รสชาติของชีวิต ตอนจบ

หน้าหนาวปีหนึ่ง แผนกบัญชีของบริษัทราเพเลคก็ได้ต้อนรับพนักงานหนุ่มน้อยชื่อเจอรี่ เขาเป็นหนุ่มหน้าตาดีผู้เงียบขรึมและขี้อาย ความอ้วนและเปราะบางของดาฟเน่สะดุดความสนใจเขาเข้าอย่างจัง หลังจากไตร่ตรองเรื่องนี้มาหลายอาทิตย์ เย็นวันหนึ่งเมื่ออยู่กันตามลำพัง เขาก็ออกปากชวนเธอไปดูหนัง ในตอนแรกดาฟเน่ซึ่งแอบนิยมชมชอบชายหนุ่มอยู่เงียบๆคิดว่าเขาแกล้งล้อเลียน แต่เมื่อเขายืนกราน หญิงสาวก็ตอบตกลง
การนัดเที่ยวอันแสนตื่นเต้นเริ่มขึ้นครั้งแรกในเดือนมีนาคม พอถึงเดือนพฤษภาฯ ทั้งคู่ก็กลายเป็นคู่รักกันและดาฟเน่ลดน้ำหนักได้สิบเจ็ดกิโล ในเดือนกันยายน หญิงสาวซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปได้เป็นครั้งแรกในรอบแปดปี แน่ล่ะ ต้องซื้อขนาดยี่สิบ แต่ก็ยังนับว่าเป็นโอกาสอันน่ายินดี เมื่อถึงเดือนตุลาฯ ทั้งคู่ก็ตกลงเซ็นสัญญาเช่าบ้านหลังใหม่เพื่ออยู่ด้วยกันทางด้านเหนือของชิคาโก ซึ่งเป็นที่ที่ซิลเวียโผล่มาพบลูกสาวในอีกสิบวันต่อมา
“ดาฟเน่ที่รัก ทำไมไม่บอกล่ะจ๊ะว่าจะย้ายบ้าน ฉันตามหาเสียทั่วเลยเชียว ดีนะที่แม่เลขาฯคนเก่งของเธอหาที่อยู่มาให้จนได้น่ะ”
ดาฟเน่พึมพัมอะไรสองสามคำซึ่งมีแต่คนฟังที่มองโลกในแง่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะตีความว่าเธอยินดีที่ได้พบมารดา ซิลเวียลอบมองเจอรี่ด้วยสายตาที่ทำให้เขาหน้าแดงด้วยความอึดอัด
“แนะนำเพื่อนด้วยสิจ๊ะ” เธอว่าเชิงตำหนิกลายๆ หญิงสาวทำตามอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก ก่อนจะบอกว่าเธอกับเพื่อนหนุ่มกำลังจะทาสีตู้เสื้อผ้ากัน ปกติกลิ่นสีทำให้ซิลเวียคลื่นไส้ไม่ใช่หรือ
“อะไรกัน ไม่มีลูกที่ไหนเขามัวแต่ทาสีตอนแม่มาเยี่ยมหรอกจ้ะ” เธอร้องเสียงอ่อนเสียงหวานเป็นเชิงเชิญชวนให้เจอรี่เปรียบเทียบระหว่างแม่กับลูก แล้วคอยฟังคำอุทานที่หวังไว้ (ไม่น่าเชื่อเลยว่าคุณเป็นแม่ของดาฟเน่ เธอดูแก่กว่าคุณเสียอีก) แต่ก็ไม่สมหวัง ชายหนุ่มเพียงแต่หน้าแดงยิ่งกว่าเก่า ไม่กล่าวว่าอะไร
“อุ๊ยตายแล้ว เด็กสองคนนี่” ในที่สุดเธอก็พูดต่อ “ นี่ใครเขาต้องคิดว่าฉันจับได้ว่าพวกเธอแอบหลบๆซ่อนๆทำความผิดกัน ทั้งที่ความจริงมันน่ายินดีออกจะตายไปที่พวกเธอคิดจะลงหลักปักฐานอยู่ด้วยกัน ไม่เอาล่ะ ไปฉลองที่เพอโรเกต์กันดีกว่า”
