Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

2559 07 30 โรคเส้นเลือดสมอง ตีบ ลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ตอน ๒ สาระสำคัญ



วันเสาร์บ่ายสองโมง-บ่ายสามโมง วันดีเวลาดี ที่เราจะได้มาพบกัน ในรายการ " คุณหมอขอคุย (เรื่องดี ๆ ) "

สถานีวิทยุชุมชนเครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร 100.25 mHz.

ดำเนินรายการโดยนพ.พนมกร ดิษฐสุวรรณ์

โทรศัพท์ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่หมายเลข 055- 714 417

วันเสาร์นี้คุยกันเรื่อง

๑.ความรู้สุขภาพ ... อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเส้นเลือดสมอง ตีบ แตก ตัน

ดัดแปลงจากบทความของ นพ.เขษม์ชัย เสือวรรณศรี อายุรแพทย์ประสาทวิทยา ( www.siammedic.com )

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=cmu2807&month=04-03-2008&group=4&gblog=21

๒.ข้อคิดความเห็น เกี่ยวกับบ้านเรา ... ร่วมเปลี่ยนประเทศไทยร่วมใจลงประชามติ ๗ สค.๕๙ (ตอน ๒)

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1323748904307449.100000170556089&type=3

๓.ข่าวสารการจัดงานในบ้านเรา :

-วันพฤหัสบดี ๔ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ น. " ปั่นจักรยาน สู่เส้นทาง การออกเสียงประชามติ " ระยะทาง ๒๒ กม. รับสมัครตั้งแต่ วันนี้ - วันพุธ ๒๗กค.๕๙ ประกาศรายชื่อวันที่ ๒๙ กค.๕๙(รับเสื้อ วันที่ ๔ สค.๕๙)

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1323748904307449.100000170556089&type=3

- วันที่ ๕ – ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ (ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ต้นเดือน) เวลา๑๗.๐๐-๒๑.๐๐ น. ตลาดย้อนยุคนครชุม

https://www.facebook.com/%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1-253281431523449/

- วันอาทิตย์ที่๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. วันออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ และประเด็นเพิ่มเติม

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1323748904307449.100000170556089&type=3

””””””””””””””””””””””””””””””

-เชิญร่วมบริจาคโลหิต ณ ห้องรับบริจาคโลหิตตึก 3 ชั้น 2 รพ.กำแพงเพชร ทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น.(ไม่เว้นวันหยุดราชการ) สอบถามรายละเอียดโทร 055 - 714 223 - 5 หรือ 081- 443 2550

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.482651328417215.132977.100000170556089&type=3

-เชิญร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี จ.กำแพงเพชร

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1110300495652292.100000170556089&type=3

-เชิญร่วมบริจาค จักรยาน (ใหม่-เก่า) โครงการ “สองล้อเพื่อน้องของขวัญเพื่อโลก" @ กำแพงเพชร

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1133734349975573.100000170556089&type=3

-เชิญร่วมสนับสนุน สถานีวิทยุเครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร ( สคพ. ๑๐๐.๒๕ MHz)

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1240372449311762.100000170556089&type=3

-ตลาดเกษตรกร หน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ทุกวันศุกร์ เวลา ๐๗.๐๐ - ๑๗.๐๐ น

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.625007547622776.1073741882.146082892181913&type=3

-ท่องเที่ยวเทศบาลเมืองฯ ด้วยรถไฟฟ้า จุดขึ้นรถบริเวณลานโพธิ์ ไม่ต้องจองล่วงหน้าและ ฟรี

https://www.facebook.com/media/set/?set=a.611450205645177.1073741877.146082892181913&type=3


””””””””””””””””””””””””””””””


๑. ความรู้สุขภาพ อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเส้นเลือดสมอง ตีบ แตก ตัน

ดัดแปลงจากบทความของ นพ.เขษม์ชัย เสือวรรณศรี อายุรแพทย์ประสาทวิทยา ( www.siammedic.com )

อัมพฤกษ์อัมพาตหมายถึงการที่แขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง และมักจะไม่ค่อยหาย หรือหายแต่ไม่หายสนิท ต้องใช้เวลาฟื้นฟูสมรรถภาพค่อนข้างนานและมีความพิการหลงเหลืออยู่

คำว่า"อัมพาต"เรามักจะหมายถึงอาการอ่อนแรงจนไม่สามารถขยับเขยื้อนร่างกายได้เลยซึ่งอาจจะอ่อนแรงครึ่งซีกของร่างกาย หรือครึ่งท่อนล่างของร่างกายก็ได้ ส่วนคำว่า "อัมพฤกษ์"เราหมายถึงอาการอ่อนแรงที่ผู้ป่วยยังพอขยับร่างกายส่วนนั้นได้บ้าง

