|
ทางออก และตู้กดน้ำ
วันนี้เรื่องที่ฉันจะแบ่งปัน ออกแนวโง่ๆ สำหรับคนฉลาด แต่เป็นทางออกอย่างฉลาด สำหรับคนโง่ๆ อย่างฉัน อิ อิ เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้ฉันมีสอบตัวแรกของเทอมเลย ฉันมีนิสัยเสียอยู่หลายอย่าง แต่อย่างเด่นในวันสอบคือ ฉันต้องโด๊ปด้วยเป๊ปซี่ (อันนี้ต้องมีตัวหนังสือวิ่งๆ ว่ากรุณาแนะนำเยาวชนของชาติที่อาจเลียนแบบ เพราะเป็นสิ่งไม่ดีนะคะ) แต่นัยว่าฉันกินแล้วจะทำสอบได้ผ่านฉลุย ไม่ใช่หรอก เอ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันต้องกินเป๊ปซี่เวลาสอบก็ไม่รู้ แต่ใกล้ๆ สอบ ฉันก็จะตุนเป๊ปซี่ไว้ อ่านหนังสือไป กินเป๊ปซี่ไป ตื่นหลาย อาจเป็นเพราะฉันไม่กินกาแฟ กินไม่เป็นอ่ะค่ะ เพราะรสชาติมันขมสำหรับฉัน สิ่งที่จะทำให้ฉันซู่ซ่าแทนการกินน้ำเปล่า ก็คือเป๊ปซี่นั่นเอง นี่ขนาดฉันอ่านหนังสือแล้วเค้าบอกว่า การดื่มน้ำอัดลม นอกจากไม่ได้อะไร นอกจากน้ำตาลเป็นช้อนๆ ที่มาในรูปแบบของเหลว สิ่งที่จะเสียไป คือ น้ำในสมอง และมันจะทำให้การส่งข้อมูลในสมองออกแนวติดขัดๆ !!! แต่ฉันก็ยังริอ่านกินเป๊ปซี่ในวันสอบอยู่ดี
สรุปว่าฉันไปมหา'ลัย เจอตู้กดน้ำ พร้อมกำแบงก์หนึ่งดอลลาร์ไว้อย่างมาดมั่น บวกกับเหรียญอีกนิดหน่อยตามราคาของเป๊ปซี่ ตู้เป๊ปซี่มีตู้เดียว ส่วนน้ำเปล่า ฉันพกมาจากบ้านหนึ่งลิตร ติดตัวเป็นประจำ ถ้าบ้านฉันต่อท่อเป๊ปซี่มาไว้ที่บ้านเมื่อไหร่ ฉันก็จะเลิกกดจากตู้แหละ ตู้เริ่มจากการดูดแบงก์ฉัน แล้วคลายออก ดูดแล้วคลายๆๆๆๆ อยู่นาน จนในใจฉันเริ่มขุ่นมัว แล้วสบถออกมาเป็นภาษาไทยว่า "อะไรเนี่ยๆๆ" ตามด้วย "ว่ะ" ทุกครั้งที่มีการ "ถุยออก" ของเครื่อง ทำไม อะไรกัน แบงก์ฉันมันสกปรกเหรอออ ไม่เป็นไร เปลี่ยนแบงก์ใหม่ แบงก์นี้ใหม่มาก เอ้า กินเข้าไป เอ หรือจะเอาแบงก์เก่าๆ ก็ได้ เอ้า ยัง เครื่องยังคงพยายามบอกฉันว่า อย่ากินเลย เป๊ปซี่อ่ะไม่ดี ฉันหงุดหงิดจนเดินไปโต๊ะที่นั่งประจำ และบอกรุ่นน้องว่า "ฝากกระเป๋าพี่แป๊บ เดี๋ยวพี่มา ไปจัดการกับไอ้ตู้กดน้ำก่อน" พร้อมทั้งเดินมาดมั่นกลับมาว่า "ฉันจะ "ต้อง" กินเป๊ปซี่ก่อนเข้าห้องสอบบบบบ"
ไอ้ดูจิต ดูใจที่เคยฝึกไว้ ฉันลืมสิ้น ลืมแม้กระทั่งว่า ตัวเองหงุดหงิดนะเนี่ย กิเลสมันพาไปให้คิดแต่ว่า ทำไม อะไรกัน และทำยังไง ฉันถึงจะได้กินเป๊ปซี่และต้องจากไอ้ตู้นี้เท่านั้น ถ้าไปซื้อที่ร้านฟาสท์ฟู๊ดข้างๆ แถวยาวมาก ตัดทิ้งไปได้ จะให้กินน้ำเกลือแร่ต่างๆ ก็ไม่ใช่สไตล์ฉัน เอาไอ้เป๊ปซี่นี่แหละ ดูซิว่า มันจะอะไรกันนักหนา ฉันก็พยายามเปลี่ยนแบงก์ไปเรื่อย ก็ยังไม่เวิร์ค ซึ่งเหรียญฉันมีไม่พอ ก็ให้หงุดหงิดนิดหน่อย แบงก์ใหญ่เช่น แบงก์ห้า แบงก์สิบ หรือกระทั่งแบงก์ร้อยดอลลาร์ ฉันก็มี แต่ตู้เค้าติดป้ายไว้เต็มๆ ว่า รับแต่แบงก์หนึ่งดอลลาร์ เอาซิ ดู๊ นาทีอยากกิน แบงก์ใหญ่ ตู้ก็กระแดะไม่รับ
