคาทอลิคได้จำนวนมาก และเพื่อที่คาทอลิคจะควบคุมอาหรับทั้งหมดให้อยู่หมัด ทางคาทอลิคก็ได้ตั้งศาสนาใหม่คือศาสนามสลิม และแต่งตั้งมูฮัมหมัดให้เป็นศาสดา
พระของคาทอลิคได้วางแผนในการเข่นฆ่าชาวยิวในอนาคตโดยให้พันธกิจนี้อยู่ในมือของมูฮัมหมัด เพราะว่า..ด้วยเหตุผลทางด้านความเชื่อทางศาสนา วาติกันต้องการกรุงเยรูซาเล็มแต่เอามาไม่ได้เพราะชาวยิวได้ปกป้องไว้ ในขณะเดียวกันที่ในยุคนั้นมีคริสเตียนที่ยึดมั่นในคำสอนของพระเยซูเติบโตขึ้นมากในแถบอัฟริกาเหนือ แม้คาทอลิคเรืองอำนาจแต่ก็ไม่อาจทนเห็นสิ่งนี้ได้ จึงต้องการที่จะสร้างอาวุธใหม่ขึ้นมาเพื่อปราบทั้งยิวและคริสเตียนแท้ผู้ที่ปฏิเสธความเชื่อของคาทอลิคในเวลาเดียวกัน ทางฝ่ายคาทอลิคเล็งเห็นผู้คนจำนวนมากในอาหรับที่จะเป็นแหล่งอำนาจในการทำงานสกปรกให้ได้ ชาวอาหรับบางคนรับความเชื่อคาทอลิคและเป็นผู้รายงานข่าวเข้าสู่ผู้นำในโรม บางส่วนถูกใช้เป็นสายลับใต้ดินเพื่อดำเนินตามแผนการของโรมในการควบคุมผู้คนที่ต่อต้านคาทอลิคในอาหรับ และเมื่อเซนต์ออกัสตินเข้ามาอยู่ในส่วนนี้ เขารู้ความเป็นไปและที่โบสถ์ของเขาก็ถูกใช้เป็นฐานในการเสาะแสวงหาทางที่จะทำลายพระคัมภีร์ไบเบิ้ลที่คริสเตียนแท้ทั้งหลายได้ครอบครองอยู่

ทางวาติกันต้องการที่จะให้มีพระผู้มาโปรดของชาวอาหรับ หาใครบางคนที่พวกเขาจะชุบเลี้ยงขึ้นมาเพื่อให้เป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ชายที่มีมีความสามารถพิเศษมีความดึงดูดใจผู้คนที่พวกเขาจะฝึกให้ได้ และเพื่อว่าในที่สุดพวกเขาจะสามารถรวมเอาชาวอาหรับที่ไม่เอาคอทอลิคให้อยู่ใต้บังคับของพวกเขาได้ พร้อมกันนั้นก็เพื่อสร้างกองทัพยังยิ่งใหญ่ที่จะสามารถเข้ายึดนครเยรูซาเล็มเพื่อพระสันตะปาปาได้ในที่สุด
In the Vatican Briefing Cardinal Bea told this story: มีหญิงผู้มั่งคั่งชาวอาหรับคนหนึ่งที่ติดตามพระสันตะปาปาที่เข้ามามีบทบาทอย่างสูงในเรื่องนี้ เธอเป็นหญิงหม้ายชื่อว่า คาดิจา(Khadijah) เธอได้ยกทัพย์สมบัติให้วาติกันทั้งหมดแล้วบวชเป็นชีในสำนักและเธอก้ได้รับมอบหมายงานให้หาชายหนุ่มที่จะให้วาติกันใช้ให้มาเป็นพระผู้มาโปรดในการสร้างศาสนาขึ้นมาใหม่อีกศาสนาหนึ่งเพื่อให้แก่ลูกหลานของอิชมาเอล คาดิจาได้มูฮัมหมัดมาเป็นสามี เธอมีญาติคนหนึ่งชื่อ วาราควา(Waraquah) ผู้ซึ่งมีคความจงรักภักดีต่อวาติกัน และคนนี้ก็ได้รับบทบาทสำคัญในการเป็นที่ปรึกษาให้กับมูฮัมหมัด และเขามีอิทธิพลต่อมูฮัมหมัดมาก ครูหลายคนถูกส่งไปสอนมูฮัมหมัด และเขาได้รับการฝึกที่เข้มข้น และเขาศึกษาและทำงานที่เซนต์ออกัสตินเตรียมให้ในการเรียกให้ทำ
ในขณะนั้นก็มีการกระจายข่าวว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นมาท่ามกลางชาวอาหรับ เป็นคนที่พระเจ้าได้เลือกไว้
ในระหว่าที่มูฮัมหมัดกำลังรับการฝึกฝนนั้น เขาถูกสอนว่าศัตรูของเขาคือชาวยิวและคริสเตียนแท้คือผู้ที่นับถือศาสนาคาทอลิคเท่านั้น และเขาถูกสอนว่าทุกคนที่เรียกตนเองว่าคริสเตียนเป็นคนชั่วเป็นนักต้มตุ๋นขี้โกงที่จะต้องถูกฆ่าให้ตาย และมุสลิมจำนวนมากก็เชื่อเช่นนั้น
แล้วมูฮัมหมัดก็เริ่มได้รับการเปิดเผยจากเทพเจ้า และญาติของภรรยาของเขาคือวาราควาเป็นผู้คอยตีความหมายให้ซึ่งกลายมาเป็นคัมถีร์โคราน
ในปีที่ 5 ของพันธกิจของมูฮัมหมัด มีการข่มเหงผู้ที่ติดตามเขาเพราะว่าพวกเขาปฏิเสธที่จะกราบไหว้รูปเคารพในคาบา (Kaaba – หินสีดำในนครเม็กกะ)
และพวกนี้ก็หนีไปและได้รับการปกป้องจากโรมันคาทอลิคเพราะว่าทรรศนะของมูฮัมหมัดตรงกันในเรื่องพระแม่มารี

