น่ารักบางที น่าตีบางหน หน้าตาเหมือนคน ซุกซนเหมือนลิง ^___^
 

เสียดายของ

เปิดไปเว็บต่างๆของทอมดี้ สินค้าที่เห็นเป็นประจำคือเสื้อรัดหน้าอก
ทอมไม่ชอบหน้าอกตัวเอง เหมือนกะเทยไม่ชอบจู๋ตัวเอง
รู้สึกว่าเป็นส่วนเกิน อยากตัดออกนัก ขอแสดงความคิดเห็นซะหน่อย
ในฐานะของคนที่ก็เคยไม่ชอบนมตัวเองเหมือนกัน รู้ไหมว่านมน่ะมันน่ารักขนาดไหน?

นมเล็ก นมใหญ่ นมเด็ก นมผู้ใหญ่มันก็น่ารักทั้งนั้น เหมือนกับที่ทอมทั้งหลายก็ชอบนมนั่นแหละ
ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่า … เหมือนกับว่ามันมาเกิดผิดที่ใช่ไหม
………
ของมันก็ของเราเอง แต่ว่าไม่ชอบซะงั้น
ใครบอกเธอเหรอว่าทอมมีนมไม่ได้ ไปถูกใครเค้าหลอกมา
แล้วใครบอกเธอเหรอว่าทอมมีนมแล้วไม่สวย ไม่น่ารัก หรือแม้กระทั่งไม่แมน ฮะ?
………..

ความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเอง ก็เป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ เคยคิดบ้างไหม
มันไม่ได้เกิดมาเองโดยอัตโนมัติ เกิดมาเป็นเพศทอมแล้วจะต้องเกลียดนมตัวเองปุ๊ป แบบนั้นมันไม่ใช่….


แบบเดียวเลย แบบเดียวกับที่ว่า เกิดเป็นผู้หญิงแล้วก็ต้องชอบผู้ชายโดยอัตโนมัติน่ะ มันไม่ใช่ใช่ไหมล่ะ นั่นไง ทีงี้ล่ะ เข้าใจง่ายนะ
ความรู้สึกเกี่ยวกับตัวเราเองในฐานะที่เป็นเพศเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้ทั้งสิ้น
มันเหมือนเป็นความทรงจำร่วมของคนในแต่ละยุคสมัย ให้ความหมายสืบทอดกันมา แล้วก็ผิดเพี้ยนแตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัยตามปัจจัยมากมาย

ทอมยุคโบราณก็โขลนนั่นไง เขาก็ยังมีนมกัน
ถามว่าท่าทีแบบเป็นทอมน่ะ เป็นสิ่งที่ติดตัวมาแต่เกิดเหรอ
นิ้วเขาใช้ทำอะไรบ้างมันรู้มาตั้งแต่เกิดเหรอ ก็เรียน ก็สอน ก็ฝึก ก็ตามๆ กันมานั่นแหละว้า….

ความรู้สึกไม่ภูมิใจในตัวเองเป็นสิ่งที่อันตรายมาก
มันบอกว่าเราไม่ดีพอ มันบอกว่าเราไม่ดีเท่าเขาอื่น
มันบอกให้เราตะเกียกตะกาย ทำอะไรต่ออะไรกับชีวิตตนเอง เพื่อให้กลายเป็นสิ่งที่ดี น่านิยม ในสายตาคนอื่น


แน่ะ!!! ยังเถียงว่าเราให้ค่ามันเองเหรอ???

งั้นตอบได้ไหมทำไมทอมถึงไม่ชอบมีหน้าอกกัน ทั่วๆไปถ้าบอกว่าตัวเองเป็นทอมแล้ว ไอ้เจ้านมนี่มันจะต้องกลายเป็นส่วนเกินไปทีเดียว ถ้าเกิดพอใจนมของตัวเองแล้ว บางคนก็เลยเรียกตัวเองเป็นเลสเบี้ยน พอผมยาว ชอบทอม ก็เรียกตัวเองเป็นดี้ไปเสียฉิบ

คำเรียกพวกนี้ ก็หลอกพวกเรากันเอง เหมือนกับที่หลอกเราเรื่องความเป็นผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละ มันไม่มีจริงทั้งนั้น เพราะมันเป็นสิ่งสร้างโดยสังคม

หน้าอกที่ถูกรัด มันไม่ค่อยอยากเจริญเติบโต
หรือมันอาจจะอยากโต ไม่มีที่ให้ไป มันจะสบายเหรอ หายใจไม่ออก …
น่าสงสารหัวนมเล็กๆ สองอันเสียจริงเชียว…

รักตัวเอง ไม่ต้องกลัวเราเป็นทอมปลอมๆ หรอก
เพราะเราเป็นเราแท้ๆ และถ้าเราเป็นทอม เราก็เป็นทอมแท้ๆ เฟ้ย!!
โดยไม่ต้องมีใครมาบอก ข้านี่แหละ กำหนดตัว
.......



Credit : //supecha.wordpress.com/




 

Create Date : 01 มีนาคม 2555    
Last Update : 1 มีนาคม 2555 23:32:49 น.
Counter : 738 Pageviews.  

