32Then you will know the truth, and the truth will set you free." 32 你 們 必 曉 得 真 理 , 真 理 必 叫 你 們 得 以 自 由 。

ละทิ้ง

1 โครินธ์ 13:11-12

เมื่อข้าพเจ้ายังเป็นเด็ก ข้าพเจ้าพูดอย่างเด็กคิดอย่างเด็ก ใคร่ครวญหาเหตุผลอย่างเด็ก
แต่เมื่อข้าพเจ้าเป็นผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าก็เลิกอาการเด็กเสีย..

เพราะว่าบัดนี้
เราเห็นสลัวๆเหมือนดูในกระจกแต่เวลานั้นจะได้เห็นพระพักตร์ชัดเจน

เดี๋ยวนี้....
ความรู้ของข้าพเจ้าไม่สมบูรณ์
เวลานั้น...
ข้าพเจ้าจะรู้แจ้งเหมือนพระองค์ทรงรู้จักข้าพเจ้า..

----
เอเฟซัส4/13-14

จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเช่อ และในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า
จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่

คือเต็มถึงขนาดความไพบูย์ของพระเยซูคริสต์
เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป
ถูกซัดไปซัดมา และหันไปเหมาด้วยลมปากแห่งคำสอนทุกอย่าง

และด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ตามอุบายฉลาดอันเป็นการล่อลวง

***


ไม่กี่วันก่อน พึ่งได้ฟังเรื่องตลกมาอีกเรื่องนึง ของบรรดาผู้ที่เรียกตัวเองว่าคริสเตียน

มีศิษยาภิบาลท่านหนึ่ง "ย้ำ" ศิษยาภิบาล....
"เลิกเชื่อ" เพียงเพราะหนังเรื่องดาวินซี่โค้ด.....


ข้าพเจ้าเคยเขียนบทความอันนึง เกี่ยวกับหนังเรื่องเดอะบอดี้ ซึ่งมีเนื้อหาที่เป็นไปในทางที่สามารถทำให้คนเลิกเชื่อเรื่องพระเจ้าได้เช่นกัน
และข้าพเจ้ากทิ้งท้ายไว้ว่า ถ้าข้าพเจ้าไม่ใช่คริสเตียน ข้าพเจ้าก็จะยิ่งคิดว่าพวกคริสเตียนโคตรงมงาย +โง่บรม
แต่ในความเป็นคริสเตียน และจากประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าพระเยซูคริสต์ หนังเรื่องนั้นก็ให้ข้อคิดดีๆหลายอย่างกับชีวิตคริสเตียน



ศิษยาภิบาลที่เลิกเชื่อเพียงเพราะหนังเรื่องดาวินซี่โค้ด ก็คงไม่ต่างอะไรกับบาทหลวงที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงในหนังเรื่องเดอะบอดี้

จะต่างกันก็ตรงที่ คนนึงฆ่าตัวตาย..ส่วนอีกคนึง เลิกเชื่อ
แต่จุดร่วมที่น่าจะเป็นจุดเดียวกันก็คือ

"ทนอับอายในความเป็นคริสเตียนต่อไปไม่ไหว"

เพราะว่า
จากสื่อต่างๆมากมายซึ่งคลอดออกมาจากฝ่ายที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าและไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า และไม่มีความเข้าใจอะไรเลยในเรื่องพระเจ้านั้น ..มีมากเหลือเกิน ....และ เมื่อสิ่งนี้ถูกนับว่าเป็นส่วนมาก

ชนกลุ่มน้อยอย่างคริสเตียน ..ก็จะต้องถูกมองว่าโง่ให้ได้ เพื่อยกคนกลุ่มมากขึ้นให้ดู"ฉลาด"


...คริสเตียนที่เลิกเชื่อ สาเหตนึงที่ชัดมากๆก็คือ
..."อาย" ที่จะถูกมองว่าโง่ อยากทำตัวเป็นคนส่วนมาก
อยากฉลาด .....และถ้าการจะปฏิเสธความจริงเรื่องพระเจ้าจะทำให้เค้าฉลาดขึ้น ...เค้าก็จะทำ....


......
เกี่ยวกับตัวของข้าพเจ้าเอง ในสมัยนึงที่ข้าพเจ้ายังถูกเรียกว่าพุทธ ในที่ทำงานเก่าของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็จะถกมองในแง่ดี ว่าพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง พอให้ไว้วางใจได้บ้าง

แต่เมื่อข้าพเจ้ากลายเป็นคริสเตียน
"เครดิต" ก็ถูกกดลงอย่างทันที ...
ข้าพเจ้าเริ่มเหมือนจะกลายเป็นอะไรที่ไว้วางใจไม่ได้

เพราะว่าที่ทำงานเก่าน้น ..แอนตี้พระเจ้าและยกชูมาร บูชาพวกรูปเคารพอย่างออกหน้าออกตา.....

