|
|
ละทิ้ง
1 โครินธ์ 13:11-12
เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็กคิดอย่างเด็ก ใคร่ครวญหาเหตุผลอย่างเด็ก แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการเด็กเสีย..
เพราะว่าบัดนี้ เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจกแต่เวลานั้นจะได้เห็นพระพักตร์ชัดเจน
เดี๋ยวนี้.... ความรู้ของข้าพเจ้าไม่สมบูรณ์ เวลานั้น... ข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนพระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้า..
---- เอเฟซัส4/13-14
จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเช่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่
คือเต็มถึงขนาดความไพบูย์ของพระเยซูคริสต์ เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมา และหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสอนทุกอย่าง
และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง
***
ไม่กี่วันก่อน พึ่งได้ฟังเรื่องตลกมาอีกเรื่องนึง ของบรรดาผู้ที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียน
มีศิษยาภิบาลท่านหนึ่ง "ย้ำ" ศิษยาภิบาล.... "เลิกเชื่อ" เพียงเพราะหนังเรื่องดาวินซี่โค้ด.....
ข้าพเจ้าเคยเขียนบทความอันนึง เกี่ยวกับหนังเรื่องเดอะบอดี้ ซึ่งมีเนื้อหาที่เป็นไปในทางที่สามารถทำให้คนเลิกเชื่อเรื่องพระเจ้าได้เช่นกัน และข้าพเจ้ากทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าข้าพเจ้าไม่ใช่คริสเตียน ข้าพเจ้าก็จะยิ่งคิดว่าพวกคริสเตียนโคตรงมงาย +โง่บรม แต่ในความเป็นคริสเตียน และจากประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าพระเยซูคริสต์ หนังเรื่องนั้นก็ให้ข้อคิดดีๆหลายอย่างกับชีวิตคริสเตียน
ศิษยาภิบาลที่เลิกเชื่อเพียงเพราะหนังเรื่องดาวินซี่โค้ด ก็คงไม่ต่างอะไรกับบาทหลวงที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงในหนังเรื่องเดอะบอดี้
จะต่างกันก็ตรงที่ คนนึงฆ่าตัวตาย..ส่วนอีกคนึง เลิกเชื่อ แต่จุดร่วมที่น่าจะเป็นจุดเดียวกันก็คือ
"ทนอับอายในความเป็นคริสเตียนต่อไปไม่ไหว"
เพราะว่า จากสื่อต่างๆมากมายซึ่งคลอดออกมาจากฝ่ายที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าและไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า และไม่มีความเข้าใจอะไรเลยในเรื่องพระเจ้านั้น ..มีมากเหลือเกิน ....และ เมื่อสิ่งนี้ถูกนับว่าเป็นส่วนมาก
ชนกลุ่มน้อยอย่างคริสเตียน ..ก็จะต้องถูกมองว่าโง่ให้ได้ เพื่อยกคนกลุ่มมากขึ้นให้ดู"ฉลาด"
...คริสเตียนที่เลิกเชื่อ สาเหตนึงที่ชัดมากๆก็คือ ..."อาย" ที่จะถูกมองว่าโง่ อยากทำตัวเป็นคนส่วนมาก อยากฉลาด .....และถ้าการจะปฏิเสธความจริงเรื่องพระเจ้าจะทำให้เค้าฉลาดขึ้น ...เค้าก็จะทำ....
...... เกี่ยวกับตัวของข้าพเจ้าเอง ในสมัยนึงที่ข้าพเจ้ายังถูกเรียกว่าพุทธ ในที่ทำงานเก่าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะถกมองในแง่ดี ว่าพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง พอให้ไว้วางใจได้บ้าง
แต่เมื่อข้าพเจ้ากลายเป็นคริสเตียน "เครดิต" ก็ถูกกดลงอย่างทันที ... ข้าพเจ้าเริ่มเหมือนจะกลายเป็นอะไรที่ไว้วางใจไม่ได้
เพราะว่าที่ทำงานเก่าน้น ..แอนตี้พระเจ้าและยกชูมาร บูชาพวกรูปเคารพอย่างออกหน้าออกตา.....