“ขอบคุณค่ะ ซิลเวีย แต่หนู...หนูไม่หิวเลย แล้วตู้พวกนี้ก็ต้องทาสีด้วย”
ซิลเวียร้องดังกว่าเดิม คราวนี้ดึงเอาเจอรี่เข้ามาร่วมวงด้วย
“เธอต้องทำให้ลูกสาวฉันไม่มีความสุขแน่ๆเลย เจอรี่ มีอย่างที่ไหนที่แม่คนนี้จะไม่หิว หล่อนไม่เคยหยุดกินมาหลายปีแล้ว ฉันรู้ดี” ท้ายที่สุดเธอลากทั้งคู่ไปเพอโรเกต์จนได้ แถมยังบ่นว่าดาฟเน่เสียหลายคำเมื่อหญิงสาวปฏิเสธอาหารบางจาน “ถ้าเป็นนางแบบก็ไปอย่าง แต่นี่จะกินอะไรก็กินได้ แล้วจะอดไปทำไม”
กลับถึงบ้าน ดาฟเน่ร้องไห้โฮ เจอรี่มารักตุ่มอ้วนๆอย่างเธอได้ยังไงกัน แล้วเมื่อไหร่ซิลเวียจะตายๆไปเสียที ชายหนุ่มเฝ้าปลอบโยนเธอ แต่ก็ไม่ค่อยสบายใจนัก ส่วนซิลเวียก็นอนลืมตาโพลงอยู่ในห้องสูทสวยหรู ดาฟเน่มีความสุขแถมยังมีความรัก เป็นไปไม่ได้ ดาฟเน่ผอมเพรียวงั้นหรือ ไม่มีวันเสียล่ะ
การเกี้ยวพาเจอรี่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ซิลเวียยกเลิกรายการท่องเที่ยวฤดูหนาวทั้งหมดเพื่ออยู่ชิคาโกต่อ เธอจัดงานเลี้ยงหลายต่อหลายครั้ง รับเชิญไปงานดังๆเกือบทุกงาน แถมยังประสบความสำเร็จในการควงคู่เจอรี่ไปงานราตรีสโมสรที่เจ้าชายฟิลิปจัดขึ้นที่สถานกงสุลอังกฤษ
ตลอดเวลาเหล่านี้ ดาฟเน่เฝ้ามองด้วยความร้าวรานใจและหมดอาลัยตายอยาก เธอเริ่มกินและกินอีกครั้ง แม้จะไม่มากเท่าเมื่อก่อน แต่ก็มากพอที่น้ำหนักจะขึ้นถึงห้ากิโลในเวลาเพียงเดือนเดียว
เจอรี่เองก็รู้สึกทุกข์ตรมและอึดอัดที่ต้องรับมือซิลเวีย เขาเกลียดกลัวความเจ้ากี้เจ้าการของเธอแต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร แล้วในที่สุด คืนหนึ่ง เจอรี่ก็ไม่กลับมาที่อพาร์ตเมนท์
ท้อแท้และสิ้นหวัง ดาฟเน่นั่งคอยชายหนุ่มเกือบทั้งคืน พอถึงตีสาม เมื่อแน่ใจแล้วว่าเขาไม่กลับมา หญิงสาวก็จัดการกินอาหารเย็นทั้งหมดที่เตรียมไว้แล้วแถมท้ายด้วยของทุกอย่างที่กินได้ในบ้าน แม้ว่าจะไม่ได้มีมากมายเหมือนแต่ก่อน

ทันทีที่ได้เวลาร้านรวงต่างๆเปิด ดาฟเน่ก็มุ่งหน้าไปยังร้านขายของชำที่ใกล้ที่สุด เธอกลับออกมาพร้อมด้วยถุงอาหารเต็มสองแขน พอเข้าบ้านได้ เธอก็โยนถุงหนักๆทั้งสองถุงลงบนพื้น ทิ้งตัวลงนั่ง กางแขนกางขา แล้วลงมือกิน เธอไม่ได้ถอดเสื้อโค้ท ไม่ได้สนใจจะโทร. ไปที่ทำงาน ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากกิน กิน และกิน ขนมปังหวานหนึ่งโหล พายเชอรี่ทั้งอัน พิซซ่าอีกสอง มันทอดอีกกล่องหนึ่งกำลังจะหมดเมื่อซิลเวียเปิดประตูเข้ามา ผู้เป็นมารดาชะงักอยู่กลางห้อง