......หรืออย่างเช่นในเวบบอร์ดเองก็ตาม
ถ้าข้าพเจ้า เขียนบทความที่อิงทางพุทธโดยสมบูรณ์ ก็จะมีคนยอมรับข้าพเจ้ามากกว่าการอิงทางพระเจ้า...
ทันทีที่ข้าพเจ้าเขียนบทความอิงทางพระเจ้า ....ข้าพเจ้าก็จะถูกมองว่า "โง่" ทันที


มาตรฐานที่ชาวโลกวางไว้สำหรับคริสเตียนก็คือ "โง่"
เพราะมาตราน มักจะถูกตั้งขึ้นเพื่อชนกลุ่มมากอยู่แล้วตมปกติวิสัยของจิตมนุย์

***

ถามว่า ในความเป็นคริสเตียน ณ เวลานี้ของข้าพเจ้า
ยังสามารถมีสื่อ หรือมีข้อมูลอะไรมั้ย ที่ทำให้ข้าพเจ้า จะยอมเลิกเชื่อพระเจ้า

อาจจะมี ..วันนึงข้างหน้าข้าพเจ้าอาจจะเลิกเชือเรื่องพระเจ้าก็ได้ ถ้า สิ่งที่หักล้างเรื่องพะรเจ้านั้น แข็งแรงกว่าพวกดวินซี่โค้ด ซึ่งคิดเองเออเองซะเยอะ

อาจจะมี ..ถ้าวันนึงมีคนที่ประสบการณ์เหนือธรรมชาติสูงกว่าข้าพเจ้ามาบอกข้าพเจ้าว่า
"เฮ้ยไอ้นอง ..เชื่อพี่ นั่นไม่ใช่ของจริง นี่พี่จะแสดงให้เอ็งดูว่าของจริงคืออะไร พี่ก็เคยเชื่อย่างเอ็งมาก่อน เชื่อพี่ พี่อาบน้ำร้อนมาก่อน"
ซึ่งพี่คนนี้ที่จะมาทำให้ข้าพเจ้าเลิกเชื่อ ไม่เพียงเค้าจะแสดงอะไรที่เหนือธรรมชาติได้ แต่ชีวิตและจิตวิญญาณของเค้าต้องทำให้ข้าสัมผัสได้ด้วยว่า มันมาจากแสงสว่าง...ไม่ใช่ความมืด....

เพราะเรื่องจของเรือ่งคือ มาร มันก็สำแดงอัศจรรย์ได้
แต่คนที่ใช้ต้องยิ่งชั่วยิ่งเต็มใด้วยฤทธิ์เดช...

ถ้ามีอย่างนั้นจริงๆ ...ข้าพเจ้าอาจจะเริ่มเอะใจได้ว่า ...พระเจ้าอาจไม่มีจริง...

....ทุกวันนี้มองไปตามร้านหนังสือ ตามอินเตอเนท
มีสื่อจำนวนมหาศาล จากประชากรส่วนใหญ่ที่ไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าพระเยซูคิสต์
พร้อมจะ"ดับความเชื่อของเรา"

ถ้าเราไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า....

......

ทำไมข้าพเจ้าจึงให้แนวคิดว่าการมีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้าพระเยซูคริสต์พระวิญญาณบริสุทธิ์นั้นสำคัญ

ก็เพราะว่า
มันคล้ายๆกับใบประกาศนียบัตร ..ว่าคนคนนั้นกลับใจจริงๆ

ถ้าคริสเตชนคนไหนก็ตาม เชื่อมานานแล้ว แต่บอกว่าไม่เคยมีประสบการรืตรงกับพระเจ้า ..ข้าพเจ้าก็คงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากคนคนั้น "ไม่กลับใจจริง"


เพราะในพระคัมภีร์ก็บอกไว้แล้วว่า มีผู้เชือที่ไหน หมายสำคัญก็เกิดขึ้นที่นั่น ..ก็อาจจพอคิดได้ว่า ถ้าเป็นคริสตชนมาตั้งนานแต่ไม่เคยเจอหมายสำคัญเลย ..ก็ต้องคิดครับว่า
...ท่านเชื่อจริงๆหรือ ...ท่านกลับใจจริงๆหรือ...


..........
1 ทิโมธี 4/1-3

พระวิญญาณได้ตรัสไว้อย่างชัดแจ้งว่า
ต่อไปภายหน้าจะมีบางคนละทิ้งความเชื่อโดยหันไปเชื่อฟังวิญญาณที่ล่อลวง
และฟังคำสอนของพวกผีปิศาจ

ซึ่งมาจากการหน้าซื่อใจคดของคนที่โกหก คือคนที่จิตสำนึกเป็นทาสของมาร

เขาห้ามไม่ให้ทำการสมรส
ห้ามบริโภคอาหารบางชนิดซึ่งพระเจ้าทรงสรางไว้ให้ผู้ที่เชื่อและรู้จักความจริง บริโภคด้วยขอบพระคุณ
........

