32Then you will know the truth, and the truth will set you free." 32 你 們 必 曉 得 真 理 , 真 理 必 叫 你 們 得 以 自 由 。

ความอายในความเป็นคริสเตียน

2 ทิโมธี 1:8
อย่าละอายที่จะเป็นพยานฝ่ายองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราหรือฝ่ายตัวข้าพเจ้าที่ถูกจำจองอยู่เพราะเห็นแก่พระองค์แต่จงมีส่วนในการยากลำบากเพื่อเห็นแก่ข่าวประเสริฐโดยอาศัยฤทธิ์เดชแห่งพระเจ้า..
--

มัทธิว 10:32-33 เหตุดังนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์เราจะรับผู้นั้นต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์.
แต่ผู้ใดจะไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์เราจะไม่ยอมรับผู้นั้นต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ด้วย..
......

........

เมื่อเช้าได้ฟังเรื่องเรื่องนึง

มีนักธุรกิจท่านนึงซึ่งพระเจ้าอวยพรในการเงินอย่างมาก และก็ได้รับของประทานฝ่ายวิญญาในการรักษาโรคด้วย ได้แบ่งปันให้ว่า

เขารู้จักพระเจ้าได้ เพราะลูกจ้างผู้หญิงท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นคริสเตียน
เขาสังเกตลูกจ้างคนนี้มานาน ด้วยความสงสัย หน้าตาก็ธรรมดา แต่ทำไมถึงได้ ดูมีสง่าราศี(อาจจะมากกว่าเขา) วันนึงนักธุรกิจท่านนี้จึงเข้าไปถามลูกจ้างคนนั้น
ด้วยคำถามแปลกๆ ...ว่า
"คุณเป็นใคร?"

ลูกจ้างคนนั้นก็ตอบคำถามแปลกๆ ด้วยคำตอบที่แปลกยิ่งกว่า
"เป็นลูกพระเจ้าค่ะ^^"

....ผมได้ฟังมาแค่นั้น ....

.....
มีอีกเรื่องนึง อยากเล่าให้ฟัง
หลายเดือนก่อน สมัยที่ผมยังทำงานอยู่ที่ๆหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ของผู้ที่ไม่ในเชื่อพระเจ้า
ได้เจอพี่สาวท่านนึง แต่ไม่รู้จักกัน บังเอิญเจอกันแว้บเดียวที่นั่น ทราบเพียงว่าเขาผู้เชี่ยวชาญการร้องเพลง หรืออาจจะสอนร้องเพลงอะไรประมานนี้
ก็ผ่านไป

แล้วทีนี้ ก็ผ่านไปอีกเป็นเดือน
ก็มีโอกาสไปร่วมนมัสการที่โบสๆหนึ่ง ก็ไปเจอพี่สาวท่านนี้อีก แต่พี่สาวท่านนี้อยู่ในทีมนมัสการ มีหน้าที่ร้องคอรัส

ผมก็คุ้นๆหน้า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันหรือไม่
เพราะถ้าใช่ ก็จะปรากฏว่า ตอนที่เจอพี่สาวท่านนี้ที่บริษัทนั้น ผมไม่ได้ทราบเลยว่า เจอคริสเตียนด้วยกันเอง
ความสงสัยยังคงอยู่ ..และอยู่ต่อไป เพราะไม่มีโอกาสคุยกับพี่สาวท่านน้น

ผ่านไปอีก

มีพี่ชายท่านนึงที่เคารพรักที่บริษัทนั้น เสียชีวิต.....
...
ก็ไปงานศพของพี่เค้าที่วัดมกุฎแถวราชดำเนิน
ก็ให้บังเอิญเจอพี่สาวท่านนี้อีก
ชี้หน้ากันกันยกใหญ่
"คริสเตียนจริงๆด้วย ว่าแล้วววว"
อันนี้อารัมภบท(ยาวไปนิด)

แต่ประเด็นคือ!!
ตอนผมกลับ ผมไปสวัสดีกลุ่มของพี่เค้า พี่เค้าบอกว่า
"บายๆ พระเจ้าอวยพรนะ"

อึ้งครับ....
ท่ามกลางงานศพแบบพุทธเลย
พี่เค้าบอกว่า พระเจ้าอวยพรนะ

....ผมขอสารภาพว่า แม้ว่าผมเองจะประกาศเรื่องพระเจ้าอยู่บ่อยๆ ทั้งในไซเบอร์ และในชีวิตจริง

แต่

"ผมแอบมีความละอายเล็กๆ ในการที่จะแสดงความเป็นคริสเตียนให้คนอื่นรู้ ..ในบ่อยครั้ง"

.....
ผมนับถือ ทั้งลูกจ้างสาวคนนั้น ที่บอกว่า "เป็นลูกพระเจ้า"
ผมนับถือพี่ผู้หญิงคนั้น ที่บอกผมว่า "พระเจ้าอวยพรนะ"
ทั้งๆที่ผมแค่สวัสดีลาเค้าเฉยๆ ไมได้แสดงท่าทีของคริสเตียนอะไรเลย....

..เหมือนถูกแทงใจดำเข้าอย่างจัง....

.........