ในที่สุดมูฮัมหมัดสามารถเอาชนะในเม็กกะและได้แก้ปัญหาเรื่องKaabaไป ก่อนที่จะมีศาสนาอิสลามนั้น ชาวอาระเบียนับถือพระจันทร์ซึ่งแต่งงานกับพระอาทิตย์และมีลูกเป็นเทวี 3 องค์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาทั่วทั้งโลกอาหรับ ว่าเป็น “”ลูกสาวของพระเจ้าพระอะลาห์ รูปปั้นของสิ่งนี้ได้ขุดค้นพบในเฮเซอร์ในปาเลสไตน์ ในปี 1950 เป็นรูปปั้นที่อะลาห์นั่งบนที่นั้งมีรูปดวงจันทร์เสี้นวที่หน้าอก

มูฮัมหมัดอ้างว่าไดรับนิมิตของอะลาห์ และอะลาห์บอกเขาว่าเขาเป็นทูตผู้นำสารของพระอะลาห์ เขาจึงเริ่มงานในการประกาศเป็นผู้พยากรณ์ และเขาได้รับสารมากมาย เมื่อมูฮัมหมัดตายศาสนาอิสลามได้แพร่กระจายออกไปมาก พวกอาหรับนอร์มังดีก็รับความเชื่อในพระอะลาห์และผู้พยากรณ์มูฮัมหมัดด้วย งานเขียนของมูฮัมหมัดถูกใส่ไว้ในคัมภีร์โคราน บางส่วนก็ไม่เคยนำออกสู่สาธารณะซึ่งขณะนี้อยู่ในมือของชนชั้นสูงในความเชื่อของอิสลาม(Ayatollahs)
เมื่อคาร์ดินัลบี(Bea)แบ่งปันข้อมูลนี้กับ ริเวียร่า(Rivera)ในวาติกัน เขาบอกว่า งานเขียนเหล่านี้ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีเพราะว่าเป็นข้อมูลที่เชื่อมโยงว่าวาติกันสร้างศาสนาอิสลามขึ้นมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างมีข้อมูลสำคัญของกันและกันที่เป็นเรื่องฉาวโฉ่ซึ่งถ้ามีการเปิดเผยขึ้นมาก็จะเกิดหายนะทั้งสองศาสนาคือทั้งโรมันคาทอลิคและอิสลาม

ในคัมภีร์โคราน พระคริสต์ถูกมองว่าเป็นเพียงผู้พยากรณ์คนหนึ่งเท่านั้น ถ้าพระสันตะปาปาเป็นตัวแทนของพระเจ้าบนโลก ดังนั้นเขาก็เป็นเพียงผู้เผยพยากรณ์คนหนึ่งของพระเจ้า นี่จึงทำให้ผู้ติดตามมูฮัมหมัดเกรงกลัวและให้ความเคารพต่อพระสันตะปาปาเหมือนกับคนสำคัญในศาสนาคนหนึ่ง
พระสันตะปาปาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วให้มีการบุกรุกเข้าต่อสู้เพื่อเอาชนะประเทศต่างๆทางอัฟริกาเหนือ และวาติกันเป็นผู้สนับสนุนเงินโดยมีข้อแลกเปลี่ยน 3 ข้อ
1. ต้องกำจัดชาวยิวและคริสเตียรแท้(ซึ่งพวกเขาเรียกว่าคนนอกรีต)
2. ปกป้องพระของออกัสตินและโรมันคาทอลิค
3. เอาชนะเยรูซาเล็มเพื่อพระสันตะปาปา
เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งชาวยิวและคริสเตียนแท้ถูกเข่นฆ่าจำนวนมากและเยรูซาเล็มก็ตกอยู่ในมือของพวกเขา โรมันคาทอลิคไม่เคยถูกโจมตีในช่วงเวลานั้น แต่เมื่อพระสันตะปาปาทวงถามเรื่องนครเยรูซาเล็มเขาก็ต้องแปลกใจกับคำปฏิเสธ ชาวอาหรับมีกองทัพที่ประสบความสำเร็จที่เข้มแข็งที่พวกเขาไม่ถูกคุกคามจากพระสันตะปาปา – ไม่มีสิ่งใดอยู่ได้ในแผนงานของเขา

ภายใต้การควบคุมของวาราควา; มูฮัมหมัดเขียนว่า อับราฮัมได้ถวายอิชมาเอลเป็นเครื่องเผาบูชาต่อพระเจ้า แต่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเขียนว่า อิสอัคเป็นผู้ที่อับราฮัมนำไปบูชา แต่มูฮัมหมัดได้เอาชื่ออิชมาเอลใส่แทนชื่ออิสอัค จากผลของสิ่งนี้ และจากนิมิตที่มูฮัมหมัดได้รับนั้น ชาวมุสลิมจึงได้สร้างมัสยิด(Mosque); the Dome of the Rock เพื่อเป็นการให้เกียรติแด่อิชมาเอล พวกเขาสร้างสิ่งนี้ทับไปบนพระวิหารของชาวยิวที่ถูกทำลายไปในปี 70 AD ด้วยสิ่งนี้จึงทำให้เยรูซาเล็มเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งที่สองของความเชื่ออิสลาม

พระสันตะปาปารู้ว่าสิ่งที่ชาวอิสลามได้ทำนั้นอยู่นอกการควบคุมของเขา เมื่อได้ยินพวกเขาพูดว่า “His Holliness” an infidel…ชาวมุสลิมมีความุ่งมั่นในการเอาชนะโลกเพื่ออะลาห์และขณะนี้พวกเขาหันมาที่ยุโรป และทูตของอิสลามเข้าพบพระสันตะปาปา เพื่อขอเข้าบุกกลุ่มประเทศในยุโรป จึงเกิดสงครามครูเสดขึ้นเพื่อยับยั้งอิสลามไม่ให้เข้ายึดยุโรป สงครามครูเสดใช้เวลายาวนานเป็นศตวรรษ และเยรูซาเล็มได้หลุดไปจากมือของพระสันตะปาปา
ตุรกีล้มลง สเปนและโปรตุเกตะถูกบุกโดยกำลังของอิสลาม ในโปรตุเกตุเขาเรียกหมู่บ้านแห่งหนึ่งว่า “ฟาติมา(Fatima)” เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ลูกสาวของมูฮัมหมัด

*******

ทั้งศาสนาคาทอลิคและอิสลามนั้นมีความเชื่อเดียวกันที่มาจากอียิปต์โบราณเพียงแต่ใช้ชื่อพระต่างกัน

***จะเห็นว่าประเทศที่เป็นอิสลามนั้นกินพื้นที่ส่วนใหญ่ที่อัครสาวกของพระเยซูไปประกาศข่าวประเสริฐไว้ทั้งหมด

*** ประเทศอิสลามส่วนใหญ่นั้นโรมันคาทอลิคไม่ค่อยได้มีการส่งรับมิชชันนารีไป เพราะทุกอย่างเป็นไปตามแผนของโรมอยู่แล้ว

ทั้งหมดก็เพื่อนำมาซึ่งการก่อตั้งโลกเดียว (New World Order) และศาสนาเดียวในอนาคตนั่นเอง




Create Date : 27 มกราคม 2555
Last Update : 27 มกราคม 2555 12:43:02 น.
Counter : 1789 Pageviews.

