เหตุผลว่าทำไมผู้หญิงต้องมีวัยหมดประจำเดือน (menopause)
ภาวะหมดประจำเดือน (menopause) คือความเสื่อมของรังไข่ที่นำไปสู่การหมดความสามารถในการสืบพันธุ์โดยสิ้นเชิงในเพศหญิง โดยเกิดในช่วงอายุประมาณ 40-50 ปี คุณลักษณะดังกล่าวดูเหมือนจะพบได้เฉพาะในมนุษย์เท่านั้น ขณะที่แทบไม่พบโดยสิ้นเชิงในอาณาจักรสัตว์
ในมุมมองเชิงวิวัฒนาการ ภาวะหมดประจำเดือนไม่น่าจะเป็นผลดีต่อสิ่งมีชีวิต และไม่น่าถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ หากมีตัวเลือกระหว่างมนุษย์ที่สืบพันธุ์ต่อไปได้เรื่อยๆไม่สิ้นสุดจวบจนอายุขัย กับมนุษย์ที่สามารถสืบพันธุ์ได้จนถึงช่วงอายุหนึ่ง จากนั้นจึงหมดความสามารถในการสืบพันธุ์ไป มนุษย์ประเภทแรกน่าจะถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติ (natural selection)ให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ แต่ในความเป็นจริง มนุษย์ประเภทหลังกลับถูกคัดเลือกให้มีชีวิตรอด และเป็นบรรพบุรุษของพวกเราทุกคนในปัจจุบัน ก่อให้เกิดคำถามทางชีววิทยาที่น่าสนใจว่า เหตุใดมนุษย์จึงวิวัฒน์ภาวะหมดประจำเดือน
ก่อนที่จะตอบคำถามดังกล่าว ผมขอทบทวนความรู้เชิงสรีรวิทยาของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาวะหมดประจำเดือนครับ
อวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงคือรังไข่ (ovary) ภายในรังไข่ประกอบด้วยเซลล์ไข่ (oocyte) หรือเซลล์สืบพันธุ์ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยฟอลลิเคิล (follicle) ในจำนวนที่จำกัด โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 2 ล้านฟอลลิเคิล (oogonia) เมื่อแรกคลอดและไม่เพิ่มจำนวนอีกเลยตลอดชีวิต ฟอลลิเคิลจะเสื่อมสลายไปอีกจนเหลือประมาณ 400,000 ฟอลลิเคิลเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นสาว นอกจากนี้บางฟอลลิเคิลก็ไม่เจริญต่อไปอีกเลย การสืบพันธุ์ของเพศหญิงเกิดเป็นวงจร ในแต่ละวงจรจะมีการเจริญของฟอลลิเคิลเพียงกลุ่มหนึ่ง และมีเพียงหนึ่งฟอลลิเคิลเท่านั้นที่เกิดการตกไข่ (ovulation) กล่าวโดยสรุป ตลอดช่วงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งจะมีฟอลลิเคิลประมาณ 400-500 ฟอลลิเคิลเท่านั้นที่เกิดการเจริญเปลี่ยนแปลงจนมีไข่ตก ฟอลลิเคิลนอกจากเป็นที่อยู่ของเซลล์สืบพันธุ์แล้วยังมีเซลล์อื่นๆประกอบซึ่งทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนที่จำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์
