My first time with Kefir ^^
ต่ะแต่มมม...อิ อิ..เราหาข้อมูล เกี่ยวกับการเลี้ยง Kefir หรือ ทีหลาย ๆ คนเรียกบัวหิมะธิเบต...มานานหลายปีแล้วค่ะ แต่เราไม่สามารถหา เค้ามาเลี้ยงได้เลย เพราะเราอยู่ไกลอ่ะ แล้วเราก็เพิ่งย้ายมาไม่นานนัก ในเวลานั้นยังไม่ค่อยรู้จักกับใคร....กระทั่งบัดนี้ ก็ยังไม่ค่อยรู้จักใครอีกเหมือนเดิม...หุ หุ จนเมื่อ ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้รับการแบ่งปันนู๋บัว Kefir ส่งมาให้ทางไปรษณีย์ จากวันแรกที่มา นู๋บัวจะมองเหมือนไข่ปลากระจายๆ ไม่เกาะกันเป็นกลุ่มก้อน มีขนาดประมาณหนึ่งช้อนกาแฟ จริง ๆ ตอนมาอาจจะเยอะกว่านี้นะคะ แต่ว่า ตอนที่กล่องพัสดุมาถึง เค้าหกอยู่ในกล่องน่ะค่ะ...ตกใจแทบแย่ กลัวว่าเค้าจะตาย หรือเลี้ยงไม่ได้ซะแล้ว...แต่พอเลี้ยงเค้าจริง ๆ แล้วเราจะรู้เลยค่ะ ว่าเค้าไม่ได้อ่อนแอ หรือ ตาย ง่าย ๆ นะคะ เป็นยีสต์ที่นับได้ว่าแข็งแรงพอตัวเชียวค่ะ มาดูรูปกันนะคะ นี่เป็น รูปนู๋บัว หลังจากแช่ตัวด้วยน้ำนม 24 ชม. แรก หลังจากที่เราได้รับค่ะ ขนาดยังไม่ต่างจากเดิม แต่ดูเค้าสดชื่นและฟู ๆ พอง ๆ ขึ้นมากค่ะหลังจากผ่าน 24 ชม. แรก ในวันแรก ทำให้เราเข้าใจว่า การใช้นมพร่องมันเนย และ ประมาณของนู๋บัว ที่จะน้อยนิดอยู่ ก็มีส่วนสำคัญในความเข้มข้น ของน้ำนมโยเกิร์ต ด้วยค่ะ ....ในรูปจะเห็นว่าค่อนข้างใส นะคะ เด๋วเรามาดูรูปนู๋บัวหลังจากที่ขยายตัวเป็นสี่เท่าในเวลาสิบวันนะคะ แต่เราลืมถ่ายรูปนู๋บัวค่ะ ถ่ายแต่น้ำนม ซึ่งตอนหลังเราเปลี่ยนมาใช้นมสดไม่พร่องมันเนย ได้รสชาดดีกว่า นมพร่องมันเนยค่ะ แต่คงอ้วนกว่าด้วยแหละเนอะ หุ หุ ดูที่ข้างขวดแก้วสิคะ .. :) เห็นความเข้มข้นของชั้นนม มั๊ยคะ อันนี้เป็นลักษณะปรกติ ของนมkefir หรือ นู๋บัวหิมะ นะคะ เค้าจะย่อยแลคโตสในนม และ ในการย่อยสลาย ย่อมทำให้เกิดแก๊ส เป็นปรกติ บางคนอาจจะบอกว่า เหมือนนมบูดเลย จริง ๆ มันก็กึ่ง ๆ บูด กับไม่บูดนะคะ แต่อาการของนมบูดทั่วไป จะเกิดจากแบคทีเรียที่ไม่ได้มีคุณประโยชน์กับร่างกาย มาทำการย่อยสลาย แต่ใน Kefir จุลลินทรีย์ที่มีในคีเฟอร์ เป็นแบคทีเรียที่ดี และช่วยในการทำงานของลำใส้ค่ะ ช่วยให้ลำใส้ทำงานได้สมดุลมากขึ้นค่ะ