ความรู้สึก..ไม่เกี่ยวกับเป็นเพศไหน.

คนทั่วไปชอบมองพวกเราว่า ชอบความรุนแรง เป็นภาพในแง่ลบ
ที่คนอ่อนโยนบางคน โดนร่างแหแห่งภาพลบนี้ไปด้วย…..

ในความเป็นเพศที่พิเศษนี้ มีความพิเศษอยู่ในกลุ่มหนึ่ง
ที่รู้จักตัวเองในสิ่งที่ตัวเองเป็น แต่ในบางกลุ่ม

บางคน ยังสับสนในสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่..ไม่รู้จะเดินไปทางซ้าย หรือขวา เรียกตัวเองว่าเป็นทอม เป็นดี้ ทั้งที่จริงๆก็แค่ เพศที่รักเพศเดียวกัน..

ในกลุ่มพวกอ่อนโยน มักทำตัวสบายๆ ไม่แสดงออกโจ่งแจ้ง ไม่ฝืนตัวเองในการเป็นอะไร สักอย่าง

แต่อีกกลุ่มอยากจะเรียก ว่า กลุ่มแข็งแรง มักทำตัวชัดเจนในแบบที่ผู้ชายจะทำ ..กลุ่มนี้เอง ที่มีภาพลบ ในความคิดของใครๆ..
เพราะจะแต่งกายแบบผู้ชาย ทำตัวแบบผู้ชายทำ…ทั้งที่นั่นคือการฝืน..ฝืนโดยสภาพของร่ายกายที่ไม่เอื้อต่อการทำแบบนั้น..

มีหลายคน ที่ไม่ยอมใส่ยกทรง ไม่นุ่งกางเกงในผู้หญิง แต่นุ่งกางเกงในของผู้ชาย ..ยังไม่อยากกล่าวถึงการนิยมสูบบุหรี่ และดื่มเหล้า
ทั้งที่ด้วยสภาพของร่างกาย ต้องใส่แบบที่ร่างกายเอื้อ อำนวยให้ใส่ ต้องดูแลร่างกายในสภาพที่ควรดูแล ร่างของเรา เราต้องดูแลแบบที่ควรจะดูแล …อย่าฝืนร่างกายในทางที่ไม่สมควร..

บางกลุ่มอาจถูกกดดัน ด้วยสภาพร่างกายนี่เอง ที่เหมือนปมอยู่ในใจ ..
รักมาก แค้นมาก และมักเป็นข่าวในทางลบ…เมื่อแฟนตีจาก เมื่อแฟนไปรักผู้ชายแท้ๆ…จ ะรู้สึกโทษร่างกายตัวเองที่อาจไม่เอื้อต่ออะไรสักอย่าง
ทั้งที่ความจริงแล้ว การที่ใครจะรักใครสักคน ไม่เกี่ยวกับเพศ..ไม่เกี่ยวกับร่างกายเป็นแบบไหน เป็นเพศไหน


รักกันที่ข้างในล้วนๆเป็นเรื่องของความรู้สึก..ไม่ใช่เรื่องเพศ..
เพราะฉนั้น เราควรดูแลร่างกายของเราให้อยู่ในที่ควรอยู่ ส่วนไหนที่ควรอยู่ในยกทรง ก็ให้ส่วนนั้นได้อยู่ ส่วนไหนที่ควรอยู่ในกางเกงใน แบบสบายเนื้อ ก็ให้ส่วนนั้นได้อยู่…. ภูมิใจในร่างกายสวยงามที่ติดกายเรามา…ดูแลรักษา
เพราะนี่คือร่างของเรา. .

จำไว้ว่า ไม่มีใครรักเรา หรือไม่รักเรา เพราะร่างกาย หรือเพราะเครื่องเพศ ใครสักคนที่รักเราจริงๆ รักเราแบบที่เราเป็น รักข้างใน รักเพราะรู้สึกรักคนแบบนี้ คนที่คิดแบบนี้ พูดแบบนี้ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข…และ ถ้าใครไปจากเรา เพราะมีคนรักใหม่เป็นผู้ชาย ก็อย่าคิดว่า เขาต้องการเรื่องนั้น ในเรื่องที่เราให้เขาแบบผู้ชายให้ไม่ได้ …เพราะความจริง ไม่ใช่เลย..

ทุกอย่าง เป็นเรื่องของความรู้สึก และเรื่องของเหตุผลแต่ละคน ที่ต้องเลือกในเวลาที่เดิน เข้ามาในช่วงหนึ่งของชีวิต ด้วยเหตุนี้ ร่างกายของแต่ละคนควรถูกดูแล ในสภาพที่ควรดูแล..


เพราะจิตใจ และความรู้สึกของคน สำคัญกว่าการเป็นพศไหน..
อย่าฝืนร่างกายในสิ่งที่ไม่ควรฝืน…





Credit: คนชื่อขลุ่ยเขียน
คอลัมน์นี้ สงวนสิทธิ์โดย สำนักพิมพ์ สีม่วงอ่อน




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2554    
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 17:55:28 น.
Counter : 495 Pageviews.  

