ถ้อยคำจากพระผู้สร้าง พระผู้ทรงพระชนม์อยู่
ขอคนไทยทั้งหลายโปรดพิจารณาทางเดินแห่งชีวิตที่บรรพบุรุษของพาเราดำเนินมาตั้งแต่โบราณกาล ลองพิจารณาดูนะว่า มันมีอะไรผิดปกติอยู่หรือไม่ ถ้าทุกอย่าถูกต้องดีงามอย่างที่เราเข้าใจอยู่นั้น ทำไมวันนี้ บ้านเมืองของเราจึงอยู่ในภาวะลำบากขนาดนี้

มันมีกฎหมายแห่งจักรวาล หรือกฎหมายที่เป็นสากลที่พระผู้สร้างได้วางไว้ตั้งแต่ทรงสร้างโลก ที่ไม่มีใครสามารถละเมิดได้แม้แต่พระองค์เอง คือเมื่อมีการละเมิดกฎหมายนี้ก็จะต้องถูกทำโทษ และเมื่อผู้กระทำผิดยอมรับผิดและสารภาพความผิด ก็จะได้รับการยกโทษให้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือว่า เราทั้งหลายไม่รู้จักกฎหมายข้อนี้ เราโดยเฉพาะคนไทยส่วนใหญ่รู้จักเพียงกฎแห่งธรรมชาติ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิวเผิน แต่ความจริงนั้นลึกซึ้งยิ่งกว่าคำว่าธรรมชาติ เราที่เป็นมนุษย์ทั้งหลายนั้นเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้างมา ถ้าเรารู้จักผู้ที่สร้างเรามา เราก็จะเข้าใจในชีวิตของเราและเข้าใจแนวทางในการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง คล้ายๆกับว่าเมื่อเราจะขับรถ เราก็ศึกษาวิธีการขับและขับอย่างถูกวิธีเราก็จะไม่ประสบอุบัติเหตุ เช่นเดียวกัน ถ้าเรารู้จักวิธีที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิต เราก็จะไม่จำเป็นต้องเผชิญอุปสรรคในชีวิต เหมือนที่คนไทยส่วนใหญ่เผชิญอยู่ในขณะนี้ วิถีที่ถูกต้องนั้นไม่ใช่ภาระที่หนักอย่างที่หลายท่านคิด แต่เป็นวิถีที่เบา ไม่ใช่ศาสนาใดๆทั้งสิ้น (แม้อาจจะมีบางคนเรียกว่าเป็นศาสนาก็ตาม) เป็นความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างกับผู้ถูกสร้าง ผู้ทรงสร้างนั้นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ มีอำนาจฤทธิ์เดชเกินกว่าเราจะจินตนาการได้ เมื่อเรารู้ว่าผู้สร้างท่านสร้างเรามาอย่างไรและเพื่ออะไร แล้วเราดำเนินในวิถีที่ท่านผู้ทรงสร้างแนะให้นั้นชีวิตของเราก็ไม่ต้องสะดุดอย่างที่เราเห็นอยู่เกลื่อนกลาดทุกพื้นแผ่นดินในโลก

โปรดพิจารณาคำชี้แนะบางส่วนจากผู้ทรงสร้าง ที่มีบันทึกไว้ในพระธรรม สุภาษิต /Proverbs