และผมยังพบว่า

ผม ไม่กล้าที่จะขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารอย่างออกหน้าออกตานัก ..ในร้านอาหาร...
โอเค ถ้าไปกันเป็นหมู่คณะ ถ้าให้ผมอธิษฐานขอบคุณเสียงดังฟังชัดใน้น ผมกล้าทำ...
แต่ถ้าผมไปคนเดียว..... ผมไม่กล้า.....
ผมจะแค่หลับตามุบมิบๆอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ใครจะสังเกต

........

ในอดีต ผมเคยนึกว่าผมไม่มีความละอายในการเป็นพยานเรื่องพระเจ้า
แต่จากกรณีของสองท่านที่ยกมานั้น เมื่อรวมกัน ทำให้ผมได้เริ่มเห็นว่า

จริงๆแล้ว ผมก็ยังแอบมีความละอายในเรื่องพระเจ้าอยู่

ผมเคยคิดว่า จากประสบการณ์ในความเป็นคริสเตียน ประสบการณ์กับพระวิญญาณบริสุทธิ์นั้น ทำให้ผมกล้าหาญในการเป็นพยานแล้ว

แต่จากเรื่องของสตรีสองท่านที่ยกมานั้น....
....ผมเทียบพวกเค้าไม่ได้เลย....

และรู้สึกละอายต่อความขี้ขลาดของตัวเองอย่างมาก
ที่ผมมีความละอายที่จะบอกใครเต็มๆปากว่า
"ผมเป็นลูกพระเจ้าครับ^^"

พระเยซูตรัสว่า...
เหตุดังนั้นทุกคนที่จะรับเราต่อหน้ามนุษย์เราจะรับผู้นั้นต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์.
แต่ผู้ใดจะไม่ยอมรับเราต่อหน้ามนุษย์เราจะไม่ยอมรับผู้นั้นต่อพระพักตร์พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ด้วย..
.....มัทธิว 10:32-33

....
ขอพระเจ้าในพระนามพระเยซูคริสต์ ช่วยให้เรามีใจกล้าที่จะประกาศและเป็นพยานเรื่องการคืนพระชนม์ของพระองค์
มีใจกล้าที่จะไม่ละอายในข่าวประเสริฐอันเป็นฤทธิ์เดช
อันนำความรอดมาสู่มนุษยชาติ
อาเมน



Create Date : 02 ตุลาคม 2549
Last Update : 2 ตุลาคม 2549 11:10:34 น. 1 comments
Counter : 358 Pageviews.  

 
บางครั้ง ฉันังรู้สึกละอายที่บอกว่าว่าคริสเตียน

ไม่ใช่ว่าอายที่เป็นคริสเตียน
แต่...อาย ที่บางครั้งยังดีไม่พอที่จะบอกว่าตัวเองเป็นคริสเตียนค่ะ

มีเพื่อนคนนึง เป็นคริสเตียนคนเดียวในบ้าน
คุณพ่อเขาเพิ่งเสียเร็ว ๆ นี้
ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนโต (บ้านคนจีน) และน้อง ๆ พึ่งพาไม่ได้
เธอจึงจัดแจงเรื่องงานศพคุณพ่อ ทั้งเรื่องทางพุทธศาสนาเพื่อความสบายใจของญาติ ๆ ทางพ่อแม่ และการเงิน
โดยที่ไม่ได้ไหว้รูปเคารพเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เป็นคนไปติดต่อและจัดการงานต่าง ๆ จองวัด จัดอาหาร ฯลฯ

น้องชายที่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากจุดธูปไหว้พระไหว้ศพ เอ่ยถามพี่สาวที่นั่งห่อของชำร่วยกับด้ายแดง(ตามประเพณีจีน)ว่า
"ทำไมเจ้ไม่ไหว้(ศพ)พ่อ ไม่ไหว้พระทำบุณให้พ่อ?"
คำถามเขาเหมือนถามว่า เจ้ไม่รักพ่อหรือ อยู่นัยที
เพื่อนฉันไม่ตอบ ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย ก็เลยตอบไปแทน(ทั้งที่ในใจโกรธแทบเดือด)ว่า
"ตอนพ่อยู่ เจ้เขาไหว้พ่อมามากแล้ว ตอนนี้พ่อตายแล้ว เจ้ก็ยังทำอยู่ ถึงไม่ไหว้ พ่อก็รู้ดีว่าลูกคนไหนรักพ่อแค่ไหน"

ที่ฉันเดือดไอ้เจ้าน้องชายเพื่อน เพราะว่า ก่อนพ่อตาย เพื่อนฉันคนนี้ก็เป็นคนทำทุกอย่างให้พ่อ ดูแลตอนป่วย ไปเฝ้าที่รพ. ช่วยกระทั่งดูแลเรื่องขับถ่าย ในขณะที่น้องชายตัวดีไม่เคยโผล่มาเลย แม้แต่ตอนพ่อสิ้นใจ ก็มีแต่เพื่อนฉันคนเดียวที่นั่งเฝ้าอยู่
แต่อีกใจหนึ่งฉันก็ขอบคุณพระเจ้าที่ทรงทำให้เพื่อนฉันคนนี้เป็นคนดีสมกับที่เป็นลูกพระเจ้าจริง ๆ ค่ะ


โดย: shamuneko วันที่: 2 ตุลาคม 2549 เวลา:13:27:04 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เดียวดาย9อักษร
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add เดียวดาย9อักษร's blog to your web]