จองตั๋วรถไฟแล้วไปลำปำ ถลำเข้าวังเจ้า ฯ เข้าวัด ซัดขนมจีน
จากบ้านญาติเพื่อนก็ออกมายังสถานีรถไฟ เพื่อจองตั๋วรถกลับ กทม.ณ สถานีถ่ายกับเพื่อนและญาติเพื่อนที่สถานีเขาอกทะลุมองเห็นจากสถานีรถไฟชัดเจน/data/dangtravelandtourandcookandart/picture/1371193544.jpg width='450' height='337' border=0>จองตั๋วรถไฟเสร็จได้เวลาอาหารเย็น เพื่อนพาไปนั่งร้านใกล้ ๆ สถานีรถไฟ เพื่อนบอกว่าร้านนี้ฝีมือจริง ๆ ลองดูได้เป็นประเภทอาหารพื้นบ้านประยุกต์เล็กน้อยเพื่อให้ทันสมัยและเพิ่มราคาเล็กน้อยบรรยากาศร้านร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มีกล้วยไม้ไทยปลูกห้อยไว้ตามชายคาบ้างตามต้นไม้บ้างเฟิร์นสะใบสีดาดูกับข้าวปลาดุกอุยผัดพริกสด จานนี้อร่อยมากได้รสชาติของปลาดุกอุยสด ๆ เนื้อหวานเหนียวพอควร ยกนิ้วให้เลยต้มยำปลาไหลนา ตอนแรกตกใจที่พ่อครัวเล่นต้มสด ๆ มาเลย (ผมไม่เคยต้มแบบนี้มาก่อน) ควรย่างให้แห้งนิดหน่อยก่อนต้มเนื้อจะแข็งขึ้นมานิดนึง แต่มาแบบนี้ก็อร่อยไปอีกแบบหนึ่ง (แบบต้มเปรต) ใช้ได้ปลาสำลีแดดเดียวทอดกรอบ กรอบดีกินได้หมดทั้งตัว ใช้ได้อีกแหละผักเหนาะมีหลายชนิดเก็บมาเองก็มีเช่นยอดมะเม่า ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดมะกอก ถั่วฝักยาว แตงร้านรับประทานอาหารเสร็จก็กลับไปนอนรุ่งเช้าเราออกเดินทางกันแต่เช้า ผ่านเขาอกทะลุไปจอดรถที่หน้าหาดแสนสุขเดินเข้าทาง ทางเข้าหาดแสนสุขลำปำด้านหน้าสวนมีน้ำพุ รอบนอกน้ำพุมีปูนปั้นรูปปลาโลมาอิรวดีเป็นปลาโลมาน้ำจืดส่วนตรงกลางน้ำพุเป็นปลาลำปำเป็นปลาเฉพาะถิ่นในทะเลสาบสงขลา ตระกูลปลาตะเพียนทะเลสาบสงขลามองเห็นหัวเกาะแก้วศาลาแต่เดิมเป็นสโมสรมีสุราอาหารขาย ปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว คงปิดไว้เฉย ๆ ไม่ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ เสียดายสถานที่จากศาลามองเข้าหาฝั่งมองไปทางซ้าย และขวามองออกไปในทะเลสาบสะพานสีเหลืองข้ามไปเกาะแก้วมีต้นการเวกสองข้างสะพานข้ามไปเกาะดอกการเวก หอมเย็น ๆ ชื่นใจถังขยะทำเป็นรูปปลาโลมาอิรวดี ดูสวยดีทางเดินกลางมีตัวหนังตลุงตัวสำคัญ ๆ แสดงไว้ให้ดูเป็นซุ้ม ๆตัวหนัง พระอิศวรตัวหนัง ฤาษีคลองลำปำ ช่วงใกล้ออกทะเลสาบสงขลาและเราก็เดินทางกลับออกมาแวะที่ วังเจ้าเมืองพัทลุงป้ายประวัติวังเก่าเรือขุดโบราณ ใต้ถุนวังเก่าป้ายเรื่องเรือกลุ่มวังใหม่ศาลาท่าน้ำวังใหม่ติดคลองลำปำออกจากวังเจ้าเมืองพัทลุงก็ผ่านวัดวัง