ทอมในฝัน 10 แบบ

เพื่อนๆเคย “สับสน” ในความรักกันไหม? เราเชื่อว่า หลายๆคน ต้องเคยสับสน และเกิดมีคำถามในความรัก ไม่ใช่คำถามที่ว่า “เราจะเจอรักแท้ไหม? ในชีวิตนี้” แต่มัน “ซับซ้อน” กว่านั้น นั่นคือ เราจะรู้ได้ไงว่า คนที่เราตัดสินใจอยากจะคบด้วยนั้น คือคนที่ใช่! อย่างแท้จริง (ก็ไม่มีใครรู้ได้)



ในชีวิตของ ทอม ดี้ และเลสอย่างพวกเรา เราเชื่อเหลือเกินว่า อาจจะมีบางช่วงของชีวิต ที่ชีวิตรักของคุณ “เงียบเหงา” ไร้คนเคียงข้างกาย ไม่ต้องพูดถึงใครสักคน เพราะช่วงนั้น แม้กระทั่งคนที่จะคุยด้วยยังหาไม่เจอเลย และอาจมีบางช่วงของชีวิต ที่มีคนเข้ามามากมาย มากเสียจนคุณต้อง “เลือก” (และคุณก็จะเริ่มมีคำถามว่า ควรจะใช้ “บรรทัดฐาน หรือ กฏกติกาอะไรมาเป็นตัวเลือก” (เป็นโจทย์ที่ลำบากมากพอดู)



แต่สำหรับเธอ “นก” ดี้สาวสวย ที่มี “ศักยภาพ” ในชีวิตอย่างมากมาย เธอเป็นที่หมายปองของ “ทอม” มากมาย เธอใช้ชีวิตเพียงลำพังอยู่พอสมควร เพื่อที่จะให้แน่ใจว่า “ตัวเธอต้องการอะไรกันแน่ในชีวิต” และเมื่อเธอตัดสินใจ เดินออกมาจากชีวิตเพียงลำพัง เธอก็ต้องมาเจอ “โจทย์” ของความรัก เมื่อเธอไม่รู้ว่า เธอจะเลือกทอมคนไหนมาเป็นคู่ชีวิต (และการตอบโจกย์นี้ ต้องเดิมพันมาด้วย “ชีวิตและหัวใจของเธอ” (เพราะการเลือกผิด ตัดสินใจผิด อาจนำมาซึ่งหายนะในชีวิตก็ได้) เพื่อนคนไหน ที่เคยต้องตัดสินใจเลือก ก็คงจะเข้าใจดีว่า มันยากเพียงไหน? 



(เพื่อนๆลองมาคิดกันเล่นๆนะ ถ้ามีทอม 10 คนด้านล่างนี้ให้คุณเลือกที่จะคบ คุณจะเลือกประเภทไหน?)



ทอมหมายเลข 1 หน้าตาธรรมดา เป็นคนรักครอบครัว และรักเพื่อนมนุษย์ เป็นนักสังคมตัวยง ปฏิเสธเพื่อนไม่เป็น เขาคือ “ทอมสังคมตัวจริง” หาเขาได้ไม่ยาก ตามแหล่งเที่ยว และแหล่งบันเทิงต่างๆ เหล้าและบุหรี่ซึมอยู่ในกระแสเลือด 

(เพื่อนและครอบครัว คือปัจจัยหลักในการใช้ชีวิต)




ทอมหมายเลข 2 หล่อขั้นเทพ และเจ้าชู้โคตรๆ เป็นที่หมายปองของสาวเล็ก และสาวใหญ่ วันๆเอาแต่บริหารเสน่ห์ แต่ก็มักบ่นว่า “เหงา อยากหาใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต”
(หากคิดจะแข่งขัน ต้องมั่นใจในตัวเองพอควร)





ทอมหมายเลข 3 ทอม 3 กอง 5 แต่คารมเป็นเลิศ ความเอาใจใส่ยอดเยี่ยม ใส่ใจในทุกๆรายละเอียด อยู่ใกล้เมื่อไหร่ มีเรื่องให้ “ตื่นเต้น” ทุกครั้งไป
(แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า เมื่อเราตกลงเลือกเขาแล้ว เขาจะเอาใจใส่ และดูแลเราคนเดียว)



ทอมหมายเลข 4 ทอมวัยเด็ก ช่างอ้อน ช่างเอาใจ หล่อสไตล์เกาหลี อยู่ด้วยแล้ว รู้สึกตัวเองมีความสำคัญอย่างแท้จริง
(ข้อเสียหลักคือ ทอมประเภทนี้ อาจมีความงี่เง่าในตัวเองสูง มีความต้องการมาก และถ้าเราทำให้เขาไม่ได้ เขาก็พร้อมที่จะใช้หน้าใสๆ วัยละอ่อน ไปหาคนใหม่ได้ไม่ยาก)