คำตอบสำหรับหลายๆคน ....“จงถ่อมลง!” The Answer For Many: Get Low!"



คำตอบสำหรับหลายๆคน ....“จงถ่อมลง!”
ผมและภรรยาของผมเพิ่งเสร็จสิ้นการอธิษฐานครับ
และพระเจ้าของเราได้วางภาระหนักให้กับจิตวิญญาณของเราครับ
มีพวกคุณจำนวนมาก....
ที่จำเป็นจะต้องถ่อมตัวลงต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้า..
ไม่ใช่ว่าคุณไม่เชื่อในพระเจ้า..
ไม่ใช่ว่าคุณไม่ต้องการความรอด..
ไม่ใช่ว่าคุณไม่ต้องการพระองค์เจิมคุณด้วยพระวิญญาณของพระองค์..
มันเป็นเพียงเพราะว่าคุณ...ไม่ได้ถ่อมลงต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์..
....คุณไม่ได้กระทำตนให้ต่ำลงต่อเบื้องพระพักตร์พระองค์
คุณไม่ได้กระทำตนเองให้ว่างเปล่าจากตัวตนของคุณ....พระองค์ต้องการให้คุณถ่อมตัวลงครับ...
พระองค์บอกผมบ่อยๆครับ..บอกแล้ว..บอกอีก...ในขณะที่ผมอธิษฐาน..
ตรัสคำเดิมๆ...จงตัวถ่อมลง...จงตัวถ่อมลง..จงตัวถ่อมลง..จงตัวถ่อมลง...
พระองค์เพิ่งบอกผมครับ..ให้มาหาคุณและบอกคุณว่า..ให้ถ่อมตัวลง..
แล้วพระองค์ก็ให้ข้อพระคัมภีร์มาและผมก็อยากที่จะแบ่งปันกับคุณครับ...
เริ่มที่ ยากอบ 4 ข้อ 6..... `พระเจ้าทรงต่อสู้ผู้ที่หยิ่งจองหอง แต่ทรงประทานพระคุณแก่คนที่ใจถ่อม'
4:7 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงยอมน้อมกายต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับพญามาร และมันจะหนีไปจากท่าน
4:8 จงเข้าใกล้พระเจ้า และพระองค์จะสถิตอยู่ใกล้ท่าน คนบาปทั้งหลายเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด และคนสองใจเอ๋ย จงชำระใจของตนให้บริสุทธิ์
4:9 จงเป็นทุกข์โศกเศร้าและคร่ำครวญ จงให้การหัวเราะของตนกลับกลายเป็นการคร่ำครวญ และความปีติยินดีของตนกลับกลายเป็นความเศร้าสลด
4:10 ท่านทั้งหลายจงถ่อมตัวในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะทรงยกชูท่านขึ้น


และพระองค์ได้ตรัสในมัทธิว และลูกาว่า.. ผู้ใดจะยกตัวขึ้น ผู้นั้นจะต้องถูกเหยียดลง ผู้ใดถ่อมตัวลง ผู้นั้นจะได้รับการยกขึ้น (มธ.23:12)
แลนั่นก็...เป็นความจริงแท้แน่นอนครับ...ใครที่ต้องการเคารพนับถือตนเอง..ใครที่ต้องการให้ตนเองดูยิ่งใหญ่..ใครที่ต้องการลำพองใจ โอ้อวดตน และเป็นคนที่ชอบเย้ยหยัน..และชอบพูดจาเยาะเย้ยผู้อื่น...พวกเขาเหล่านั้นจะถูกทำให้ต่ำลง...
แต่ผู้ที่ถ่อม...ผู้ที่ไม่แสวงหาเกียรติมาสู่ตนเอง...และผู้ที่ไม่หลงตัวเองอล่างหาสาระมิได้..พวกเขาเหล่านั้นคือผู้ที่พระเจ้าจะทรงยกขึ้น...


