สูตรเขาเราอร่อย ตอน "ต้มยำ"
เกริ่นนำ
เนื่องจากแต่ไหนแต่ไรมา ทำกับข้าวให้อร่อยนี่ยากเย็นแสนเข็ญเหลือเกิน พอทำกินได้(คนเดียว)
สมัยเมื่อทำงานอยู่ไทย ก็พึ่งอาหารถุงซะส่วนใหญ่ นอกจากสะดวก แล้วยังอร่อย(กว่าทำเอง) อิอิ...
แต่แล้วเมื่อต้องย้ายนิวาสถานมาอยู่ไกลถึงเมืองนอกเมืองนา หวังพึ่งแกงถุง ผัดปิ่นโตไม่ได้แล้ว เำพราะแพงแท้...
แค่กินกันสองคนตายาย ก็ปาไปหลายยูโร ถ้าคิดจะกินแบบพอตึงๆท้อง
ก็เตรียมพกตังค์ออกจากบ้านได้เลยไม่ต่ำกว่า 50 ยูโร (คิดเป็นเงินไทยก็คูณ 48-50 ไป)
ในเมื่อปลงใจจ่ายแพงไม่ได้ ก็ต้องพึ่งตัวเองซะแล้ว "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
แต่ก็นะ ฝีมือ รสมือ อร่อยเหลือกาที่เปรียบไม่ได้อย่างเรา มีแต่เราเองที่กินลง
ก็ต้องเสาะแสวงหาสูตรอร่อย เคล็ดปลายจวักจากคนอื่นล่ะ
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีอันแสนวิเศษ และเจ้าของสูตรอาหารในโลกอินเตอร์เน็ตอย่างยิ่ง
ที่ทำให้เราไม่อดตาย และยังทำให้เราได้กินอาหารได้เอร็ดอร่อยกว่าที่เคยเป็นมา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อาหารบางอย่างไม่เคยทำเป็นเลย ก็ทำเป็น แถมกินได้หมดแบบไม่มีใครบ่น หรือแสดงอาการผะอืดผะอมแต่อย่างใด...
เลยคิดจะรวมรวมสูตรอาหารที่ทำแล้วอร่อยไว้ที่บล็อกนี้ สำหรับตัวเอง
อยากกินเมื่อไหร่ ก็จะได้หาเจอง่ายๆ และเป็นการเผื่อแผ่ท่านอื่นๆด้วย
สำหรับใครผ่านเข้ามา อยากขอบคุณเจ้าของสูตรก็ตามไปที่ลิ้งค์เครดิตด้านล่างได้เลยค่ะ
วันนี้เรามาเริ่มที่ ต้มยำค่ะ จะต้มยำกุ้ง ต้มยำปลา ต้มยำสารพัด ก็แค่ปรับนิดๆหน่อยๆ ก็อร่อยได้ค่ะ
สูตรนี้ได้ลองทำ 2 ครั้งแล้วค่ะ ขอบอกว่าอร่อยจริงๆ
สำหรับรูปขอติดไว้ก่อนนะคะ ทำคราวหน้าจะถ่ายรูปให้ดูค่ะ
คราวนี้สมาชิกของบ้านหิวกันจนตาลาย คว้ากล้องมาถ่ายรูปไม่ทันค่ะ อิิอิ...
ขอขอบคุณคุณนิ้วที่จิ้มแป้นสำหรับสูตรอร่อยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
"สิ่งที่ไม่ถูกกับต้มยำ....มีอยู่สองอย่างครับ อย่างแรกคือ ทัพพี อย่างต่อมาคือ....หม้อโลหะทุกประเภท
การทำต้มยำที่ดีนั้น ไม่ว่าน้ำข้นหรือน้ำใส... ต้องไม่ใช้ทัพพีครับ...เท ๆ ใส่หม้อ....ห้ามคนโดยเด็ดขาด
อีกประการ....ห้ามปรุงรสด้วยมะนาว...ในหม้อโลหะ ชามโลหะโดยเด็ดขาด
วิธีทำน้ำใส ก็ง่าย ๆ ครับ.... อย่าไปยุ่งยาก....
วัตถุดิบต้องสด...และล้างให้สะอาด.... เนื้อปลา หัวปลา...จะมีคาวจัด... เมื่อล้างน้ำสะอาดแล้ว....ตัดแบ่งเป็นชิ้นพอดีคำ...ด้วยมีดคม ๆ เลือกสิ่งที่คาวจัดทิ้งไป อาทิ เหงือก ถุงน้ำดี ไส้ หัวปลาที่ต้ม...ควรใช้ปลาเกล็ดครับ ปลาหนังจะคาวมาก....
จากนั้น...เคล้าด้วยเกลือและล้างออกด้วยน้ำสะอาด ใส่น้ำส้มสายชูกลั่น ซักหนึ่งช้อนโต๊ะ เคล้าเนื้อปลาให้ทั่ว ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง...ให้หมดกลิ่นน้ำส้ม..สายชู ผึ่งให้หมาด ๆ
ตั้งน้ำในหม้อให้เดือด... ใส่น้ำปลาเล็กน้อย...ตะไคร้ ข่า (ทุบพอบุบ) หอมแดง (เผาหรือสดบุบ ๆ) ตามใจชอบ แต่ถ้าใส่หอมแดง...จะออกคล้ายต้มโคล้งเกินไป
รอให้น้ำเดือดจัด.... เทสารพัดปลาลงในหม้อ....ทะยอยเทหรือเททีเดียวก็ได้ครับ แต่กรุณาอย่าหรี่ไฟ...ไฟต้องแรง....
พอเดือด...เหยาะน้ำตาลเล็กน้อย...น้อย ๆ นะครับ... เพื่อมิให้รสชาติของน้ำต้มยำ... เปรี้ยวกับเค็มตัดกันโจ๋งครึ่มเกินไป
หันมาที่ชามกระเบื้อง... ทุบพริกขี้หนู พร้อมใบมะกรูดฉีก ๆ ใบกระเพราบิด ๆ ใส่พริกป่น พริกแห้ง (คั่วหรือไม่ก็ได้) น้ำพริกเผา ก็ดูสีสวยหน่อย บีบมะนาว....เทน้ำปลา....ตามชอบ ควรปรุงให้เปรี้ยวนำก่อน....ครับ
ตักน้ำต้มยำผสมเสร็จชิมรสให้อร่อย...เติมน้ำปลาช่วงนี้แหละครับ ตักเนื้อปลา..ใส่ชาม...เป็นอันเสร็จพิธี...
ลองทำดูครับ...สำหรับน้ำใส
สำคัญที่ วัตถุดิบต้องสด หัวปลาต้องล้างสะอาด มีดต้องคม สับปุ๊บขาดปั๊บ... น้ำต้องเดือด...ไม่ใช้ทัพพี แค่นี้แหละครับ...พอแล้ว
กรณีกุ้ง ไก่ หรืออะไรก็ตามทำแบบเดียวกันครับ
ถ้าต้องการน้ำข้น... ให้ตั้งหัวกระทิให้เดือดแตกมันก่อน...คนด้วยทัพพีให้ดี แล้วค่อยใส่น้ำครับ.... ที่ต้องใส่กระทิก่อน เพราะกระทิต้องคน ครับ....
แต่ถ้ามีกระทิเมื่อไหร่ ต้องใส่ข่าครับ ไม่ใส่ไม่ได้.... น้ำตาลไม่ต้อง...
ส่วนการปรุงต้มยำด้วยน้ำมะขามเปียกนั้น เราไม่ทำกันครับ... เพราะต้มยำไม่ใช่ต้มโคล้ง...หรือแกงส้ม ครับ
ขอความกรุณาอย่าใช้น้ำมะนาวหรือเปลือกมะนาวล้างคาวปลานะครับ เพราะ....ท่านจะได้รสขมเมื่อวิตามิน C โดนความร้อน แทน...กลิ่นคาว ครับ
จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...."
เครดิต //www.gingamegun.com/forum/index.php?action=printpage;topic=516.0
Create Date : 29 มกราคม 2553 |
Last Update : 29 มกราคม 2553 23:09:09 น. |
|
3 comments
|
Counter : 355 Pageviews. |
|
|
|
โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:50:49 น. |
|
|
|
โดย: 51 IP: 222.123.110.99 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:21:42 น. |
|
|
|
โดย: 51 IP: 222.123.110.99 วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:11:29:43 น. |
|
|
|
| |
|
|
[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]