Group Blog
 
All Blogs
 
*

ตารางการแข่งขันเวปลีกประจำฤดูกาล 2005 - 2006
นัดที่ 11 - 20
มหกรรมการฟาดฟันของเหล่านักตบลูกเด้ง-กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในเดือนหน้านี้ธาตุทอง---ซียู---พัฒนาการไลฟ์---นพรัตน์---สมายลี่---ซีเอ็ม---เด็กบางมด---พริไซส์---ม.สยามใครจะอยู่ใครจะไปกับการแข่งขัน4x4มือ--กับรูปแบบเกมส์แต้มสะสมทุกคะแนนทุกการแข่งขันมีค่า-ผมจะเก็บรวบรวมไว้เพื่อสรุปปลายปีนี้ครับหลังจากที่ตำแหน่งแชมป์ได้ว่างลงทำให้โอกาสครองแชมป์ปีนี้คงหนีไม่พ้นการขับเคี่ยวของสองทีมสุดยอดระหว่างCMกับนพรัตน์ บอกได้คำเดียวว่ามันส์แน่---และเนื่องจากหลายๆทีมที่ซุ่มซ้อมกันมาอย่างเต็มที่เตรียมตัวอย่างดี อาทิ---ทีมพัฒนาการไลฟ์เห็นบอกอัพเกรดชุดใหญ่---ส่วนทีมICUไม่ต้องบอกตอนนี้เป็นทีมรวมดาราเวปไปแล้ว(มีสมาชิกจากสมายลี่ย้ายไปถึง 4 คน รวมทั้งอาจารย์ผมด้วย)---ทีมพริไซส์ที่จะประมาทไม่ได้เลย---ทีมม.สยามที่ยังไม่มีใครเห็นฝึมือที่แท้จริงฯลฯ และยังอีกหลายทีมที่เปลี่ยนแปลงเพื่อความมันส์แบบสุดๆครับ---พวกเราคงต้องให้กำลังใจคอยชมคอยเชียร์กันต่อไปครับ


นัดที่11 วันที่ 3 กรกฏาคม_เด็กบางมด Vs พริไซส์_"คนที่คิดเพลงกระบี่ชุดนี้ ไม่เคยแพ้ใคร 13 กระบวนจึงไม่มีการตั้งรับ ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนพลิกผันไร้รูปแบบ"
การกลับมาของพวกเค้า ไม่ธรรมดาเลย ผมได้รับ แจ้งการปรับเปลี่ยน รายชื่อผู้เล่น ในทีมล่วงหน้าก่อนแล้ว หลังจากที่เช็คเมลล์เสร็จ ใจคิดว่าหรือนี่ อาจเป็นผู้เล่นตัวจริง เสียงจริง ที่พี่ป้องเคยร่ำๆ ไว้แต่ก่อน ล่าสุดยังคุยกับพี่ตุ้ม (เด็กบางมด) เรื่องนัดแข่งกับพริไซส์ ซึ่งไม่มีทีท่าหนักใจ บอกสบายๆ กลายเป็นว่าที่ง่าย กลับไม่ง่ายซะแล้ว มาดูกันว่า พริไซส์จะหาญมาหัก เด็กบางมด ถึงถิ่นได้สำเร็จ ดังแผนที่วางไว้ไหม...


พี่ตุ้ม-เกรงก้า แต่เจ้าตัวชอบเล่นสไตล์ เจโอ วอลล์เนอร์ กับความรู้สึกในนัดปะทะพริไซส์ "ทีมเราพร้อมกันเสมอ เพราะซ้อมกันบ่อย ซึ่งเห็นชุดนี้ทางพริไซส์ ตีได้ดีทุกคนครับ และยินดีมากที่ได้ตีกับยอดฝีมือทุกๆท่าน" "นัดนี้ถ้าให้พูดถึงผู้เล่นที่ชอบ น่าจะกล่าวถึงคือประ กับป้องซึ่งตีได้แน่น ตีเรียบง่ายแต่ก็เล่นด้วยไม่ง่ายเลย ส่วนประก็ตีสนุก มันส์มาก ส่วนน้องอีกคนเสื้อขาว จำชื่อไม่ได้ แต่ตีดีมากสไตล์จะคล้ายกับเหม่ง-สมายลี่ ขอบคุณครับ" เฮียล้ง ที่รักของพวกเราทุกคน กล่าวอย่างอารมณ์ดี ถึงเกมส์ในนัดนี้ ให้ฟังว่า "เด็กบางมดเป็นทีมที่มีความพร้อมเสมอ ส่วนเรื่องการจัดนักกีฬา เราก็ไม่ได้ซีเรียสไร ใครอยากลง เอ้า!ลง เพราะสิ่งที่มุ่งเน้นมากที่สุดมิใช่ผลแพ้ชนะ แต่การได้ร่วมกิจกรรมเวปลีคถือว่า แสดงถึงสปิริตของความเป็นนักกีฬา ซึ่งทีมเด็กบางมดมีเจตนารมณ์ ในแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มแล้วครับ" "เฮียชอบตีกับเจ้าประนะ คือคนอื่นน่ะแพ้ได้ ประเฮียไม่ยอม ฮ่ะ ฮ่ะ แซวกันเล่นบ่อย ส่วนถ้าถามถึงว่าตีกับใครสนุก เฮียว่า สนุกหมดเลยไม่ว่าจะเป็น ทูล อาร์ต และที่เหลือ เกมส์ของเรา เรากำหนดเองได้ สร้างรูปแบบความสนุก เพราะงั้นตีกับใคร เฮียตีได้สนุกนะ ส่วนเวปลีคก็เดินทางมาพอสมควร ปีนี้มีหน้าใหม่ทีมใหม่เกิดขึ้น อย่าลืมสิ่งหนึ่งก็คือคำว่าสปิริต ไว้มีโอกาสเฮียจะแวะไปเยี่ยมที่ตลิ่งชัน ขอบคุณครับ" เฮียล้ง กล่าวอย่างสุภาพ และทิ้งประเด็นไว้ได้ดี ทีเดียวครับ

นัดที่12 วันที่ 10 กรกฏาคม_สมายลี่ Vs พฤกษา_เพลงกระบี่ดั่งสายน้ำทะลวงใจ ถาโถมไหลหลาก แม้เพลงยุทธจะรุนแรงซักเพียงใด ก็มิอาจรู้ผลได้ในดาบเดียว
ถ้าจะเทียบเชิงชั้นกันแล้ว สมายลี่กับพฤกษานั้น เหมือนสุดยอดนักสู้ที่อยู่กันคนละเขต ยามใดได้เจอกัน ย่อมไม่มีใครยอมใคร จากสถิติปีที่แล้ว สมายลี่บุกไปถิ่นพฤกษา ก็พลาดท่าเสียทีไปหนนึง แต่กระไรนั้นเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ ตอนนี้เสือใต้ เหมือนเสือคะนองติดปีก เนื่องจากนัดที่แล้ว พวกเค้าสามารถผ่านด่านที่เรียกว่า หินที่สุดของเวปลีค นั้นคือการปะทะ กับจอมบุกซีเอ็ม (ศึกพายุกระบี่) ภายใต้การนำทีม ของเทพกระบี่อย่าง คุณจั้ม และพลพรรคจอมแกร่ง นัดนั้นโชคดีของเสือใต้ ที่มือหนึ่ง และสองของทีม ติดภาระกิจมาไม่ได้ ส่งแค่หนึ่ง-ภัทรพล ทีมทักษิณ จึงรอดมาได้หวุดหวิด มาดูฝั่งเจ้าดอกไม้ ที่ออกตัวได้ดี โดยมีผู้เล่น มือระดับอย่าง กบ-ไตรเทพ ผู้เป็นหนึ่งเดียวที่เก็บจั้ม ได้ในนัดที่สองทีมใหญ่ปะทะกัน แต่ก็ไม่สามารถช่วยทีมได้ คราวนี้พฤกษา ต้องมาพิสูจน์ ฝีมือ กับยอดทีมทักษิณ อย่างสมายลี่ คงไม่ง่ายนัก ที่เสือติดปีกจะปล่อยเหยื่อให้หลุดลอด กรงเล็บแหลมคมไปได้


ต้น-สมายลี่ ผู้มีลีลาการเสริฟเฉพาะตัว และเป็นมือเม็ดยาวหนึ่งเดียวของเสือใต้ กับความรู้สึกในวันแข่งวันนั้น "ช่วงหลังๆนี่ไม่ได้ซ้อมเลย ก็งานยุ่งๆอย่างอาทิตย์นึง ก็จะไปซ้อมได้ซักวัน เพียงแต่ว่ามีจังหวะลงได้ ก็ลงครับ เพราะเราเล่นแบบไม่ซีเรียส คือเต็มที่แค่ไหนคงแค่นั้น เอาไว้ลองฟังจากพวกตัวนักกีฬาหลักๆดีกว่า" "ประทับกับนักกีฬาพฤกษาทุกคน ทั้งที่ผมตีด้วย และไม่ได้ตี หวังว่าคงมีโอกาสสนุกแบบนี้อีกครับ" ผมเอง ผมลงเป็นมือสุดท้าย คู่กับพี่ต่อ จะมาพูดความรู้สึกบ้างครับ "สำหรับผู้เล่นพฤกษา ชุดนี้ผมไม่คุ้นครับ จะพอรู้จักจากเวปบ้างก็คุณชัย และก็คุณเด่น จัดว่าชุดนี้ที่มานี่ แข็งทุกคนและตีดีมากๆ ฝีมือใกล้กันมากในความคิดผม ถ้าเดาไม่ผิด คงเป็นชุดที่ดีที่สุดของพฤกษาเลยครับ" "จริงๆ ประทับใจนักกีฬาทุกคนของพฤกษา ค่อนข้างยิ้มแย้มแจ่มใสครับ ส่วนการแข่งนี่ให้อะไรกับเราเยอะมาก ไม่ใช่แค่ผลแพ้ชนะอย่างเดียว ชอบบรรยากาศในช่วงเวลานั้น เกมส์การแข่งในเวปลีคนี่-ถ้าคนที่เคยลงเล่น จะรู้สึกถึงความมันส์ได้ครับ---ได้มีโอกาสตีกับพี่ปิ่นเป็นครั้งแรก ชอบที่พี่เค้าแก้ทางลูกเสริฟได้ดีมากๆ และเทิร์นลูกได้หนักจริงๆ เวลาตีกับพี่ปิ่นผมจะระวังมากๆ วางบอลไปไม่ดี-หวดหายแน่นอนครับ ขอบคุณครับ"

นัดที่13 วันที่ 17 กรกฏาคม_ซีเอ็ม Vs พัฒนาการ_เหมือนจอมยุทธหนุ่ม ผู้ล่วงรู้ชะตากรรม ขอเพียงแค่ข้ามพ้น การประลองนี้ เป็นชะตาฟ้าลิขิต-ที่มิอาจแปรเปลี่ยน
เหล่านักสู้พัฒนาการฯ คงจะพร้อมรับ การมาเยือนของทีมอันดับ 1 อย่างจอมบุกซีเอ็ม แม้นจะรู้ว่ายังมิใช่ คู่ต่อกรของเทพกระบี่ก็จริง แต่ด้วยจิตใจที่มั่นคง คงต่อสู้อย่าง สุดกำลังที่จะมี ส่วนทางทีมมือบุก หลังจากพลาดท่า เจ้าเสือใต้มาในนัดก่อน เพราะขาดผู้เล่น มือพระกาฬทั้งมือ 1 และ 2 พวกเค้ารู้แล้วว่า การต่อสู้จริงๆ เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นต่างหาก เพราะหากเค้าต้องขาด กำลังสำคัญอย่าง จั้ม อีกครั้ง การต่อสู้ อาจพลิกผันได้ทันที แต่ตอนนี้เทพกระบี่หายตัวไป อย่างไร้ร่องรอย นัยว่าต้องการ ทำการณ์ใดซักอย่าง คงเหลือแต่เพียง เก่ง และหนึ่ง ที่จะพอรับมือ กับมือหนึ่งของพัฒนาการฯได้ สำหรับนัดนี้ ท่านผู้ใด อยู่ใกล้เคียงละแวก พัฒนาการ หรือสุขุมวิท น่าไปชมอย่างยิ่ง เพราะถ้าคุณจั้ม กลับมาลง ให้ซีเอ็มได้ จะได้ดูการลีลาการไล่ลูก และสเต็ปขาที่สุดยอด โดยเฉพาะการเจอกัน ของมือหนึ่งทั้งคู่ครับ


นัดที่14 วันที่ 24 กรกฏาคม_สมายลี่ Vs ไอซียู_เสือหนุ่มผู้กระหายชัย เดินทางมาถึงด่านภูผาหิมะ แม้จะเป็นเรื่องยากเพียงใด ยอดทีมเสือใต้ก็ไม่หวั่น ได้คราพิสูจน์เพลงกระบี่เดียวดายปะทะค่ายกระบี่เจ็ดดาว
ไอซียูนั้นเป็นทีมที่มีประวัติพอควร เพราะร่วมวิบากกรรมเวปลีคมาแต่ต้น
รวมเวลาปีกว่าๆแล้วที่ทีมนี้ ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆมาได้ โดย ผู้ที่เป็นมือหนึ่งของทีม
ก็คือพี่เอก-สุวัฒน์ชัยของพวกเรานี่แหละ ที่เป็นหัวใจหลักของทีมมาแต่แรก จนมา
ถึงปีนี้ครับ หลังจากที่ทำการพาสเจอร์ไรส์ทีมใหม่ ดูสดใส ร่าเริง และยังคง
ความแข็งแกร่ง ยิ่งทวีมากขึ้นกว่าเก่า เป็นทีมที่มีไอเดน(เอกลักษณ์)ชัดเจน คือ
เป็นทีมที่มีเกมส์รับยอดเยี่ยม โดยเฉพาะมือหนึ่ง(พี่เอก) นั่นคือที่มาว่าทำไม
เวลาใครได้เล่นกับพี่เอก จะเหมือนกำลังต้องข้ามภูผาหิมะ ที่ยากลำบาก หนาวเย็น
สุดขั้ว รู้สึกถึงความหมดหวัง เพราะเหนียวมาก+เสริฟดีมาก มือซ้ายต่างหาก
โอ้!พูดมาซะยาว มาดูสมาชิกค่ายกระบี่เจ็ดดาวแห่งบู๊ตึ๊งกันบ้าง อาทิ น้องนัท-เด็ก
หลักสี่ ผู้ถูกใส่ร้ายให้ลงจากเส้าหลิน โดยเจ้าตัวต้องเดินทางอย่างทุกข์ทน จนมา
เจอพ่อพระของเค้า เฒ่าทารก-สุดยอดมือออลราวด์ ลีลาสวยงามสุดๆ ผู้มีเพลง
กระบี่ที่นุ่มนวล หลายคนล้วนต้องพ่ายต่อเค้า โดยเฉพาะเพลงดวลลูกทอปถือว่า
เป็นสุดยอด หาใครเทียบได้ยากครับ จากนั้นพี่เฒ่าทารก พาน้องนัท เดินทางมาที่
สำนักเสือใต้ พบเจอศิษย์พี่หลายคน เช่น คุณDef จารย์Aotearoa และพี่ก้อย
มือซ้าย จึงชักชวนกัน ออกจากสำนักเสือใต้ เพื่อมุ่งสู่ทิศปัจฉิม ตามคำขอของ
ท่านDoDo เพื่อกอบกู้สำนักซียู(ชื่อเก่า) เอาล่ะครับ เริ่มเห็นเค้าโครงกันพอควรแล้ว
จอมยุทธทั้งหมดหารือกัน มองๆแล้วทีมยังขาดมือบุก แบบบ้าคลั่ง และมือรับตลกร้าย
จึงชักชวนน้องเบิร์ด-กต.จากสเปค และท่านGapnetจากนพรัตน์ มาเป็นกำลังเสริม
ครบแล้วทั้งหมดมีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ คือยึดมั่นการแข่งเน้นสามัคคี แพ้ชนะ อยู่ที่ใจ
แต่จากการแข่งตั้งแต่เปิดฤดูกาล ทีมบู๊ตึ๊งยังมิเคยปราชัยต่อทีมใด น่าจะเป็นชุดที่
ลงตัวที่สุดของทีม เปลี่ยนมามองทางทีมเสือใต้สมายลี่ ตอนนี้สถานการณ์
กลับสู่ปกติแล้ว ป้ายสำนักที่หักหล่นลงมา ได้ซ่อมแซมนำขึ้นไว้ที่เดิม เอ-วรวุทธ
เค้าเดินทางกลับมาสำนักแล้ว พร้อมเพลงยุทธที่แข็งแกร่งเป็นเท่าตัว น้องเหม่ง-เกษม
หายตัวไปหลายวันเริ่มกลับมาซ้อมร่วมกับหลายๆคนเหมือนเดิม พวกเราพยายาม
ที่จะลืม-นัดที่พ่ายต่อทีมเจ้าดอกไม้คารัง คราวนี้เสือใต้มาดใหม่ ขอผงาดสู่บู๊ลิ้ม
ด้วยมาดผึ่งผาย เป็นผู้ใหญ่ขึ้น แม้จะรู้ดีว่าเบื้องหลังภูผาหิมะและกระบี่เจ็ดดาว
ยังมีเงาทะมึนแห่งมารเม็ดยาวรออยู่ ช่วยติดตามเรื่องราวของพวกเราด้วย
ขอบคุณครับ
-------------------------------------------------------

เวปลีคสะท้านบู๊ลิ๊ม ตอน สองสาวสำนักมาร

เสียงคุยหยอกล้อเฮฮา ดังแว่วจนกลบเสียงอื่น บนทางแห่งความรื่นรมณ์
ชายหนุ่มทั้งสองหาใช่ใครไม่ ท่านเฒ่าทารกและท่านนัทแห่งสำนัก
บู๊ตึ๊งนั่นเอง

"เจ้านี่คอแข็งไม่หยอก ดื่มเยอะๆกลัวข้าจะแบกเจ้าไปไม่ไหว
แล้วเรื่องการประลองนัดหน้าล่ะ-นัทคิดไว้ยัง"

"พูดจริงๆเหอะตอนนี้ใครๆก็ยอมรับฝีมือของค่ายกระบี่เจ็ดดาว
ทรงอานุภาพที่สุด"

พี่เฒ่าฯกล่าวด้วยเสียงระรื่น พร้อมกับท่านนัทก็แทรก---

"เราวางแผนล่วงหน้ามานานมาก คิดว่าทางเสือใต้ก็คงไม่ได้ระวังตัว
เหมือนกัน ฮ่ะ ฮ่า"

--สีหน้าแห่งความเบิกบานปรากฏชัดแก่คนทั้งสอง--

"เจ้านัทหยุดก่อน เราโดนสะกดรอย-พวกมันมากันหลายคน"

มิทันจะสิ้นเสียงท่านเฒ่าฯ อาวุธลับก็ถูกซัดใส่ท่านนัทจนล้มลง

"เจ้านัททททท"

ยามนี้เหมือนกาลกลับตาลปัตร กลายเป็นวิกฤตที่สุด ลำพังเพลงกระบี่
ของท่านเฒ่าฯ สามารถต้านทานได้อยู่ แต่ยังมีห่วงพะวงอยู่กับร่างไร้สติ
ของน้องรัก ชายชุดดำร่วมสิบรุมฟาดฟัน กับกระบี่หนุ่มโดยมีร่างชาย
อีกคนนอนแน่นิ่งอยู่ ---เฒ่าทารกครุ่นคิดว่าถึงจะตายก็ต้องฝ่าออกไป
ให้ได้--- ทันใดนั้นเสียงอาวุธลับมีดบินปริศนา ก็แหวกอากาศลง
กลางกลุ่มชายชุดดำนั้นจนทุกคนต้องชะงักงั้น

"พวกเจ้านี่กระไร ใช้คนหมู่มาก รังแกคนน้อย ไม่ละอายใจบ้างรือ"

ใต้เงาไม้ใหญ่ ชายร่มไม้ดำคลึ้มจนเงาของมัน ปกคลุมร่างของ
เจ้าของเสียง-ผู้หลบอยู่บนต้นไม้ใหญ่ และข้างๆยังมีเงาของใคร
บางคนอยู่ ซึ่งพอดูออกว่านางทั้งสองเป็นหญิงมิใช่ชาย

"พลังตัวเบาช่างเยี่ยมยอดจริงๆ"

เสียงเฒ่าทารกรำพันในใจ เมื่อได้เห็นพลังยุทธที่ลึกล้ำของทั้งสองสาว
---ครานั้นเมื่อกลุ่มชายชุดดำเห็นท่าไม่ดี จึงแตกฮือล่าถอยไป---

"ขอบคุณแม่นางขอบคุณในการช่วยเหลือดูจากการแต่งกาย-พวกเจ้าเป็น
ศิษย์มารเม็ดยาวใช่รึไม่?"