และยังมีข้อพระคัมภีร์ที่ผมอยากจะแบ่งปันกับคุณอีกครับ...
มาจาก 2 พงศาวดาร 7 :14 "ถ้าประชาชนของเราผู้ซึ่งเขาเรียกกันโดยนามของเรานั้นจะถ่อมตัวลง และอธิษฐาน และแสวงหาหน้าของเรา และหันเสียจากทางชั่วของเขา เราก็จะฟังจากสวรรค์ และจะให้อภัยแก่บาปของเขา และจะรักษาแผ่นดินของเขาให้หาย"

พระเยซูกำลังเรียกพวกคุณให้เข้ามาหาพระองค์ครับ..
เพื่อนๆครับ...มีหลายคนในพวกคุณที่มีความรู้สึกผิดอยู่ในใจครับ..
และมีหลายคนที่รู้สึกอับอาย..
มีหลายคนที่รู้สึกแย่มากๆ..
เพราะคุณรู้ว่าชีวิตของคุณไม่อยู่ในสถานะที่มันควรจะเป็น
คุณรู้ว่าคุณไม่ได้ดำเนินชีวิตในความบริสุทธิ์
และคุณรู้ว่าคุณไม่ได้ดำเนินชีวิตในความชอบธรรม
และคุณก็รู้ว่าพระเยซูไม่พอใจในชีวิตของคุณ
เพื่อนๆครับ...พระวิญญาณบริสุทธิ์กำลังร้องเรียกพวกคุณครับ
พระวิญญาณบริสุทธิ์...พระวิญญาณของพระเจ้ากำลังดึงคุณให้เข้าไปหาพระเยซู

แต่เพื่อนๆครับ..พระองค์ต้องการให้คุณล้างมือของคุณให้สะอาด..

พระองค์ต้องการให้คุณสะอาดบริสุทธิ์ พระองค์ต้องการให้คุณร้องเรียกหาพระองค์..
พระองค์ต้องการให้คุณทำตัวให้ต่ำลง..ถ่อมตัวลงต่อพระองค์...
ร้องหาพระองค์และพูดว่า..พระเยซูเจ้าข้า..ไดโปรด....
..ได้โปรดชำระหัวใจของข้าพระองค์..ชำระจิตใจของข้าพระองค์..กระทำให้ข้าพระองค์เป็นคนใหม่..
เพื่อนๆครับ..พระองค์จะทำครับ พระองค์จะเปลี่ยนแปลงคุณครับ
พระองค์จะทำทุกอย่าให้ใหม่ในชีวิตคุณครับ
แต่..เพื่อนๆครับ...คุณไม่อาจไปต่อไปข้าหน้า..เพื่อเพียงเสแสร้งว่าคุณไม่ต้องการให้ชีวิตคุณมีการแก้ไขใดๆ...
คุณมีความจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข..และมีเพียงพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะเปลี่ยนคุณได้ครับ
ผมไม่สามารถเปลี่ยนคุณได้..และก็ไม่มีใครคนใดที่จะเปลี่ยนคุณได้เลย
ไม่มีหนังสือเล่มไหน..ไม่มีรายการโชว์ในทีวีใดที่ทำได้..
ไม่มีที่ปรึกษาที่ไหนในโลกที่จะเปลี่ยนแปลงคุณได้
มีเพียงพระวิญญาณบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะเปลี่ยนคุณได้ครับ
มีเพียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะเข้ามาและชำระล้างชีวิตคุณได้
มีเพียงไฟชนิดนี้..ไฟแห่งการเผาผลาญของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ที่จะสามารถเข้าไปข้างในและชำระหัวใจและจิตใจของคุณได้

คุณต้องเอาใจออกห่างจากการจดจ้องทุกสิ่งที่อยู่ในโลกนี้
และทุกอย่างที่เป็นของโลกครับ..
หันกลับออกจากสิ่งเหล่านั้นไปแบบ 180 องศาเลยครับ
ถ้าคุณเคยมุ่งตรงไปทางใต้ นี่เป็นเวลาที่คุณจะไปทางเหนือครับ
นี่เป็นเวลาที่จะต้องจดจ่ออยู่กับพระเยซู
เป็นเวลาที่จะหันมาหาพระเยซูและเข้ามาใกล้พระองค์
เข้าใกล้ชิดพระองค์มากยิ่งๆขึ้น..และพระองค์ก็จะเข้ามาหาคุณใกล้มายิ่งๆขึ้นเช่นกัน
และพระองค์ก็จะชำระคุณให้สะอาดบริสุทธิ์ด้วยไฟและพระองค์จะทำให้คุณเป็นคนใหม่ครับ..
พระองค์จะให้หัวใจใหม่แก่คุณ...พระองค์จะให้จิตใจใหม่แก่คุณ

พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งคุณ..แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณจะเลือกที่จะอยู่กับพระองค์หรือไม่ครับ
เพื่อนๆครับ..พระองค์จะทรงรักษาคุณครับ
พระองค์จะทำให้คุณเป็นคนใหม่
แต่คุณต้องวางใจพระองค์และวางใจในพระวจนะที่พระองค์ได้ตรัสไว้แล้ว
และต้องเชื่อพระองค์และติดตามพระองค์ในทุกๆย่างก้าวทางเดินชีวิตครับ


ผมรักคุณครับ..และขอพระเยซูอวยพระพรคุณด้วยครับ

By John & Betsy Williams


The Answer For Many: Get Low!"
My wife and I just finished praying,
And the Lord put heavily on my spirit,
That there are many of you out there,
That need to humble yourself before God.
It's not that you may not believe in the Lord.
It's not that you do not want to be saved.
It's not that you do not want Him to pour His Spirit out on you...
It's just that you are not humbling yourself before Him,
You have not got low before Him and just layed yourself down before Him.
And just emptied your SELF. He's wanting you to humble your SELF.
He was telling me over and over and over again as I was praying,
The word humble, humble, humble, humble.

He was just telling me to come to you and tell you to be humble.
And then He gave me a few scriptures that I wanted to share with you.
I actually was going to come on here with a different message,
That I may come with tomorrow.
But I just wanted to read a little bit of scripture to you,
Beginning with James 4 starting into verse 6, it says,
"...God opposes the proud, but gives grace to the humble.”
7Submit yourselves therefore to God. Resist the devil,
and he will flee from you.
8Draw near to God, and he will draw near to you.
Cleanse your hands, you sinners, and purify your hearts,
you double-minded.
9Be wretched and mourn and weep.
Let your laughter be turned to mourning and your joy to gloom.
10Humble yourselves before the Lord, and he will exalt you.
And Jesus said in the gospels His own self,
I know He said in Matthew and in Luke...
He says, "Whoever exalts himself will be humbled,
and whoever humbles himself will be exalted."
That was in Matthew 23:12
And that is so true, whoever wants to honor himself,
Whoever wants to look big, whoever wants to be all proud and boastful,
And be a mocker and a scoffer and be someone who looks high and mighty.
They will be brought low.
But those who are among the lowly,
Those who don't bring honor to themselves,
And those that don't want to bring vain attention to themselves,
Those are the one's that the Lord will exalt.
And there is one other scripture that I wanted to share with you.
It's 2 Chronicles 7:14, I know most of us have seen this before,
But it says, "If my people, which are called by my name,
shall humble themselves, and pray, and seek my face,
and turn from their wicked ways; then will I hear from heaven,
and will forgive their sin, and will heal their land."
Jesus is drawing many of you to Him.
My friend, many of you are feeling guilt.
Many of you are feeling shame.

Many of you are feeling real down,
Because you know your life is not what it's supposed to be.
You know that you're not living a life of holiness,
And you know you're not living a life of righteousness,
And you know that Jesus is not pleased with you...
My friends, the Holy Spirit is crying out to you.
The Holy Spirit, the Spirit of God is drawing you to Jesus.
But, my friends, He wants you to cleanse your hands.
He wants you to be purified, He wants you to cry out to Him.
He wants you to get down low and humble yourself to Him.
Cry out to Him and say Lord Jesus please...
Please clean my heart up, clean my mind, make me new...
My friends, He will do it, He will change you.
He will make all things new in your life.
But, my friends, you can not continue,
To just pretend that you don't need to be fixed up..
You do need to be fixed up and only the Holy Spirit can change you.
I can't change you. There is no man or woman,
There is no self help book, there's no TV show,
There's no counselor on this Earth that can change you.
Only the Holy Spirit can change you.
Only the Spirit of God can come in and cleanse you.
Only that Fire that Consuming Fire of the Spirit of God,
Can come in and purify your heart and purify your mind.

