วันนี้ ทุกจอคอมพิวเตอร์ ในบ้านคุณ

รีวิวหนัง : Life ดาวรุ่งตลอดกาล


ผมได้ยินชื่อ เจมส์ ดีน ครั้งแรกจากแว่นตารุ่นหนึ่ง พอทราบอยู่เลาๆว่าเขาเป็นนักแสดงชื่อดังในอดีต เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขามีชื่อเสียงขนาดไหนกัน ถึงมีการนำชื่อมาเรียกแว่นตา จนเมื่อสืบค้นข้อมูลก็ยิ่งประหลายใจเข้าไปใหญ่ เพราะเขาแสดงหนังไปเพียง 8 เรื่อง ได้รับบทนำแค่ 3 เรื่อง ก่อนจะลาโลกไป โดยทิ้งสไตล์การแต่งตัวอันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อ กางเกงยีนส์ รองเท้า หมวก แว่นตา ที่เขาสวมใส่ ทรงผมที่เขาตัด เอาไว้ มันได้รับความนิยมแพร่หลายไปในยุคนั้น ซํ้ายังฮิตข้ามเวลามาจนถึงยุคปัจจุบัน

Life คือภาพยนตร์ชีวประวัติที่จะพาคุณไปทำความรู้จักดาวรุ่งตลอดกาลของวงการฮอลลีวู้ดคนนี้ หนังเล่าผ่านมุมมองของ เดนนิส สต็อค ช่างภาพหนุ่มฟรีแลนซ์ที่ตาแหลมดูออกว่า เจมส์ ดีน เป็นนักแสดงหนุ่มที่มีแววจะโด่งดังในอนาคต โดยผู้ที่มารับบทเป็น เจมส์ ได้แก่ เดน เดอฮาน นักแสดงหนุ่มรูปหล่อจาก The Amazing Spider Man 2 ส่วนผู้รับบท เดนนิส สต็อค เป็น โรเบิร์ต แพททินสัน นักแสดงหนุ่มหน้าตาดี เอ็ดเวิร์ด แห่ง Vampire Twilight

หนังเล่าถึงช่วงที่ เจมส์ ดีน เริ่มจะเป็นที่จับตามองในวงการฮอลลีวู้ด เดนนิส สต็อค ช่างภาพซึ่งกำลังประสบปัญหาในชีวิตหลายด้านมองเห็นอะไรบางอย่างในตัว เจมส์ เข้าเสนอที่จะถ่ายภาพชุดของนักแสดงหนุ่มลงใน นิตยสาร Life แต่การทำงานก็ไม่ได้ราบรื่น แม้ เจมส์ จะมีพรสวรรค์ติดตัวเรื่องการแสดง ทว่าในแง่การใช้ชีวิตหรือเข้าสังคมกลับไม่เอาไหนเลย

เดนนิส เริ่มท้อใจกับอารมณ์ศิลปินของ เจมส์ ที่ทั้ง เอาแต่ใจ เย่อหยิ่ง ปากเสีย ไร้วินัย ขาดความเคารพผู้อื่น กระทั่งการพบกันที่ไทม์สแควร์ในวันฝนพรำ เดนนิส ถ่ายภาพ เจมส์ เดินสูบบุหรี่ โดยหารู้ไม่ว่าภาพดังกล่าวจะกลายมาเป็นภาพที่ทรงอิทธิพลที่สุดภาพหนึ่งของโลก วั้นนั้นเองคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เดนนิส มีไฟขึ้นมาอีกครั้ง เขาเปลี่ยนใจยอมเดินทางไปบ้านเกิดของ เจมส์ ดีน ซึ่งครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่ เจมส์ ได้กลับบ้าน

บทหนังราบเรียบเกินไปหน่อย ให้อารมณ์กึ่งสารคดี จึงออกจะแห้งแล้ง น่าเบื่อสำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแฟนของ เจมส์ ดีน สิ่งที่หนังทำได้ได้ดีคือโปรดักชั่น การพาคนดูย้อนกลับไปดูวีถีชีวิตของผู้คนในปี50 ยุคการเปลี่ยนผ่านระหว่างภาพขาวดำไปสู่ภาพสี เครื่องแต่งกายวินเทจสวยๆ อุปกรณ์ประกอบฉากสุดคลาสสิก มีหลายจุดที่หนังเสียดสีวงการบันเทิงในสมัยนั้น ผู้กำกับนำภาพชุด นักแสดงอารมณ์บูด ของ เดนนิส สต็อค มาเป็นโจทย์ จากนั้นก็ร้อยเรียงเรื่องราวผ่านภาพถ่ายทีละใบ ซึ่งการนำเสนอแบบนี้ค่อนข้างทื่อไปหน่อย ขณะที่ เดน เดอฮาน ถูกวางบุคคลิกให้เหมือน เจมส์ ชนิดเป็นรายการก็อปปี้โชว์บวกรายการตามติดชีวิต เจมส์ ดีน ทำให้ภาพรวมของหนังขาดความบันเทิง กลายเป็นเพียงอนุสรณ์รำลึกถึง เจมส์ เท่านั้น

ส่วนที่หนังทำได้ดีไม่ใช่การนำเสนอชีวิตของ เจมส์ แต่กลับเป็นชีวิตของ เดนนิส ในวงการช่างภาพถือว่าเขาเป็นดาวรุ่งเช่นกัน เดนนิส อยากเป็นศิลปิน ถ่ายภาพชุดสร้างสรรค์ออกมาเป็นงานศิลปะ มีงานนิทรรศการภาพของตัวเอง มากกว่าเป็นตากล้องฝูงลิงข้างพรมแดงหรือช่างภาพประจำกองถ่ายหนัง งานของเขาไม่เหมือนกับ เจมส์ ดีน ที่เป็นนักแสดงซึ่งสามารถควบคุมสิ่งต่างๆได้มากกว่า ถึงเจมส์จะถูกผู้จัดการกับเจ้าของค่ายกดดันเขาก็ไม่ยี่หระ ด้วยความแตกต่างไม่เหมือนใคร เจมส์ ไม่ใส่ใจชื่อเสียงเงินทอง ตรงนี้สวนทางกับ เดนนิส ที่อยากประสบความสำเร็จในเส้นทางที่ตัวเองเลือก เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ภาพ ภายใต้ภาวะที่เต็มไปด้วยข้อจำกัด ควบคุมอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น นายแบบ สภาพอากาศ ตารางวเลา ตลอดจนการเลือกภาพลงนิตยสาร

การแสดง โรเบิร์ต แพททินสัน เด่นกว่า เดน เดอฮาน แม้ว่าบุคคลิกของเขาจะเหมือน เดนนิส สต็อค ตัวจริงน้อยกว่า แต่เขานำเสนอมุมมอง ความคิด และอารมณ์ของตัวละครได้ยอดเยี่ยม เพียงชุดสูทกับกล้องไลก้าในมือก็ทำให้ผู้ชมเชื่อว่าเขาเป็นช่างภาพจริงๆ ด้าน เดน เดอฮาน สะท้อนนิสัยติสต์แตกของ เจมส์ ออกมาได้ดีพอใช้ แต่ความพยายามจะเหมือนตัวจริงมากเกินไป ทำให้เขาไม่ค่อยได้แสดงฝีมือนัก แค่ทำหน้าเซ็งๆ พูดจาอู้อี้หลังม่านควันบุหรี่ตลอดเวลาก็กลายเป็น เจมส์ ดีน แล้ว ดูฉาบฉวยไป นักแสดงคนอื่นที่อยากพูดถึงคือ เบน คิงส์ลี่ย์ ในบท แจ็ค วอร์เนอร์ เจ้าของค่ายหนังวอร์เนอร์บราเธอร์ส การแสดงของเขาทำให้ แจ็ค เป็นตัวละครที่ดูมีชีวิตชีวาที่สุดในเรื่อง

Life ไม่ใช่หนังที่พูดถึงมิตรภาพของ เจมส์ กับ เดนนิส เสียทีเดียว เราไม่อาจรู้เลยว่า เจมส์ คิดว่า เดนนิส เป็นเพื่อนหรือไม่ หรือ เดนนิส มองว่า เจมส์ เป็นเพื่อนของเขาไหม คล้ายกับว่าทั้งคู่ต่างคนต่างกำลังทำงานของตัวเองอยู่ เจมส์ แสดง เดนนิส ถ่ายภาพ สิ่งที่เรารู้คือลึกๆแล้ว เจมส์ เป็นนักแสดงหนุ่มที่โดดเดี่ยว มีสเน่ห์ อ้างว้าง และเท่ห์ที่สุดคนหนึ่งในโลก

คะแนน 6.5/10

โดย นกไซเบอร์

ตัวอย่างหนัง //movie.bugaboo.tv/watch/212051/?link=4




 

Create Date : 16 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2558 10:31:35 น.
Counter : 1002 Pageviews.  