1 ยอห์น 2/18-19
ลูกทั้งหลายเอ๋ย บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว
และตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาว่า
ปฏิปักษืของพระคริสต์จะมีมา บัดนี้ปฏิปักษ์ของพระคริสต์ก็มีมามากแล้ว

ฉะนั้นเราจึงรู้ว่าบัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว

เขาเหล่านั้นได้ออกไปจากพวกเรา แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่ช่พวกของเรา

เพระว่า
ถ้าเขาเป็นพวกของเรา เขาก็จะอยู่กับเราต่อไป
แต่เขาได้ออกไปแล้ว ซึ่งก็เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า

เขาเหล่านั้นหาใช่พวกของเราไม่

....
1 ยอห์น 4/1-3

ท่านที่รักทั้งหลาย

อย่าเชื่อวิญญาณเสียทุกๆวิญญาณ
แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้พยากรณ์เท็จเป็นอันมากจาริกไปในโลก

โดยข้อนี้
ท่นทั้งหลายก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้า
คือวิญญาณทั้งปวงที่ยอมรับว่าพระเยซุคริสต์ได้เสด็จมาเปนมนุษยื
..วิญญาณนั้นก็มาจากพระเจ้า

และ

วิญญาทั้งปวงที่ไม่ยอมรับเชื่อพระเยซู วิญญานั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า
วิญญาณนั้นแลห่ะเป็นปฏิปักษืของพระคริสต ซึ่งท่านทั้งหลายได้ยินว่าจะมา

และบัดนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว...

***


วิญญาณปฏิปักษืของพระคริสต์ ได้ทำงานมากมายผ่านมนุษยืที่ไม่เชื่อในพระเยซุริสต์ เพื่อจะทำให้ผ้คนเชื่อว่าพระเยซูคริสตืไม่ใช่พระเจ้า พระเจ้าไม่มีจริง

ลักษณะผลงานของมัน "น่าเชื่อถือ" อย่างมากมาย
เพราะแนวร่วมเยอะ และการคุยว่าพระเจ้าไม่มีจริง ก็ดูฉลาดกว่าการคุยว่าพระเจ้ามีจริงเสมอ....

ปากต่อปาก แนวคิดต่อแนวคิด
ในที่สุด แนวคิดและหลักฐานและแนวร่วมว่าพระเยซูคริตืไม่ใช่พระเจ้าก็สืบต่อเป็นพันกว่าปี จนน่าเชื่อถือ....

ของโกหกบางชิ้น กลับกลายสภาพเป็นวัตถุมีค่าทางประวัติศาสตร์ ..และน่าเชื่อไปโดยปริยาย เพราะมันเก่าแก่....

.....แน่นอน

ว่าหลักฐานและแนวคิดจอมปลอมากมายเหล่นี้ ถ้าคริตชนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ตรงในระบบเหนือมิติกับพระเจ้าพระเยซุคริสต์ ..ก็จบเห่แน่นอนในด้านความเชื่อ....


****

ขอให้เราเป็นอย่างที่ผู้รับใช้มากมายพยามอวยพรเรา ว่า

ขอให้เราทั้งหลายเติบโตขึ้นในความรู้ถึงพระองค์พระเยซุคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า
ให้เราจะโตขึ้นทุกวัน อย่าให้เราเป็นแต่เด็กในความเชื่ออีกต่อไป

อย่าให้เรารับได้แต่อาหารอ่อนๆเหลวๆอีกต่อไป

ขอให้เรามีศักยภาพที่จะเข้าใจในระดับที่สูงๆขึ้นเหนือมิติเหนือกาลเวลาที่ปิดตาโลกนี้อยู่

ขอให้เรามีประสบการณืที่จะมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์ มากมายในทุกๆวันของการดำเนินชีวิตในโลกนี้

ขอประสบการณ์และหมายสำคัญมากมายจะเกิดแก่เรา

ขอไฟแห่งพระวิญญาณชำระเราให้สะอาดเพียงพอแก่การเหล่านั้น

ขอให้เรา กลับใจจริงๆ ยอมจำนน ต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์
หากพระวิญญาณบริสุทธิ์จะ เผา เรา ก็ขอให้เรากล้าจะยอมถูกเผา

เพื่อเมื่อเราถูกเผาแล้วด้วยไฟแห่งพระวิญาณบริสุทธ์
เราจะได้ถูกหลอมขึ้นใหม่ เป็นคนใหม่
เป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่ ที่พร้อมจะงอกขึ้น และเติบโตขึ้นจริงๆซะที

ขอพระเจ้าอวยพรเรา ขอเราจะได้มีประสบการณ์มากมายกับพระเจ้าไม่แพ้อย่างที่โมเสสหรือเอลียามี
และมากกว่านั้น ...ขอให้เรามีมากยิ่งกว่า

ขอพระเจ้าอวยพรเรา

ขอบคุณพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า
อาเมน



Create Date : 07 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2549 5:22:07 น. 0 comments
Counter : 351 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เดียวดาย9อักษร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เดียวดาย9อักษร's blog to your web]