ไม่มีเสียงตอบใด นอกจากรอยยิ้มที่ดูช่างลึกลับแต่แฝงไว้ด้วยความงดงาม

"รีบดูแผลน้องท่านดีกว่า ข้าว่าเค้าอาการไม่เบาเลย"

"เค้าโดนอาวุธลับเข็มเงิน หรือว่าคนพวกนั้นเป็นพวกบ้านนินจาส่งมา"

แม่นางน้อยอีกคน รีบชิงพูดขึ้น ---มือของท่านเฒ่าฯลูบหน้าน้องรัก
ด้วยความเป็นห่วง...เฝ้าครุ่นคิดคิดถึงเหตุผลที่พวกเค้าถูกลอบจู่โจม
ทำร้ายในครั้งนี้...



นัดที่15 วันที่ 31 กรกฏาคม_นพรัตน์ Vs ม.สยาม_ยังมิทันได้ตอบโต้ พลันปรากฏรอยฝ่ามือฟาดชีพจรขาดสะบั้น สุดยอดทีมมารเม็ดยาวจะออกเยือนยุทธภพ ใครก็อย่าคิดต่อกร ต่อให้เทพกระบี่มาก็ยังมิแน่
ทีมนพรัตน์ภายใต้การนำทีมของคุณ PimpleLover ราชันย์หมอน้อย และพี่โจ้-
มือเม็ดยาวพระกาฬ จะนำทีมนพรัตน์สู่สนามประลองของทีมม.สยาม ซึ่งแม้จะเป็น
ผู้เล่นหน้าใหม่ แต่สถิติที่ผ่านมาทีมเรือใบพิฆาต-ม.สยาม นำโดยกุนซือสมองเพชร
อย่างน้องอู๋ก็นำทีมผ่านอุปสรรคในนัดก่อนๆได้ดี เส้นทางสวยๆโรยกลีบกุหลาบ
คงต้องจบลงเพราะข้างหน้าเริ่มเห็นขวางหนามซะแล้ว แล้วก็เป็นของแข็งซะด้วย
แต่ก็ใช่ว่าเรือใบพิฆาตจะหวาดหวั่น ยังมีมือเม็ดยาวพิศดารสองท่าน เป็นอาวุธลับ
ของทีม ซึ่งก็ไม่แน่ถ้าประมาทอาจมีพลิกเกิดขึ้นได้อีกครับ
-----------------------------------------------------------

เวปลีคสะท้านบู๊ลิ๊ม ตอน ปริศนาอสูรแห่งสำนักเรือใบ

ณ.สำนักเรือใบ สายลมเย็นเริ่มพัดโปรยปราย ใบไผ่ล่วงหล่นบนพื้นทั่วไป
และปลิวว่นไปตามกระแสลม บรรยากาศภายนอกสำนักที่ดูเงียบเชียบ แตกต่าง
กับภายในโดยสิ้นเชิง ณ.ห้องโถงใหญ่ การประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียด
เหล่าผู้คุมกฏต่างฝ่ายต่างให้ความเห็น เรื่องการเดินทางมาสำนักเรือใบ
ของจอมมารเม็ดยาวนพรัตน์

"ท่านพี่อย่าลืมซิ ฝีมือของจอมมาร-ใครก็ประจักษ์ว่าลึกล้ำแค่ไหน"

เอกกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

"เราทุกคนเข้าใจ แต่เมื่อเค้าส่งสาส์นมา จำเป็นต้องรับไว้ก่อน"

พ่อบ้านอู๋ตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

"ตอนนี้ท่านพี่โอ๋ซูรากักตนฝึกวิชามารอสูรอยู่ พวกเราต้องรอ--นี่ถ้าท่านลุงเจ็ก
อยู่ล่ะก็เพลงดาบเคียวพิฆาตคงสามารถ รับมือจอมมารได้ไม่มากก็น้อย
แต่นี่ท่านจากไปตั้งแต่งานประลองเมื่อคราวที่แล้ว"

"เป้าหมายมิใช่อื่นใด หากเป็นคัมภีร์ทอตะวันของสำนักเรา ซึ่งอาเจ็กเป็น
คนเดียวที่รู้ที่ซ่อนคัมภีร์นั้น"

น้ำเสียงหนักแน่นของทันเหมือนรู้ว่าจะมีสิ่งใดเกิดขึ้น --หลังจากการประชุม
ที่เคร่งเครียดดำเนินจนจบ... พ่อบ้านอู๋จึงขอปลีกตัว เดินจากห้องโถงนั้นมา
หยุดยืนสงบนิ่งอยู่นาน-แหงนมองป้ายสำนักด้วยแววตาความกังวลยิ่งนัก

"นี่คงเป็นชะตาฟ้าลิขิตไว้ ถ้าอาจารย์ปู่ยังอยู่ละก็ สำนักเรือใบคงมิต้องตก
อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้"

-------------------------------------------------------------------
เวปลีคสะท้านบู๊ลิ้ม ตอน หลังพ่ายกระบี่เจ็ดดาว

ท่ามกลางกองไฟที่ลุกโชนตรงหน้า ยามนี้ช่างหงอยเหงายิ่งนัก ไม่มีใครชิง
ปริปากขึ้นก่อนเพียงปล่อยให้เสียงหรีดไร จั๊กจั่น ร้องคลอเสียงแห่งค่ำคืนอาดูร

"มันก็ไม่แน่หรอกกก"

เสียงใครบางคนชิงเอ่ยปากขึ้นก่อน

"พวกเราไม่ทันตั้งตัวครั้นตกในวังวนกระบี่เจ็ดดาว ก็ทำไรไม่ถูก"

"ผมก็คิดเหมือนท่านพี่ต้น"

เสียงจอมยุทธตบแปะกล่าวตามมาเหมือนจะรอจังหวะให้พูดจบก่อนอยู่แล้ว

"เราประเมินทีมบู๊ตึ๊งต่ำไป เพียงแต่มือหนึ่งของเราเท่านั้นที่ผ่านภูผาหิมะ
ได้อย่างปลอดภัย ส่วนคนอื่นล้วนเสียกำลังยุทธไปมาก แม้ผมจะผ่านมาได้
แต่ก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น "

ในใจยังคิดถึงคำพูดอาจารย์มือเก่าสนิมที่บอกก่อนจากไว้ว่า

"กลยุทธใดในหล้ารือจะสู้การรวมกำลังสู้
ด้วยหัวใจ บู๊ตึ๊งเป็นรองตั้งแต่เห็นมือหนึ่งเหม่ง-เอ-ปรากฏกายขึ้นแล้ว แต่อย่าลืม
จุดอ่อนของเสือใต้คือเป็นทีมเน้นออลราวด์ ฉะนั้นมือบุกมีแค่สอง ส่วนที่เหลือ
ดูดีๆ ทางเราได้เปรียบอยู่โข"

ความคิดชั่วแล่นผ่านเข้ามา แล้วศิษย์พี่ล่ะ พ่ายแพ้ให้กับจารย์มือเก่าก็หายตัว
ไปอย่างลึกลับ รือเค้าอาจจะเสียใจที่มิอาจในศึกการณ์นี้ รู้สึกจะตั้งใจมากด้วย

"แล้วพวกเราเอาไงต่อดีล่ะ"