หลังจากฉันเกือบถอดใจว่า "หรือจะไม่กินก็ได้ "ว่ะ"" ฉันก็ถอยออกมาสามก้าว แล้วก็เดินไปตู้กดน้ำ ฉันออกอาการปล่อยวาง กับตู้เป๊ปซี่ เดินไปยัดแบงก์เดิมใส่ตู้น้ำเปล่า แล้วปัญญาฉันก็เกิด กดให้ตู้มันทอนตังค์ แล้วเหรียญก็ดัง กรุ๋งกริ๋งๆๆๆ ลงมา แล้วฉันก็ยื่นมือไปหยิบเหรียญด้วยสีหน้าบ่งบอกชัยชนะของวัน ว่า อาฮ้า เป๊ปซี่จ๋า ฉันมาแล้วววววว นี่ยังดี ที่เป๊ปซี่ไม่ได้ out of order ไม่งั้นฉันคงลงแดง เพราะความอยากของตัวเอง ที่ไม่รู้จักดู ปัทโธ่
ทางออกของปัญหาบางอย่าง ถ้าเราเข้าใกล้มากเกินไป มัวแต่มอง จ้องอยู่แต่กับปัญหา เหมือนที่ฉันพยายามแล้ว พยายามอีก ดึงดันจะเอาให้ได้ในแบบเดิมๆ บางทีทางออกก็ไม่มีให้เห็นเอาซะเลย ใครว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อาจต้องเพิ่มไปอีกนิดว่า พยายามแล้วช่วยเพิ่มสติปัญญาในแต่ละครั้งของความพยายามด้วย บางทีความสำเร็จอาจมาเร็วกว่าที่คุณคิด แต่ขอแถมอีกนิดว่า ถ้าในการภาวนา อย่าพยายามนะ เพราะพยายามเมื่อไหร่ อยู่ที่เดิมเมื่อนั้น แต่ให้เพิ่มความเพียรจะดีกว่า ดูแล้วรู้ และแค่รู้เท่านั้น แต่กับปัญหาทุกอย่างในบางครั้ง การที่เราเดินถอยออกมา อาจเพียงแค่นิดเดียว แค่นิดเดียวเท่านั้น เราปล่อยให้ตัวเองหลุดออกจากปัญหานั้น เป็นคนดู เป็นคนนอก ไม่หมกหมุ่น มองไปทางอื่นบ้าง คิดถึงสิ่งอื่นบ้าง บางครั้ง อยู่ดีๆ เราก็อาจขบคิดปัญหานั้นได้แบบชัวะๆๆๆ บางทีเราอาจอุทานกับตัวเองก็ได้ว่า "ฮ่วย นั่งคิดตั้งนานไม่ออก ลุกเดินออกมาแค่นี้ สมองแล่น" คุณเคยเป็นมั๊ย
Create Date : 22 กันยายน 2552 |
Last Update : 22 กันยายน 2552 12:31:41 น. |
|
4 comments
|
Counter : 583 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kim_tiger วันที่: 22 กันยายน 2552 เวลา:14:06:31 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:19:58:02 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 30 กันยายน 2552 เวลา:19:36:15 น. |
|
|
|
โดย: ป้าโซ วันที่: 17 ตุลาคม 2552 เวลา:15:13:54 น. |
|
|
|
| |
|
|
คนเราเวลาอยากอะไร นี่มัน ไม่ได้ ละก็
เป็บซี่ นี่เสพติดอย่างหนึ่ง
พยายามจะเลิกให้ได้ แต่มันยากมาก
ยิ่งแช่เย็นนะ โอ๊ย เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม