• ไปตามเรื่อง
• กลอนดีๆมีข้อคิด
• welcome
• Work and Travel in USA
• สัพเพเหระ
• Yummy!!!!
• The Part of Memory
• My music

New York Trip :: my dream comes true :: Part 3 เอาล่ะค่ะในที่สุดก็มาถึง Part สุดท้ายของ NYC Trip แล้วนะคะ หลังจากกลับจากทัวร์มหาโหด ดีซี เพนซิลวาเนีย แมรี่แลนด์ ไปทัวร์จีนค่ะ เพราะถูก แต่ถ้าใครชอบเที่ยวแบบชิลๆก็อย่าไปแบบนี้เลยดีกว่าค่ะ ที่เราเลือกทัวร์นี้เพราะว่าหยุดงานมาได้แค่ห้าวันแต่อยากเที่ยวแบบเร่งรัด แต่ให้เวลาที่นิวยอร์กสามวันเลยค่ะ ลองไปหาข้อมูลทัวร์จีนได้ที่ //www.gotobus.com ค่ะ ทัวร์นี้คนที่ไปกับเราส่วนมาก็จะเป็นคนจีนกับแขกค่ะ แต่ดันไปเจอครอบครัวคนไทยด้วยแต่ก็ไม่ได้คุยกันมาหกหรอกค่ะแค่ทักทายกัน เรายังเด็กด้วยอ่ะค่ะ แล้วเค้าก็ผู้ใหญ่มากก็คุยกันคนละเรื่องอยุ่แล้ว ก็เลยแค่ทักทายไปตามประสา แต่ปัญหาอยู่ที่แขกนี่ล่ะค่ะ เรื่องจะเป็นยังไงไว้เราจะมาลงไว้ในทริปต่อไปนะคะ (ต้องติดตามค่ะ อิอิ) งั้นเรามาเริ่ม NYC Trip วันครึ่งสุดท้ายกันค่ะ เราได้นัดแนะกับเพื่อนอีกคนนึงที่ไปโครงการเหมือนกันแต่มันทำงานที่ New Jersie, Borgata ค่ะว่าจะมาเที่ยวด้วยกันที่นิวยอร์ก เมืองมันใหกล้แถมมีรถมาส่งฟรีแถมเงินอีกง่ายจะตาย ไอ้เพื่อนเราดันส่งเมลมาบอหกแค่ว่าเจอกันที่สตาร์บัคส์ไชน่าทาวน์ 9 โมง ก่อนไปเราแวะไปส่ง post card ที่ตึก post office ที่ลงไว้ part ที่แล้วน่ะค่ะ เสร็จแล้วไอเราก็ไปรอค่ะตั้งแต่ 8 ครึ่งจน9โมงกว่าแล้วมันก็ยังไม่มา โทรศัพท์หรืออะไรเรากะเพื่อนก็ไม่มีเลยติดต่อกันไม่ได้ ก็นึกๆกลัวว่าจะทำไงดีวะ จะเจอกันมั้ยเนี่ยเราก็ไปนั่งสั่งกาแฟกินรอมัน White Chocolate Latte ก็อร่อยดีอ่าค่ะ แต่แพงไปนิด กินที่สนามบินเมืองเราถูกกว่า เพราะได้ส่วนลด เผลอๆได้กินฟรีอีกค่ะ tax ที่นิวยอร์กจะแพงกว่าที่ Florida ค่ะ ที่นี่จะประมาณ 8.35% แต่ที่ Florida จะ 6%ค่ะ ฉะนั้นจะซื้ออะไรก็จะคิดค่ะว่าเอาวะกลับไปซื้อที่เมืองเราดีกว่า แต่เราก็ช็อบไปเยอะเลยค่ะโดยเฉพาะ Sephora เป็นอะไรที่แพ้ทางจิงๆค่ะ เป็นคนบ้าซื้อเครื่องสำอางค์มาก กลับมานี่ขนแทบไม่ไหว ตอนแรกเรานึกว่า Sephora จะมีแค่ที่นิวยอร์กก็เลยซื้อใหญ่เลยค่ะ แต่น่าเสียดายมากเพิ่งมารุ้ตอนกลับมาว่าที่เมืองเราก็มี ใหญ่ด้วย เสียรู้ไปเลยค่ะ ซื้อที่เมืองเรา tax ก็ถูกกว่า เอาค่ะนอกเรื่องมามากพอแล้ว พอประมาณ 10โมงกว่าๆ เพื่อนเราก็มาค่ะ ดีใจกันสุดๆไปเลยคิดว่าจะไม่เจอกันซะแล้ว เพื่อนเราพารุ่นพี่ที่รู้จักที่ที่ทำงานเดียวกันมาด้วยหนึ่งคนค่ะ กรุ๊ปของเราก็เลยมีสมาชิกทั้งหมดห้าคนรวมเราด้วย