เสียงศิษย์พี่ต้นถามขึ้นมาอีกครา ตบแปะไม่พูดจาใด จ้องมองไปที่กระบี่
สะท้อนภาพของตูม-ศิษย์น้องเล็กซึ่งนอนหลับ ด้วยความเหนื่อยอ่อน
ที่มุมมืดของโรงเตี้ยมนั้น


นัดที่16 วันที่ 7 สิงหาคม_คาเมน Vs ซีเอ็ม_เหตุการณ์ผ่านผัน ฟ้าใสกระจ่าง เพลงกระบี่พริ้งพราย ยอดทีมดาหน้า และการประลองที่หมู่ตึกหงษ์มังกร
ทีมคาเมนยอดทีมๆนึงของเวปลีค หลังจากล่าสุดที่ไปพ่ายแพ้ทีมพริไซส์ในนัด
ที่ผ่านมา ทำให้ต้องปรับกระบวนยุทธกันใหม่ โดยนักกีฬาตัวเก่งๆคงไม่พ้น
พี่ถนอม เฮียล้ง พี่ตุ้ม แมน และบี ฯลฯ เคยฝากผลงานที่ยอดเยี่ยมไว้ในปีที่แล้ว
ซึ่งมาปีนี้ทีมคาเมนรู้สึกจะเครื่องร้อนช้า ปล่อยโอกาสดีๆหลุดไปหลายครั้ง
โดยเฉพาะครั้งนี้ทีมที่จะมาเยือน ไม่ใช่ใครแต่เป็นสุดยอดทีมๆนึงในอันดับต้นๆ
นำทีมโดยคุณจั้ม และพลพรรคมาเพื่อประกาศศักดาว่าพวกเค้า คือที่สุดของทีม
ที่เน้นเกมส์บุกดุดันอย่างแท้จริง
--------------------------------------------------------

เวปลีคสะท้านบู๊ลิ๊ม ตอน สิบทิศทั่วหล้าประกาศิตแห่งจอมบุก

ครานี้เทพกระบี่ได้รับฟังความจากท่านหนึ่ง(พ่อบ้านพรรคจอมบุก)
ถึงกับส่ายหน้าปนความรู้สึกที่บอกไม่ถูก นัยว่าเหตุการณ์ที่สอดคล้อง
หลายสิ่งในยุทธภพ อาจต้องจบลงดังคำนายของท่านนักบวชเส้าหลินคนนั้น

"พรรคมารมาเองเลยรึ แล้วท่านราชันย์(ป๊อป-นพรัตน์)ก็มาด้วยกระนั้นรือ"

ชายผู้พูดพลางค่อยๆลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ ค่อยๆหันกลับมา พร้อมลูบเคราช้าๆ
เล่าเรื่องราวที่เกิดในครั้งก่อน

"คือสุดยอดคนหนึ่ง ที่ข้าเคยประมือกับเค้า-แต่ยังมิทันรู้ว่าเพลงกระบี่ผู้ใดจะไวกว่า
ก็พลันมีเรื่องซะก่อน..."

ยังไม่ทันจะเอ่ยเล่าความต่อ เทพกระบี่ก็กล่าวขึ้นเหมือนจะพูดกับผู้ใดอีกคน

"พวกท่านมากันหลายคน รือจะไม่ลงมาดื่มชา เล่นหมากกับข้าหน่อยรือ"

ขณะนี้บนหลังคาสำนักจอมบุก ปรากฏร่างชายชุดดำจำนวนหนึ่ง
การมาครั้งนี้ คงมิได้มาเพื่อปะมือกับเทพกระบี่ คงมาเพื่อดูลาดเลา
แต่ยังมิทันจะรู้ซึ้งว่า แค่เพียงกล้ำกลายก็เหมือนใกล้ความตายไปทุกที

"รึ ต้องให้เชิญด้วยตัวเองงงงง"

พลังราชสีห์เปล่งผ่านเพียงแค่วาจามิถึงประโยค ก็ทำให้พลังภายในอาจปั่นป่วน
ถึงชีวิตได้ ชายชุดดำต่างรู้สถานะการณ์ว่า พวกเค้ากำลังล้อเล่นกับความตายเบื้องหน้า
จึงพร้อมใจรีบจากไปก่อนที่จะเลวร้ายกว่านี้ ในขณะที่บางคนเริ่มกระอักเลือด
เพราะทนต่อกำลังภายในอันแข็งกร้าวนั้นไม่ได้

ไม่มีคำพูดใดอีก ตอนนี้เหล่าชายชุดดำต้องเอาชีวิตรอดให้เร็วที่สุด ด้วยพลังตัวเบา
โผทะยาน-จากไปรวดเร็ว เหมือนดั่งฝูงค้างคาว ที่บินกลับรังในยามใกล้รุ่ง...


นัดที่17 วันที่ 14 สิงหาคม_พัฒนาการ Vs ธาตุทอง_การหวนคืนสู่ยุทธภพ เหล่านินจา
พัฒนาการ-พลพรรคนักดาบผู้เดินทางขึ้นเขาเส้าหลิน ด้วยใจอาจหาญ

มาถึงนัดที่อาจชี้ชะตาของทั้งสองทีม คือทั้งธาตุทองและพัฒนาการ
ซึ่งช่วงชิงโอกาสการได้แต้มจากนัดนี้ โดยทีมธาตุทองนั้นค่อนข้างจะยังเงียบๆ
ในขณะที่พัฒนาการค่อนข้างฮึกเหิมในชัย คงต้องฝากความหวังไว้กับมือหนึ่ง
อย่างคุณกุ่ย และความพร้อมในการที่พวกเค้าซุ่มซ้อมมาอย่างดี
ซึ่งที่พัฒนาการเอง ก็มีโอกาสได้ต้อนรับเจ้าอาวาสเส้าหลินอย่างคุณเรียวม่า
ก็ได้ไปซ้อมที่นั่นบ่อยๆ ก็น่าจะเป็นอีกนัดที่สบายๆเพื่อนบ้านที่อยู่สนิทกัน
สรุปว่าใครเชียร์ใครเชียร์เลย เพราะคาดการณ์ดูว่าทั้งคู่ก็คงยังมีลุ้นจะได้
สามแต้มแรกของคะแนนลีคอยู่ครับ
---------------------------------------------------------

เวปลีคสะท้านบู๊ลิ้ม ตอน หมู่บ้านนินจา

...ความรู้สึกที่ชาไปหมดทั้งตัว แขนขาก็มิมีเรี่ยวแรงจะขยับเขยื้อนกาย

"เค้ารู้สึกตัวแล้วครับท่านพี่โจ้"

เสียงของใครคนนึง บอกกับอีกคนด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความเคารพ

"อือ... โชคดีจริงๆคิดว่าจะไม่รอดแล้ว คงอีกซักพักล่ะ
กว่าเค้าจะพูดคุยกับเราได้"

ชายผู้เป็นเจ้าของเสียงพูดจบ พลางรินน้ำชาใส่แก้วอย่างช้าๆ

"คนผู้นี้โชคดีจริงๆ เค้าน่าจะไม่รอด-ตั้งแต่ตอนที่เราไปพบเค้านอน
สลบอยู่ริมลำธารในป่า"