ทอมหมายเลข 5 ทอมจริงจัง วัยไม้ใกล้ฝั่ง ที่สร้างแต่อนาคต วันๆเอาแต่ทำงาน เก็บเงินโดยไม่สนใจอะไร เขาอยากจะดูแลคนที่เขารักให้อยู่สบาย แต่คนที่มารักเขาต้อง รอ แล้วก็รอ 

(หากได้อยู่ด้วยอนาคตต้องมั่งคงแน่ แต่ติดอยู่ที่ว่า อีกนานแค่ไหน และเราจะรู้ได้ไงว่า สุดท้าย เราคือคนที่เขาจะเลือกอยู่ด้วย)



ทอมหมายเลข 6 ทอมที่ perfect ไปหมดทุกอย่าง แต่ติดอยู่อย่างเดียวครอบครัวรับไม่ได้ 

(นี่คือปัญหาหนัก และปัญหาใหญ่ของหลายๆคู่ เพราะเราไม่แน่ใจว่า เมื่อไหร่ เขาจะอ่อนแอ ชีวิตคู่คงจะไม่ยืนยาวแน่นอน)



ทอมหมายเลข 7 ทอมที่มีชื่อเสียง เป็นคนดังในสังคม เป็น “ทอมของสังคม” มีแต่ดี้หมายปอง และอยากลองของดี 

(แล้วเราจะรู้ได้ไงว่า เขาจะไม่หลงตัวเอง และอยู่เพื่อเรา)



ทอมหมายเลข 8 ทอมธรรมดา ที่รักเรา ไม่มีอะไรเลย แต่เข้าใจเราที่สุด อยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ แต่ติดอยู่อย่างเดียว คือ เราไม่ได้รักเขา 

(หลายๆคน เมื่ออ่านทอมทั้ง 7 ข้างบนแล้ว อาจจะถอนหายใจแล้ว ถอนหายใจอีก เจอทอมหมายเลข 8 นี้แล้ว อาจจะตกลงใจ “คลิก”)



ทอมหมายเลข 9 คือทอมที่เรารักมาก เราต้องการที่จะอยู่กับเขา แต่ติดอยู่ตรงที่ปัญหาใหญ่นั่นก็คือ เขาไม่โสด มีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้ว แต่คนนี้ใช่เลยสำหรับเรา แล้วจะทำไงดีอ่ะ 

(นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคม “รักคนมีเจ้าของ คนไม่มีเจ้าของเราไม่สนใจ”)



ทอมหมายเลข 10 ทอมที่มั่นใจในตัวเอง คิดว่าตัวเองหล่อ ตัวเองเท่ห์ ชอบดูถูกคนอื่น มีพฤติกรรมที่ไม่สนใคร ไม่แคร์ใคร 

(เขาไม่เจ้าชู้แน่นอน เพราะเข้ากับใครไม่ได้)



การตัดสินใจเลือกในครั้งนี้ อาจทำให้เพื่อนๆสับสน เลือกไม่ถูก อยากเลือกหลายคน หรือไม่เลือกเลย เพราะแต่ละคนก็มีข้อเสีย ข้อดี ที่แตกต่างกันไป หากจะต้องเลือก สำหรับเรานะ เราขอเลือกเป็น “ทอม” เองเสียเลย ง่ายกว่าไหม? (ล้อเล่นนะ) 



บางคนอาจจะอ่านไปแล้ว “ขำๆ” เพราะไม่เห็นต้อง serious ขนาดนี้เลยในการเลือกใครสักคน เพราะชีวิตคุณไม่เคยเลือกใครอยู่แล้ว ใครเดินเข้ามา “รับหมด เก็บหมด” แล้ว ณ ปัจจุบันเป็นไง กี่คนแล้วที่คุณต้องร้องไห้ให้ กี่คนแล้วที่คุณต้องเสียเวลา เสียสุขภาพจิต เสียประวัติ ไปให้ (ลองคิดกันเล่นๆนะ)



การที่จะรัก และอยู่ร่วมกับใครสักคน ไม่ยากหรอก แต่การที่จะตัดสินใจเลือกคนที่ต้องมารัก และอยู่ร่วมด้วยสิยาก และการตัดสินใจครั้งนี้คือครั้งใหญ่ของชีวิต ดังนั้น ควรมีสติ และถามตัวเองให้ดีว่าคนที่เราต้องการจะอยู่ด้วยนั้น คือคนประเภทไหน ถ้ายังเลือกไม่ถูก ตอบตัวเองไม่ได้ ก็ค่อยๆคบไปทุกแบบเลย เชื่อว่า ชาติหน้า หรือชาติโน้นคุณคงได้คำตอบแน่นอน

ต้องทำใจ และเข้าใจนะว่า “คนทุกคนย่อมมีข้อเสีย ไม่มีใครดีเต็มร้อย และเลวเกินร้อย” 



ขอให้ทุกท่านสนุกสนาน และหฤหรรษ์กับการเดินทางตามหาความรักต่อไปนะ เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ และห่วงๆ





Free TextEditor


Credit ReVeal TomDy




 

Create Date : 08 กรกฎาคม 2554    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 0:06:52 น.
Counter : 972 Pageviews.  

แปลก !! ทำไม เมื่อชายรักชาย – หญิงรักหญิง

“รักเพื่อรัก” …จะแปลกทำไม เมื่อชายรักชาย และหญิงรักหญิง (คมชัดลึก)“

ความรัก” เป็นสิ่งที่สวยงาม และก็ไม่ได้มีแต่ความรักของพ่อแม่ เพื่อน หรือแบบคนรักเท่านั้น เพราะทุกวันนี้ความรักมีได้หลากหลายรูปแบบ ไม่จำกัดอายุ ความสูง น้ำหนัก หรือแม้แต่ในเรื่องของ “เพศ” ก็ตาม!

“เพศที่ 3″ หลายคนรู้จักกันดี เช่น ทอม ดี้ เกย์ เลสเบียน ฯลฯ กลุ่มคนเหล่านี้เป็นคนรักเพศเดียวกัน ซึ่งบางคนมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติ และยอมรับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเช่นกัน ที่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน และเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาเป็น

“หน่อย” กนกพร ประทีปทอง อายุ 40 ปี พนักงานของโรงแรมแห่งหนึ่ง เป็นคนหนึ่งที่มีความรักในรูปแบบนี้ ได้บอกเล่าถึงชีวิตครอบครัวที่ผ่านมาว่า.... “ก่อน หน้านี้เคยมีสามีมาก่อน และมีลูกด้วยกันหนึ่งคน ตอนแรกชีวิตคู่ก็มีความสุขดี แต่พออยู่กันไปนานๆ ชีวิตคู่ก็ไม่ราบรื่น ส่วนฝ่ายชายไม่มีความรับผิดชอบ จนทำให้รู้สึกแย่ เลยคิดว่าชีวิตคู่ของเราคงจะไปไม่รอดอยู่กันไปก็ทะเลาะกัน เลยแยกทางกับสามี” หญิงวัยกลางคนเล่าเสียงราบเรียบ
หน่อยยังพูดถึงการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่กับแฟนคนปัจจุบันที่เป็นผู้หญิงให้ฟังว่า

“ได้รู้จักกัน เพราะบ้านอยู่ใกล้กันเดินผ่านทุกวัน เขาขายของ ส่วนเราทำงาน เวลาเจอกันก็ทักทายพูดคุยกัน และเขาก็เคยมีสามีและลูกเหมือนเรา พอมีปัญหาอะไรก็ต่างปรึกษากัน จากนั้นเลยสนิทกันมาเรื่อยๆ และได้มาเป็นคนที่รู้ใจกัน แต่บางครั้งอยู่ด้วยกันก็มีทะเลาะบ้าง เช่น เรื่องครอบครัว แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง ส่วนเวลางอนกัน สักพักก็หันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกัน และคุยกันด้วยเหตุผลไม่ใช้อารมณ์”

มาถึงตรงนี้ คงอยากรู้ว่าทำไมพวกเธอถึงมารักกันได้

“เพราะ ว่านิสัยเราคล้ายกันมั้ง ต่างคนก็ต่างเข้าใจกัน พอได้มาเจอเขาก็รู้สึกว่าชีวิตเราดีขึ้นไม่เหมือนก่อน เพราะเขาสามารถให้คำปรึกษาให้กำลังใจมาตลอดเวลาที่เราท้อแท้ คนอื่นจะคิดยังไงเราไม่รู้ แต่ว่ารู้เข้าใจกันก็พอแล้ว และอยากให้ทุกคนเข้าใจ เพราะเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่มีใครสามารถบังคับใจใครได้”

แม้ว่าจะรับซึ่งกันและกันได้ แต่กระนั้น ใช่ว่าชีวิตคู่จะราบเรียบ หน่อยบอกว่ามีปัญหาในเรื่องการยอมรับของครอบครัวและสังคมเหมือนกัน

“เราคบกันมา 4 ปีกว่า ช่วงแรกๆ ที่คบกันทางบ้านก็รับไม่ได้ ทุกวันนี้ก็ยังไม่เต็มร้อย ส่วนอีกฝ่ายไม่มีปัญหาเขารับได้และเข้าใจ ทางบ้านเราก็พยายามพูดให้เขาเข้าใจในตัวเรามากที่สุด ส่วนลูกตอนนี้อายุ 6 ขวบ ยังเด็กอยู่ก็เลยยังไม่รู้เรื่อง แต่พอเขาโตขึ้นจะอธิบายให้เขาเข้าใจ ถึงตอนนั้นลูกจะรับได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเข้าใจเรามากแค่ไหน”

ถึงวั้นนี้หน่อยและแฟนจึงยังตอบไม่ได้เต็มปากกว่าอนาคตของเธอทั้งสองจะเป็น อย่างไร เพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
“แค่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อยู่ด้วยกันอย่างเข้าใจกัน มีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กันก็พอ ตามหลักความเป็นจริงเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติ แต่ทุกวันนี้สังคมก็เริ่มที่จะยอมรับได้แล้ว มีหลายคู่ที่เป็นแบบนี้และก็อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่าก็มี อีกอย่างก็อยู่ที่ใจของคนทั้งสองคนด้วย ก็อยากให้คนในสังคมยอมรับในความเป็นตัวเรามากขึ้นกว่านี้” หน่อยพูดทิ้งท้าย