......หรืออย่างเช่นในเวบบอร์ดเองก็ตาม ถ้าข้าพเจ้า เขียนบทความที่อิงทางพุทธโดยสมบูรณ์ ก็จะมีคนยอมรับข้าพเจ้ามากกว่าการอิงทางพระเจ้า... ทันทีที่ข้าพเจ้าเขียนบทความอิงทางพระเจ้า ....ข้าพเจ้าก็จะถูกมองว่า "โง่" ทันที
มาตรฐานที่ชาวโลกวางไว้สำหรับคริสเตียนก็คือ "โง่" เพราะมาตราน มักจะถูกตั้งขึ้นเพื่อชนกลุ่มมากอยู่แล้วตมปกติวิสัยของจิตมนุย์
***
ถามว่า ในความเป็นคริสเตียน ณ เวลานี้ของข้าพเจ้า ยังสามารถมีสื่อ หรือมีข้อมูลอะไรมั้ย ที่ทำให้ข้าพเจ้า จะยอมเลิกเชื่อพระเจ้า
อาจจะมี ..วันนึงข้างหน้าข้าพเจ้าอาจจะเลิกเชือเรื่องพระเจ้าก็ได้ ถ้า สิ่งที่หักล้างเรื่องพะรเจ้านั้น แข็งแรงกว่าพวกดวินซี่โค้ด ซึ่งคิดเองเออเองซะเยอะ
อาจจะมี ..ถ้าวันนึงมีคนที่ประสบการณ์เหนือธรรมชาติสูงกว่าข้าพเจ้ามาบอกข้าพเจ้าว่า "เฮ้ยไอ้นอง ..เชื่อพี่ นั่นไม่ใช่ของจริง นี่พี่จะแสดงให้เอ็งดูว่าของจริงคืออะไร พี่ก็เคยเชื่อย่างเอ็งมาก่อน เชื่อพี่ พี่อาบน้ำร้อนมาก่อน" ซึ่งพี่คนนี้ที่จะมาทำให้ข้าพเจ้าเลิกเชื่อ ไม่เพียงเค้าจะแสดงอะไรที่เหนือธรรมชาติได้ แต่ชีวิตและจิตวิญญาณของเค้าต้องทำให้ข้าสัมผัสได้ด้วยว่า มันมาจากแสงสว่าง...ไม่ใช่ความมืด....
เพราะเรื่องจของเรือ่งคือ มาร มันก็สำแดงอัศจรรย์ได้ แต่คนที่ใช้ต้องยิ่งชั่วยิ่งเต็มใด้วยฤทธิ์เดช...
ถ้ามีอย่างนั้นจริงๆ ...ข้าพเจ้าอาจจะเริ่มเอะใจได้ว่า ...พระเจ้าอาจไม่มีจริง...
....ทุกวันนี้มองไปตามร้านหนังสือ ตามอินเตอเนท มีสื่อจำนวนมหาศาล จากประชากรส่วนใหญ่ที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าพระเยซูคิสต์ พร้อมจะ"ดับความเชื่อของเรา"
ถ้าเราไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า....
......
ทำไมข้าพเจ้าจึงให้แนวคิดว่าการมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าพระเยซูคริสต์พระวิญญาณบริสุทธิ์นั้นสำคัญ
ก็เพราะว่า มันคล้ายๆกับใบประกาศนียบัตร ..ว่าคนคนนั้นกลับใจจริงๆ
ถ้าคริสเตชนคนไหนก็ตาม เชื่อมานานแล้ว แต่บอกว่าไม่เคยมีประสบการรืตรงกับพระเจ้า ..ข้าพเจ้าก็คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคนคนั้น "ไม่กลับใจจริง"
เพราะในพระคัมภีร์ก็บอกไว้แล้วว่า มีผู้เชือที่ไหน หมายสำคัญก็เกิดขึ้นที่นั่น ..ก็อาจจพอคิดได้ว่า ถ้าเป็นคริสตชนมาตั้งนานแต่ไม่เคยเจอหมายสำคัญเลย ..ก็ต้องคิดครับว่า ...ท่านเชื่อจริงๆหรือ ...ท่านกลับใจจริงๆหรือ...
.......... 1 ทิโมธี 4/1-3
พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อโดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง และฟังคำสอนของพวกผีปิศาจ
ซึ่งมาจากการหน้าซื่อใจคดของคนที่โกหก คือคนที่จิตสำนึกเป็นทาสของมาร
เขาห้ามไม่ให้ทำการสมรส ห้ามบริโภคอาหารบางชนิดซึ่งพระเจ้าทรงสรางไว้ให้ผู้ที่เชื่อและรู้จักความจริง บริโภคด้วยขอบพระคุณ ........