รีวิวหนัง : The 33 เหมืองแห่งความหวัง


ย้อนกลับไปเมื่อ5ปีก่อน หลายคนคงจำข่าวเด่นประจำปี 2010 ได้ กับเหตุการณ์ปาฏิหาริย์การรอดชีวิตของชาวเหมือง33คนในประเทศชิลี พวกเขาติดอยู่ใต้ดินที่ลึกเท่าตึกกว่า200ชั้นยาวนานถึง3เดือน ท่ามกลางสายตาของผู้คนทั่วโลกที่เอาใจช่วยให้ทั้ง33คนกลับขึ้นมาสู่พื้นดินได้อย่างปลอดภัย และวันนี้เรื่องราวดังกล่าวกำลังถูกนำมาเล่าขานผ่านจอภาพยนตร์

The 33 กำกับโดย แพทริเซีย ริกแกน ผู้กำกับสาวรุ่นใหม่เจ้าของผลงาน Girl in Progress ส่วนทีมนักแสดงนำโดย แอนโตนิโอ แบนเดอรัส ผู้รับบทเป็น มาริโอ้ เซพัลเวด้า คนงานซึ่งเป็นหัวหน้าของชาวเหมือง33คนในการใช้ชีวิตอยู่ใต้เหมืองเก่า โดย มาริโอ้ ตัวจริงได้มีส่วนในการเป็นที่ปรึกษาในการสร้างหนังเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน The 33 ยังเป็นผลงานสุดท้ายของ เจมส์ ฮอร์เนอร์ มือทำดนตรีประกอบภาพยนตร์เจ้าของรางวัลออสการ์ ที่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกใน ซานตาบาร์บารา แคลิฟอร์เนีย เมื่อ 22 มิย. ที่ผ่านมา

5 สิงหาคม 2010 เหมืองซานโฮเซ่ กลางทะเลทรายในประเทศชิลีถล่มลงตอนที่คนงาน33รายกำลังทำงานอยู่ บนพื้นโลกไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาเป็นหรือตาย บริษัทเจ้าของสัมปทานเหมืองลอยตัวด้วยการปฏิเสธความรับผิดชอบ แม้ว่าจะถูกครอบครัวของคนงาน33คนบุกมากดดันถึงประตูทางเข้า งานนี้ร้อนถึงรัฐบาลชิลีที่ต้องทำภารกิจกู้ชีวิตชาวเหมือง ประธานาธิบดีมอบหมายให้ รัฐมนตรีกระทรวงเหมืองแร่ดูแล เวลาของพวกเขามีจำกัด เนื่องจากหินขนาดใหญ่ที่ถูกขนานนามว่าหัวใจแห่งขุนเขาอาจจะถล่มลงไปทับคนงานได้ทุกเมื่อ

รัฐมนตรีหนุ่มมีใจอย่างมากในการช่วยเหลือคนงาน แต่เขาไม่มีความรู้ใดๆเลย หลายวันผ่านไป เมื่อไม่มีอะไรคืบหน้า เขาจึงถูกบรรดาญาติๆคนงานต่อว่า ประธานาธิบดี ส่ง ซูกาแร็ต ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหมืองมาช่วย ภารกิจที่ตอนแรกไม่มีทีว่าว่าจะเป็นไปได้จึงเริ่มมีความหวัง ท่ามกลางการสวดภาวนาของคนทั่วโลก ส่วนใต้ดิน คนงานเริ่มสติแตก หลายคนถอดใจว่าคงต้องตายแน่ๆ มีเพียง มาริโอ้ เซพัลเวด้า ที่ยังควบคุสภาพจิตใจได้ เขาลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการเอาชีวิตรอด(ต่างกับเอาตัวรอด)จากพื้นที่ลึกราวกับนรก ร้อนอบอ้าว อากาศอุดอู้ ด้วยสเบียงอันจำกัดจำเขี่ย คนงาน33คนได้กินเพียง ปลาทูน่าคนละ 2 ช้อน คุกกี้ครึ่งชิ้น และนมครึ่งแก้ว ในทุกๆ48ชั่วโมงเท่านั้น คำถามคือร่างกายของพวกเขาทนได้อย่างไร