ภาวะหมดประจำเดือนคือความเสื่อมของรังไข่ ฟอลลิเคิลจะสลายไปเกือบหมด ที่ยังเหลืออยู่ก็ไม่ตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศอีกต่อไป เมื่อไม่มีฟอลลิเคิลที่ทำงานได้ ฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงก็จะลดลงอย่างมาก ทำให้ไม่เกิดการตกไข่ นอกจากนี้เยื่อบุโพรงมดลูกก็จะบางลง น้ำหลั่งและมูกในช่องคลอดน้อยลง เต้านมมีขนาดเล็ก และผลต่อระบบอื่นๆในร่างกาย โดยสรุปแล้วภาวะหมดประจำเดือนทำให้การสืบพันธุ์ของเพศหญิงสิ้นสุดลง เป็นไปไม่ได้ และไม่เหมาะแม้แต่กระทั่งความพยายามที่จะให้เกิดเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกที่บางลงไม่เหมาะสมให้เกิดการฝังตัวของไข่ที่ถูกปฏิสนธิ สภาวะช่องคลอดที่เปลี่ยนแปลงไม่เหมาะต่อการร่วมเพศและการเดินทางของอสุจิ เต้านมที่เล็กลงไม่เหมาะสำหรับการเลี้ยงดูบุตร
เหตุใดธรรมชาติจึงสรรสร้างภาวะหมดประจำเดือนมาเป็นของขวัญ (?) แด่มนุษย์ นักชีววิทยาหลายคนตั้งคำถาม แต่บางคนเลือกที่จะเพิกเฉยโดยให้ทัศนะว่าเป็นกระบวนเสื่อมสลายตามวัยโดยทั่วไปของร่างกาย เช่นเดียวกับการเสื่อมของกระจกตา การทำงานของไตที่ลดลง ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ความเสื่อมเป็นสัจธรรมของสิ่งมีชีวิต ระบบการทำงานของร่างกายถดถอยตามอายุที่มากขึ้น ภาวะหมดประจำเดือนอาจเป็นความเสื่อมปกติที่มนุษย์ต้องเผชิญ แต่เป็นปัญหาโดดเด่นขึ้นเมื่ออายุขัยเรายืนยาวกว่าในอดีต
แต่คำอธิบายดังกล่าวไม่สมบูรณ์ทันที เมื่อเราเทียบกับระบบสืบพันธุ์ของเพศชาย เพศชายสามารถสืบพันธุ์ได้เรื่อยๆจนหมดอายุขัย เราคงเคยได้ยินกรณีของบิดาที่มีอายุมากกว่า 60 ปีบ่อยๆ และคุณพ่ออายุมากกว่า 70 ปีก็มีบันทึกไว้ในสถิติโลก แน่นอนว่าจำนวนอสุจิในเพศชายนั้นลดลงเมื่ออายุมากขึ้น แต่ความสามารถในการสืบพันธุ์นั้นไม่ได้สูญเสีย และไม่หมดไปอย่างสิ้นเชิงเมื่ออายุถึงจุดๆหนึ่งอย่างเช่นในเพศหญิง นอกจากนี้ภาวะดังกล่าวก็แทบไม่พบในสัตว์สปีชี่ส์อื่น มีการรายงานถึงภาวะเป็นหมันในสัตว์อายุมากที่อาศัยในป่า หรือสัตว์ที่มีอายุขัยยืนยาวกว่าปกติที่อาศัยในสวนสัตว์ แต่จำนวนหลักฐานก็ไม่มากพอที่จะกำหนดข้อสรุปหรือนิยามของภาวะแบบเดียวกับการหมดประจำเดือนในมนุษย์
สัตว์สองชนิดที่อาจมีภาวะใกล้เคียงกับการหมดประจำเดือนในมนุษย์มากที่สุดคือหนูออสเตรเลียที่มีถุงหน้าท้อง (Australian marsupial mouse) ซึ่งตัวผู้มีรูปแบบการสืบพันธุ์แบบบิ๊กแบง (big bang reproduction) คือหลังจากสืบพันธุ์กับตัวเมีย ราวสิงหาคมตัวผู้ทั้งหมดจะกลายเป็นหมันจากนั้นก็ตายในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ทิ้งประชากรเพศเมียจำนวนมากที่อยู่ในสภาวะตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวก็ไม่สามารถเทียบเคียงการหมดประจำเดือนได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากไม่มีช่วงหลังหมดประจำเดือน (ที่ยังดำรงชีวิตต่อไปได้) อย่างในมนุษย์ สัตว์อีกชนิดหนึ่งที่มีภาวะใกล้เคียงกับการหมดประจำเดือนกว่าคือปลาวาฬเพชฌฆาต (killer whale) ซึ่งตัวเมียจะมีการเสื่อมของรังไข่เมื่ออายุราว 30-40 ปีและดำรงชีวิตต่อไปได้อีกราว 14 ปีหลังจากนั้น