“นี่มันอะไรกัน ฉันนึกว่าแกไปทำงานเสียอีก”
ดาฟเน่ลุกขึ้นยืนอย่างงุ่มง่าม เธอมองอีกฝ่ายอย่างเคียดแค้นแสนสาหัส แต่ก็ด้านชาเกินกว่าจะรู้สึกรู้สมอะไรอีก หญิงสาวอยากจะร้องไห้ อยากจะกินช็อคโกแลตอีกสองสามกล่อง อยากจะทุ่มซิลเวียออกไปนอกหน้าต่าง กระนั้นเธอก็ได้แต่ยืนงงงัน ในที่สุดคำพูดก็หลุดออกมาจากปาก เสียงเธอฟังดูราวกับล่องลอยมาจากที่ไกลแสนไกลและพึมพัมอยู่ซ้ำๆ
“มาทำไม ออกไปให้พ้น”
ซิลเวียหัวเราะร่าเริง
“อ๋อ ฉันมาเก็บเสื้อผ้าเจอรี่ เขาไม่กล้ามาเอง ขี้อายล่ะไม่มีใครเกิน”
ดาฟเน่ลากเท้าตามเข้าไปในห้องนอน
“อย่าเอาเสื้อผ้าเจอรี่ไปนะ” เธอพึมพัมเสียงแผ่ว “หนูจะเก็บเอาไว้”
“โอ๊ย ยอมรับความจริงบ้างเถอะน่า ดาฟเน่ เจอรี่เขาไม่มีวันกลับมาหาแกอีกแล้วล่ะ ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้มาติดอกติดใจก้อนเนื้อเผละๆอย่างแกตั้งแต่แรก แต่ก็นับว่าดีเหมือนกัน ไม่งั้นฉันก็คงไม่ได้พบเขา” อีกฝ่ายว่าพลางดึงลิ้นชักออกมาค้นหาเสื้อผ้าอยู่วุ่นวาย
“อย่าเอาเสื้อผ้าเขาไปนะ” ดาฟเน่กระซิบเสียงแหบเครือ ดึงแขนมารดาไว้
“เลิกยุ่งเสียทีได้ไหม ไปกินคุ้กกี้ของแกเถอะน่ะ” ซิลเวียตวาด ตบหน้าลูกสาวฉาดใหญ่
ดาฟเน่กรีดร้องอย่างคั่งแค้น ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไร เธอคว้าโคมไฟจากโต๊ะเครื่องแป้ง ฟาดหัวซิลเวียเต็มแรง ฟาดแล้วฟาดอีก ซิลเวียเซไปปะทะโต๊ะเครื่องแป้ง ล้มลงแล้วไถลลงไปกองอยู่บนพื้น ตายสนิทก่อนที่ดาฟเน่จะหยุดร้องและหยุดฟาดเธอเสียอีก
ในที่สุดความโกรธแค้นของดาฟเน่ก็สงบลง เธอทรุดตัวลงข้างศพมารดาแล้วร้องไห้อย่างขมขื่น เจอรี่ไม่มีวันจะกลับมาหาเธอ ไม่มีใครรักเธออีกแล้ว เธออยากตายเหลือเกิน เธออยากกิน กิน กิน กินจนกว่าจะ ตาย โดยไม่รู้ตัว ไม่ได้ตั้งใจ ทั้งๆที่ยังร้องไห้น้ำตาอาบหน้า เธอยกแขนซ้ายของซิลเวียขึ้น....ใส่ปาก




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2548    
Last Update : 31 สิงหาคม 2548 18:43:47 น.
