|
ความทรงจำ
กรุงเทพฯ บนรถเมล์ปรับอากาศตอนยามสองในคืนวันศุกร์ ดูเงียบสงัดดีแท้ ผมก้าวขึ้นมาจากป้ายรถเมล์ตรงบริเวณหน้าราม เลือกที่นั่งด้านหลังสุด ทั้งๆที่มีที่ว่าง แทบจะนอนเรียงรายกันได้ตั้งแต่หัวรถยันท้ายรถ เพียง เพื่อจะคิดทบทวนถึงเรื่องเมื่อสักครู่ที่เพิ่งได้ประสพมา.......................... ฉันไม่สามารถที่จะทนอยู่กับอนาคตที่ลุ่มๆดอนๆของคุณได้อีกต่อไป นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยิน และก้องในโสตประสาท ทุกครั้งเมื่อนึกถึง แพร ผู้หญิงคนเดียวในชีวิตที่ผมคุ้นเคยมากที่สุดนอกจากแม่ผู้ให้กำเนิด เรารู้จักกันตอนผมเรียน ปวช. หล่อนเป็นรุ่นน้องผม 2 ปี เป็นรัมเมเยอร์ของวิทยาลัย ในขณะที่ผมชอบรำพัด ( เล่นไพ่ ) เป็นชีวิตจิตใจ สถานภาพทางสังคมของเราดูจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง ผมใช้ชิวิตในวัยหนุ่มสึกกร่อนไปกับการกินเหล้าและจีบผู้หญิง แต่กับผู้หญิงคนนี้ ผมไม่ได้จีบ หล่อนเดินเข้ามาในหัวใจอย่างห้าวหาญ และสามารถครอบครองมันทั้ง 4 ห้องหัวใจ ช่วงเวลานั้นผมเป็นผู้ชายที่เรียกว่าแทบจะโชคดีที่สุดในโลก แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขผมก็อยู่ได้ไม่นาน หล่อนก็สลัดเยื่อใย เดินออกไปด้วยความห้าวหาญเหมือนตอนเดินเข้ามาครั้งแรก เพราะความไม่รู้จักรักษา ไม่รู้จักหวงแหน ไม่นึกถึงคุณค่า ไม่คำนึงถึงเจตนาและความหวังดีที่หล่อนหยิบยื่นให้ รถเมล์แล่นผ่านหอพักผมหลายป้ายแล้ว ผมจะนั่งมันต่อไปจนถึงสุดทาง นั่งไปจนสุดสายและนั่งย้อนกลับมาใหม่ เหมือนชิวิตรักที่พร้อมจะเริ่มใหม่กับใครสักคน ที่.................ไม่รังเกียจในความเป็นตัวตนของผม
Create Date : 29 เมษายน 2549 | | |
Last Update : 10 กรกฎาคม 2550 13:37:24 น. |
Counter : 372 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
ยามเข้าป่าเสกคาถากันช้างไล่
ปีนต้นไม้อีกด้วยช่วยคาถา
เมื่อน้ำแกงจวนหมดรสโอชา
เติมน้ำปลาอีกด้วยช่วยน้ำแกง
|
|
|
|
|
|
|
|