ดังนั้น ภาวะหมดประจำเดือนก็ไม่ได้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในมนุษย์เสียทีเดียว เรายังมีญาติอีกหนึ่งสายพันธุ์คือปลาวาฬเพชฌฆาต แต่ก็ใช่ว่าเราจะสืบทอดภาวะหมดประจำเดือนจากปลาวาฬเพชฌฆาต เพราะเรามีบรรพบุรุษร่วมกับปลาวาฬเพชฌฆาตเมื่อราวห้าสิบล้านปีที่แล้ว ในขณะที่มีบรรพบุรุษร่วมกับไพรเมตใกล้ชิดอย่างกอริลล่าหรือชิมแพนซีเมื่อราวเจ็ดล้านปีก่อน แต่ทั้งกอริลล่าและชิมแพนซีต่างไม่มีภาวะหมดประจำเดือนเหมือนกับเราและปลาวาฬเพชฌฆาต ดังนั้นเป็นไปได้ว่าทั้งเราและปลาวาฬเพชฌฆาตต่างวิวัฒน์ภาวะหมดประจำเดือนขึ้นมาอย่างเป็นเอกเทศ นั่นทำให้ภาวะหมดประจำเดือนเป็นคุณลักษณะที่น่าจะมีความหมายสำคัญมากขึ้น
เพื่อตอบคำถามว่าทำไมมนุษย์เพศหญิงถึงมีภาวะหมดประจำเดือน เราลองมาพิจารณาพฤติกรรมและรูปแบบการสืบพันธุ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์กันครับ มนุษย์มีพฤติกรรมการสืบพันธุ์ตลอดทั้งปี ตั้งครรภ์เฉลี่ยยาวนาน 9 เดือน มีบุตรโดยเฉลี่ยครั้งละ 1 คน เมื่อคลอดบุตรแล้วเพศหญิงจะเป็นหมันไประยะหนึ่งตลอดช่วงให้นมบุตร (lactational amenorrhea) และเด็กต้องพึ่งพาพ่อแม่ไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาอันยาวนานหลายปีกว่าที่จะช่วยเหลือตนเองได้สมบูรณ์ จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าการสืบพันธุ์ของมนุษย์เป็นการลงทุนที่สูงมาก สิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่าย (ในรูปแบบของแคลอรี่และเวลา) มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นในอาณาจักรสัตว์
เมื่อเปรียบกับการลงทุนที่ต่ำกว่าในสัตว์อื่นๆ หนูตะเภาตั้งครรภ์ราว 4 สัปดาห์มีลูกครั้งละ 12 ตัว หย่านมราว 1 เดือนและหาอาหารเองได้ทันทีหลังจากนั้น บางคนอาจบอกว่ามันดูไม่ยุติธรรมเมื่อเทียบกับหนูตะเภาที่มีอายุขัยสั้นมาก กระบวนการทุกอย่างจึงรวดเร็วได้เปรียบกว่า แต่หากตัดประเด็นเรื่องระยะเวลาที่ใช้ก็ยังมีประเด็นของจำนวนที่เหนือกว่ามนุษย์ หรือลองเปลี่ยนมาพิจารณาญาติใกล้ชิดอย่างกอริลล่าและลิงชิมแพนซี กอริลล่ามีระยะเวลาตั้งครรภ์ใกล้เคียงกับมนุษย์มากคือเฉลี่ย 8 เดือนครึ่ง ส่วนลิงชิมแพนซีใช้เวลาเพียง 6 เดือน จำนวนบุตรที่คลอดนั้นเท่าเทียมกันคือเฉลี่ยครั้งละ 1 คน (แฝดเกิดขึ้นได้แต่โอกาสน้อยมาก) แต่ทั้งกอริลล่าและลิงชิมแพนซีมีการลงทุนในการสืบพันธุ์ต่ำกว่ามนุษย์ในประเด็นของการพึ่งพิงพ่อแม่ ลูกลิงสามารถหาอาหารด้วยตนเอง ช่วยเหลือตนเองได้หลังจากหย่านมแม่ทั้งสองสายพันธุ์
หากยังคงเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ จะพบว่าการลงทุนด้านการสืบพันธุ์ของมนุษย์ยังครองตำแหน่งที่สูงด้วยปัจจัยที่ควรเน้นเป็นพิเศษคือการพึ่งพิงพ่อแม่ของลูก มนุษย์มีรูปแบบสังคมที่พิเศษกว่าสัตว์อื่นมาก เด็กต้องพึ่งพิงพ่อแม่เป็นระยะเวลานานเกือบสิบปีเพื่อที่จะเรียนรู้การใช้เครื่องมือ การประกอบอาหาร ภาษา ทักษะทางสังคมและทักษะการอยู่รอดอื่นๆจากพ่อแม่ และยาวนานขึ้นไปอีกถึงวัยเจริญพันธุ์ในยุคปัจจุบันเมื่อมีปัจจัยทางเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหน้าที่ของแม่จึงไม่ได้หมดแค่การคลอดและให้นมลูก หากแต่ยังต้องดูแลจนกว่าลูกจะช่วยเหลือตนเองได้
