|
|
|
|
|
|
ไปร่วมงานแต่งงานแบบรามัญที่สังขละบุรี (2)
หลังจากที่ได้กลับมานอนแล้ว พอรุ่งเช้าเราก็รีบตื่นขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว เดินขึ้นไปบนฝั่งที่ร้านเราทานอาหารเมื่อวานนี้มีอาหารชุดขาย ให้ผู้มาเยือนได้ใส่บาตร เลยซื้อใส่บาตรกันคนละชุด แล้วก็ออกเดินข้ามสะพานไปฝั่งมอญ
เมื่อข้ามสะพานมาแล้วตรงคอสะพานก็มีบริการเช่นกันอีก เลยซื้อใส่บาตรกันอีก (เรื่องการทำบุญนี้เราไม่ควรประมาท เพราะเราไม่ล่วงรู้ถึงวันตายของเรา)
ผมให้เพื่อนใส่ต่อจากผม
เพื่อนเห็นดีซื้อมาใส่อีก คราวนี้คนขายมาทำพิธีให้มากมาย จนเกือบพระจะกลับวัดหมด อิอิ
พระเกือบกลับหมดแน่ะ
และแล้วเราก็เดินไปตามเส้นทางนี้ (ไปบ้านเจ้าบ่าว)
มาเจอกับสาวมอญที่ยังคงรักษาประเพณีเดิมของตนไว้ คือจะไม่ตัดผมเลยตลอดชีวิต จะคงไว้ยาวเช่นนี้และขมวดเป็นมวยไว้เมื่อเวลาออกจากบ้านไปไกล ๆ
บ้านเรือนตามสองข้างทางมักปลูกกล้วยไม่ไทยไว้ ขณะที่ไปเอื้องเงิน และไอยเรศกำลังออกดอก
ทะลุถนนใหญ่ตรงศาลาริมทางแบบมอญ เราเลี้ยวซ้ายไปนิดเดียวก็ถึงบ้านเจ้าบ่าว
หน้าบ้านเจ้าบ่าว ขนมที่เอามาเลี้ยงแขกมีบิสกิตใส้สับปะรดกวนและขนมหลักของมอญ จำกันได้ไหมครับ ตะกู กับ ปลอนโกนซาย ไงครับ
ยังเตรียมการไม่เสร็จแอบไปเดินดูตลาดกันดีกว่า
เจ้าแรกมีเนื้อไก่ เนื้อหมู ปลากดและปละตะเพียน
เจ้านี้มีตะกวดด้วย
ปลาบู่ ปลากด และปลาตระกูลปลาตะเพียน
ระกำป่า ใส่ต้มยำหรือแกงตะกวด เด็ดนักแล
ปลากาและปลาตะเพียน
แม่ค้าขายขนมหลักของมอญครับ ตะกู และ ปลอนโกนซาย
ปลากรายในหมู่ปลาตะเพียน
ปลาเล็กปลาน้อย
ถั่วแบบที่เห็นผมชื้อไปใส่แกงเผ็ดปลาอร่อยดีครับ
ไปเดินตลาดเสียเพลินกลับมาขบวนขันหมากกำลังจะออกเดินพอดี
พิธีก่อนเคลื่อนขบวนขันหมากคือการจุดประทัดหนึ่งตับ ยาวประมาณ 2 เมตร จุดเสร็จก็ออกเดิน เริ่มจากญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว เดินแถวหน้ากระดานเรียงสี่
ตามมาด้วยต้นอ้อยคู่และต้นกล้วยคู่ กับสำรับเครื่องคาว - หวาน หนึ่งสำรับเท่านั้น ของไทยเราเครื่องขันหมากมีมากมายสุดจะพรรณาเลยเชียว
ตามมาด้วยขบวนกลองยาว
ตามมาด้วยคนเทินสำรับคาว - หวาน เครื่องนอนต่าง ๆ และบรรดาญาติ
ต่อไปก็ดูภาพขบวนขันหมากไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกันนะครับ
มีการถอดสร้อยคอมากั้นเป็นประตูเงินประตูทองเหมือนธรรมเนียมไทย
มีธรรมเนียมการล้างเท้าเจ้าบ่าวก่อนเข้าบ้านด้วย ธรรมเนียมนี้เหมือนของไทยแต่เดิม ซึ่งของไทยปัจจุบันเราเลิกไปแล้ว
