"This whole society has gone through a phase-change of evolution, You can't make it go backward again anymore than you can change birds back into reptiles."
"No! I don't want the mangosteen." Anderson Lake leans forward, pointing. "I want that one, there. Kaw pollamai nee khap. The one with the red skin and the green hairs." หรือ
"And so what does that make you? Some villager of Bang Rajan, reincarnated? Holding back the farang tide? Fighting to the last man? That sort of thing?
นิยายเรื่องนี้ ชนะ Nebula Award ประจำปี 2009 ไปแล้ว ติดโผโนมินี Hugo Award 2010 สำหรับ Best novel และ Locus Award 2010 สาขา Best First Novel ด้วยค่ะ คาดว่าน่าจะกวาดทั้งหมดนะคะ ดูจากสภาพการณ์แล้ว
ชื่อ: We ผู้แต่ง: Yevgeny Zamyatin Genre: Science Fiction, Dystopia Original Language: รัสเซีย (ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1921)
หากพูดถึงนิยายแนว Dystopia* ใครๆก็พูดถึงแต่ 1984 ของ George Orwells หรือ Brave New World ของ Aldous Huxley แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม We เป็นนิยายแนวเสียดสีที่เขียนถึงรัฐแบบสังคมนิยมและเผด็จการเบ็ดเสร็จในอนาคตเรื่องแรก และถือเป็นต้นแบบของนิยายแนวนี้รุ่นต่อๆมา George Orwell เขียน 1984 หลังจากเขาอ่าน We จบ 8 เดือน (28 ปีหลังจาก We ถูกเขียนขึ้น) และยังกล่าวหาว่า Aldous Huxley ลอกพล็อตเรื่องของ We มาเขียนเป็น Brave New World ด้วย แม้ Huxley จะปฏิเสธหัวชนฝาก็ตาม
เหมือนไม่เหมือนไม่รู้ เพราะเราเคยอ่านแต่ We ยังไม่มีบุญ (ปัญญาและเวลา) อ่านทั้ง 1984 และ Brave New World เลยอะ 55+
D-503 เป็นสมาชิกคนหนึ่งใน One State เขาเป็นวิศวกรชั้นแนวหน้าที่รับผิดชอบการสร้างยานอวกาศ Integral ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเดินทางออกไปยังดาวเคราะห์ดวงอื่นและเผยแพร่แนวความคิดการปกครองของ One State
อย่างที่เห็นว่าประชากรใน One State ไม่มีชื่อ ทุกคนถูกระบุตัวตนด้วยโค้ดและรหัส นอกจากนี้ชีวิตประจำวันของทุกคนยังถูกกำหนดด้วยตารางการใช้ชีวิตที่เหมือนกันเป๊ะๆ ทุกๆเช้า เรา จะถูกปลุกให้ตื่นในเวลาเดียวกัน ลุกออกจากเตียงพร้อมๆกัน เดินออกจากที่พักอาศัยตรงไปยังโรงอาหาร นั่งประจำที่ และในจังหวะเดียวกัน เรา ตักอาหารเข้าปากอย่างพร้อมเพรียงด้วยความเป็นหนึ่งเดียว
We เล่าเรื่องจากบันทึกประจำวันของ D-503 เขาตั้งใจจะเขียนบันทึกนี้เพื่อสาธยายความดีงามของระบอบการปกครองของ One State และส่งไปพร้อมกับยาน Integral เขาอยากให้ชาวดาวเคราะห์อื่นๆมีความสุข อย่างเช่นที่ชาว One State มีความสุข เขาเล่าความคืบหน้าของการสร้างยานอวกาศ เล่าถึงชีวิตประจำวันอันแสนมีความสุขของเขาและการใช้ชีวิตตามตารางที่สมบูรณ์แบบที่สุด จนกระทั่งเขาได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง เธอมีรหัสว่า I-330
แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เขาเริ่มฝัน ทั้งๆที่ความฝันถือเป็นโรคร้ายแรงชนิดหนึ่งใน One State อยู่ดีๆเขาก็เกิดอยากเขียนบทกวี ทั้งๆที่ศิลปะถือเป็นสิ่งไร้แก่นสารที่ไม่ยังความก้าวหน้าใดๆมาให้ในการพัฒนารัฐ เขาเริ่มแหกตารางไม่ยอมทำตามหน้าที่ที่ถูกระบุไว้ เขาอยากใช้เวลากับเธอ...
เอ็ดเวิร์ด เพรนดิก นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ หายตัวไปหลังจากเรือ Lady Vain ที่เขาโดยสารล่มกลางมหาสมุทรแปซิฟิกและการค้นหาผู้รอดชีวิตล้มเหลว อีกหนึ่งปีต่อมา ชาวเรือพบเพรนดิกลอยลำอยู่ในเรือบด ตำแหน่งใกล้เคียงกับจุดเดิมที่เรือ Lady Vain จมลงเมื่อปีก่อน