บทหนังขยายรายละเอียดภารกิจกู้ชีวิตชาวเหมือง33คนที่ข่าวไม่ได้บอก โดยเฉพาะมุมมองของเจ้าหน้าที่รัฐ ทีมกู้ภัย และครอบครัวของคนงาน พาร์ทดราม่าทำได้ดีพอใช้ แม้จะดูจงใจขายฉากซาบซึ้งเรียกนํ้าตามากไปหน่อย การลำดับเรื่องดี ตัดสลับเหตุการณ์พบพื้นโลกกับได้ดินอย่างลื่นไหล ดนตรีประกอบช่วยส่งอารมณ์ ทั้งผ่อนคลายและเช้มข้น ด้วยเสียงกีตาร์แนวละตินเข้ากับบรรยากาศ ตัวละครพูดภาษาอังกฤษก็จริง แต่การให้ทุกคนออกสำเนียงสเปนก็พอกล้อมแกล้มไปได้ ไม่โทษที่หนังฟีลกู้ด เพราะส่วนใหญ่เป็นเรื่องอันน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นจริง มีการจับประเด็นการเมืองกับชนชั้นบ้าง แน่นอนว่าเป้าแห่งการโจมตีเล็งไปที่นายทุนหน้าเลือด ทว่าก็แตะได้เพียงผิวเผิน ไร้นํ้าหนัก 

ด้านการแสดง คำพูดกับท่าทางของตัวละครจะดูเยอะๆล้นๆตามสไตล์ชาวอเมริกาใต้ แอนโตนิโอ แบนเดอรัส โดดเด่นในบท มาริโอ้ คนงานที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาผู้รอดชีวิตทั้ง33คน เขาถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้ยอดเยี่ยม สำหรับคนที่บทส่งคือ จูเลียต บิโนช ซึ่งแสดงเป็น มาเรีย พี่สาวของ ดาริโอ้ คนงานติดเหล้าตัวปัญหา เธอสื่อสารผ่านคำพูดกับท่าทางาได้เก่ง ทำให้ผู้ชมสัมผัสความคิดของเธอได้ อาจเพราะผู้กำกับเป็นผู้หญิง เธอจึงเพิ่มบทบาทของ แม่ เมียหลวง เมียน้อย ลูกสาว พี่สาว เข้ามาตัดอารมณ์ คลายเครียด ซึ่งก็ถือว่าได้ผลทีเดียว อีกคนที่อยากพูดถึงเป็น โรดรีกู ซานโตรู ที่รับบทรัฐมนตรีเหมืองแร่ การแสดงอาจจะไม่โดนมาก แต่บุคคลิกของเขาหล่อเหลาได้ใจคนดูสาวๆเต็มๆ

The 33 เป็นหนังที่ดูแล้วประทับใจกับการไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาของชาวเหมืองทั้ง33คน รวมถึงความพยายามของทีมกู้ภัยทุกคน ถึงจะรู้ตอนจบก็ยังมีอะไรให้ลุ้นอยู่ ที่สำคัญคือทำให้เรารู้สึกเห็นถึงคุณค่าของชีวิตมากขึ้น

คะแนน 7.5/10

โดย นกไซเบอร์

ตัวอย่างหนัง //movie.bugaboo.tv/watch/219876/?link=4




 

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2558 18:24:43 น.
Counter : 1927 Pageviews.  

รีวิวหนัง : The Gift เพื่อนเก่า เอาคืน


คุณเคยมีวีรกรรมแสบๆสมัยเรียนไหม? จำได้หรือเปล่าว่าในวัยที่มีคำว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์เป็นเกราะกำบัง เรื่องไม่เป็นเรื่องที่คุณทำ ที่คุณลืมเลือนไปแล้ว ได้สร้างรอยแผลทั้งทางกายและทางใจกับใครไว้บ้าง หากวันหนึ่งคนที่คุณเคยทำไม่ดีไว้ผ่านเข้ามาในชีวิต คุณจะเลือกแก้ไขสิ่งต่างๆ หรือ ปล่อยให้เวลาจัดการเหมือนเช่นที่ผ่านมา