ก็เริ่มออกเดินทางค่ะ เราตกลงกันว่าจะไปขึ้น Empire State ก่อนค่ะ เพราะตอนเช้าคนยังไม่เยอะ เราได้ถามพนักงานตอนที่ไปคืนแรกแล้วค่ะเค้าแนะนำให้มาตอนเช้า ไม่ต้องต่อแถวยาวมาก เราก็เลยกะจะมาซื้อบัตร New York Pass แต่เราซื้อแบบ One day ค่ะ น่าจะ $63 เพราะว่าคงเที่ยวแค่วันเดียว บัตรนี้เป็นคล้ายๆบัตรเหมาจ่ายค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เยอะมากๆเลยค่ะแต่จำไม่ได้ว่ากี่ที่ แต่ก็รวมที่ๆ climax ไว้หมดค่ะ เพื่อนชาวมาเลย์แนะนำมาค่ะว่าให้ซื้อบัตรนี้ เพราะคุ้มกว่าไปซื้อบัตรตามสถานที่นั้นๆ แต่ต้องจัดสรรเวลาเที่ยวดีๆค่ะ จะได้คุ้มที่สุด เราก็นั่ง subway จาก China town ไป Empire เลยค่ะ ด้วยความงงๆว่าจะซื้อ New York Pass ที่ไหนเราก็ดันไปต่อแถวกะผู้คนซะนานไปถึงคิวเราไปซื้อเค้าบอกให้เราไปซื้อที่ร้าน convinient แต่ดีค่ะที่เค้าพาเราเดินไป บ้านนอกจิงๆช้าน ก็ได้มาแล้วค่ะคนละใบ เค้าก้อบอกว่าบัตรใบนี้รวม sky rider ด้วยค่ะ ไอ้เราก้อไม่รุ้หรอกค่ะว่าคืออะไรก็เดินๆตามเค้าไป ไอ่ sky rider ที่ว่านี่คือเป็นห้องคล้ายๆโรงหนังค่ะ เก้าอี้ก็แบบโรงหนังมีจอใหญ่ๆ แต่ไอ่ที่แปลกไปคือเก้าอี้ทุกคนจะโยกไปโยกมาเหมือนกับเรากำลังนั่งอยู่บนเครื่องบินเที่ยวชมเมืองนิวยอร์กในจอค่ะ สนุกดีค่ะ พอดูเสร็จพวกเราก็เดินไปขึ้นลิฟต์ค่ะจะได้ไปขึ้นยอด Empire แล้วค่ะ ไอ่บัตรนี่ก็ดีค่ะเราไม่ต้องต่อคิดเหมือนชาวบ้าน ได้เดินลัดไปเลยทำเอารู้สึกเปนคนมีอภิสิทธิ์ไปเลยค่ะ อิอิ พอขึ้นไปแล้วก็ว๊าวววววว โชคดีที่คนไม่เยอะเลยเดินหามุมได้สบายๆค่ะ ไม่เบียดเสียด ถ่ายรูปเล่นกันพอหอมปากหอมคอค่ะ มุมเกาะ Manhattan จาก ยอดตึกค่ะ กว่าจะลงจาก Empire ก็ใกล้เที่ยงแล้วค่ะ เนื่องจากตอนเช้ามัวแต่เป็นห่วงจะไม่ได้เจอเพื่อนเลยไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากกาแฟสุดจะแพงแก้วนั้น ก็เลยตกลงว่าจะนั่ง Subway ไป China Town กินข้าวอีกค่ะ เราให้เพื่อนกับพี่ซื้อตั๋ว Subway เป็น One day ค่ะ ก็ไปโลด ไปกินข้าวถาดหลุมที่ China town กันค่ะ อาหารมีให้เลือกมากมาย น่ากินสุดๆไปเลยอดอยากมานาน สนนราคาก็อยู่ที่ คนละ$4 ค่ะ วิธีการก็จ่ายเงินก่อนค่ะแล้วไปรับถาดที่เคาท์เตอร์ ถาดเป็นถามโฟมนะคะมี 5 หลุม ถ้าเราอยากกินข้าวสวยก็ตักที่เคาท์เตอร์ได้เลยค่ะ เค้าเป็นคนตักให้นะคะ แต่ก็เยอะมากๆเลยค่ะ เสร็จเราก็เดินมาเลือกอาหารจะเอาอะไรก็ชี้ค่ะ เค้าก็จะตักให้ เค้าจะพูดภาษาจีนกับเรานะคะ จะจีนเผ่าไหนก็ไม่อาจรู้ได้อิอิ เราสามารถเลือกกับข้าวได้ 4 อย่างค่ะ อร่อยดีค่ะ พอพวกเรากินเสร็จก็เริ่มเคลื่อนขบวนไป subway ไปยัง Battery park เพื่อจะไปชมสัญลักษณ์สำคัญของนิวยอร์ก เจ้าป้า!!!!! statue liberyนั่นเอง เราไปเที่ยงๆ คนก็เลยไม่เยอะมาก ด้วยความบ้านนอกเราก็ดันไปต่อแถวรวมกับคนอื่นอีกไม่ได้รู้เลยว่าบัตรของเราต้องไปซื้อตั๋วที่ Book store เลยเสียเวลาไปเลยค่ะ แล้วเราก็ไปต่อแถวตรวจก่อนขึ้นเรือค่ะ โชคดีที่ต่อไม่นานมากก็ได้ขึ้นค่ะ ภาพจากเรือเห็น เกาะ Manhattan สวยมากเลยค่ะ แล้วเราก็ได้เห็นซักที เจ้าป้าาาาาาาาาา แล้วเราก็รีบนั่งเรือกลับเพราะมีเวลาไม่มากค่ะ museum ต่างๆใกล้ปิดแล้ว เราเลยวางแผนว่าจะไป sex museum แล้วต่อด้วย Madam Tusso เพราะที่นี่ปิดหลังสุดค่ะสามทุ่ม ขึ้นเรือกลับเราก็ไปต่อ Subway ไปที่ fifth Avenue ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sex museum ค่ะ ที่นี่มีทุกอย่างที่เกี่ยวกับ sex ค่ะไม่ว่าจะเป็น condom หลายแบบ ชั้นแรกเป็น ศิลปะ แนว Sexpressinist รึป่าวหว่า? ชั้นที่สองเป็น วิวัฒนาการของ Porn Movies มีของปารืสกับ แฟนหนุ่ม และก็ของ โคลิน ฟาวเวลกับแฟนสาวด้วยค่ะ โซนสุดท้ายเป็นแนวแปลกๆค่ะ อุปกรณ์แปลกๆเต็มไปหมดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเลยค่ะ เป็นอะไรที่ อื้อออมมมม มากๆค่ะ อึ้งกันไปเลยทีเดียว ด้านล่างก็มี suvinior เกี่่ยวกับ sex เอาไปเปนของฝากกันด้วยค่ะ อันนี้เป็น condom ทั้งหมดเลยค่ะ อันนี้แปลกดีค่ะ เหอะๆ ต่อจากนั้นเราก็ไปยัง Madam Tusso อันโด่งดังกันค่ะ เป็นที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของดาราดังและคนสำคัญต่างๆที่ Times square ค่ะ ในความคิดเราว่าหุ่นขี้ฝึกที่เมืองไทย กับที่จีนดูเนียนกว่าค่ะ หลักจากเที่ยวกันสนุกสนานเผาผลาญพลังงานไปเยอะมาก เราก็เลยต้องเติมพลังกันหน่อย พวกเราเลือกกินง่ายๆที่แมค แถวๆTimes square เลยค่ะ เราเลือก Angus Bergur เปนเบอร์เกอร์เนื้อกับเบคอน เพิ่งออกใหม่อร่อยมากๆค่ะ แต่อ้วนมากๆด้วย T_____T กินเสร็จเราก็ไปส่งเพื่อนขึ้น Subway ไปขึ้นรถกับเมืองมันที่ China town หลังจากสนุกสนานกันทั้งวันเราก็ต้องจากกันอีกแล้วววว กว่าจะเจอกันก็โน่นค่ะอีกเกือบสองเดือน คราวหน้าเรานัดไปเจอกันที่ LA ค่ะ trip ต่อไปจะเป็นยังไงก็ติดตามกันด้วยนะคะ ส่งเพื่อนเสร็จเราก็เดินเล่นต่อ ที่Times square นิดหน่อยค่ะ คืนสุดท้ายใน NYC แล้วเอาให้เต็มอิ่มหน่อยค่ะ แล้วก็เดินทางกลับที่พักกันค่ะ ยังไม่ได้โชว์รูปที่พักให้ดูเลยค่ะ อันนี้เป็น Hostel แรกที่เราอยู๋คืนแรกก่อนไปทัวร์ แต่วันนี้เราเปลี่ยน ไปพักอีก hostel แล้วค่ะ ห้องใหญ่กว่าด้วยค่ะแต่ดันไม่ได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ เอารูป hostel แรกไปดูก่อนดีกว่าค่ะ ถ้าใครจะไปพักแนว hostel เราแนะนำให้พักที่ Chelsea star hostel ห้องใหญ่ดีค่ะ ราคาก็โอ ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเดินทางสะดวก แต่ที่พักก็เป็นแบบสำหรับพวก แบคแพ็คค่ะ ไม่ได้หรูหราสะดวกสบายแต่สามารถsave budget ได้เยอะเลยค่ะ ที่พักที่แรกกับที่สองอยู่ตรงข้ามกันเองค่ะใกล้มากๆ เอาเป็นว่าโฆษณาพอแล้วมาดูรูปกันดีกว่าค่ะ ปิดท้าย มีรูปวิวตึกแถวที่พักให้ชมด้วยค่ะ สวยดี ตอนเช้าอีกวันเราตื่นสายค่ะ แพลนที่ว่าจะไป Central park ก็เปนอันล้มไป เราเลยไปร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่มากๆๆแทนค่ะ ที่นี่มีขายทุกอย่างจริงๆค่ะ ตั้งแต่ โทรโข่งยัน โปรเจคเจอร์เลยค่ะ ทุกอย่างจิงๆ การส่งของรับของจ่ายเงินก็ต้องเป็นจั้นตอนเพราะคนเยอะมาก ร้านนี้น่าจะเป็นของชาวยิว เพราะพนักงงานทั้งหมดเป็นชาวยิวค่ะ ซื้อเสร็จเราก็ไปเดินเล่นที่ห้าง Macy แต่ไม่ได้ซื้ออะไรหรอกค่ะ เที่ยวจนตังหมดกลับไปต้องกินแกลบหลายวันกว่าเงินจะออก หลังจากซื้อของเสร็จเราก็ไปเอากระเป๋าจากที่พักออกเดินทาง โดยsubway ไปยังสนามบินค่ะ ก่อนไปขอแวะซื้อ New York Cheese cake ที่ร้านแถวๆที่พักค่ะ คนขายเป็นชาวฟิลิปปินส์เห็นเราเป็นคนเอเชียด้วยหกันเลยตัดชิ้นใหญ่ให้เลยค่ะ ลาภปากจริงๆ มาทั้งทีไม่ลองได้ไงใช่มั้ยคะ พอกินไปแล้วประทับใจจริงๆค่ะ นุ่มลิ้นสุดๆรสชาติก็สุดยอดไปเลยจริงๆไม่ผิดหวังค่ะ แล้วเราก็ขึ้นเครื่องบินกลับเมืองอย่างสวัสดิภาพ วันสุดท้ายที่นิวยอร์กนี่คิดถึงเมืองที่เราอยู่สุดๆเลยค่ะ แบบอยากกลับมากๆๆ พอกลับแล้วรู้สึกเหมือนกลับบ้านเลยค่ะ ไว้มาติดตามต่อไปนะคะว่า Trip ต่อไปจะเป็นที่ไหน คราวนี้ตัวหนังสือเยอะไปนิด(หรอ???) ยังไงก็ช่วยกันอ่านหน่อยนะคะอิอิ   Create Date : 26 สิงหาคม 2551     Last Update : 26 สิงหาคม 2551 21:15:15 น. Counter : 920 Pageviews.   3 comment Share Tweet

New York Trip :: my dream comes true :: Part 2 ต่อจาก Part1 นะคะ หลังจากทานข้าวหน้าไก่แสนอร่อยนั่นแล้วเราก็เดินๆไปเรื่อยๆ และก็ตกลงกันว่าจะไปนั่งพักที่ hostel กันก่อนแล้วค่อยไปเดินเล่นแถว times square ตอนดึกๆ แล้วก็กะว่าจะไปขึ้นตึก Empire ด้วยก็เลยเดินไปsubway กลับที่พักค่ะ นี่เป็นรูป China town กับอาหารจานอร่อยค่ะ ^^ หลังจากกลับที่พักแล้วเราก็เดินชมเมืองมาเรื่อยๆ ไฟที่นี่สวยมากค่ะ ที่นี่ Post office ค่ะดูยิ่งใหญ่มากค่ะ เห็นแล้วอยากลองเข้าไปมากค่ะก็เลยคิดว่าจะไปซื้อ postcard แล้วมาส่งที่นี่ซะเลย อยู่ใกล้ hostel ของ darksky มากเลยค่ะ พอไปถึงตึก Empire เจ้าหน้าที่บอกว่า vision การดูวันนี้เป็นศูนย์ค่ะ พอดีวันนั้นมี smog อ่าค่ะ ก็เลยไม่ได้ดู แต่ก็กะว่ายังไงเดี๋ยวต้องมาขึ้นวันอื่นค่ะ อันนี้เป็นรูปตึก Empire ไกลๆ แทบมองไม่เห็นยอดตึกเลยค่ะ วันนี้อากาศไม่ค่อยดี หลังจากนั้นก็ตั้งใจจะเดินต่อไป Times square พอเจอตึกสวยๆหน่อยก็อดถ่ายรูปไม่ได้ แต่รูปจะมัวนิดๆนะคะ ปรับโหมดไม่ดีน่ะค่ะ ที่นี่น่าจะเป็นlibralyค่ะ แต่ไปก็ดึกมากเค้าปิดแล้วค่ะ พอใกล้จะเข้า Times square นี่จะรู้เลยค่ะ แสงสีตระการตามาค่ะ แบบไม่ผิดหวังเลยจิงๆ พอไปถึงแบบรู้สึกเลยว่านี่สิ New York ประมาณนั้น (เวอร์มากกกก อิอิ) คือตอนแรกไม่ค่อยประทับใจ New York เท่าไหร่ตอนไปถึง เพราะเมืองเค้าสกปรกมากค่ะ แล้ววันนี้ก็อากาศไม่ค่อยดีด้วย smog ปกคลุมไปหมด คนที่นี่ก็ดูเร่งรีบแล้วก็น่ากลัวหน่อยๆ ไม่ยิ้มแย้มเหมือนคนในเมืองที่เราทำงานเลย ก็เลยแอบผิดหวังนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจน่ะค่ะที่นี่เป็น City จริงๆเลยค่ะ เมืองที่เราอยู่นี่ถือได้ว่าเป็นบ้านนอก มันก็ต้องแตกต่างกัน แต่พอมาเจอ Time square ทำให้ความผิดหวังในตอนแรกหายไปเลยค่ะ สวยมากจริงๆ บอกกับตัวเองเลยค่ะว่า trip นี้ต้องมาอีกรอบแน่ๆ แต่ถ้าถามว่าจะให้มาอยู่ New York เอามั้ย บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยค่ะว่าไม่เอาดีกว่า เราชอบความเงียบสงบของเมืองที่เราทำงานอยุ่มากกว่าถ้าให้เลือกมาโครงการที่ New York นี่ไม่ไหวค่ะ ค่าครองชีพก็สูงมาก ขาดทุนย่อยยับพอดี อิอิ งั้นมาดูรูปกันดีกว่าค่ะ ที่นี่ร้านโน่นนี่เต็มไปหมดเลยค่ะ เราก็ถือโอกาสเข้าร้าน Toy 'r' us ค่ะอยากจะรู้ว่าเหมือนฮ่องกงรึเปล่า แต่พอเข้ามาแล้วนี่ยิ่งใหญ่กว่ามากค่ะ เหมือนเข้ามาในเมืองของเล่นเลย ถ้าเป็นเด็กๆต้องชอบมากๆค่ะ ขนาดเรายังประทับใจเลย อันนี้เป็น LEGO ค่ะเค้าต่อเป็น Empire state building และก็ Statue Liberty มีต่อเป็น Captain Jack Sparrow ด้วยชอบมากๆเลยค่ะ ตอนที่ไปใกล้สี่ทุ่มแล้วค่ะร้านก็เริ่มปิดกันแล้ว แล้วฝนก็ตกลงมาเลยค่ะ โชคดีที่เตรียมร่มมาเพราะดู พยากรณ์อากาศไว้แล้ว ขามาที่เดินมา พอขากลับฝนตกอย่างนี้เลยตัดสินใจนั่งsubway ดีกว่ายังไงก็ใช้ตั๋วอาทิตย์ให้คุ้ม กลับถึงที่พักก็รีบนอนเลยค่ะ เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นแต่เช้าไปขึ้นรถทัวร์ที่ China town เพื่อจะไปทัวร์ Penslyvania, Maryland และที่ขาดไม่ได้ Washington DC