"พี่ว่าเราอย่าเพิ่งรบกวนเค้าเลย ปล่อยเค้านอนอย่างนี้ก่อนเถอะ"

น้ำชาแก้วนั้นค่อยๆถูกรินชิมอย่างช้าๆ จนหมดแก้ว -นอกจากเสียง
ของชายที่อยู่ในห้องนี้แล้ว ด้านนอกยังได้ยินเสียงของหลายคนที่กำลัง
ฝึกปรือเพลงยุทธอยู่ อยากรู้จริงๆที่นี่ที่ไหนกัน-

"พรุ่งนี้แล้วซินะ ที่เราต้องไปเส้าหลินทางนี้คงให้พวกเรา ช่วยดูแลเค้าหน่อยนะ"

ชายหนุ่มพูดจบ ค่อยๆลุกขึ้นพร้อมพากันออกจากห้องจนหมด

--คนผู้นี้เป็นใครกัน เรารู้สึกได้ถึงการก้าวย่าง ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ
กำลังภายในช่างสูงส่งยิ่งเหลือเกิน แต่ตอนนี้แม้แต่ตัวเองก็ยังช่วยเหลือ
ไม่ได้เลย- -ในความทรงจำสุดท้าย หลังจากการประลองที่บู๊ตึ๊ง
ระหว่างที่ลงเขาแต่เพียงผู้เดียว ก็ถูกกลุ่มคนชุดดำรุมทำร้าย ฟาดผ่ามือ
ใส่จนตกหน้าผาสูงโชคดีที่ด้านล่างเป็นลำธารใหญ่ พวกนั้นจึงตามมาไม่ได้
ส่วนพวกชุดดำผู้มีเพลงยุทธไม่ธรรมดา มิรู้ว่ามีจุดประสงค์ใด จึงต้องลงมือ
ทำร้ายจะห่วงก็แต่พวกเสือใต้คนอื่น ไม่รู้เป็นไงกันบ้าง---

...และแล้วความรู้สึกสุดท้าย ค่อยๆมืดหายไปพร้อม ความเหนื่อยอ่อนของร่างกาย
กลับสู่ความมืดมิดที่ลึกเกินจะหยั่งถึง อีกครั้ง...


นัดที่18 วันที่ 21 สิงหาคม_ไอซียู Vs นพรัตน์_เมื่อค่ายกระบี่เจ็ดดาวอันเลื่องชื่อ หาญกล้าต่อกรกับจอมมาร ด้วยความแข็งแกร่งและเชิงชั้นที่เหนือกว่า คงใช้พลังเม็ดยาวบดขยี้ค่ายกระบี่ให้แตกพ่ายไป...
ทีมจอมมารขึ้นชื่อชั้นก็ต้องเหนือกว่าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าไอซียูจะเป็นทีมที่หลายๆทีม
ไม่ประมาท เพราะผ่านด่านหินๆมาพอควรและทำได้ดีซะด้วย โดยผู้นำของทีม
คงไม่พ้นพี่เอก-ภูผาหิมะ ผู้มีฝีมือกล้าแข็งที่สุด รองมาก็คงเป็นสุภาพบุรุษนักตบ
น้องเฒ่าทารก เบิร์ด ก.ต. และอีกหลายคนที่ฝีมือค่อนข้างไล่เลี่ยไม่ทิ้งกันเท่าไหร่
นี่คือจุดเด่นของทีม ส่วนทีมของจอมราชันย์ป๊อปซึ่งทุกมือล้วนแข็งโป๊ก ไม่ว่าจะ
พี่พจน์ พี่โจ้ พี่เอก และพี่ป๊อป นี่ยังไม่หมดยังมีความอำมหิตใหม่เกิดขึ้นอีก
นั่นคือคุณปิ๊ก เม็ดยาวตัวใหม่ที่เพิ่งอิมพอร์ตตรงมาเพื่อทีมจอมมารโดยแน่แท้
งานนี้ผลคงบอกได้ไม่ยาก ยกเว้นทีมไอซียู จะมีผู้เล่นทุกคนที่แข็งแกร่งเหมือน
พี่เอกมือหนึ่งของเค้า นั่นแหละทีมจอมมารถึงจะหนาวล่ะ...
---------------------------------------------------------

เวปลีคสะท้านบู๊ลิ๊ม ตอน สิบทิศทั่วหล้าประกาศิตแห่งจอมบุก (ตอน 2)

สายน้ำระลอกคลื่น ตวัดเกลียวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามกระแสแห่งธารธารา ณ. เบื้องบนผิวน้ำ
เรือลำน้อยล่องลอย เหมือนกับใบไม้น้อยที่ปลิดปลิวตามสายลม ยามเช้าดวงอรุณทอแสงสดใส
กระทบผิวน้ำให้ช่ำใจยิ่ง บนเรือลำน้อยยังมีเหล่าจอมยุทธผู้กล้าร่วมเดินทาง นำโดยท่านอาจารย์มือเก่า
ตบแปะ ตูม-ซีเอส หนุ่ม-นินจา และหลวงจีนน็อต แห่งเส้าหลิน

วงสรวญเสเฮฮา สำราญใจยิ่ง พลันคำถามนึงออกจากปากของผู้นึงในกลุ่มสนทนานั้น

"จารย์"

"ทำไมเค้าถึงเรียกเทพกระบี่ล่ะ เค้าไม่มีชื่อจริงรึไง แล้วพลังยุทธของเค้าล่ะ? ข้าใคร่อยากรู้มานานแล้ว"

เจ้าตูม-ซีเอส ถามท่านจารย์หนิมอย่างสงสัยใคร่รู้ พลางหันไปมองเห็น
หลวงพี่น็อต อมยิ้มในคำถามเหมือนตัวเองก็รู้ซึ้งดีในคำตอบนั้น...

"สิบปีมานี่ เค้าไม่เคยต้องชักกระบี่เลย"

"จำได้ว่าข้าเอง ได้ประจักษ์กับสายตาตอนนั้น... ณ. สำนักบู๊ตึ๊ง ในการประลองหนึ่งในใต้หล้าเพื่อชิง
คัมภีร์ทอตะวัน"

ภาพความหลังพรั่งพรูจากจารย์หนิม เหมือนเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง

"ตอนนั้น ยอดฝีมือมากมายต่างก็หมายปองในคัมภีร์วิเศษ ต่างก็เดินทางขึ้นเขาเพื่อประลองยุทธ
เทพกระบี่ฝีมือล้ำเลิศ แม้แต่เพลงดาบคู่พายุแห่งถ้ำเสือ ฝ่ามืออรหันต์เส้าหลิน มีดบินมรณะบ้านนินจา
เม็ดอสูรสุราสำนักเรือใบ หรือแม้แต่จอมพิษฮาวเอี้ยงแห่งสำนักพฤกษา ที่กักตนฝึกยุทธมานานปี
ก็มิสามารถสยบเค้าได้"