ข้อความข้างต้นคือสิ่งที่ โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน ผู้เคยรับบท รามิเรซ ใน Exodus Gods and Kings จับมาเป็นประเด็นหลักในภาพยนตร์เรื่อง The Gift ผลงานการกำกับ เขียนบท และแสดงนำของเขา ต้องบอกว่า โจเอล เป็นนักแสดงที่มีความสามารถรอบด้านคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดจริงๆ

หนังเล่าถึง ไซมอน กับ รอบบิ้น สองสามีภรรยาที่ย้ายจาก ชิคาโก กลับมา ลอสแองเจลิส บ้านเกิดของ ไซมอน เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านหลังใหม่ ทั้งคู่หวังที่จะลืมเรื่องในอดีตที่ผ่านมา แต่ชีวิตคู่อันแสนราบรื่นสวยหรูจนน่าอิจฉาก็มีอันต้องมาสะดุดลงเมื่อ กอร์ดอน เพื่อนเก่าสมัยมัธยมของ ไซมอน โผล่เข้ามายุ่มย่ามถึงในบ้าน แถมเขายังมีท่าทีชื่นชอบ รอบบิ้น อย่างออกหน้าออกตา

กอร์ดอน ยังทยอยส่งของขวัญมาให้ทั้งคู่เรื่อยๆจน ไซมอน เริ่มอึดอัด ในที่สุด ไซมอน จึงยื่นคำขาดให้ กอร์ดอน เลิกติดต่อกับครอบครัวของเขา ทว่าต่อมา รอบบิ้น ก็ยังรู้สึกคลางแคลงใจ เธอแอบสืบเรื่องเลวร้ายในอดีตของ กอร์ดอน และพบว่า ไซมอน มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เขาพยายามปิดบังอะไรบางอย่าง ความสัมพันธ์ของ ไซมอน กับ รอบบิ้น เริ่มมีปัญหา ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นแผนแก้แค้นเอาคืนของ กอร์ดอน

The Gift เป็นหนังทริลเลอร์แนวใหม่ที่มีพล็อตน่าติดตาม ไม่ซํ้าทางใคร เนื้อหาคาดเดายาก แอบเสียดสีสังคมอเมริกันเรื่องความทะเยอทะยานในชีวิตผ่านบนสนทนาสุดกระอักกระอ่วนในปาร์ตี้และบนโต๊ะอาหาร ผู้กำกับเลือกที่จะใช้ความเลือดเย็นของตัวละครกับบรรยากาศ(ความเงียบกับมุมกล้อง)กดดันผู้ชม แทนที่จะใช้ฉากแอ็คชั่นโหดๆ ซีนไล่ล่า หรือช็อตเลือดสาด ตามสไตล์หนังฮอลลีวู้ด

พาร์ทดราม่าชีวิตคู่เข้มข้น บางตอนทำให้นึกถึง Gone Girl จุดเด่นคือการสร้างความไม่น่าไว้วางใจ ความหวาดระแวง ที่ลอยอบอวลอยู่ในสถานที่ที่ควรจะปลอดภัยที่สุดอย่าง บ้าน ทำให้คนดูหายใจไม่ทั่วท้องตลอดเวลา ชวนลุ้น มีช็อตสะดุ้ง2-3ครั้ง ขณะเดียวกันหนังยังมีความเป็นจิตวิทยาหน่อยๆ หลอกล่อผู้ชมให้คิดตามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเป็น เรื่องจริง หรือ ตัวละครคิดไปเอง กันแน่ ส่วนบทสรุปก็เจ๋งพอที่จะทำให้เราขนลุก พร้อมทิ้งปมให้ออกไปถกเถียงกันต่อ

โจเอล เอ็ดเกอร์ตัน โชว์ฝีมือการแสดงเต็มที่ในบท กอร์ดอน ชายหนุ่มลึกลับ แอบจิตเล็กๆ ที่น่าสนใจคือเขาทำให้ตัวละครที่น่ากลัวในช่วงแรกกลายเป็นคนที่น่าเห็นใจในช่วงท้ายได้ เจสัน เบ็ตแมน กับบท ไซมอน นานทีปีหนจะได้เห็นเขาเล่นหนังที่มีบทซีเรียสแบบนี้ ถือว่าเป็นคาแร็ตเตอร์แปลกตา น่าสนใจ ชอบประโยคที่เขาบอกว่า คนบางคนก็ไม่เคยเปลี่ยนไปจากสมัยเรียนเลย มันย้อนศรเอามากๆ รีเบ็คก้า ฮอลล์ ผู้รับบท รอบบิ้น นอกจากดูสวยแล้ว เธอยังถ่ายทอดความรู้สึกของ ผู้หญิง ภรรยา และ แม่ ออกมาได้อย่างดี 