ไม่แวะเพราะไม่มีเวลาแล้วดูนอกวัดก็ชัดแล้วอ้าวผ่านเขาอกทะลุอีกแล้วสายแล้วชักจะหิวแล้วนะ เพื่อนเลยพาไปกินขนมจีนปากคลอง ซึ่งอร่อยแบบเดิม ๆ ของชุมชนแถว ๆนี้ ไปถึงร้านร้านเล็กแต่คนแน่น คนทะยอยเข้า - ออก อยู่ตลอด คอยนิดก็จะพอมีที่นั่ง (เราคอยได้) อร่อยมากลูกมะเดื่อ ชาวใต้เรียกลูกชิ่งของหวานสาคูเปียก สาคูที่ทำมาจากต้นสาคูแท้ ๆ เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวนี้หากินยากเพราะชาวบ้านไม่ใคร่ทำแล้ว เพราะเอาไปเลี้ยงด้วงสาคู ขายด้วงสาคูกำไรงามกว่า ไม่ต้องเสียแรงด้วย ทิ้งไว้เฉย ๆ มันเกิดเองวันนี้จัดว่าเฮงที่ได้กินกินขนมจีนเสร็จไปตบท้ายด้วยกาแฟซักหน่อยนะครับไว้ดื่มกันในตอนหน้านะครับ สวัสดีครับ
เขาอกทะลุอย่างไรแล้วไปน้ำตกไพรวัลย์ (ตอน 2)
ที่บ้านญาติเพื่อนเป็นบ้านของคนพื้นถิ่นที่พัฒนารูปแบบขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แต่รอบ ๆ บริเวณยังคงเดิม ๆ อยู่ บริเวณรอบ ๆ บ้านปลูกพืชพื้นถิ่นไว้เป็นอาหารบ้าน ข้างบ้านมีต้นมะมุด ดูเผิน ๆ เหมือนกับต้นมะม่วงมากเพียงแต่ใบหนากว่าเส้นใบชัดเจนกว่าเท่านั้นต้นมะมุดลูกมะมุด (ลูกมุด)มีกล้วยไม้ไทยพื้นเมืองห้อยตามชายคาบ้านเอื้องครั่ง หรือเอื้องสายน้ำครั่ง (สายยาว)เอื้งมัจฉานุว่านหางช้าง หรือว่านเพชรหึง เป็นกล้วยไม้พันธุ์ไทยที่ใหญ่ที่สุด ก้านช่อดอกยาวปรัมาณ 1 - 1.5 เมตร จะมีปลูกอยู่แทบทุกบ้านในชนบทแถบเมืองพัทลุงต้นธำมัง (เป็นต้นไม้ที่มีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นของแมลงดานาทั้งส่วนใบและเนื้อไม้)นิยมเอาเนื้อไม้มาทำสากตำน้ำพริกต้นหมุย ยอดอ่อนใช้เป็นผักแกล้ม (ผักเหนาะ)ต้นเนียง ฝักใช้จิ้มน้ำพริกใช้เป็นผักเหนาะก็ได้ฟักข้าวผลสุกสีเหลืองสวยงาม ผลดิบอ่อน ๆ ใช้แกงเลียง แกงส้ม ต้มจิ้มน้ำพริกมีคุณค่าทางอาหารมากเครื่องสีข้าวพื้นบ้าน ภูมิปัญญาชาวใต้ครกตำข้าวไก่ชนพื้นบ้าน เลี้ยงไว้ชนบ้างกินบ้างแบบเศรษกิจพอเพียงได้ทราบมาจากเพื่อนอีกทีว่าถ้าใครได้พบดอกไม้ มี 4 - 5 - 6 กลีบ จะโชคดีเป็นตำราฝรั่งนะครับ (เพื่อนบอก) ผมพบเข้าแล้วเริ่มจาก 4 กลีบ5 กลีบ6 กลีบชมบริเวณรอบ ๆ บ้านเสร็จก็เริ่มเดินทางออกจากบ้าน ได้เวลาอาหารกลางวันพอดี เลยแวะรับประทานอาหารพื้นบ้านที่ร้าน อยู่ตรงข้ามหน่วยทหาร "สำนักงานทหารพัฒนาภาค 4 พอดี ดูอาหารน้ำพริก ร้านแถมให้กินฟรี พร้อมทั้งผักเหนาะที่มี