และแล้วเจ้าบ่าวก็เข้าบ้านไป ธรรมเนียมที่แปลกกว่าธรรมเนียมไทยก็คือไม่มีพิธีสงฆ์ในพิธีแต่งงาน มีแต่การเลี้ยงแขกที่มาร่วมงานเท่านั้น
นอกบ้านก็เเต้นก็รำกันไปอย่างสนุกสนาน
แขกที่มาร่วมงาน
เราไปชมอาหารแบบมอญกันดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง มอญเป็นคนพื้นถิ่นในสุวรรณภูมิร่วมกันกับขอมโบราณ อาหารมอญจึงส่งอิทธิพลให้พม่า พม่าส่งอิทธิพลให้ไทยตอนเหนือ จะเห็นว่าอาหารไทยภาคเหนือและอาหารมอญนั้นเหมือนกันเลยทีเดียว ส่วนอาหารอะไรเหมือนกันผมจะกล่าวต่อไปนะครับ
หม้อนี้เรียกยำไก่ เรียกก็เหมือนกัน และรสชาติเหมือนกับยำไก่ภาคเหนือเป๊ะเลยแต่ทางนี้เขาจะใส่พริกพราน (มะแขว่นยักษ์)แทนมะแขว่นซึ่งกลิ่นและรสชาติเหมือนกันแต่ขนาดของพริกพรานใหญ่กว่ามะแขว่นประมาณสามเท่า คือจะมีกลิ่นฉุนและรสซ่า ๆลิ้น
หม้อนี้คือยำหัวผักกาด (ฮไมลาย) เอาหัวผักกาดหั่นขวางบาง ๆ ดองน้ำส้มสายชูไว้หนึ่งคืน เช้าบีบน้ำออก เคล้ากับหมูสามชั้นต้มหั่นบาง ๆ กุ้งแห้งป่น มะพร้าวขูดคั่ว ถั่วลิสงคั่วตำหยาบ ๆ พริกป่น รสชาติเปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ เผ็ด ๆ
/data/dangtravelandtourandcookandart/picture/1373262106.jpg width='450' height='337' border=0> หม้อนี้ต้มจืดวุ้นเส้น (โบ้สะแพร) ก็แกงจืดวุ้นเส้นดี ๆ นี่เอง แต่ใส่หอมแขกซอย ยอดมะพร้าวอ่อน เห็ดหูหนู หมูสับปั้นเป็นก้อน ๆ และก็วุ้นเส้น
แกงฮังเลหมูสามชั้น นี่ก็เหมือนแกงภาคเหนือเปี๊ยบเลยแต่ต่างกันที่รสชาติทางภาคเหนือมีรสออกหวานเล็กน้อย ของมอญเค็มรสเดียว
ที่แม่ครัวตัก ๆ กันอยู่นี่ก็คือน้ำพริกปลาทูนึ่ง (ฮะร้อก) รับประทานกับผักต้ม เช่น ใบเหลียง (นิ้งกอง) ต้ม ผักกูด (หะต้อน) ต้ม ถั่วฝักยาวต้ม และแตงกวาดิบ คล้าย ๆ น้ำพริกป่นอีสานบ้านเรา
ขึ้นไปบนบ้านช่วยงานโดยหยอดลงกล่อง แล้วรับของชำร่วย แล้วก็ลงไปรับประทานอาหาร
แขกที่มาร่วมงานรับประทานอาหาร
แม่ครัวคอยตักอาหารเลี้ยงแขก
รับประทานอาหารเสร็จก็เป็นอันว่าจบพิธีแต่งงานแบบรามัญเพียงเท่านี้ จากนั้นเราก็เดินกลับข้ามสะพานมายังฝั่งตลาดเทศบาลสังขละบุรีครับ พบกันตอนหน้าครับ สวัสดี
Create Date : 07 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 9 กรกฎาคม 2556 7:54:11 น. |
|
1 comments
|
Counter : 5897 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|