|
เซี่ยงไฮ้ แล้วเราก็ได้รู้จักกัน (ตอน ชา ยาหม่อง และชีพจรที่มือขวา)
ชา ยาหม่อง และชีพจรที่มือขวา
ถึงอายุอานามของพวกพี่ๆผู้ร่วมทางจะไม่ได้เยอะแยะ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะปวดข้อปวดกระดูก เพราะตั้งแต่ลงเครื่องบินมาก็ได้แต่เดิน เดินละเบียด เบียดและเดิน พอขึ้นรถได้เลยหลับ แต่อีกปุ๊บปั๊บก็ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงอาเหวินว่า ถึงแล้ว....
อาคารเบื้องหน้าไม่ได้บอกสัญชาติว่าเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ไหนและของชาติอะไร เพราะมันธรรมดา ดาษดื่น เงียบเชียบไม่เหมือนที่ที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วยซ้ำ ผู้นำทางของเราบอกว่าที่นี่คือห้างขายยาสารพัดโรคตามตำราแพทย์แผนแมะ แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันเป็นห้างขายยาที่กดตรงไหนป่วยตรงนั้นมากกว่า พวกเราเข้าไปนั่งในห้องที่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นยาหม่อง นั่งสักพักมีนักเรียนการแพทย์วัยรุ่นในห้างขายยาหน้าตี๋หอบกะละมังน้ำร้อนและยานวดเข้ามา ฉันเกรงใจกลิ่นเท้าของตัวเองมาก แต่ก็ตัดใจว่าเอาเหอะ เผื่อคนเซี่ยงไฮ้อาจจะไม่คุ้นกลิ่นเท้าแถวเมืองไทย หรือหากจะคุ้น เค้าคงบ่นเหม็นเป็นภาษาที่เราฟังไม่ออก ว่าแล้วก็ถอดถุงเท้า เอาเท้าแช่น้ำร้อน หนุ่มตี๋นวดเท้าให้และถามเป็นภาษาไทย ไม่ชัดมากว่าเบาๆหรือหนักๆ ฉันยิ้มให้และบอกไปว่า เบาๆก็พอ ระหว่างเข้าคอร์สนวดเท้า ก็มีผู้หญิงหมวยเข้ามาแนะนำตัวและแนะนำผลิตภัณฑ์ เธอเป็นคนจีนที่พูดภาษาไทยชัดมากอีกแล้ว ขอขีดเส้นใต้คำว่ามากและลากกอไก่เพิ่มยาวๆด้วย ยาดืที่เธอขนเข้ามามีบัวหิมะอันเลื่องชื่อ ชะมดเช็ด(คล้ายๆยาหม่องน้ำเซียวเพียวอิ๊ว) และยาต่างๆนานาอะไรอีกหลายอย่างที่มันเกินความสามารถของสมองและความงัวเงียขณะนั้นจะอดทนจำไหว ฟังคุณสมบัติยาไปสัก 2 รายการ คุณหมอก็เดินเข้ามาเหมือนมี Back Stage จัดฉากและเวลาไว้รอแล้ว
คุณหมอเลือกนั่งตรงหน้าคนที่เขาคิดว่าน่าจะป่วย ฉันว่าเขาเลือกเพราะคุณหมอไม่ได้เข้ามาเยอะ และไม่ได้ตรวจชีพจรให้คนไข้ทุกคน คุณหมอ1คนมากับล่าม1 คน ทันทีที่จับชีพพรหรือที่เราเรียกว่า แมะ ล่ามของหมอก็จะแปลอาการที่หมอฟังได้จากเสียงชีพจรของเรา หลังจากนั้นก็เป็นการนำเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ตัวต่อๆไป ฉันจำไม่ได้ว่ากี่ตัว เพราะหลับตั้งแต่ที่คุณหมอเดินเข้ามาและน้องหน้าตี๋เขาก็นวดได้เบาๆดีเหลือเกิน
ไกด์ของเราบอกว่าที่นี่ไม่เสียค่านวด ถ้าจะให้ต้องมุบมิบแอบใส่มือกันและกัน ตลกดีเหมือนกันเพราะฉันก็เพิ่งเคยทำ แบงค์ 10 หยวนที่ฉันพับจนยับย่นถูกยัดใส่มือน้องชายหน้าตี๋คนที่มอบความสบายสู่ปลายเท้าของฉัน หลังจากใส่ถุงเท้าเสร็จ เราทั้งหมดถูกนำทางไปที่ห้องชงชา ที่นี่ก็เหมือนที่นั่น แค่เปลี่ยนจากยาเป็นชาจีน คือมีคนมาสาธิตวิธีการและเอาชาให้ชิม ชิมเสร็จก็เข้าสู่การตลาด แต่ไม่รู้ว่าไม่ถูกปากหรือว่ารูดบัตรจ่ายค่ายาจากห้องเมื่อกี้มาเลยไม่มีใครจ่ายค่าชากันสักแดงเดียว
ออกจากห้างขายยาจำชื่อไม่ได้แห่งนี้ก็เป็นเวลาบ่ายแก่ ได้เวลาแล้วที่จะต้องไปชมหน้าตาห้องพักสำหรับคืนนี้เสียที เพราะเอาเข้าจริงความเมื่อยล้าไม่ได้หยุดลงแค่นี้ วันแรกที่เซี่ยงไฮ้ยังเหลืออะไรให้เราดูอีกเยอะ
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2553 21:43:21 น. |
|
1 comments
|
Counter : 517 Pageviews. |
|
|
|
โดย: MaFiaVza วันที่: 7 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:15:21 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|