Counter : 289 Pageviews.  

รสชาติของชีวิต ตอนที่หนึ่ง

แปลและเรียบเรียงจาก “A Taste of Life”
โดย Sara Paretsky

ดาฟเน่ เรย์เดอร์ทำงานในแผนกบัญชีของบริษัทราเพเลค ความสามารถและความพอใจในงานของเธอนั้นมีอย่างล้นเหลือ พอถึงเดือนมกราคม เดือนที่บรรดานักบัญชีพากันคลุ้มคลั่งเนื่องจากต้องปิดบัญชี ดาฟเน่จะเอิบอิ่ม เบ่งบาน เธอมีความสุขที่ได้ทำงานดึกๆ เปรียบเทียบงบดุลและบวกลบคูณหารยอดต่างๆอย่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์
ในช่วงเดือนมกราคม ใครๆก็เอาอกเอาใจดาฟเน่ เฮเลน เอลลิส ผู้ช่วยสมุห์บัญชีร่างเล็กจอมเย่อหยิ่ง ออกปากชมต้นไม้บนโต๊ะทำงานของเธอหรือไม่ก็กลิ่นน้ำหอมที่เธอใส่ทุกวัน คาร์ลอส ฟรานเซ็ตต้า ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายงบประมาณก็เยินยอหญิงสาวด้วยภาษาละติน บนโต๊ะเธอมีทั้งดอกไม้ ทั้งช็อคโกแลต กองสุมกันอยู่แทบจะไม่เว้นแต่ละวัน
ครั้นล่วงเข้าสู่กุมภาพันธ์ สิ่งดีๆเหล่านี้ก็ปลาสนาการไป และดาฟเน่ก็หวนคืนสู่โลกอันวังเวง หลังกอเฟิร์นต่อไปอีกสิบเอ็ดเดือน แม้จะเป็นคนเฉลียวฉลาด ขยันขันแข็ง และมีความสามารถ แต่เธอก็อ้วนเอามากๆด้วย ตัวเธอใหญ่เสียจนต้องตัดเย็บเสื้อผ้าใส่เอง เพราะไม่มีเสื้อผ้าที่ไหนขนาดใหญ่พอ เวลาเดินก็เดินอย่างเชื่องช้า ขึ้นบันไดสามก้าวก็ต้องพักหอบเสียทีหนึ่ง ตึกที่ดาฟเน่พักอยู่มีสามชั้น และแม้อพาร์ตเม้นท์ของเธอจะอยู่ชั้นล่างสุด แต่เมื่อหอบข้าวของ เดินขึ้นบันไดหนึ่งขั้นเข้าไปในห้องครัว เธอก็ยังต้องนั่งหอบแฮ่กๆกองอยู่กับพื้น ไม่น้อยกว่าสี่สิบห้านาทีทุกคราวไป
ดาฟเน่เป็นแม่ครัวชั้นเลิศ ฝีมือทำอาหารของเธอเป็นที่เลื่องลือไป ทั่ว โดยเฉพาะอาหารฝรั่งเศสชั้นสูง และขนมอบที่ตบแต่งประดับประดาอย่างสวยงาม ไม่เคยมีใครปฎิเสธอาหารและไวน์รสเลิศที่บ้านเธอ ไม่ว่าจะเป็นเฮเลน คาร์ลอส หรือ เพื่อนพนักงานคนอื่นๆ ทุกคนจะดื่มกินไปพลางร้องอุทานด้วยความชื่นชม ในขณะที่เจ้าของบ้านซึ่งคอยดูแลแขกทุกคนเป็นอย่างดี แทบจะไม่แตะต้องอาหารในจานตนเอง ใครสักคนมักจะถามขึ้นอย่างประหลาดใจว่าทำไมเธอถึงได้อ้วนนักหนา ทั้งที่ไม่เห็นจะกินอะไรเลย และหญิงสาวก็จะยิ้มเย็นๆ ไม่ตอบว่าอะไร แต่ทันทีที่แขกทั้งหลายลับตัวไป เธอจะควักอาหารเย็นสำหรับสี่คนอีกชุดหนึ่งออกมา จากเตาอบแล้วก็ลงมือ....สวาปาม