อันนี้เป็นไฮไลท์เลยค่ะที่เลือกมาตอนนี้เพราะว่า ช่วงนี้เป็นช่วง Cherry blosssom เลยค่ะ อยากเหนมากถึงขนาดขอหหยุดงานมาเลยค่ะ แต่ blog นี้กะทำเป็นเที่ยวเป็นเมืองๆไป blog หน้าก็ขอข้ามเป็น ทัวร์New York หลังจากกลับจาก Tour นี้ก่อน แล้วค่อยมาเขียน Tour นี้อีกทีนึงละกันนะคะ ไว้ครั้งหน้าจะมาต่อ trip NYC สองวันสุดท้ายกันค่ะ   Create Date : 24 สิงหาคม 2551     Last Update : 24 สิงหาคม 2551 11:27:27 น. Counter : 377 Pageviews.   3 comment Share Tweet

New York Trip :: my dream comes true :: Part 1 จริงๆแล้วกลุ่ม blog นี้ตั้งใจว่าจะทำเกี่ยวกับโครงการ work and travel แต่พอไปที่โน่นแล้วก็ยุ่งจนไม่มีเวลาทำเลย คือวันๆนึงนี่ plan โน่นนี่ตลอด พอมีเวลาหน่อยก็ต้องขอนอนชาร์จพลัง จริงๆแล้วงานที่ทำก็ไม่ได้หนักมาก ถึงขนาดโดนใช้เป็นทาสอย่างนั้น แต่ต้องยืนทั้งวัน วันละ 10 ชม.นี่ก็ทำเอาหมดพลังเหมือนกัน แล้วต้องทำความสะอาดร้านอีก (ไปทำ retail store ค่ะ) ทำกะดึกก็เลยต้องปิดร้านด้วย ก็สนุกไปอีกแบบ เพื่อนร่วมงานก็มีหลายชาติค่ะ ทั้ง American, Heitian, Dominican, Pertorican แล้วก้อเพื่อนชาวต่างชาติที่มาโครงการเดียวกันอีกทั้ง Peru, Malaysia, Argentina, Brazil แต่คนอาร์เจนกับบราซิลนี่ไม่ได้สนิทเท่าไหร่ค่ะ พวกเขามาก่อนเราสามเดือน พอเรามาเขาก็เริ่มทยอยกันกลับแล้ว ตอนเราไปแรกๆไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรก็ได้เพื่อนพวกนี้คอยช่วยเหลือตลอดเลยค่ะ นิสัยดีกันทั้งนั้นเลย เราถือว่าเราโชคดีที่ได้รู้จักคนดีๆด้วยอ่ะค่ะ เอาล่ะค่ะเกริ่นนำมาพอสมควรแล้ว จริงๆวันนี้ตั้งใจจะลงในส่วน travel มากกว่าส่วน work เพราะมันเป็นประสบการณ์นอกเหนือจากที่เราตั้งใจไว้ตอนแรก การได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกนี่เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดจริงๆค่ะ ไม่คิดว่าตัวเองจะไปได้ด้วยซ้ำตอนแรก แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดี เรามาเริ่มที่ trip New York ก่อนเลยดีกว่าค่ะ คือเราไปทำงานที่ Florida แต่ว่าด้วยความใฝ่ฝันว่าครั้งนึงนี่ต้องไป New Yorkให้ได้ อยากไปดูว่าที่จริงๆมันจะเหมือนในหนังที่ดูรึเปล่า ก็เลยดิ้นรน ขอนายจ้างหยุดงานแล้วก้อจองตั๋วเครื่องบินไปเองเลยค่ะ... เริ่มที่วันแรกกว่าจะไปถึงก็บ่ายๆแล้วค่ะก็เลยรีบตรงไปที่พักเลย โดยนั่ง subway จากสนามบิน JFK ไปค่ะซื้อตั๋วอาทิตย์ที่นั่นเลยค่ะเพราะว่ายังไงคดไว้แล้วคงเดินทางด้วยวิธีนี้ กับเดินแค่นี้ค่ะ ประหยัดงบ ^^ ก่อนนั่ง subway ต้องนั่ง