You must take your focus off of everything that is in this world,
And everything that is of this world.
Turn away from it, turn 180 degrees away from it.
If you were going South, it's time to go North.
It's time to focus on Jesus.
It's time to tune into Jesus and draw close to Him.
Draw nearer to Him and He will draw nearer to you,
And He will purify you in the fire and He will make you brand new.
He will give you a new heart. He will give you a new mind.
And everyday... Everyday you must submit to Him,
And He will help you and heal you and save your soul.
And my friends, every day you have a choice,
Whether to stay in communion with Him or to forsake Him.
He will never leave you, but it's your choice whether to stay with Him.
My friends, He will heal you.
He will make you brand new,
But you must trust Him and trust the words that He spoke,
And believe Him and follow Him every step of the way.
I love you and may Jesus bless you.

By John & Betsy Williams



Create Date : 26 มกราคม 2555
Last Update : 26 มกราคม 2555 22:01:02 น.
Counter : 2160 Pageviews.

3 comment
อยู่ในกฏแห่งบาป(Law of sin) หรืออยู่ในพระคุณ(Grace)



อยู่ในกฏแห่งบาป(Law of sin) หรืออยู่ในพระคุณ(Grace)ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกที่จะอยู่ตรงไหน....

****เมื่อทำบาปก็จะตกในบัญญัติการลงโทษบาป(Law of sin = ความบาปคือความตาย ความบาปทำให้เราถูกแยกออกจากพระเจ้า)

***แต่เมื่อเราไม่กระทำความบาป ดำเนินชีวิตในทางอันชอบธรรม เชื่อฟังและทำตามคำสอนของพระเยซูด้วยสิ้นสุดใจ เมื่อนั้นคือเราอยู่ในพระคุณ(Grace)

โรม 5 / Romans 5
พระพรแห่งความชอบธรรม
5:1 เหตุฉะนั้นเมื่อเรา เป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อแล้ว เราจึงมีสันติสุขกับพระเจ้าทางพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา



....****เป็นคนชอบธรรมเพราะความเชื่อ !!!**= ถ้าเราอยู่ใน..***ความเชื่อ(Faith) คือเดินในความเชื่อในพระเยซูอย่างแนบสนิท ดำเนินในความจริง ในความสว่าง และโดยการทรงนำของพระวิญญาณของพระเจ้า ด้วยพระเยซูเป็นทาง คือเราต้องเชื่อฟังพระองค์ทุกอย่าง นั่นหมายความว่าเราไปในทางของพระองค์จริงๆ และพระองค์เป็นความจริง และพระองค์เป็นชีวิต
(Faith = walking in the Truth, walking in The light, walking in the spirit)

The Blessings of Justification
5:1 Therefore being justified by faith, we have peace with God through our Lord Jesus Christ:

5:2 โดยทางพระองค์ เราจึงได้เข้าในร่มพระคุณที่เรายืนอยู่โดย....**ความเชื่อ..!!! และเราชื่นชมยินดีในความหวังใจว่าจะได้มีส่วนในสง่าราศีของพระเจ้า


...***เรายืนอยู่โดยความเชื่อ!!!หมายความว่าเรามั่นคงอยู่ในทางอันชอบธรรม/ทางที่แคบของพระองค์ตลอดจนลมหายใจสุดท้าย (ความเชื่อในความหมายเดียวกันกับข้างบน)


5:2 By whom also we have access by faith into this grace wherein we stand, and rejoice in hope of the glory of God.


เอเฟซัส 2 / Ephesians 2
2:8 ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดย..***พระคุณเพราะความเชื่อ...!!! และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้

..***พระคุณ (Grace) เป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เราทั้งหลายที่...***ดำเนินในความเชื่อ!!!! (Grace is the Gift of GOD!!! / FAITH =walking in the Truth, walking in The light, walking in the spirit) ;


2:8 For by grace are ye saved through faith and that not of yourselves: it is the gift of God:


โรม 14 / Romans 14
14:23 แต่ผู้ที่ยังสงสัยอยู่นั้น ถ้าเขากินก็จะถูกลงพระอาชญา เพราะเขามิได้กินด้วย..***ความเชื่อ!!!! ทั้งนี้เพราะการกระทำใดๆก็ตามที่มิได้กระทำด้วยความเชื่อก็เป็นบาปทั้งสิ้น


..*** กินด้วยความเชื่อ ...>>>>ความเชื่อในความหมายเดียวกันกับข้างบน

14:23 And he that doubteth is damned if he eat, because he eateth not of faith: for whatsoever is not of faith is sin.

