แอบไปเป็นแม่ค้าขายผักมาค่ะ นิชดาธานี เป็นcompound ใหญ่ (น่าจะที่สุด) ของชาวต่างชาติ หรือ expat ทั้งหลายที่มาทำงานในเมืองไทย อาศัยอยู่ที่นี่ (จริงๆแล้วแถวสุขุมวิทก็เยอะแต่จะกระจายกันอยู่ ) แต่ที่นี่จะเป็นหมู่บ้านประมาณเกือบสิบหมู่บ้าน รวมถึงส่วนที่เป็นคอนโดมาอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ใช้ facilityทั้งหลายด้วยกันและมีโรงเรียนนานานาชาติ ISB ตั้งอยู่ เป็นที่ดึงดูดอย่างดี เพราะชาวต่างชาติ ไม่นิยมขับรถไปส่งลูกไปเรียนไกลๆแบบพวกเรา ขับแค่ 15 นาที ก็ยังบ่นกันเลยค่ะ ในcompound นี้ก้จะมีส่วนที่เป็นร้านกาแฟ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านซักผ้า ร้านขายยา ร้านดอกไม้ ฯลฯ จัดอยู่ เป้นเหมือนmall เล็กๆใกล้บริเวณสระน้ำและ คลับเฮาส์ ตรงบริเวณที่ว่านี่แหละค่ะ เค้าจะเปิดให้ใครก็ได้เข้ามาจองที่ ให้มาขายของได้ในวันเสาร์ต้นเดือน แค่เดือนละครั้ง เรียกให้เก๋ว่า Saturday market ใครมีของมาตั้งมาแต่งก้ได้ แต่ต้องไม่ใหญ่โตเพราะเค้าจัดให้ขายตรงบริเวณทางเดินหน้าร้านเมน ซึ่งเสาร์-อาทิตย์จะปิดค่ะ แต่ก้อยู่ในร่ม มีพัดลมมาเปิดให้บรรเทาความร้อนค่ะ เค้าคิดเงินแค่ 250 บาทค่ะ ขายตั้งแต่มาเริ่มตั้งโต๊ะ จนถึง 5 โมงเย็น สำหรับการจองที่ก้โทรไปจองล่วงหน้า รายเดิมๆ เค้าก็จะโทรมาตามนะคะ เค้าจะเตรียมโต๊ะไว้ให้เรา ก้ประมาณ ใครมาก่อนก้จองก่อน ส่วนใหญ่มาจัดโต๊ะกันตั้งแต่เช้า แต่ในเวลาน่ะ บอกไว้ คือ เริ่ม 10 โมงเช้า แต่ลูกค้าบางคนก็มาตั้งแต่แปดโมง มาซื้อกับข้าว มาออกกำลัง ที่Clark hatch ตรงบริเวณนั้นๆ เราเคยไปสาย ไปมันซะ 10 โมง ลูกค้าหายไปหลายคน (มีเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน ที่ใจดีมากระซิบบอกว่า ควรมาเช้าหน่อยนะคะ คุณขา เพราะสินค้าของเราเป็นผักสด เหมาะสำหรับแม่บ้านที่ตื่นแต่เช้า จะมาซื้อค่ะ) ครั้งนี้ คิดว่า เป็นครั้งที่ 4 หรือ 5 ที่เราไปแจม ทั้งๆที่เค้าจัดเกือบทุกเดือน หนแรกที่ไป ก็กุมภาปีที่แล้วค่ะ ผลพลอยได้ ก้คื มีผู้ปกครอง ของ ISB มาติดต่อให้ไปขายในงาน International Food Fair ที่ โรงเรียนจัด เดือนนั้น พอดี ก้ไปอีก เหนื่อย ร้อน แต่ก็สนุกดี มาเข้าเรื่องของคราวนี้ก่อนดีกว่า แล้วจะขยายว่า คิดการไกลต่อไปอะไรอีกบ้าง อิอิ เราเอาผักสลัดไฮโดรโปนิคส์ มะเขือเทศ พริกหวาน แล้วก็ร้อคเก็ตไปขายค่ะ มีแค่ 4 อย่างนี่แหละ ขายดิบ ขายดี ไปถึง 8 โมง เที่ยงครึ่งหมดแล้วค่ะ เอาไปอย่างละ 30 ถุงสำหรับมะเขือเทศ และ พริกหวาน ผักสลัด 15 กิโล ถุงละ 1 กิโลเลย มีประมาณ 4-5 ชนิด ปนกันอยู่ เป้นหัวๆค่ะ ยังมีรากติดอยู่ ไว้วันหลังจะมีคำอธิบายสำหรับคนที่อาจจะยังไม่รู้จักการปลูกผัก ชื่อยาวๆนี้ (เราขายเมล็ดพันธุ์เองแหละ อิอิ) สุดท้าย ก็คือ ร้อคเก็ต หลายท่านคงจะทานกันมาแล้ว เราชอบมากเลย ทานกับ น้ำสลัด ที่ทำง่าย ๆคือ Basamic Vinegar, Olive Oil เกลือ พริกไทย คนๆรวมกัน หรือจะเขย่าก้ได้ ตามสบายค่ะ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว ที่เสริฟตามร้านอิตาเลียน ก้จะเป็น สลัดร้อคเก็ตกับปูนิ่มทอด เราเอาร้อคเกตไปขายแค่ 12 ถุง แพคไปถุงละ 250 g ซึ่ง เยอะมากๆ ลูกค้าบ่นกันอุบว่าเยอะเกินทานไม่ไหว เราขี้เกียจแพคใหม่เองแหละค่ะ ก้ฟาร์มเค้ามาแบบนี้ เราไม่อยากไปแตะต้องผัก อีก มันจะเหี่ยวซะก่อน ก้ขายไปทั้งแพคใหญ่นั่นแหละ ที่ของเราขายดี อาจเป็นเพราะว่า ลูกค้านำไปเทียบราคากับในซุปเปอร์มาร์เก็ต ตรงนั้นก้ได้ (ซุปเปอร์ที่ว่านี้ ขึ้นชื่อว่าของแพงค่ะ จะมีแต่ของนอก เอาใจฝรั่ง หรือต่างชาติทั้งหลาย ของจะมีให้เลือกมากกว่าที่อื่น คงเดากันถูกนะคะ ว่า ชื่ออะไร อิอิ) และเราเน้นว่า สดจากฟาร์ม สดจริงๆค่ะ ไม่ได้ผ่านใครที่ไหน ราคาถึงถูกมั่กๆ บ่นๆกันว่าเยอะ กินไม่หมด แต่ก็ซื้อนะคะ หน้าตาผักของเรา คือ ประเภทไหนมั่ง ที่ไปใส่ห่อขายอยู่ ตามนี้ ค่ะ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดคอรัล Frillice Ice Berg ขาดคอสไปอีกรูปค่ะ ของเราใบจะไม่ใหญ่ เป้นจูเนียร์คอส ไม่ใช่ ใหญ่เหมือนคอสของออสเตรเลีย ที่จะหนากว่า กรอบกว่า ที่ใช้ในซีซาร์สลัดตามโรงแรมห้าดาว หรือร้านอิตาเลียนชั้นดี คงเคยเห็นกันมาแล้ว อ้อ ตกหล่นร้อคเก็ต อีกหนึ่ง แบบนี้ไงคะ สำหรับพริกหวานของเราก็จะเป็นพริกหวาน ไซส์เล็ก จะกรอบ และหวานกว่าขนาดใหญ่ ดูเหมือนของปลอมมาก เพราะสีมันสดจัด จะเป็นพันธุ์ที่ ชื่อว่า Tri color ปัจจุบันจะมีปลูกอยู่แค่ฟาร์มเดียว ที่ปากช่องค่ะ ชื่อ ฟาร์ม กรีน แอนด์ คลีน เวจเจทเทเบิ้ลส์ น้องสั่งมาวีคละสองครั้ง เราก็ขอพ่วงมาด้วย ตามแต่ว่าจะขายเมื่อไร ปกติก้แพคไปที่โรงเรียนลูกทุกเช้าวันศุกร์อยู่แล้ว ทีละ สิบ ยี่สิบถุง สำหรับมะเขือเทศ แล้วแต่ว่าจะมีใครสั่ง หรือก็ไปวางไว้ ใครเดินผ่าน จะซื้อก็ซื้อ พริกหวานคนไทยไม่นิยม จะขายได้แต่คุณแม่ต่างชาติค่ะ sweet pepper "'Tri Color" สำหรับมะเขือเทศ ขายหมดเกลี้ยงเลยค่ะ จะเป็นพันธุ์ฮอลแลนด์ค่ะ รูปที่มีนี้ คือ ของเก่าเก็บในตู้เย็น เก็บไว้น่าจะเกือบสิบวันแล้วค่ะ มะเขือเทศนี่ขายดีค่ะ ทั้งไทยและต่างชาติ จะหมดก่อนเลย ทั้งหมดนี้ปลูกด้วยระบบไฮโดรโปรนิคส์ คือไร้ดินล้วนๆ ยกเว้นร้อคเก็ต ผักสลัดนี้แบบปลูกในราง ( Gully )ค่ะ ที่มีน้ำไหลผ่าน พร้อมกับสารละลาย(ปุ๋ยน้ำ) สำหรับมะเขือเทศ และพริกหวาน ปลูกในโรงเรือนและปลูกในวัสดุปลูก คือขุยมะพร้าว ซึ่งก้ถือเป็นไฮโดรโปนิคส์ด้วย เพราะไร้ดิน หรือ soiless culture ค่ะ ตามรูปค่ะ จริงๆแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่าไปขายผักมา แต่แอบมีเกร็ดวิชาการมาขยาย จริงๆอยากชวนไปขายเป็นเพือ่นค่ะ เอาอะไรไปขายก้ได้ สนุกๆ ล่าสุด เห็นมีเสื้อผ้ามือสองมาขาย เพราะเห็นฝรั่ง เดินหอบไปลองในห้องน้ำกันตรึม เห็นว่าขายชุดละ 200 บาทเท่านั้น ขายดีเลยค่ะ กะดูคร่าวๆน่าจะมีไม่ต่ำกว่า ยี่สิบร้าน นะคะ ผักมีแค่เราเจ้าเดียว นอกนั้นจะเป็นกะบุง ตะกร้า เทียนหอม เสื้อผ้าเด็ก วีซีดี กรอบรูปพร้อมภาพ ของแต่งบ้าน ประมาณนี้ค่ะ ไม่มีอะไรใหญ่โตค่ะมีทั้งขายเป็นอาชีพ และสมัครเล่น เช่นเรา และตอนนี้ไอเดียบรรเจิด กะจะเข้าไปขายทุกวีค แต่จะตามสั่ง คือ จะเข้าไปทุกพุธ ช่วงเช้า ส่งลูกเสร็จก็มาที่นิชดา หาโลเกชั่นประจำ ให้ใครต่อใครที่สั่งมารับเอง โดยต้องสั่งล่วงหน้า ก็ได้ไปเจรจามาเรียบร้อยแล้ว เค้าก็โอเคและ จะไปหาอย่างอื่นมาแจมกับเราด้วย พวกเนื้อสดๆ ดีๆ จะทำเป้น Fresh market แล้วเราจะทำเล้กๆเล่นๆ สนุกๆไม่ต้องซีเรียส ได้มั้ยหนอ เฮ้อ หาเรื่องใส่ตัวรึป่าวน้า กลัวจัง พอทำๆไป ก้ต้องมีความรับผิดชอบ ไปมั่งไม่ไปมั่งคงไม่ได้ นี่ก็ไปล่ารายชื่อจากลูกค้าที่มาซื้อแหละค่ะ ขอชื่อ อีเมล์ไว้เค้าก็อยากให้ทำมาก เพราะติดใจความสด ความอร่อยของผัก โม้ซะเลย เดี๋ยวเสาร์ 24 ก็จะไปอีกที่ ISB International Food Fairอีกแล้ว เค้าโทรมาตาม อันนั้นโต๊ะละ 1,000 แน่ะจะคุ้มมั้ยเนี่ยะ เอาวะ อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา ก่อนจบ ก็ขอ Happy Valentine's Day กับทุกคนด้วยนะคะ ความรัก เป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะรักแบบไหน รักครอบครัว รักเพื่อน รักญาติ รักเพื่อนร่วมโลก รักไปเถิดค่ะ   Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2550     31 comment Last Update : 16 กุมภาพันธ์ 2550 18:05:31 น.     Counter : 2766 Pageviews.   Share Tweet