จารย์หนิมกล่าวพลางลูบเครา อย่างอารมณ์ดี พร้อมกล่าวต่อว่า

"ในตอนนั้น-พวกเราทุกคนล้วนรู้ตัวดีว่าควรปะมือหรือไม่ ด้วยความหยิ่งทะนง เทพกระบี่ยังคงรอคอย
ท่านจอมมารเพื่อพิสูจน์ว่าใครคือสุดยอดฝีมือที่แท้จริง-ซึ่งจริงๆแล้ว คัมภีร์วิเศษนั้นก็ควรจะเป็นของเค้า
แล้วในตอนนั้น"

ตบแปะนั่งฟังนิ่ง นึกถึงวันนั้นที่เสือใต้บุกไปพ่ายบู๊ตึ๊ง ส่วนตัวได้เห็นพลังยุทธจอมราชันย์นพรัตน์ว่าสุดยอด
ถึงเพียงไร แต่สำหรับเทพกระบี่ กับจอมมารนั้นก็ยังเหนือกว่าที่เค้าคาดคิดไว้ยิ่งนัก

"เทพกระบี่เงยหน้ามองท้องฟ้า สีหน้าเค้าไม่ยินดีกับการประลอง เพราะจอมมารนพรัตน์เท่านั้นที่คู่ควรปะมือ
และเมื่อถึงตอนนี้ ก็ยังมิได้เห็นเค้าปรากฏตัวแต่อย่างใด"

เสียงกล่าวอย่างใคร่ไม่สบอารมณ์ ดังกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณ...

"ทำไมท่านจึงไม่ปรากฏกายออกมา เมื่อท่านไม่มาจะมีประโยชน์อันใดสำหรับข้า"

จอมกระบี่ที่เกรียงไกรที่สุด กำลังจะเดินจากไปโดยมิสนใจที่จะนำคัมภีร์ไปด้วย


(โปรดติดตามตอนต่อไป)...


นัดที่19 วันที่ 28 สิงหาคม_ม.สยาม Vs พฤกษา12_เพลงกระบี่บุปผาในครานี้ อานุภาพรุนแรง ยากเกินกว่าที่ใครจะหยุดยั้งพวกเค้าไว้ได้
แล้วคราวนี้อีกเช่นกัน การประลองกับสำนักเรือใบค่ายกลเพลงเม็ดพิศดารและแผนที่แยบยลกว่า

กับการมาเยือนของทีมเจ้าดอกไม้ ซึ่งสำหรับชาวสมายลี่ที่ได้เจอะเจอมา กลับกลายเป็นดอกไม้พิษ
ที่ไร้สีไร้กลิ่น ด้วยการวางตัวที่ค่อนข้างสมดุลฝีมือไล่เลี่ยกันทั้งทีม ซึ่งเป็นการยากจริงๆในกรณีลักษณะ
ที่เจอทีมที่มีมือฝีมือไม่ห่างกันมากแบบนี้ จะมีทั้งข้อดีและเสียแตกต่างกันไป และถ้าเกมส์ออกมาตามที่
เคยเจอกับสมายลี่ก็น่ากลัวสำหรับทีมเรือใบที่ต้องต้านทานกันสุดๆ ประมาทแม้แต่มือเดียวไม่ได้เลย
ส่วนทางฝั่งม.สยาม หลังจากผ่านความน่ากลัวสุดๆมาในนัดก่อน พวกเค้าย่อมจะรู้ดีว่าในยุทธภพที่
กว้างใหญ่เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า หลังพบความพ่ายแพ้ย่อมทำให้กำลังใจพวกเค้ารวมกันมากขึ้น
นัดนี้ให้โฟกัสที่ไปที่เม็ดอสูร(พี่โอ๋ ซูราซากิ)และจอมเคียวพิฆาต(อาเจ็กวิรัช) ระหว่างความเก๋ากับ
ความสดของมือกระบี่หนุ่มแห่งทีมพฤกษา ที่ใครๆก็กระพริบตาไม่ได้แม้สักนิดเดียวครับ

---------------------------------------------------------------------------

ตอน สิบทิศทั่วหล้าประกาศิตแห่งจอมบุก (ตอน 3)

"จอมกระบี่ที่เกรียงไกรที่สุด กำลังจะเดินจากไปโดยมิสนใจที่จะนำคัมภีร์ไปด้วย"

มิมีเสียงใด ทุกคนบนเรือน้อยใจจดจ่อ อยู่กับเรื่องราวในอดีตเหมือนดั่งต้องมนต์สะกด
ฝูงนกนางนวล ฝูงน้อยบินล้อเกลียวคลื่นอยู่ด้านข้าง เหมือนมันเองก็อยากมีส่วนร่วม
รับรู้เรื่องราวที่เกิดในครานั้น

"ตอนนั้นน่ะ ทุกคนก็คิดเหมือนกันว่า ในเมื่อเทพกระบี่ไม่สนใจคัมภีร์วิเศษ ชาวยุทธอาจต่อสู้แย่งชิง
จนมีเหตุให้ล้มตายเกิดขึ้นได้"

หมอกควันขาวปรากฏขึ้น เหมือนจะเป็นควันพิษแต่มิใช่ เบื้องหน้าเทพกระบี่พลันปรากฏ
เหล่านักพรตแห่งบู๊ตึ๊ง ด้วยพวกเค้าเพียงคิดว่าคัมภีร์ควรถูกดูแลโดยบู๊ตึ๊ง จะได้มิมีการต้องหลั่งเลือดใดๆ
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก่อนอื่นใด พวกเค้าต้องหยุดเทพกระบี่ก่อน

"ข้าเองก็เป็นหนึ่งในค่ายกระบี่เจ็ดดาว"

จารย์หนิมพูด และหยุดยาวเหมือนจะทบทวนเรื่องราวบางอย่างที่เกิดขึ้น พลางรินน้ำชาอย่างช้าๆ

"เทพกระบี่ ในครานั้นเค้าไม่แสดงสีหน้าอารมณ์ใด คงเพราะอยากปะมือแต่จอมมารเพียงผู้เดียว"

การก้าวย่างที่เหมือนล่องลอย เอ่ยเพียงวาจาสั้นๆแค่

"พวกเจ้าคิดว่าจะหยุดข้าก็เชิญ เข้ามาพร้อมๆกันนั่นแหละ"

"ในวันนั้นจำได้ว่า เป็นวันสุดท้ายที่เค้าแสดงเพลงยุทธที่ล้ำเลิศ เค้าก้าวย่างผ่านด่านกระบี่ที่แข็งแกร่งสุด
ด้วยพลังภายในสุดยอด พวกเราเหมือนถูกสะกดให้หยุดนิ่ง ช่วงเพียงเวลาอึดใจสำหรับผู้อื่น
กลับเหมือนผ่านไปอย่างนานแสนนาน สำหรับพวกเราแล้ว-การต่อสู้ครั้งนั้นเหมือนการคิดผิดอย่างมหันต์"

จารย์หนิมกล่าวพร้อมรีบจิบน้ำชา ด้วยกลัวว่ามันจะชืดเย็นเสียก่อน

"ทำไมไม่ฟันเค้าเลยล่ะครับจารย์"

เสียงตูม-ซีเอสกล่าวถามอย่างสงสัย ตามประสาเด็กช่างเจรจาทั่วไป ทุกคนในวงสนทนามองหน้าเจ้าของคำถาม
แล้วค่อยๆหันกลับไปฟังจารย์หนิมเล่าต่อ

"เทพกระบี่นั้นมองออกตั้งแต่แรกว่าแท้จริงๆแล้ว จุดแข็งที่สุดของค่ายกระบี่ กลับเป็นจุดที่อ่อนที่สุดเพียงแค่ต้องมี
พลังยุทธที่ถึงขั้นแค่นั้น"

"ตอนนั้นเค้าอยู่ที่จุดศูนย์กลางของค่าย แทนที่เราจะสยบเค้าได้จากทุกทิศทาง..."