อีกประเด็นสำคัญที่สมควรเน้นคือ ในการลงทุนดังกล่าว แม่ต้องลงทุนมากกว่าพ่อ แม้ว่าส่วนแบ่งทางพันธุกรรมจะเท่าเทียมกันเนื่องจากลูกได้รับยีนจากพ่อและแม่อย่างละครึ่ง (ส่วนแบ่งในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่จะแสวงหาผลประโยชน์จากพันธุกรรมของลูก แต่เรากำลังพูดในมุมมองเชิงชีววิทยา ซึ่งสิ่งมีชีวิตมีเป้าหมายในการถ่ายทอดพันธุกรรมหรือยีนของตนเองของตนเองให้ได้มากที่สุดครับ) แต่การเจริญของไข่ที่ถูกปฏิสนธิเกิดขึ้นในครรภ์ของผู้หญิง แม่จึงต้องลงทุนมากกว่าพ่อโดยปริยาย เนื่องจาก 1) ผู้หญิงต้องสูญเสียพลังงานในการหล่อเลี้ยงครรภ์ 2) ผู้หญิงต้องสูญเสียโอกาสในการสืบพันธุ์ระหว่างตั้งครรภ์ขณะที่ผู้ชายไม่ 3) ผู้หญิงมีความมั่นใจในทายาทมากกว่าผู้ชาย (เนื่องจากทารกอยู่ในครรภ์ของตนเอง) การลงทุนที่ไม่เท่าเทียมกันนี้เกี่ยวข้องอะไรกับคำถามที่เราสงสัย ผมจะเฉลยในตอนท้ายครับ
การตายระหว่างคลอดมีสาเหตุหลักประการหนึ่งคือน้ำหนักตัวของทารกในครรภ์ ผู้หญิงหนัก 45 กิโลกรัมสามารถคลอดลูกที่มีน้ำหนักราว 2.7 กิโลกรัม หรือ 6% ของน้ำหนักตัว ในขณะที่ลิงกอริลล่าหนักสองเท่า (90 กิโลกรัม) คลอดลูกหนักเพียง 1.3 กิโลกรัม น้ำหนักตัวที่มากและการพัฒนาของกะโหลกศีรษะที่ใหญ่เป็นพิเศษในมนุษย์ทำให้การคลอดเป็นภาระอันหนักหน่วงและทรมานมากในผู้หญิง ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงที่จะตายระหว่างคลอดในภาวะที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือทางการแพทย์ และหากแม่ตายระหว่างคลอดลูกในขณะที่ลูกคนก่อนหน้ายังไม่พ้นวัยที่ช่วยเหลือตนเองได้ อัตราการอยู่รอดของลูกคนก่อนหน้าก็จะลดลงไปด้วย
อัตราการตายระหว่างคลอดจะเพิ่มขึ้นตามอายุของแม่ นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอื่นที่ตามมาในผู้หญิงมีลูกขณะอายุมากเช่น การแท้ง ทารกน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ความผิดปกติทางพันธุกรรมเช่น โรคดาวน์ซินโดรม (1 ใน 1,000 กรณีมีบุตรช่วงอายุก่อน 30 ปี, 1 ใน 300 กรณีมีบุตรช่วงอายุ 35-39 ปีและ 1 ใน 50 กรณีมีบุตรช่วงอายุ 40-45 ปี) ดังนั้นการมีลูกเมื่ออายุมากจึงไม่เป็นผลดีเลยในมนุษย์ และร้ายแรงถึงขั้นกระทบต่อความอยู่รอดของยีนที่ส่งต่อไปแล้ว (ลูกคนก่อนหน้า) ธรรมชาติจึงคัดเลือกมนุษย์เพศหญิงที่หยุดความสามารถในการสืบพันธุ์ไปเลยเมื่ออายุถึงจุดสมควรให้อยู่รอดต่อไป มีโอกาสส่งต่อยีนไปยังลูกหลานมากกว่า ความอยู่รอดของผู้หญิงไม่ได้ส่งผลแค่การอยู่รอดของลูก (ส่วนแบ่งทางพันธุกรรม 50%) แต่ยังส่งผลถึงการอยู่รอดของหลาน (ส่วนแบ่งทางพันธุกรรม 25%) อีกด้วย เนื่องจากสังคมมนุษย์มีความพิเศษอีกประการหนึ่งคือการอยู่ร่วมเป็นวงศาคณาญาติ หญิงที่แก่ชราจะมีส่วนร่วมในการแบ่งเบาภาระของมารดาโดยการช่วยเลี้ยงดูบุตรหลาน เพิ่มโอกาสอยู่รอดของเด็ก