รถไฟของairport ออกมาก่อนค่ะ แต่จำราคาไม่ได้แล้วอิอิ น่าจะประมาณ $5 รึเปล่าหว่า? แต่ตั๋ว Subway weekly นี่ $25 ค่ะ subway ที่นี่ค่อนข้างสกปรกค่ะ แต่ถูกกว่าการเดินทางแบบอื่นค่ะ ที่นี่เป็นที่พักค่ะ เป็น hostel dorm ห้อง 4คน ชื่อ Chelsea spot อยู่ใกล้ๆ Madison sq. ค่ะ ใกล้subwayด้วยเดินทางสะดวก ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ คืนละ $29 ต่อคนค่ะ ช่วงที่ไปนี่ราคาจะแพงกว่าตอนที่เพื่อนชาวมาเลย์ไปค่ะ เค้าตอนตอนปีใหม่ บอกว่าคืนละ $20 เองค่ะ อิจฉาจัง พอเก็บของเสร็จก็ตรงไปร้าน Century 21เลยค่ะ นั่ง subway ลงสถานี world Trad Center ไปดูซากตึกด้วยค่ะแต่ไม่เห็นเพราะเขาเอาผ้าใบคลุมไว้ แต่พอเห็นร่องรอยการถล่มในสถานีsubway ค่ะเห็นแล้วก็สลดใจ Century21 นี่เป็นคล้ายๆ outlet มีสินค้า brand name ขายในราคาถูก คนเยอะมากกกกก ใครที่ชอบshoppingไม่ควรพลาดค่ะ พอเราซื้อขายจ่ายเงินเสร็จเขาก็จะมีคูปองประมาณว่าเอาไปใช้ลดครั้งต่อไปอีกกี่เหรียญๆ เป็นการจูงใจให้คนซื้อเพิ่มประมาณนั้นน่ะค่ะ พอซื้อของหอมปากหอมคอแล้วก็เดินมาเรื่อยๆก็ถึงย่านซื้อขายหุ้น Wall street นั่นเองค่ะ ตอนที่ไปนี่เงียบมาก มีรถตำรวจ และก็ตำรวจถืออาวุธครบมือเลยค่ะ มีพวกนักธุรกิจต่อแถวกันอยู่ด้วย ดูหน่ากลัวหน่อยเราก็ถ่ายรูปนิดหน่อยก็เดินออกค่ะ หลังจากนั้นเราก็ไปหาอะไรทานที่ China Town เหมือนเข้ามาในประเทศจีนเลยค่ะ คนจีนพูดภาษาจีนเต็มไปหมด นึกว่าหลุดมาประเทศจีนซะแล้ว เดินๆไปก็เลือกกินร้านข้าวหน้าเป็ด หน้าไก่ที่เค้าว่าห้ามพลาดกันเลยลองซะหน่อย ให้เยอะมากค่ะไม่แพงด้วยตกประมาณ $4เองค่ะมื้อนี้ ที่สำคัญทานร้านคนจีนไม่มี บวก Taxค่ะ ที่โน่นอะไรๆก็บวก TAXหมดค่ะ ไว้จะเอารูป China Townมาลงทีหลังนะคะ วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนเดี๋ยวจะมาต่อนะคะ ขอโทษด้วยนะคะที่รูปเล็กไปเยอะเลยพอดีทำขนาดผิดอ่าค่ะ เห้อไว้แก้ตัวครั้งหน้านะคะ   Create Date : 23 สิงหาคม 2551     Last Update : 23 สิงหาคม 2551 22:15:59 น. Counter : 294 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• Moonlight Mile
• Goret
• นะโอ
• Clear Ice
• Beebie
• แม่สลิ่ม
• ปูขาเก เซมารู
• its_gemmi
• แพรวขวัญ
• Mcdull
• ก้อนหินสีขาว
• vanillaorchid
• Kofschip
• Calamity
• puppadoowab
• chef umim
• +~%Chocolate Republic%~+
• Excuse..Me!
• wee_nong
• งาขาว
• หงุกหงิก
• anadiar
• ชมพู่น้อย
• Donat-nat
• J-Nap
• ดวงใจพ่อแม่
• Bambie
• jjbd
• Webmaster - BlogGang

• BlogGang.com