ผักนกเขา (ภาคกลางเรียกผักหูปลาช่อน) รสชาติมันและหอม ผักแว่น มะเขือเจ้าพระยา แตงกวา ยอดมะม่วงหิมพานต์ ยอดหมุยแกงส้มปลากระพงใส่สับปะรดแกงคั่วไก่ใส่กล้วยดิบปลาดุกอุยแดดเดียว ปลาดุกอุยตามธรรมชาติที่พัทลุงชุมมากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จก็ออกเดินทางไปน้ำตกไพรวัลย์ตัวน้ำตกสวยในระดับหนึ่งพบปลาก้างสองตัวในธารน้ำตกตอนผมเด็ก ๆ เคยจับในคลองสามเสน กทม. ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้วในคลองสามเสนเพราะน้ำเน่าปลาก้างเป็นปลาตระกูลปลาช่อนแต่ตัวมีขนาดเล็กกว่าปลาช่อนมาก ขอบหางจะมีสีแดงสวยงาม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa limbata ปลาก้างมีทุกภูมิภาคของไทยบริเวณน้ำตกมีผีเสื้อบินกันขวักไขว่เป็นจำนวนมากเกาะที่รองเท้าดูต้นไม้ดอกไม้ป่ากันบ้างเฟิร์นตีนตุ๊กแกว่านนกคุ้มดอกดาหลาป่ากอต้นดาหลากลับออกมาจากน้ำตกเพื่อนได้พาไปเยี่ยมญาติและได้พาไปดูต้นมังคุดเก่าแก่ขนาดหนึ่งคนโอบต้นลองกองว่านเพชรหึงต้นเนียงต้นมังคุดขนาดย่อมบรรยากาศหน้าบ้านสดชื่นมองเห็นภูเขาเขียวร่มเย็น อากาศเย็นสบายเสร็จจากเยี่ยมญาติก็กลับไปยังสถานีรถไฟพัทลุง ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับเขาอกทะลุ ทำไมเรียกเขาอกทะลุก็อกเขามันมองทะลุได้ ภูเขานี้เป็นสัญญลักษญ์ของเมืองพัทลุงกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ พบกันตอนต่อไป (ตอน 3 ) สวัสดีครับ
เยือนพัทลุงเมืองเขาอกทะลุ
มีธุระต้องไปงานมงคลสมรสของเพื่อนที่เข้าอบรมพิพิธภัณฑรุ่นเดียวกัน เธอเป็นตำรวจหญิงแสนสวย แต่ไปตกหลุมรักของผู้คุมหนุ่มรูปหล่อแห่งกระทรวงยุติธรรม ผมได้รับการ์ดเชิญในงานนี้ด้วยจึงตั้งใจที่จะไปงานเธอจึงเริ่มวางแผนการท่องเที่ยวแฝงไปในการเดินทางครั้งนี้ด้วย เผอิญผมมีเพื่อนสนิทอยู่ที่พัทลุงเลยโทรศัพท์คุยให้เพื่อนพาไปบ้านงานและพาเที่ยวด้วย ผมเดินทางไปล่วงหน้าก่อนวันงาน 1 วันเลยมีเวลาเที่ยวมากหน่อย และผมจะแบ่งเป็นตอนสั้น ๆ ตลอดการเดินทางในครั้งนี้ เชิญติดตามได้เลยครับ 16 พ.