"ล้อมไว้ทั้งเจ็ดทิศ ใครจะรอด"-เสียงของท่านหนุ่มจากบ้านนินจา พรึมพร่ำในลำคอ

"ข้าเองจำได้ว่า ณ เสี้ยววินาทีนั้น-พวกเราเหมือนถูกสะกดด้วยสิ่งใดซักอย่าง แม้แต่เศษฝุ่นที่ลอยคว้างก็เหมือน
จะเป็นแค่ภาพที่เคลื่อนที่ช้าๆ สิ่งเดียวที่พวกเรารู้สึกเหมือนกัน คือความเร็วของเทพกระบี่ที่ว่องไวเกินคำบรรยาย
อาจเป็นเพราะกำลังภายในของเค้า สูงส่งกว่าพวกเรายิ่งนัก"

เร็วแค่ไหนครับ-ท่านอาจารย์ ตบแปะกล่าวถามแทนความใคร่รู้ของเพื่อนๆ
ครานั้นท่านจารย์หนิม ยิ้มที่มุมปากนิดนึงแทนคำตอบที่หลายๆคนอาจไม่เชื่อ...

"แทบจะเห็นเงาเทพกระบี่แยกออกเป็นเจ็ดร่าง ชั่วเวลาแค่พริบตา เค้าสะกัดจุดพวกเราพร้อมกัน แม้แต่คมกระบี่ของเค้า
พวกเรายังมิมีบารมีได้ยล นับว่าค่ายเจ็ดดาวของอาจารย์ปู่ซางฟงพ่ายแพ้มิเป็นท่า"

"ดีที่เค้ายังมิคิด ถึงขั้นเอาชีวิตพวกเรา"

"พลังอะไร? แค่ดรรชนีเดียว-ค่ายกระบี่ถึงกับพ่ายไม่เป็นท่า"

แม้จะนึกยังไง ตบแปะก็ยังจินตนาการไม่ถึง นอกจากจะได้ดูด้วยตาตัวเอง

"ตอนนั้นอาตมาเองก็อยู่ด้วย ท่านใต้ซือเรียวม่ายังกล่าวให้ฟังว่า พลังยุทธของเทพกระบี่ลึกล้ำ ฝึกเข้าขั้นที่เรียกว่า
กระบี่อยู่ที่ใจ หลอมใจกับกระบี่เป็นหนึ่งเดียว"

"แม้จะไม่ได้ใช้เพลงกระบี่ แต่ด้วยพลังภายในที่กล้าแข็ง เทพกระบี่ปลดปล่อยพลังยุทธออกมาทั่วร่าง เหมือนเกราะป้องกัน
รวมทั้งวิ่งเป็นกระแสเข้าจู่โจมคู่ต่อสู้ได้ รวมทั้งวิชาพลังตัวเบาที่จัดว่าเป็นที่หนึ่งในยุทธภพ"

"ตอนนั้นท่านเรียวม่ายังมิได้เป็นเจ้าอาวาส รวมทั้งอาตมาเองก็ยังไม่ประสาวรยุทธซักเท่าไร
เรื่องราวรวมถึงเคล็ดวิชาของเทพกระบี่ ถ่ายทอดมาจากท่านเจ้าอาวาสคนก่อนซึ่งเคยได้ประมือ
กับเทพกระบี่ครั้งนึง ด้วยคราวนั้นเค้าเป็นจอมยุทธหนุ่มผู้คลั่งไคล้วรยุทธ เดินทางมาเพื่อนมัสการ
พระธาตุที่เส้าหลิน และมีโอกาสพูดคุยเรื่องวรยุทธกับเจ้าอาวาสวัดขณะนั้น"

หลวงพี่น็อตเส้าหลิน เล่าเสริมต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น

"ต่อจากนั้นล่ะครับจารย์ ทำไมนิ่งล่ะ เล่าต่อซิกำลังหนุกเลยครับ"

ศิษย์น้องเล็กเร่งเร้าจารย์ให้เล่าต่อ เพราะเค้ายังเด็กและก็มิได้รับรู้เรื่องพวกนี้มาก่อน

"แล้วเทพกระบี่ก็จากไป โดยมิได้นำคัมภีร์ทอตะวันกลับไป เก็บตัวซุ่มเงียบ-มีเรื่องเล่าขานกันต่อมาว่า
เค้าเสียใจที่มิได้ประลองกับจอมมารนพรัตน์ในวันนั้น และก็มิได้ประเพลงกระบี่กับผู้ใดอีกเลย"

"เหตุผลง่ายๆ"

"มิมีผู้ใดคู่ควร" ตบแปะกล่าวเสริมขึ้น แม้ไม่ค่อยเข้าใจหลายอย่าง แต่ก็มีบ้างล่ะที่เค้าพอจะเดาได้

(ยังไม่จบนะครับ--โปรดติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้ครับ)

------------------------------------------------------------------------------


นัดที่20 วันที่ 4 กันยายน_ธาตุทอง Vs พริไซส์_เพลงหมัดอรหันต์อันเลื่องชื่อ ถึงคราวกอบกู้เส้าหลินเสียที ระดมหลวงจีนสู้ศึก-สกัดจุดพริไซส์มิให้เคลื่อนไหวได้อีก
เป็นคู่ที่มียอดฝีมือคับทีม ดูๆแล้วเหมือนจะนักกีฬาโดยสายเลือดด้วยกันทั้งสองทีม คงจะเป็นอีกนัดที่
ทั้งสองทีมค่อนข้างสูสีคู่คี่ มองยากว่าใครจะได้เปรียบใครครับ ทีมธาตุทองของเรียวม่าซึ่งเป็นทีมที่
อยู่กับเวปลีคตั้งแต่ปีที่แล้ว จวบจนปีนี้ตั้งแต่แข่งมายังไม่ได้ชัยเลย (คงต้องไปลุ้นกับคาเมนอีกทีมนึง
ซึ่งปีนี้เครื่องร้อนช้ามากกก ว่าใครจะเป็นผู้เก็บชัยได้สามแต้มก่อนกัน) แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรขอให้เต็มที่ล่ะกัน เพราะเรื่องสำคัญมิใช่อยู่ที่แค่ผลแพ้ชนะอย่างเดียวครับ


ข้อมูลการแข่งขัน นัดที่ 1-10
ข้อมูลการแข่งขัน นัดที่ 11-20
กลับไปหน้าเวปลีค หน้าหลัก


Create Date : 07 กันยายน 2548
Last Update : 7 ธันวาคม 2548 9:57:43 น. 0 comments
Counter : 383 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

debar
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add debar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.