ลองมาฟัง เขมณัฏฐ์ รณรัตน์ ผู้บริหารนิตยสาร @ TOM ACT หนังสือเกี่ยวกับหญิงรักหญิง กูรูอีกคนที่เข้าใจธรรมชาติของพวกเธอ เขาเล่าถึงความเป็นมาของการทำหนังสือเล่มนี้ว่า

“อยากที่จะทำหนังสือแนวนี้มานาน 10 ปีแล้ว พอมีโอกาสก็ได้ทำ และถือว่าเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยที่ทำหนังสือเกี่ยวกับทอมดี้คือ จริงๆ ถนัดอาร์ต แล้วพอดีได้ไปเที่ยวปาร์ตี้ทอม ดี้ พอได้เห็นแล้วก็สงสารเด็กเขาไม่มีผู้นำที่จะเป็นแนวทางที่ดี เลยคิดทำหนังสือขึ้นมาไม่ได้คิดว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่จะพยายามทำให้ออกมาให้ดีที่สุด และอยากให้ผู้ปกครองได้อ่านด้วย แต่ถ้าสังคมภายนอกมองพวกเราดีขึ้นก็ถือว่าเป็นผลพลอยได้”
หลังจากเขมณัฏฐ์ ทำหนังสือมาได้ 1 ปี กระแสตอบรับเกินคาด แม้จะเป็นหนังสือเฉพาะกลุ่มก็ตาม

ส่วนมุมมองความรักของเพศที่ 3 ผู้บริหารหนุ่มบอกว่า “เหมือนกับผู้หญิงผู้ชายรักกัน เพราะคนเป็นทอมคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายต้องรักกับผู้หญิง แต่มันจะยั่งยืนหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจซึ่งกันและกัน แต่ก็จะมีเรื่องของความมั่นคง ไม่มีหลักให้เราผูกพันกันได้เหมือนเท่ากับผู้ชาย”

ด้าน มารุต ประเสริฐศรี หรือ “หนุ่ม” บรรณาธิการนิตยสาร @ TOM ACT เสริมถึงมุมมองความรักในรูปแบบนี้ว่า........

“ความ รักของทอม ดี้ ก็เหมือนกับคนอื่นทั่วไป มีทั้งรักเร็ว เลิกเร็ว และสังคมนี้มันแคบ จริงๆ แล้วจะมองว่าทอมเข้าใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชายก็มีส่วน เพราะทอมมีความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน จึงมีความเข้าใจมากกว่า เช่น เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ผู้ชายมองข้าม แต่เขาสามารถรับรู้และเข้าใจซึ่งกันและกันได้มากยิ่งขึ้น คนอาจคิดว่าในสังคมตอนนี้ยอมรับและเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว แต่จริงๆ ยังไม่ยอมรับและยังไม่เปิดหรอก อย่างเช่น โฆษณาในหนังสือนี้ เวลาเราไปขอโฆษณาอย่างนี้ เขาก็บอกว่าเราไม่ตรงกับคอนเซ็ปต์ของเขาบ้าง แล้วทอม ดี้ อยู่ตรงไหนในสังคม แต่ว่าก็มีบางครอบครัวที่เปิดรับ ยอมรับลูก การที่ลูกเป็นอย่างนี้ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งก็มาจากเรา ลูกจะเป็นยังไงก็ตาม ยังไงก็คือลูกเรา”

หนุ่มยังได้ฝากถึงความรักของทอม ดี้ รุ่นใหม่ว่า...อยากให้ค่อยๆ คบกันให้แน่ใจก่อน ดูว่าเราเข้ากันได้ไหม แล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ ดีกว่า อย่าคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเสียหายแล้วเราสามารถเปลี่ยนแฟนบ่อยๆ ได้
“อยากให้ทุกคนเปิดใจ อย่าตัดสินกันแค่ภายนอก เราอยากให้คนที่เขาแอนตี้มาสัมผัสตัวตนของเราก่อน” หนุ่มฝากคำเตือน

ลอง มาฟังความคิดเห็นจากนักจิตวิทยาเกี่ยวกับเรื่องนี้กันบ้าง…วัลลภ ปิยะมโนธรรม ที่ปรึกษาพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร ได้อธิบายว่า “โลก เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้หญิงครองโลก ในอนาคตผู้หญิงจะเป็นผู้นำ เนื่องจากปัจจุบันผู้หญิงใช้สมองมากกว่าผู้ชายทุกอย่าง และสาเหตุส่วนใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงก็มาจากการเลี้ยงดูและความแปรปรวนใน โลก ซึ่งสาเหตุเหล่านี้มีไม่ต่ำกว่า 50 สาเหตุ”

ทั้งนี้นักจิตวิทยาคนเดิมยังบอกว่า ในสังคมนั้นคิดว่ายังไงมนุษย์หรือพ่อแม่ก็ยังไม่มีการยอมรับในเรื่องนี้อยู่ แล้ว แต่คนทั่วไปอาจจะยอมรับ ทางออกก็คือต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระแสต่อไป เพราะยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ





 

Create Date : 17 มิถุนายน 2554    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 0:07:05 น.
Counter : 524 Pageviews.  