และเหตุที่เพศชายไม่มีภาวะที่เทียบเคียงกับการหมดประจำเดือนก็เนื่องจากการลงทุนที่น้อยกว่าดังที่ผมกล่าวมาข้างต้น ร่วมกับข้อเท็จจริงอันเลือดเย็นที่ว่า ผู้ชายไม่ต้องคลอดจึงไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่จะตายระหว่างคลอด และผู้ชายก็ไม่มีความเสี่ยง (หรือมีน้อยมาก) ที่จะตายระหว่างร่วมเพศ ดังนั้นกิจกรรมทางเพศของผู้ชายจึงดูจะให้ผลกำไรมากกว่าผู้หญิง ถึงแม้ผู้หญิงคู่ครองตายระหว่างคลอด ผู้ชายก็สามารถหาคู่สืบพันธุ์ใหม่ได้เรื่อยๆ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่ผู้ชายจะต้องหยุดความสามารถในการสืบพันธุ์เมื่ออายุมากขึ้นแต่อย่างใด (อะไรนะครับ ได้ยินเสียงบ่นแว่วๆว่าผู้ชายทำไมดูเห็นแก่ตัวจัง - -")
แน่นอนว่าคำอธิบายทั้งหมดนี่เป็นการตอบคำถามในมุมมองของชีววิทยาเชิงวิวัฒนาการ (evolutionary biology) ที่อาจมีส่วนถูกหรือผิดก็ได้ ไม่สามารถสรุปฟันธงได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ เนื่องจากข้อจำกัดในการศึกษา เราไม่สามารถทดลองตรวจสอบผลได้ หรือถ้าทำได้ก็คงยากมากที่จะอยู่รอสังเกตผลที่เกิดขึ้นในสเกลหลักแสนหลักล้านปีครับ ในอนาคตข้างหน้าเราอาจพบหลักฐาน หรือการศึกษาในสายพันธุ์เทียบเคียงอย่างปลาวาฬเพชฌฆาต ที่ช่วยให้เราเข้าใจระบบสรีรวิทยาอันพิศวงของการสืบพันธุ์ก็ได้ครับ
แนะนำหนังสืออ่านเพิ่มเติม
สำหรับข้อมูลที่ใช้เขียนบทความนี้ เรียบเรียงจากบท Making more by making less ในหนังสือชื่อ Why Is Sex Fun?: The Evolution of Human Sexuality ของ Jared Diamond ครับ เป็นหนังสือที่อ่านสนุกมากเนื่องจากผู้เขียนมีความเชี่ยวชาญและอธิบายเรื่องยากๆให้เข้าใจโดยละเอียด เนื้อหาอื่นๆที่น่าสนใจในหนังสือเล่มนี้เช่น ทำไมมนุษย์จึงวิวัฒน์ระบบผัวเดียวเมียเดียว (monogamy)ทำไมเพศชายจึงไม่วิวัฒน์การให้นมบุตร เพศสัมพันธ์เพื่อความสนุกเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นต้น
Create Date : 28 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 28 พฤษภาคม 2554 11:48:41 น. |
|
2 comments
|
Counter : 8636 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ธารน้อย วันที่: 29 พฤษภาคม 2554 เวลา:1:49:47 น. |
|
|
|
| |
|
มีชีวิตบนดาวอังคารหรือเปล่านะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ชายสนุกสนานเพื่อขยายพันธ์ ดูๆก็ไม่แฟร์เท่าไหร่นะ
แต่ถ้าได้เกิดใหม่ ก็ยังอยากเกิดเป็นหญิงอยู่ดี
เพราะหญิงม่ีชัยชนะชายเสมอมา เรื่องความเป็นแม่
Behind all the successful men, there is always a woman.
ก็คุณแม่ของคุณเองไงคะ (ไม่คุณแม่ ก็แม่คุณ. 555)
ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