19:21 ในใจของมนุษย์มีแผนงานเป็นอันมาก แต่คำปรึกษาของพระยาเวห์นั่นแหละ จะดำรงอยู่ได้
19:21 There are many devices in a man's heart; nevertheless the counsel of the LORD, that shall stand.
19:16 บุคคลที่รักษาพระบัญญัติก็รักษาชีวิตของตน บุคคลที่ดูหมิ่นมรรคาทั้งหลายของพระองค์ก็จะถึงตาย
19:16 He that keepeth the commandment keepeth his own soul; but he that despiseth his ways shall die.
19:23 ความยำเกรงพระยาเวห์นำไปสู่ชีวิต และบุคคลผู้ได้รับแล้วก็หยุดด้วยความพอใจ เขาจะไม่มีความชั่วร้ายใดๆมาเยี่ยมกรายเขา
19:23 The fear of the LORD tendeth to life: and he that hath it shall abide satisfied; he shall not be visited with evil.
14:26 ความยำเกรงพระยาเวห์ทำให้คนอยู่อย่างมั่นใจมาก ลูกหลานของเขาจะมีที่ลี้ภัย
14:26 In the fear of the LORD is strong confidence: and his children shall have a place of refuge.
15:3 พระเนตรของพระยาเวห์อยู่ในทุกแห่งหน ทรงเฝ้าดูคนชั่วและคนดี
15:3 The eyes of the LORD are in every place, beholding the evil and the good.
11:14 ที่ไหนที่ไม่มีคำแนะนำ ประชาชนก็ล้มลง แต่ในที่ซึ่งมีที่ปรึกษามากย่อมมีความปลอดภัย
11:14 Where no counsel is, the people fall: but in the multitude of counsellors there is safety.
11:28 บุคคลผู้วางใจในความมั่งคั่งของตนจะล้มละลาย แต่คนชอบธรรมจะรุ่งเรืองอย่างใบไม้เขียว
11:28 He that trusteth in his riches shall fall: but the righteous shall flourish as a branch.
11:8 คนชอบธรรมรับการช่วยเหลือให้พ้นความลำบาก และคนชั่วร้ายเข้าไปแทนที่
11:8 The righteous is delivered out of trouble, and the wicked cometh in his stead.
11:4 ความมั่งคั่งไม่อำนวยกำไรในวันทรงพระพิโรธ แต่ความชอบธรรมช่วยให้พ้นความมรณา
11:4 Riches profit not in the day of wrath: but righteousness delivereth from death
3:5 จงวางใจในพระเยโฮวาห์ด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความเข้าใจของตนเอง
3:5 Trust in the LORD with all thine heart; and lean not unto thine own understanding.
3:6 จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า และพระองค์จะทรงกระทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น
3:6 In all thy ways acknowledge him, and he shall direct thy paths.
8:34 ผู้ใดที่ฟังเราก็เป็นสุข คือเฝ้าอยู่ที่ประตูรั้วของเราทุกวัน และคอยอยู่ข้างประตูบ้านของเรา
8:34 Blessed is the man that heareth me, watching daily at my gates, waiting at the posts of my doors.
8:14 เรามีคำหารือและสติปัญญา เรามีความเข้าใจ เรามีกำลัง
8:14 Counsel is mine, and sound wisdom: I am understanding; I have strength.
9:12 ถ้าเจ้าฉลาด เจ้าก็ฉลาดเพื่อตนเอง แต่ถ้าเจ้าเยาะเย้ย เจ้าก็จะทนแต่ลำพัง
9:12 If thou be wise, thou shalt be wise for thyself: but if thou scornest, thou alone shalt bear it.
1:23 จงหันกลับเพราะคำตักเตือนของเรา ดูเถิด เราจะเทวิญญาณของเราให้เจ้า เราจะให้ถ้อยคำของเราแจ้งแก่เจ้า
1:23 Turn you at my reproof: behold, I will pour out my spirit unto you, I will make known my words unto you.
8:35 เพราะผู้ใดที่พบเราก็พบชีวิต และได้รับความพอพระทัยจากพระยาเวห์
8:35 For whoso findeth me findeth life, and shall obtain favour of the LORD.
8:36 แต่ผู้ที่พลาดขาดเราก็กระทำจิตใจตัวเองให้เจ็บ บรรดาผู้ที่เกลียดชังเราก็รักความมรณา"
8:36 But he that sinneth against me wrongeth his own soul: all they that hate me love death.

โปรดอ่านเพิ่มเติม:

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=17-11-2009&group=1&gblog=76

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=debunk&month=08-01-2010&group=1&gblog=78



Create Date : 24 ตุลาคม 2554
Last Update : 24 ตุลาคม 2554 13:59:20 น.
Counter : 1303 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Narno7
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



โยบ 38 / Job 38


38:4 เมื่อเราวางรากฐานของแผ่นดินโลกนั้น เจ้าอยู่ที่ไหน ถ้าเจ้ามีความเข้าใจก็บอกเรามา

38:4 Where wast thou when I laid the foundations of the earth? declare, if thou hast understanding.

38:7 ในเมื่อดาวรุ่งแซ่ซ้องสรรเสริญ และบรรดาบุตรชายทั้งหลายของพระเจ้าโห่ร้องด้วยความชื่นบาน

38:7 When the morning stars sang together, and all the sons of God shouted for joy


"I am a spirit that live in a body and communicate and perceive the exterior world through my soul."

"This world is not my home. I am here on a mission. Not all of children of God have or will come on this earth but I was chosen. Not all who come fulfill their mission and purpose for being here. Through the Cross of Jesus, I enter into the Kingdom of God. And as a daughter of God, my mission is to bring Heaven to earth."

New Comments
All Blog