ค. 56 เดินทางโดยรถไฟ ขบวน 37 กรุงเทพ - สุไหงโกลก ซึ่งจอดเทียบอยู่ในชานชาลาที่ 4 ครับ หัวจักรที่ลากรถขบวนนี้ไป ตกตอนเย็นก็เดินไปรับประทานอาหารที่ตู้รถเสบียงสั่งเบียร์ไฮเนเกน 1 ขวดได้มาเป็นชุดอย่างนี้ ผมดื่มเบียร์ไม่เคยใส่น้ำแข็งไม่เคยใช้ผ้าเย็นก่อนที่จะดื่ม(ต้องทนไป) สั่งกับแกล้ม ลาบเนื้อ ได้มาเป็นเหมือนพล่าเนื้อ (ใส่ตะไคร้ซอย เนื้อสับหยาบ ๆ พริกป่น หอมแขกซอย บีบมะนาว น้ำปลา ไม่ใส่สะระแหน่ ใส่ผักชีแทน) จะดื่มต่อเลยสรุปว่าเสียอารมณ์ กินข้าวดีกว่า เดี๋ยวนี้บนรถไฟขายของเป็นชุดแล้ว ไม่รับสั่งเป็นจาน มีรายการอาหารมาให้เลือก เลือกไปรายการหนึ่ง ข้าวผัดทะเล ในชุดจะมี ไข่ดาว 1 แกงจืด 1 รับประทานอาหารเสร็จก็กลับมานอนนอนยังไม่ใคร่หลับเพราะยังหัวค่ำอยู่ เอ๊ะรถจอด ลุกขึ้นมาดูโอ้สถานีประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นก็หลับไปมาสดุ้งตื่นอีกทีตอนที่เงียบสนิทรถไฟจอดมองออกหน้าต่างรถไปมืดสนิทไม่เห็นอะไร ก็นั่งมองหน้าต่างอยู่เห็นแสงไฟส่องมาเห็นป้ายสถานี "บ้านหนองหญ้า" ไม่รู้ว่าอยู่จังหวัดอะไรแล้วตอนนี้ อ๋อรถไฟจอดรอรถสวนนี่เอง แล้วรถก็สวนไป ดูเวลา 23.20 นอนต่อนอนต่อไม่ทันไรรถก็จอดอีกดูเวลา 23.50 ถึงสถานี "ชุมพร" ต่อจากนี้ก็หลับยาวไปเลยมาตื่นอีกทีเวลา 03.40 ถึง "สุราษฎร์ธานี " ต่อจากนี้ไปครึ่งหลับครึ่งตื่นไปตลอดทางคือ04.40 ถึง "ชุมทางทุ่งสง"05.40ถึง "ชะอวด"06.40 ถึง "ชุมพร"เพื่อน โทร.มาถามตั้งแต่ถึงชุมทางทุ่งสงแล้วเพื่อนมารอรับที่สถานี แล้วพาไปรับประทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟ ในเมืองชุมพร มีซาละเปาใส้ต่าง ๆให้เลือกได้ข้าวเหนียวปิ้งใส้กุ้ง บ๊ะจ่างขนาดลูกกำลังกิน (ลูกไม่โตเกินไป)ร้านกาแฟอยู่ใกล้ ๆ กับตลาดผดุงดอนยอบริเวณหน้าตลาดเขาทำที่ไว้ให้นักเลี้ยงนกกรงหัวจุกได้นำนกออกมาอาบแดดและก็อวดกันอีกด้วย หน้าตลาดหลังจากนี้ก็เดินทางไปบ้านญาติของเพื่อนซึ่งอยู่ไม่ไกลนักเพื่อทำการเปลี่ยนรถ ชมต่อตอนหน้านะครับ
ไปแอ่วอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำและแวะไหว้พระเจ้าทันใจ ที่พะเยา
จากตัวเมืองพะเยาวิ่งมาทางงาวก่อนถึง มหาวิทยาลัยพะเยา มีทางแยกซ้ายมือเป็นทางเข้าไปยังอ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำเราเลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย วิ่งรถไปหน่อยเดียวก็จะเห็นทางแยกเข้ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต พะเยา เราไม่แวะเราเลยเข้าไปอ่างเก็บน้ำก่อนเพราะอยู่ลึกเข้าไปอีกแล้วก็มาถึงอ่างเก็บน้ำจากป้ายนี้เราขับรถไปทางซ้ายขับไปเรื่อย ๆเข้าไปจนสุดอ่างเก็บน้ำไกลพอสมควร แต่ทางยังมีต่อไปได้อีก เราไม่ไปลงจากรถมาถ่ายรูปมีทางน้ำล้นด้วยวิวภายในอ่างเก็บน้ำทางน้ำที่ล้นออกไปวนรถกลับออกไปประตูน้ำที่ปล่อยน้ำออกไปเพื่อการเกษตรดอกไม้ป่าที่สันอ่าง เขาเรียกว่าผักบุ้งบกดอกกระถินบ้าน นอกจากจะจิ้มน้ำพริกอร่อยแล้วยังสวยแบบบ้าน ๆ ด้วยดอกว่านมหาลาภมีแต่ดอกไม่มีใบเลยจากอ่างเก็บน้ำเราก็ขับรถย้อนออกมาตามทางที่เข้าไป จนมาถึงทางแยกเข้ามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยแต่เราไม่เข้าเลยไปอีกนิดเดียวก็เลี้ยวรถเข้าไป เป็นสำนักสงฆ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (วัดป่าอุบาลี) เราขับรถขึ้นไปยังองค์พระธาตุเลย กำลังก่อสร้างกันอย่างชุลมุนเลยกำลังก่อสร้างอุโบสถอุโบสถและวิหารพระเจ้าทันใจหลังคาอุโบสถสามปอยนกในวัดดอกจำปาและลูกจำปาของวัดเฟิร์นสะใบสีดาในวัดบันไดนาคทางขึ้นพระธาตุมองลงไปด้านล่างไปหอฉันท์พระธาตุเจดีย์วิหารพระเจ้าทันใจภายในวิหารพระเจ้าทันใจพระเจ้าทันใจขอจบการไปไหว้พระเจ้าทันใจ เมืองพะเยา ไว้แต่เพียงเท่านี้ครับสวัสดี
ไปแอ่วกาดเจ๊าเมืองพะเยากัน
ปกติที่ผมได้ไปท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นจังหวัดใดก็ตามตอนเช้า ๆ ผมชอบที่จะไปเดินเล่นในตลาดของชุมชนนั้น ๆเสมอเพื่อที่จะได้เห็นวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนนั้น ๆได้เป็นอย่างดีและจะได้หาซื้อของแปลก ๆ มาฝากญาติด้วยวันนี้ได้ไปพะเยา เลยมาชมกาดเจ๊า (ตลาดเช้า)ชอบดูที่ชาวบ้านนำของต่าง ๆ ที่ตนมีนำมาขายเพื่อแลกเปลี่ยนกันหรือจะนำไปซื้อของอื่น ๆ ที่ต้องการดูเจ้าแรก มีหมวกใบลาน มะละกอสุก ผอดผักละ (ชะอม) ยอดส้มป่อย (สีแดง)ยอดผักแคบ (ตำลึง) ดอกผักปัง ชุดผักสำหรับแกงแค (มีแคแดง ผักเผ็ด ยอดผักหนาม) ผักเผ็ดภาคกลางเรียกผักคาด มะละกอสุก ผักบุ้ง มะเขือแพะ ดอกแค ฟักทองอ่อน ดอกฟักทองทั้งดอกตัวผู้และดอกตัวเมีย ผักหวานป่า นกนา ๆชนิด และปลาตระกูลปลาตะเพียนเจ้านี้มีชมพู่แก้มแหม่ม (เดี๋ยวนี้หายากมากแล้ว) ดอกงิ้ว แม่ค้าอีกคนขายน้ำมันหมูเอ๊ะ ทำไมร้านนี้มีอึ่งขาย สอบถามดูปรากฏว่าที่ อ.ปง ฝนตกทั้งคืนจนอึ่งออก มาไกลนะอึ่ง ผมชอบเอามาย่างกินกับน้ำพริกหนุ่ม มะเขือพวงนึ่ง ข้าวเหนียวร้อน ๆ ฮืมมมแม่ค้าปลา มีปลานิล ปลาช่อนสด - แห้ง และยอดมะกอกอีกเจ้ามีหอยขม ปลาไหล ปลาช่อนแห้ง ปลากระดี่เสียบไม้เรียงตัวเลย ภาคกลางนิยมนำมาตากเป็นวงกลม ๆ และเรียกว่าปลาวงไข่มดแดงหลายจำพวกหลายแบบ พร้อมยอดผักหวานป่า และผลผักหวานอ่อน ๆจบกาดเจ๊าครับ สวัสดีครับ