แม้ The Gift จะมีจุดไม่สมเหตุผลบ้าง แต่ก็เป็นหนังระทึกขวัญรสชาติใหม่ที่ดูสนุกทีเดียว สะท้อนแนวคิดกรรมตามสนองแบบชัดเจน ดูจบบางคนอาจมีประสบการณ์ร่วม แอบหลอนคิดถึงความหลังของตัวเองว่า ได้เคยทำอะไรให้ใครแค้นเคืองในอดีตหรือไม่

คะแนน 7.5/10

โดย นกไซเบอร์

ตัวอย่างหนัง //movie.bugaboo.tv/watch/203675/?link=4




 

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 10 พฤศจิกายน 2558 17:38:41 น.
Counter : 1208 Pageviews.  

รีวิวหนัง : SPECTRE มุมมองของสายลับ


ยังคงมีภาคต่อออกมาเรื่อยๆกับภาพยนตร์แอ็คชั่นสายลับสุดคลาสสิกอย่าง เจมส์ บอนด์ หนังที่สร้างจากนิยายสืบสวนชื่อดังของ เอียน เฟลมมิง นักเขียนชาวอังกฤษ ซึ่งข่าวดีของแฟนๆก็คือ SPECTRE ภาคล่าสุดของสายลับรหัส 007 ได้ แซม เมนเดส ผู้กำกับจาก Skyfall ภาคที่แล้วกลับมารับหน้าที่เดิม เช่นเดียวกับ แดเนียล เคร็ก ซึ่งกลับมารับบทสายลับสุดเทห์อีกครั้ง ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของเขา

เนื้อหาของหนังเชื่อมโยงกับภาคที่แล้ว(และอีกหลายๆภาคก่อนหน้า) เมื่อ เจมส์ บอนด์ ได้รับข้อความจาก M คนก่อนที่เสียชีวิต เขาตามรอยไปที่เม็กซิโกและสามารถขัดขวางการก่อการร้ายได้ ทว่า จากความเสียหายดังกล่าวทำให้ เจมส์ ถูกพักงาน ท่ามกลางสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่หน่วยงานของเขาจะถูกปิดตัวลง หลังการมาของ C คนใหม่

เจมส์ พบว่าเหตุการณ์ที่เม็กซิโกเกี่ยวพันกับการก่อการร้ายที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยมีองค์กรร้ายที่ชื่อ SPECTRE อยู่เบื้องหลัง ที่สำคัญหัวหน้าใหญ่ขององค์กรนี้เป็นคนที่รู้จักเขาเป็นอย่างดี สายลับ 007 จึงต้องเดินหน้าค้นหาความจริงเรื่องนี้ พร้อมทั้งหยุดยั้งแผนชั่วขององค์กรแห่งนี้ให้ได้

แน่นอนว่า SPECTRE หนีไม่พ้นการถูกเอาไปเปรียบกับ Skyfall ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าบทของภาคนี้ด้อยกว่าภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด ความเข้มข้นก็ลดลง พล็อตพอคาดเดาได้ ผูกปมนาน แต่คลี่คลายง่ายดาย ไม่มีอะไรให้ลุ้นหรือเซอร์ไพรส์มาก กลางเรื่องเนือยจนเกือบน่าเบื่อ แถมยังมีหลายฉากที่คล้ายคลึงกับ Mission Impossible Rogue Nation การเข้าฉายทีหลังจึงทำให้ สายลับจาก MI6 เสียเปรียบ สายลับจาก IMF

แม้จะมีทุกอย่างที่หนังสายลับควรจะมีทั้ง อาวุธไฮเทคสุดลํ้า รถหรูคันงามที่ถูกเอามาพังเล่น สาวสวยอันตราย ภารกิจโหดๆ กลุ่มวายร้าย และการบินข้ามไปข้ามาหลายประเทศ กระนั้น เจมส์ บอนด์ ภาคนี้กลับไปไม่สุดสักทางไม่ว่าจะ สืบสวน แอ็คชั่น ดราม่า หรือ รักโรแมนติก สิ่งที่ผู้กำกับทำได้ดีเป็นการร้อยเรียงเรื่องราวของ 007 ภาคที่ แดเนียล เคร็ก แสดงอย่างลงตัว ชวนนึกถึงความหลัง และตัวละครในอดีตที่จากไป จุดเด่นอีกอย่างของหนังคือ คอสตูมจัดเต็มของ เจมส์ สูทสวยทุกตัวจริงๆ 

การแสดงหากเป็นภาคสุดท้ายของ แดเนียล เคร็ก ก็ถือว่าทิ้งทวนได้น่าจดจำ เขาเป็น เจมส์ บอนด์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง เชื่อว่าแฟนๆจะคิดถึงเขา ขณะที่ เบน วิชอว์ ในบท Q โดดเด่นขโมยซีน เขาเป็น Q  ที่น่าสนใจที่สุดคนหนึ่งในหนังตระกูล เจมส์ บอนด์ มีโอกาสที่เขาจะได้ไปต่ออีกหลายภาค ด้าน เลอา แซดู สาวบอนด์คนล่าสุด ถึงเธอจะไม่ใช่สาวแซ่บสุดเซ็กซี่ แต่ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง สอบผ่านกับการเล่นบทนำในหนังบล็อกบัสเตอร์เรื่องแรก

ภาพรวม SPECTRE ดูสนุกประมาณหนึ่ง อาจจะขาดจุดพีคไปบ้าง แต่ก็มีบทสรุปน่าสนใจ เป็นหนังสายลับที่มีมุมมองโหยหาอดีต สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความทรงจำเก่าๆ หลายซีนทำมาเพื่อคาราวะหนังชุด เจมส์ บอนด์ รุ่นพี่ นอกจากนั้นยังดูราวกับว่าเป็นตอนที่สร้างขึ้นมาเพื่อการอำลาตำแหน่งสายลับ 007 ของ แดเนียล เคร็ก อีกด้วย

คะแนน 7/10

โดย นกไซเบอร์

ตัวอย่างหนัง //movie.bugaboo.tv/watch/173882/?link=4




 

Create Date : 06 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2558 9:43:57 น.
Counter : 1315 Pageviews.  

รีวิวหนัง : Scouts Guide To The Zombie Apocalypse ลูกเสือ ผีดิบ และคืนนรกแตก


ลูกเสือ น่าจะเป็นกิจกรรมที่คนไทยคุ้นเคยกันดี ในเกือบทุกโรงเรียนมีภาคบังคับให้เด็กชายหญิงทุกคนใส่ชุด ลูกเสือ เนตรนารี มาสัปดาห์ละวัน บางที่มีถึงมัธยมต้นเลยทีเดียว เมื่อย้อนมองกลับไปก็ตลกตัวเองที่เคยทำอะไรหลายอย่างซึ่งบางอย่างแทบไม่ได้เคยได้เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน อาทิ เรียนผูกเชือก เดินทางไกล นอนเต้นท์ ก่อไฟ ปรุงอาหาร กล่าวคำปฏิญาณ ล้อมวงทำกิจกรรม เป็นต้น

แต่ไม่ใช่ในประเทศไทยประเทศเดียวที่มี ลูกเสือ หลายประเทศรวมถึง สหรัฐฯก็มี แม้ว่ามันจะถูกมองเป็นเรื่องเชยหรือไร้สาระในสายตาวัยรุ่นอเมริกันก็ตาม Scouts Guide To The Zombie Apocalypse คือหนังที่จับลูกเสือมาเป็นธีมหลักในการเสียดสีวงการบันเทิงแบบจัดเต็ม ผลงานการกำกับของ คริสโตเฟอร์ แลนดอน จาก Paranormal Activity The Marked Ones

ตัวหนังว่าด้วยเรื่องราวของ 3 ลูกเสือหนุ่มเพื่อนซี้ที่มาแตกคอเพราะ เบน กับ คาร์เตอร์ แอบหนีออกมาปาร์ตี้ในคืนวันที่ อ๊อกซ์ ตั้งแคมป์ไฟฉลองรับตราอันใหม่ เบน และ คาร์เตอร์ เข้าไปที่บาร์เปลือยจึงได้บพบกับกลุ่มซอมบี้ที่ออกมาไล่ล่าพวกเขา โชคดีที่ เดนิส สาวเสิร์ฟสุดเซ็กซี่โผล่มาช่วยไว้ทัน ต่อมา อ๊อกซ์ ก็หนีผีดิบมารวมตัวกัน เบน คาร์เตอร์ อ๊อกซ์ บอกให้ เดนิส ไปตามเจ้าหน้าที่มา ส่วนพวกเขาจะบุกไปช่วย แคนดัล พี่สาวของ คาร์เตอร์ ที่ เบน แอบชอบ รวมถึงวัยรุ่นคนอื่นๆที่อยู่ในปาร์ตี้ลับนอกเมือง

บนภาพยนตร์ค่อนข้างบ้าบอ ทะลึ่ง รวมถึงเพี้ยนหลุดโลกมากๆ มีทุกอย่างที่หนังผีตลกเกรดบีควรจะมีไม่ว่าจะเป็น ฉากฆ่ากันตายเลือดสาดชวนแหวะ ตัวละครโง่ๆ บนสนทนาสัปดนติดเรต และที่ขาดไม่ได้ สาวเซ็กซี่ทรงโตวิ่งหนีผีในคืนนรกแตก หนังขายความตลกกับความกวนเป็นหลัก ซึ่งภาพรวมมุขตลกต่างๆถือว่าสอบผ่าน แม้ว่าจะไม่ได้เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

ประเด็นของมิตรภาพในกลุ่มเพื่อนอาจจะฉาบฉวยไม่ลึกซึ้งเท่าไหร่ แต่ก็ชัดเจน ตรงไปตรงมาดี ส่วนตัวชอบที่ผู้กำกับดีไซน์การฆ่าซอมบี้ในรูปแบบใหม่ๆได้แสบสันต์ น่าสนใจ ไม่จำเจดี แถมยังใช้ประโยชน์จากความไม่สมจริงให้ผู้ชมมองเป็นเรื่องขำอย่างแนบเนียน(ซอบบี้เรื่องนี้ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่) ขณะเดียวกันก็นำเอาภาพยนตร์และเพลงดังมายั่วล้อได้สนุกสนานด้วย

ด้านการแสดง ไท เชอริแดน นักแสดงหนุ่มที่เล่นเป็น เบน หนังดูเหมาะสมกับวัยเขาดี จัดว่าไม่เลวกับการรับบทนำเต็มตัวครั้งแรก ส่วน ซาร่าห์ ดูมองท์ กับบท เดนิส ถึงจะเป็นนักแสดงหลักที่ดูมีอายุที่สุด แต่เธอก็มีความแซ่บแบบที่คนดูหนุ่มๆจ้องมองไม่วางตา บางมุมแอบเท่ห์แนวสาวแกร่งอีกต่างหาก ปิดท้าย ฮัลสตัน เซจ ที่แสดงเป็น แคนดัล บทอาจจะไม่เยอะเท่าตอนเล่น Paper Towns แต่ก็มีเสน่ห์พอที่จะทำให้ผู้ชายส่วนใหญ่หลงรักรอยยิ้มสวยๆของเธอ

Scouts Guide To The Zombie Apocalypse เป็นภาพยนตร์ที่เหมาะกับการดูเพื่อคลายเครียด มีแอ็คชั่นนิดหน่อย ส่วนใหญ่ได้หัวเราะดังๆและสะดุ้งกับซีนตุ้งแช่บางจังหวะ พล็อตได้หมดแต่ก็มีอารมณ์ลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร เสียดายที่หนังสั้นไปหน่อย บทสรุปจึงคลี่คลายง่ายๆแถมยังรวบรัดตัดตอนไปนิด

ปล.หนังมีเอนเครดิตต่อประมาณ4นาทีครับ

คะแนน 7/10

โดย นกไซเบอร์

ตัวอย่างหนัง //movie.bugaboo.tv/watch/205582/?link=4




 

Create Date : 05 พฤศจิกายน 2558    
Last Update : 5 พฤศจิกายน 2558 18:07:39 น.
Counter : 1285 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  

mninho
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




นกไซเบอร์ วิจารณ์หนัง
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add mninho's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.