ทอมเกย์

เรื่อง Dictionary Tom เมื่อวาน ทำให้ “ทอม” หลายๆคนอึ้งและเสียวสันหลังกันเป็นแถว ขอโทษด้วยไม่ได้ตั้งใจจะเขียนกระทบใคร

หากเพื่อนๆ ที่อ่านอย่างละเอียดเมื่อวาน คงจะจำได้ว่า เราติดค้างความหมายของทอมประเภทหนึ่งเอาไว้ นั่นคือ “ทอมเกย์” หลายคงเริ่ม “งง” ว่าทำไมเราเอา “ทอม” กับ “เกย์” มารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน (หาใช่อย่างที่คุณตีความไปเองไม่)

ความหมายและเนื้อหาในวันนี้ เราได้ไปสืบค้น และสัมภาษณ์ “ทอมเกย์” ที่มีตัวตนจริงในสังคมเราคนหนึ่ง พวกบรรดา ทอม ดี้ เลสคิง และ เลสควีน อย่ามัวแต่ตกใจนะที่ “ทอมเกย์” จะเป็นอีกเพศหนึ่งที่กำลังแพร่หลายอยู่ในสังคมของเรา แหล่งข่าวของเรา ได้รายงานว่า ตามหัวเมืองใหญ่ๆ อย่างเช่น เชียงใหม่ ขอนแก่นโคราช หาดใหญ่ หรือแม้กระทั่ง กทม. ทอมเกย์ก็มีสมาชิกร่วมร้อยแล้ว

“ทอมเกย์” คือ ทอมที่รัดหน้าอก, ไว้ผมสั้น, พูด “ผมและครับ”, หัวเกรียน, ท่าเดิน และบุคลิกเหมือนทอมทั้งแท่งทุกประการ สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากทอมทั่วไปก็คือ เขาไม่นิยมบริโภค “ดี้” เป้าหมายของพวกเขาก็คือ “ทอมหรือ เลสคิงที่ห้าวเท่านั้น” (ทอมหลายคนสบายใจได้ เพราะคุณจะไม่มีคู่แข่งทางการค้า แต่คุณอาจต้องระวังว่าจะโดนหุบกิจการแทน)

บทสัมภาษณ์ระหว่างเรากับทอมเกย์คนหนึ่ง

เรา : เหตุใด? คุณถึงไม่เลือกที่จะคบ “ดี้ หรือ เลสควีน” เป็นแฟน?

ทอมเกย์ : ผมไม่ชอบนิสัยแบบผู้หญิง จู้จี้ ปากหวาน งอน และมีจริต (ชอบดัดจริต)

เรา : แล้วสเปคของคุณเป็นแบบไหน?

ทอมเกย์ : ทอมหรือเลสคิงห้าวๆ หน้าอกเล็กๆถึงแบนราบ (รัดหน้าอกด้วยจะยิ่งดี) พูด ผมหรือครับ หัวเกรียน ลุย ดูแมน

เรา : เคยมีไหมที่ดี้มาแอบหลงรักคุณ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นทอมปกติ?

ทอมเกย์ : มีครับ เพิ่งจะมีคดีความ (ปัญหา) กันจบไป “ดี้” เป็น “โจกย์” ผมเป็น “จำเลย” ด้วยความที่ผมแมน ดี้หลายๆคนเลือกที่จะเข้ามา เพราะคิดว่าผมต้องชอบดี้ แต่จริงๆแล้ว ผมชอบทอมด้วยกัน (สิ่งที่ผมทำได้คือ “ปฏิเสธ”)

เรา : คุณเคยมีความรู้สึกบางอย่าง (เช่น รัก หรือชอบ) กับ ดี้ หรือ เลสควีนไหม?

ทอมเกย์ : ไร้ความรู้สึก เหมือนเพื่อนกันมากกว่า แต่ให้มากกว่านั้น อย่าเลยครับ ถึงจะเป็นดี้ห้าวๆ ก็เถอะ ตราบใดความหมายของคำว่า “ดี้” ยังเป็นผู้หญิงที่แต่งหน้าแต่งตา ชอบทอมอยู่ล่ะก็ เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า เวลาที่มีดี้จีบทอม อาจจะทำให้ทอมทั่วไปรู้สึกดี แต่ไม่ใช่พวกผม มันทำให้พวกผมหนักใจมากกว่า

เรา : เนื่องจาก “ทอมเกย์” เป็นกลุ่มคนที่มีน้อยมากในสังคม คุณจะรู้ได้ยังไงว่า ทอมคนไหนเป็น “ทอมเกย์” แบบคุณหรือมีรสนิยมเดียวกันกับคุณ?