1 ยอห์น 2/18-19 ลูกทั้งหลายเอ๋ย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว และตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาว่า ปฏิปักษืของพระคริสต์จะมีมา บัดนี้ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ก็มีมามากแล้ว
ฉะนั้นเราจึงรู้ว่าบัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว
เขาเหล่านั้นได้ออกไปจากพวกเรา แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่ช่พวกของเรา
เพระว่า ถ้าเขาเป็นพวกของเรา เขาก็จะอยู่กับเราต่อไป แต่เขาได้ออกไปแล้ว ซึ่งก็เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า
เขาเหล่านั้นหาใช่พวกของเราไม่
.... 1 ยอห์น 4/1-3
ท่านที่รักทั้งหลาย
อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆวิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากจาริกไปในโลก
โดยข้อนี้ ท่นทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า คือวิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่าพระเยซุคริสต์ได้เสด็จมาเปนมนุษยื ..วิญญาณนั้นก็มาจากพระเจ้า
และ
วิญญาทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู วิญญานั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า วิญญาณนั้นแลห่ะเป็นปฏิปักษืของพระคริสต ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมา
และบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว...
***
วิญญาณปฏิปักษืของพระคริสต์ ได้ทำงานมากมายผ่านมนุษยืที่ไม่เชื่อในพระเยซุริสต์ เพื่อจะทำให้ผ้คนเชื่อว่าพระเยซูคริสตืไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าไม่มีจริง
ลักษณะผลงานของมัน "น่าเชื่อถือ" อย่างมากมาย เพราะแนวร่วมเยอะ และการคุยว่าพระเจ้าไม่มีจริง ก็ดูฉลาดกว่าการคุยว่าพระเจ้ามีจริงเสมอ....
ปากต่อปาก แนวคิดต่อแนวคิด ในที่สุด แนวคิดและหลักฐานและแนวร่วมว่าพระเยซูคริตืไม่ใช่พระเจ้าก็สืบต่อเป็นพันกว่าปี จนน่าเชื่อถือ....
ของโกหกบางชิ้น กลับกลายสภาพเป็นวัตถุมีค่าทางประวัติศาสตร์ ..และน่าเชื่อไปโดยปริยาย เพราะมันเก่าแก่....
.....แน่นอน
ว่าหลักฐานและแนวคิดจอมปลอมากมายเหล่นี้ ถ้าคริตชนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงในระบบเหนือมิติกับพระเจ้าพระเยซุคริสต์ ..ก็จบเห่แน่นอนในด้านความเชื่อ....
****
ขอให้เราเป็นอย่างที่ผู้รับใช้มากมายพยามอวยพรเรา ว่า
ขอให้เราทั้งหลายเติบโตขึ้นในความรู้ถึงพระองค์พระเยซุคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้เราจะโตขึ้นทุกวัน อย่าให้เราเป็นแต่เด็กในความเชื่ออีกต่อไป
อย่าให้เรารับได้แต่อาหารอ่อนๆเหลวๆอีกต่อไป
ขอให้เรามีศักยภาพที่จะเข้าใจในระดับที่สูงๆขึ้นเหนือมิติเหนือกาลเวลาที่ปิดตาโลกนี้อยู่
ขอให้เรามีประสบการณืที่จะมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์ มากมายในทุกๆวันของการดำเนินชีวิตในโลกนี้
ขอประสบการณ์และหมายสำคัญมากมายจะเกิดแก่เรา
ขอไฟแห่งพระวิญญาณชำระเราให้สะอาดเพียงพอแก่การเหล่านั้น
ขอให้เรา กลับใจจริงๆ ยอมจำนน ต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ หากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะ เผา เรา ก็ขอให้เรากล้าจะยอมถูกเผา
เพื่อเมื่อเราถูกเผาแล้วด้วยไฟแห่งพระวิญาณบริสุทธ์ เราจะได้ถูกหลอมขึ้นใหม่ เป็นคนใหม่ เป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่ ที่พร้อมจะงอกขึ้น และเติบโตขึ้นจริงๆซะที
ขอพระเจ้าอวยพรเรา ขอเราจะได้มีประสบการณ์มากมายกับพระเจ้าไม่แพ้อย่างที่โมเสสหรือเอลียามี และมากกว่านั้น ...ขอให้เรามีมากยิ่งกว่า
ขอพระเจ้าอวยพรเรา
ขอบคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า อาเมน
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2549 5:22:07 น. |
|
0 comments
|
Counter : 351 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
เดียวดาย9อักษร |
|
|
|
|