ดาฟเน่กินตลอดเวลา เธอจะทำอาหารฝรั่งเศสหรูๆเฉพาะเวลามีแขกก็จริง แต่ปกติแล้วเกือบทุกวันเธอจะซื้ออาหารจากซูเปอร์มาร์เก็ตห้าแห่ง.....ห้าแห่งเพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าซื้อมาก ขนาดไหน เธอซ่อนคุกกี้ช็อคโกแลตไว้ที่มุมหนึ่งของเก้าอี้ยาว ในขณะที่ข้างเตียงและในห้องน้ำเป็นที่ไว้ซองมันฝรั่งทอดกรอบ...ซึ่งไม่ได้มีแค่ซองเดียว ตู้เย็นของเธออัดแน่นไปด้วยอาหารชนิดต่างๆ บางครั้งอาหารบางอย่างก็บูดเน่าจนต้องโยนทิ้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วหญิงสาวจะกินทุกอย่างจนหมด เธอขนซื้อออร์เดิฟแช่แข็งมาเป็นโหลๆแล้วก็กินทั้งที่มันยังไม่ทันละลายดี ใต้เตียงก็มีพิซซ่าแช่แข็งแอบอยู่อีกเป็นตั้ง เอาไว้แทะเล่นทั้งดิบๆอย่างนั้น ตามลิ้นชักและตู้โต๊ะต่างๆมีช็อคโกแลตวางอยู่เกลื่อนกลาด ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน เธอไม่เคยห่างจากบรรดาอาหารว่างทั้งหลายเกินกว่าสามก้าวเลย
สภาพของดาฟเน่ในตอนนี้นับว่าน่าเศร้าเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะสำหรับคนที่เคยเห็นเธอเป็นเด็กน่ารัก บอบบางมาก่อน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเปลี่ยนไปได้มากถึงเพียงนี้ ใครๆก็โทษว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของซิลเวีย เรย์เดอร์
ยี่สิบปีก่อน ซิลเวียได้ขึ้นปกนิตยสารฮาร์เปอร์’ส บาซาร์ และโวคเป็นประจำ เธอติดอันดับหนึ่งในสิบนางแบบชั้นนำของประเทศและเป็นหนึ่งในจำนวนนางแบบน้อยคนที่สามารถเลือกงานได้ตามใจชอบ เมื่อดาฟเน่เกิด ซิลเวียดูจะหลงใหลลูกสาวเอามากๆ ภาพเธอกอดรัดทารกน้อยอย่างอาลัยอาวรณ์ หรือส่งจูบอย่างรักใคร่ไปยังแม่หนูน้อยและพี่เลี้ยงขณะที่เรือควีนอลิซาเบธที่สองที่เธอโดยสารอยู่กำลังจะออกจากท่า ภาพเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้ความนิยมในตัวเธอเพิ่มทวีขึ้นอย่างง่ายดาย
แต่พอดาฟเน่เข้าโรงเรียนอนุบาล สถานการณ์ก็เปลี่ยนไป เธอกลายเป็นภาระที่ไม่น่าชื่นชมของมารดาสาว เมื่อลูกเติบโตขึ้น นั่นย่อมหมายความว่าแม่กำลังแก่ลง ซ้ำร้ายไปกว่านั้น เพื่อนหลายคน ซึ่งกลายเป็นอดีตเพื่อนไปแล้ว ก็เอ่ยปากชมว่าเด็กน้อยสวยราวกับนางฟ้า ช่างภาพดังๆพยายามติดต่อชักนำเธอเข้าสู่วงการนางแบบรุ่นจิ๋ว อีกหลายคนก็ทำนายว่าเมื่อโตขึ้น ดาฟเน่จะสวยยิ่งกว่ามารดาของเธอหลายเท่าเพราะเธอมีความอ่อนหวานที่ซิลเวียไม่มี