ทอมเกย์ : ช่วงแรก ก็อาศัยคำบอกเล่าของเพื่อนพวกเดียวกันไปก่อน ว่าใครเป็น “ทอมเกย์” บ้าง แต่ถ้าเริ่มปีกกล้าขาแข็ง ก็จะไม่รีรอที่จะออก “ล่า
ทอม” ด้วยตัวเอง

เรา : “การล่าทอม” คืออะไร

ทอมเกย์ : เมื่อผมเจอทอม หรือเลสคิงเป้าหมาย ผมก็จะเดินเข้าไปขอเบอร์ (ก็เหมือนทอมจีบดี้ครับ) แต่ผมจะต้องดูดีๆก่อนนะ ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าไป เพราะถ้าเข้าไปแบบไม่มีการวางแผนไว้ล่วงหน้า อาจเจอ “ตีน” ของทอมได้

เรา : เราเชื่อว่า เป็นการยากที่จะเปลี่ยนทอมปกติให้มาคบกับทอมเกย์แบบคุณ คุณมีวิธีเข้าหาพวกเขาได้ยังไง?

ทอมเกย์ : ช่วงแรก ผมจะเข้าไปขอเบอร์ โดยให้เหตุผลว่า “อยากหาเพื่อนกินเหล้าด้วย” เขาเห็นว่า ผมเป็นทอมเหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็จะให้เบอร์ผมมา (ก็เสร็จผมแล้วครับ) ถ้าได้คบเป็นเพื่อนก่อนโอกาสที่ความรัก และความเข้าใจจะบังเกิดมีโอกาสสูงครับ

เรา : คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า คนที่ดูดีสะดุดตาคุณนั้น จะคบกับคุณได้นาน?

ทอมเกย์ : มีทอมเกย์รุ่นปู่บอกผมมาว่า “เราควรที่คบหาทอมเป็นเพื่อนไปก่อน ให้เห็นสันดานพวกเขาก่อน (เพื่อนจะแสดงสันดานทุกแง่มุมแก่กันและกัน) ถ้าเขาคือคนที่โอเค ก็รวบหัวรวบหางเลย

เรา : ข้อแตกต่างระหว่าง “ทอมทูเวย์” กับ “ทอมเกย์” คืออะไรคะ

ทอมเกย์ : ทอมทูเวย์จะเลือกคบดี้ ส่วน ทอมเกย์เลือกคบทอมกับเลสคิง

เรา : เวลามี Sex ของพวกคุณกับทอมเป็นแบบไหนคะ

ทอมเกย์ : ก็ผลัดกันรุกและรับครับ ไม่มีตำแหน่งที่ตายตัวครับ

เรา : เราจะได้รู้ได้ไงคะ ว่าคนไหนเป็น “ทอมเกย์”

ทอมเกย์ : ดูจากสายตาครับ รอยยิ้ม มันจะไม่เหมือนทอมทั่วไป สุภาพ พูดจาดี ดูเป็นผู้ใหญ่ อ่อนโยน เข้าใจดี้ทั้งหลาย รู้จักแต่งตัว ติดหรูล่ะตัวดี

เรา : ถ้าวันนึงคุณเจอ “ดี้ขยัน” (ดี้ two-way) คุณจะคบไหม

ทอมเกย์ : ไม่ครับ คือ ดี้ คือ ผู้หญิง ที่แต่งหน้าแต่งตา ชอบทอม และที่สำคัญ “ดี้” ไม่ใช่สเปคพวกผมครับ


“ความ รักไม่มีกฏเกณฑ์ ไม่มีเพศ ไม่แบ่งชนชั้น ฐานะ การศึกษา อยู่ที่ความพอใจของคน 2 คน ลีลา และจังหวะของชีวิต” จากเรื่องราวในวันนี้ เพื่อนๆคงจะได้รับรู้ว่าในสังคมเรา ก็มี ทอมอีกประเภทหนึ่งได้ถือกำเนิดขึ้น (อาจมีตัวตนอยู่จริงนานแล้ว แต่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ) ดี้คนไหนที่อาจหาญจะเดินเข้าไปจีบทอม รบกวนดูให้แน่ชัดด้วยว่า คนนั้น ทอมเกย์หรือเปล่า เดี๋ยวจะหน้าแหกกลับมา

ฝาก ไว้สำหรับทอมที่คิดว่าตัวเองไม่ปกติ ที่ไปแอบปลื้มทอมด้วยกัน คุณไม่ผิดปกตินะคะ คำจำกัดความหรือชื่อเรียกของคุณก็คือ “ทอมเกย์” ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน รสนิยมไหน เราก็เป็นพี่น้องกันในสังคมเดียวกัน ขอบคุณทอมเกย์คนนั้นที่มาแบ่งปันเรื่องราวและแง่มุมอีกด้านของสังคม ขอบคุณที่ติดตามอ่าน



เรียบเรียงโดย ReVealTomDy




 

Create Date : 10 มิถุนายน 2554    
Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 0:07:24 น.
Counter : 1046 Pageviews.  

1  2  
 
 

เดเมลซ่าแมวแม่มด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ทำได้ทุกอย่าง ยกเว้นทำตัวดีๆ
Instagram
[Add เดเมลซ่าแมวแม่มด's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com