..****เราจะต้องอยู่ในความจริง (Truth) ตามความเชื่อ 100% ถ้าเราไม่อยู่ในความเชื่อ(ตามความหมายข้างบน) เราก็อยู่ในกฎของการถูกลงโทษของบาป (Law of sin),และไม่ได้อยู่พระคุณ(Grace)



Create Date : 20 มกราคม 2555
Last Update : 20 มกราคม 2555 19:58:22 น.
Counter : 1849 Pageviews.

ถ้าท่านจะกราบลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน



“ถ้าท่านจะกราบลงนมัสการเรา เราจะให้สิ่งทั้งปวงเหล่านี้แก่ท่าน"( ลูกา4:7) ....พระคัมภีร์ข้อนี้ ทำให้เรารู้ว่า ซาตานมันสามารถให้ในสิ่งที่มนุษย์ต้องการได้...คือว่าไม่ใช่มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ให้ได้ แต่พระพรที่มาจากพระเจ้าไม่เจือด้วยความโศกเศร้าเหมือนของที่ซาตานให้..



สุภาษิต 10 / Proverbs 10

10:22 พระพรของพระเยโฮวาห์กระทำให้มั่งคั่ง
และพระองค์มิได้แถมความโศกเศร้าไว้ด้วย


... 10:22 The blessing of the LORD, it maketh rich,
and he addeth no sorrow with it.



ส่วนซาตานนั้นเป็นพ่อของการโกหก....สิ่งที่มันให้มานั้น มันต้องเอาคืนทั้งหมดรวมทั้งชีวิตและจิตวิญญาณด้วย เพราะซาตานมาเพื่อลักขโมย มาเพื่อฆ่าและทำลาย จุดจบของผู้ที่ไม่รู้จักพระเจ้าคือความตาย...และตายจากพระเจ้า ปลายทางของพวกเขาอยู่ที่นรก

จะเห็นว่านักร้อง นักดนตรี นักกีฬา....(สิ่งเหล่านี้เป็นรูปเคารพและเป็นการล่อลวงของซาตาน)..ที่โด่งดังทั้งหลายมักเสียชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่...

...และตัวอย่างของคนโลภ คนที่ข่มเหงผู้ด้อยกว่าจำนวนมาก แม้ร่ำรวย...แต่ก็เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงต่างๆนาๆ ต้องสิ้นเปลืองทรัพย์ไปกับการรักษาตนเอง หลายคนก็รักษาตนเองจนหมดเนื้อหมดตัวและหลังจากนั้นเขาก็ตาย...

แต่ผู้รับใช้พระเจ้าที่สัตย์ซื่อต่อพระองค์จำนวนมากที่เราเห็นตัวอย่างในพระคัมภีร์ ไม่มีใครป่วยตายซักคน...อับราฮัม..อิสยาห์...ซามูเอล...เอโนค...โนอาห์...ยาโคบ..โยเซฟ..ดาวิด..ฯลฯ

***เพราะโรคภัยต่างๆมาจากความบาป...

เพลงสดุดี 38 / Psalms 38
38:3 เพราะพระพิโรธของพระองค์จึงไม่มีความปกติในเนื้อหนังของข้าพระองค์
เพราะบาปของข้าพระองค์จึงไม่มีอนามัยในกระดูกของข้าพระองค์


38:3 There is no soundness in my flesh because of thine anger;
neither is there any rest in my bones because of my sin.


***ถ้าท่านยังมีโรคภัยรุมเร้า...แม้ยังได้รับพรในด้านอื่นอยู่...ท่านควรจะต้องสำรวจที่มั่นของท่านใหม่...ว่าท่านอยู่ในทางของพระเยซูจริงๆหรือไม่??

ขอหนุนใจพี่น้องทุกท่านที่รักในทางของพระเยซู..ขอให้ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆที่กำลังเผชิญอยู่ด้วยการพึ่งพาในอำนาจฤทธิ์เดชของพระองค์....เพื่อจะได้ดำเนินในทางที่แคบ..ทางอันชอบธรรมของพระเยซูจริงๆ อย่าเปิดโอกาสแก่มาร ขอให้เฝ้าอธิษฐานอยู่เป็นนิตย์ เอเมน





Create Date : 18 มกราคม 2555
Last Update : 18 มกราคม 2555 22:20:16 น.
Counter : 1612 Pageviews.

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog