เครื่องมือกล Power tools หรือเรียกกันว่า power tools เป็นเครื่องมือที่พัฒนามาให้การทำงานได้เร็ว สะดวก และมีคุณภาพกว่า โดยการนำไฟฟ้ามาประยุกต์ใช้ ซึ่งปัจจุบันแพร่หลายมาก แต่สำหรับผู้กำลังจะเริ่มใช้เครื่องมือเหล่านี้ควรระมัดระวังและได้ศึกษาการใช้งานให้ดีเสียก่อน เพราะใบคัทเตอร์มีคมและความเร็วรอบของเครื่องจักรจะค่อนข้างสูง - เครื่องเลื่อยวงเดือน มีหลายขนาด ที่นิยมใช้อยู่ระหว่าง 8-10 นิ้ว สำหรับเลื่อยวงเดือน เป็นเครื่องที่ทำงานค่อนข้างเอนกประสงค์ ถ้าต้องการงานที่มีความละเอียดของผิวตัดที่ได้ ก็เลือกจำนวนฟันถี่หน่อย แต่ถ้าเป็นงานตัด-ซอย ก็ใช้ฟันที่ห่าง(จำนวนฟันน้อย)เพราะจะไม่กินแรงและเพิ่มงานได้ด้วย การนำไปใช้งาน -งานตัดไม้ ตัดขนาด ตัดความยาวไม้ งานตัดจะหยาบหรือละเอียดขึ้นอยู่กับจำนวนฟันหากถี่ก็จะได้งานที่ละเอียดแต่ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน - งานซอยไม้(ช่างไม้บางคนเรียกโกรก)คือการผ่าไม้ตามแนวเกรนโดยมีรั้วเป็นตัวประคอง เช่นซอยไม้อัด กว้าง40cm. ยาวสุดแผ่นไม้อัด หากมีแท่นก็ตั้งรั้วให้ห่างจากใบเลื่อย 40cm หากไม่มีรั้วติดมากันตัวเครื่องก็ใช้วิธีบีบแคลมป์แล้วซอยไม้หรือบางทีเราก็เรียกโกรกไม้ได้เช่นกัน - งานเซาะร่อง(ปกติใบเลื่อยกว้างประมาณ3-3.5มม.)หากต้องการเซาะร่องกว้างมากน้อยก็ปรับจำนวนครั้งตามความกว้างของใบเลื่อย (บางครั้งก็ใช้เร้าเตอร์เซาะร่องได้เช่นกัน) - งานบังใบ คือการทำให้ไม้ที่ข้างใดข้างหนึ่งเป็นรูปตัว L เช่นการบังไบเพื่อใส่กระจก บังใบเป็นบ่ารับชั้นฯ การทำเดือยเหลี่ยมก็ใช้หลักการเดียวกับการบังใบ คือการตั้งกิน2ครั้ง ทั้งแนวตั้ง และแนวนอน (บางครั้งก็ใช้เร้าเตอร์บังใบได้เช่นกัน) เครื่องRouter เป็นเครื่องใช้งานได้หลากหลายเช่นกัน ความเร็วรอบสูงกว่า20000รอบ/นาทีจึงมีอันตรายมาก และการกินของคัทเตอร์นั้นรอบตัว 360องศา ก่อนป้อนงานให้สังเกตทิศทางการหมุนของคัทเตอร์ต้องสวนทางกับการป้อนชิ้นงานเสมอ ไม่เช่นนั้นจะดูดไม้เข้าไปหากจับไม่แน่นก็จะเกิดอันตรายได้ ภาษาที่โรงงานใช้อย่างเป็นทางการคือเครื่องลอกลาย แต่เร้าเตอร์จะเป็นแบบคอม้ามีแท่นเป็นมาตรฐาน การนำไปใช้งาน -งานตีบัว ทำลวดลาย เช่นตีบัวหน้าโต๊ะ ตีบัวคิ้วไม้ ฯ โดยรูปร่างของลวดลายขึ้นอยู่กับดอกคัทเตอร์ที่เราเลือกใช้ หรือต้องการจะกัดให้เป็นรูปวงกลม หรือเป็นวงรี ก็ทำได้เช่นกัน - งานบังไบ ก็ทำได้เช่นกัน เพียงแต่จะกินเพียงครั้งเดียว แต่มีข้อเสียคือเครื่องจะต้องทำงานหนักกว่าเครื่องเลื่อย เพราะต้องกินเนื้อไม้ส่วนที่ต้องตีออกมาทั้งหมด - งานเซาะร่อง โดยเฉพาะกรณีที่การเริ่มและจบไม่สุดไม้(เซาะร่องไม่ตลอดไม้) จะสะดวกกว่าเครื่องเลื่อย แต่เครื่องจะต้องทำงานหนักกว่าเช่นกัน - เครื่องทริมเมอร์ (Trimmer) การทำงานและคุณสมบัติคล้ายคลึงกับเครื่องเร้าเตอร์มาก แต่ขนาดเล็กกว่ามาก สามารถจับได้ด้วยมือเดียว ความเร็วรอบสูง ไม่ได้ออกแบบมาให้ใช้กับงานหนัก เหมาะกับงานเก็บรายละเอียด การนำไปใช้งาน - งานที่เก็บเข้ามุม เจียนขอบ เก็บขอบแผ่นลามิเนตที่ติดแล้ว โดยใช้ร่วมกับดอกเราเตอร์ตัวเล็ก แกน 2หุน ปลายติดลูกปืน - งานอื่นๆ เช่นเซาะร่องเล็กๆ แกะสลัก แบบฟรีแฮนด์ - สว่านมือ หรือสว่านไฟฟ้า เดี๋ยวนี้ช่างชอบเอามาดัดแปลงใช้สำหรับไขควงไฟฟ้า เพราะจะหมุน ซ้าย ขวาได้และยังมีสว่านแบบโรตารี่ ที่มี3ระบบ เจาะเข้าปูนได้ง่ายและไม่กินแรง และใช้แย๊ก(สกัดปูน)แบบงานไม่หนักมากได้ แต่หัวจับสว่านจะเป็นแบบสวมเร็ว ใช้ไม้ได้กับดอกสว่านทั่วไป หากจะใช้ต้องมีหัวสว่านมาต่ออีกที การนำไปใช้งาน -งานเจาะไม้ เหล็ก ปูน - งานไขควง แทนสว่านไร้สายได้ดี เพราะรุ่นใหม่ๆทำมาหมุนซ้าย-ขวาได้ ปรับความเร็วรอบได้ - งานขัด นำมาดัดแปลงติดตัวหัวขัดที่ปลายสว่านก็มีนำไปใช้กัน แต่มักใช้กับสว่านแท่นมากกว่า - จิ๊กซอว์ เหมาะสำหรับงานตัดที่มีรูปทรงโค้ง แต่ผิวที่ได้จะไม่เรียบ ต้องขัดแต่งอีกครั้ง ถึงอย่างไรก็จำเป็นสำหรับงานประเภทที่ขึ้นรูปด้วยมือ ความละเอียดขึ้นอยู่กับใบด้วยเช่นกัน จิ๊กซอว์เปรียบได้กับแบนซอว์(Band Saw)หรือเครื่องซอยโค้งในงานอุตสาหกรรมนั่นเอง การนำไปใช้งาน -งานเลื่อยโค้ง(หรืองานซอยโค้ง) และงานตัดตรงที่ไม่เน้นความละเอียดมากนัก -เครื่องขัดสายพาน ช่างเรียกว่า "รถถัง" ใช้ขัดพื้นเรียบได้ดี กระดาษทรายสายพาน มีให้เลือก แบบหยาบจนถึงเบอร์ละเอียดตามความต้องการ การใส่กระดาษทรายก็ต้องใส่ให้ถูกทิศทางด้วยมิฉนั้นกระดาษทรายจะขาดก่อนเวลาอันควร ส่วนใหญ่มีขนาดหน้ากว้างที่นิยมใช้ที่4นิ้ว การนำไปใช้งาน -งานขัดแนวราบ ปรับผิวหน้า บนพื้นที่กว้างๆ ก่อนการทำสี หรือปรับแต่งการขึ้นรูปโค้ง -เครื่องขัดแบบสั่น เป็นเครื่องที่ช่วนผ่อนแรงขัด เพราะตัวเครื่องเองจะมีลักษณะการสั่นไปบนหน้าผิวงาน มีทั้งทิศทางแนวตรงและแบบหมุนวนเหมาะกับงานเตรียมผิวงานสี การนำไปใช้งาน -งานขัดที่ต้องการความละเอียด ลักษณะการขัดจะเป็นแบบสั่น ขัดออกแรงกดช่วยนิดหน่อย ขัดได้ทั้งงานขัดก่อนทำสีหรือใช้กับงานสีได้ดี -ไขควงไร้สาย มีให้เลือกหลายรูปแบบ ถ้าแบบ มีแรงขับสูง(โวลล์สูง)ก็แทนสว่านได้ใช้กับแบตเตอร์รี่ จะมีถ่านสำรองให้เพื่อชาร์ทเตรียมไว้ อาจไม่สะดวกเท่าไฟฟ้าหรือลม แต่กรณีที่ทำงานในจุดที่ไฟฟ้าไม่มีหรือต้องการความสะดวก คล่องตัวนั้น สว่านไร้สายก็เหมาะเช่นกัน การนำไปใช้งาน -งานไขตะปูเกลียวปล่อย - งานเจาะงานเล็กๆ -เครื่องเจียรเล็ก มีหลายขนาด แต่ช่างไม้นิยมตัวเล็กๆมากกว่ายังไม่ถึงกับจำเป็นนัก ในงานไม้เราใช้กับงานลับคมเสียส่วนใหญ่ แต่ไม่แนะนำให้ลับใบกบ เพราะความร้อนจะทำให้โครงสร้างความแข็งเสียไป การนำไปใช้งาน -งานลับดอกสว่าน งานเจียรทั่วไป - เครื่องไส หรือนิยมเรียกกันติดปากว่ากบไฟฟ้า มีหลายขนาดที่นิยมกันจะเป็น 4นิ้ว เหมาะกับการปรับผิวให้เรียบหรือเปิดผิวไม้ ปรับกินมากน้อยได้ตามต้องการ การนำไปใช้งาน -งานไสปรับผิวหน้า งานเปิดผิวหน้า - เครื่องตัดองศา เครื่องตัดองศา มีแบบสไลด์ได้และสไลด์ไม่ได้ หากเป็นอินดัคชั่นมอเตอร์ ก็ทำให้เสียงไม่ดังจะเงียบกว่าแบบทั่วไป การตัดบางรุ่นสามารถเอียงได้2ทิศทางในการตัด1ครั้ง (แนวนอน และแนวตั้ง)การตัดสไลด์ทำให้ตัดไม้ได้มากกว่า10นิ้ว ใช้งานง่ายและสะดวก การนำไปใช้งาน -งานตัด เช่นตัดตรง ตัดองศา ตัดองศา2แนว เกร็ดเล็กๆน้อย สำหรับ Shop งานไม้ ท่อลมเดินมาตามผนัง ปล่อยลงเป็นจุดๆ ตามต้องการ เพราะก่อนหน้านี้ ต่อจากถังลม2สายก็เดินไม่สะดวกแล้ว (แม็ก เดี่ยว-คู่ ไขควงลม กาพ่นสี ฯ)ใช้ท่อ2หุน ต๊าปเกลียวแล้วใช้ข้อต่อตามต้องการ(มีเทปพันเกลียวกับคอม้าด้วยครับ ตอนต่อท่อเข้าด้วยกัน) กล่องเก็บดอกเจาะ ที่ช่างเขาทำขึ้นมาเก็บใข้กันเองครับ ถังลม ต่อใว้ข้างนอกแล้วเดินท่อเข้ามาในห้องก็สะดวกดีครับ นี่เป็นถังดูดฝุ่นที่เราทำกันขึ้นมาใช้เอง ใช้ผ้าดิบเป็นตัวกรองฝุ่น มอเตอร์1แรงม้า ก็ ok อยู่ครับ การเก็บแคลมป์ยาวๆ นี่ก็การเก็บแคลมป์แบบสั้น กล่องใส่เวอร์เนียร์คาร์ลิปเปอร์ สร้างเคื่องขัดแบบรถถัง มาดัดแปลงเป็นเครื่องขัดตั้ง เร้าเตอร์ที่ดัดแปลงมาเป็นโต๊ะได้ เครื่องตัดองศาที่สามารถดึงตัดสไลด์ได้มากถึง30ซม เลยทีเดียว เราก็สร้างเครื่องมือสำหรับรองรับการตัดไม้ที่ยาวกว่าแท่นเครื่องได้เช่นกัน เป็นเครื่องที่ต้องมีใน shop ก่อนเครื่องใดๆ นั่นก็คือเลื่อยวงเดือนครับ มีหลายแบบ หลายขนาด ราคา แล้วแต่กำลังที่แต่ละคนมี หรือเหมาะสมมากน้อยเพียงใด แต่ก็อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยด้วยครับ
เครื่องมือที่ใช้ลม Air tools เครื่องมือที่ใช้ลมสำหรับงานไม้นั้นปัจจุบันได้รับความนิยมสูงโดยเฉพาะกลุ่มปืนลม โดยจะใช้แรงดันลมเป็นตัวขับให้กลไกต่างๆทำงาน มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องที่ เว็บไซต์thaicarpenter.com อยากแนะนำให้ได้รู้จักและการนำไปใช้งานพอสังเขปดังนี้ กลุ่มเครื่องมือ - ปั๊มลม เป็นเครื่องที่ให้กำเนิดแรงลมโดยปั๊มลมเก็บเอาไว้ในถังมีขนาดของตัวมอเตอร์ขับที่แตกต่างกันออกไปรวมทั้งถังเก็บก็มีขนาดแตกต่างกันไปด้วยเดี๋ยวนี้มีแบบโรตารี่ทำให้การปั๊มลมเติมเข้าไปในถังทำได้เร็วขึ้นแต่การดูแลรักษาก็จะยากขึ้นตามด้วย
- ปืนลมขาเดี่ยว (แม็กเดี่ยว) เป็นเสมือนตัวยิงลวดหรือตะปูลงไปบนชิ้นงานทำให้สะดวกและรวดเร็วมากมีขนาดลวดตั้งแต่10มม.ไปจนถึง50มม.ปืนลมก็มีหลายรุ่นหลายแบบแต่ที่นิยมก็เป็นแบบF30(สามารถใช้กับลูกแม็กเดี่ยวตั้งแต่10-30มม.
- ปืนลมขาคู่ (แม็กคู่) หลักการใช้งานคล้ายกันแบบขาเดี่ยว แต่การยึดติดจะเป็นแบบต่อชนที่ด้านข้าง ลวดยิงเป็นขาคู่มีความลึกที่แตกต่างกันตั้งแต่4มม.จนถึง22มม.ความกว้างก็มีขนาดต่างกันตั้งแต่4มม.จนถึง10มม. - ปืนลม FST50 ยิงได้ทั้งคอนกรีตและไม้ ความลึกสูงสุดได้ 50 มม. ใช้ลูกตะปู รุ่น FST-xx (ยิงคอนกรีต) และ รุ่น T-xx (ยิงไม้)
- ปืนขาเดี่ยว PIN625 เหมาะกับงานละเอียดที่ไม่ให้เห็นหัวตะปู เช่น กรอบรูป หรือยิงบนชิ้นงานเล็กๆ จะไม่ทำให้ไม้ปริ-แตกได้ง่าย
- สว่านลม/ไขควงลม เครื่องมือชนิดนี้ช่างไม้จะนิยมใช้กับสว่านไฟฟ้าเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ถึงอย่างไรสว่านลมก็ยังทำงานได้สะดวก กรณีไม่มีไฟฟ้า และนอกจากนี้สว่านลมหรือไขควงลมยังให้แรงที่ดีกว่าด้วย แต่ถ้าถังลมมีปริมาตรน้อยก็ไม่ค่อยเหมาะนักเพราะสว่านลมหรือไขควงลมจะกินปริมาณลมมากพอสมควร
-กาพ่นสี ใช้ได้ดีกับงานที่ต้องการความละเอียดผิวที่ได้จะมีลักษณะเรียบกว่าและทำงานได้เร็วกว่าการใช้แปรงทาสี หากไม่ต้องการความละเอียดมากนักก็เลือกใช้แปรงทาก็ได้เช่นกัน เพราะกาพ่นสีจะเปลืองกว่า บางทีช่างก็เลือกพ่นสีเที่ยวสุดท้ายก่อนจบงาน
-ตัวเป่าลม(ปืนลม) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้เช่นกันช่วยงานประเภทเป่าทำความสะอาดที่อยู่ในซอกมุมเข้าถึงยาก
กลุ่มวัสดุ-อุปกรณ์
-สายลม เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างถังลมและเครื่องมือโดยทำหน้าที่ผ่านลมไปยังเครื่องมือ มีทั้งจำหน่ายแบบสำเร็จรูป ทั่วไปนิยมแบบขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8มม. ความยาวที่ทำมาจำหน่ายมีแบบสำเร็จ 10ม. 15ม. 20ม.หรือจำหน่ายความยาวตามผู้ใช้ต้องการ
-ข้อต่อสวมเร็ว(ค็อปเปอร์) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ต่อระหว่างสายลมเข้ากับเครื่องมือ เป็นลักษณะการสวม สวมตัวผู้-ตัวเมีย และเมื่อสวมแล้วลมต้องไม่รั่วได้ มีการจำหน่ายเป็นชุด และแยกจำหน่ายตามต้องการ
- ลูกแม็ก(ลวด ขาเดี่ยว-ขาคู่) เป็นวัสดุที่ต้องใช้กับปืนลมทั้งแม็กเดี่ยวและแม็กคู่บรรจุมาเป็นกล่องและการใช้งานก็เพียงบรรจุลงในซองของตัวปืนลมเท่านั้น ขนาดความยามมีให้เลือกหลายขนาดตามต้องการ
- หัวไขควง เป็นอุปกรณ์ตัวหนึ่งที่ใช้สำหรับไขตะปูเกลียวปล่อย โดยใช้ร่วมกับสว่าน หรือไขควงลม สว่านไร้สาย มีทั้งหัวแฉกและแบน มีแม่เหล็กในตัว สามารถดึงเกลียวปล่อยให้ติมาได้ โดยเฉพาะเมื่อไขกับเกลียวปล่อยตัวเล็กๆจะสะดวกในการหยิบจับ
- น้ำมันหล่อลื่น สำหรับลดการเสียดสีในระบบปืนลม ช่วยยืดอายุการใช้งานกระบอกสูบ และยางหรือซีล โดยการหยอดเข้าที่ทางเข้าลมท้ายปืน ก่อนการใช้งาน อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ขอบคุณบทความและรูปจากเวป //www.thaicarpenter.com ค่ะ | |