ซิลเวียเริ่มบังคับให้ลูกกินมากๆ (“แม่จะไม่รักลูกนะถ้าลูกไม่กินให้หมด” “แต่แม่คะหนูไม่หิว” “ถ้าลูกไม่กิน แม่จะขังลูกทิ้งไว้ในห้องคนเดียว เพราะถ้าลูกทำให้แม่เสียใจ แม่ก็ไม่อยากอยู่กับลูก”) จนในที่สุดน้ำหนักดาฟเน่ก็ปาเข้าไปเกือบร้อยห้าสิบกิโลกรัม
สำหรับซิลเวีย เธอยังคงตั้งหน้าตั้งตารักษาความงามเอาไว้อย่างไม่ลดละ เธอกลายเป็นสาวสังคมชั้นสูงผู้โฉบเฉี่ยว ถึงจะแก่เกินขึ้นปกนิตยสาร แต่ก็ประสบความสำเร็จอย่างดีในการเป็นนางแบบโฆษณา (แม่ บ้านสาวผู้ใช้ผงซักฟอกกรีซเอาท์) เธอบินหลบหนาวไปมาจอร์ก้า สังสรรค์ฤดูใบไม้ผลิที่ปารีส ก่อนจะพักร้อนไปตากอากาศที่ลา จอลล่า ราวๆกลางเดือนตุลาฯ เธอจะแวะมาแสดงความเป็นแม่ระยะสั้นที่หน้าบ้านของดาฟเน่ ( ดาฟเน่ ลูกรัก ลูกอ้วนอยู่ได้ยังไงกันนี่ แม่นะกินเอ๊า กินเอา กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเสียที) ซิลเวียแทบไม่เคยมาคนเดียว เธอจะพาคู่ควงหนุ่มน้อยรูปงามมาด้วยทุกครั้ง แม้ว่าหนุ่มๆพวกนี้จะทำให้เธอดูแก่ลงบ้างเล็กน้อย แต่เธอจะขาดคนที่หลงใหลในความงามและความสูงส่งของเธอได้อย่างไร
ดาฟเน่โหยหาความรัก หญิงสาวพยายามสนองตอบความฝันของตนเองด้วยการอ่านนวนิยายรักหวานซึ้งและนิตยสารความงาม (โดยบรรจงตัดรูปซิลเวียสองสามรูปที่ยังได้ลงตีพิมพ์อยู่ประปรายทิ้งเสีย) แล้วก็สร้างภาพถึงตัวละครแสนโรแมนติค ในระหว่างที่อ่าน และฝันหวานว่าตัวเองผอมเพรียว บอบบาง มีเสน่ห์เย้ายวนใจ เธอก็จะกินไปด้วย พอร์คชอปชิ้นหนากับมันทอด เค้กช็อคโกแลตทั้งก้อนกับไอสครีมหนึ่งควอต แล้วปิดท้ายด้วยเพร็ตเซลกับมันทอดแกล้มเบียร์ จากนั้นก็เข้านอน
(ยังมีต่อ)




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2548    
Last Update : 31 สิงหาคม 2548 18:45:07 น.
Counter : 235 Pageviews.  

 
 

Cybercat
Location :
Manila Philippines

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add Cybercat's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com