โดยทั่วไปเรามักจะนึกว่า อัมพาต อัมพฤกษ์ จะต้องมีอาการอ่อนแรงเสมอ แต่โดยความเป็นจริงแล้วการที่มีเพียงแค่ อาการชา หรือ มีความรู้สึกลดน้อยลงครึ่งซีกทั้งในแง่การรับรู้สัมผัส ความเจ็บปวด ความรู้สึกร้อนหรือเย็นก็อาจเกิดจากโรคหลอดเลือดสมองได้ทั้งสิ้น

อาการโดยส่วนใหญ่มักจะเกิดในทันทีทันใดในบางคนอาจจะมีอาการเตือนมาก่อน เช่น มีอาการอ่อนแรงครึ่งซีกตาข้างหนึ่งข้างใดมองไม่เห็นชั่วระยะเวลาสั้นๆ แค่เป็นนาที หรือเป็น ชั่วโมงแล้วอาการดีขึ้นเป็นปกติอาการนี้แสดงให้เห็นว่ามีสมองบางส่วนขาดเลือดไปเลี้ยงในช่วงนั้น ๆ ถ้าปล่อยทิ้งไว้ก็จะเกิดภาวะสมองขาดเลือดถาวร หรืออัมพาตครึ่งซีกได้ถ้าผู้ป่วยมีอาการเตือนแล้วรีบมาพบแพทย์ก็จะมีประโยชน์ในการป้องกัน การเกิดอัมพาตอัมพฤกษ์ได้

เส้นเลือดสมองตีบหมายถึงอะไร

เส้นเลือดสมองตีบเป็นโรคหนึ่งซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มใหญ่ที่เรียกว่าโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งประกอบ ไปด้วย 3 โรคหลักๆ ได้แก่ เส้นเลือดสมองตีบเส้นเลือดแตก และ เส้นเลือดอุดตัน โดยที่ เส้นเลือดสมองตีบ พบได้มากที่สุด(80-85%)

เส้นเลือดที่ตีบเกิดจากการหนาตัวของผนังหลอดเลือดรวมทั้งอาจมีเกล็ดเลือด หรือองค์ประกอบอื่นๆ ของเลือด มาสะสมตามผนังหลอดเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ และเกิดความเสียหายต่อเซลสมองได้

มีอาการอย่างไรได้บ้าง

เนื่องจากสมองแต่ละส่วนมีหน้าที่แตกต่างกันดังนั้นอาการในผู้ป่วย ขึ้นกับบริเวณของสมองที่มีเส้นเลือดตีบ อาการที่พบได้แก่

แขนขาอ่อนแรง หรือชาซีกใดซีกหนึ่ง(บางกรณีอาจเป็น ทั้ง2ซีก)

ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด กลืนลำบาก หรือ สำลัก

พูดไม่ได้ หรือฟังไม่รู้เรื่อง(มีปัญหาด้านความเข้าใจภาษา)

เวียนศีรษะมาก เดินเซแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาการมึนงง ทรงตัวไม่อยู่ หรือ ล้ม โดยไม่ทราบสาเหตุ

มองไม่เห็นซีกใดซีกหนึ่ง ตามองไม่เห็นหรือพร่า โดยเฉพาะถ้าเป็นเพียงข้างเดียว

อาการสับสน หรือ ไม่รู้สติ ในทันทีทันใดหรือปวดศรีษะอย่างมาก

โดยลักษณะสำคัญของอาการที่เกิดคือเป็นค่อนข้างเร็ว ภายในเวลาเป็นนาที หรืออาจเป็นหลังตื่นนอนโดยที่ก่อนเข้านอนยังปกติอยู่

ใครมีโอกาสเป็นบ้าง

อายุที่มากขึ้นถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้ที่ไม่สามารถป้องกันได้เมื่ออายุเพิ่มขึ้นโอกาสเสี่ยงก็มากขึ้นแต่ปัจจัยเสี่ยงที่เราสามารถควบคุมได้ยังมีอีกหลายอย่างซึ่งถ้าเราคุมได้ดีก็จะสามารถลดโอกาสการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาตได้มากแม้จะไม่100%ก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวได้แก่

ความดันโลหิตสูงผู้ที่มี ความดันโลหิตสูง มีโอกาสเป็นอัมพาตมากกว่า คนที่ไม่เป็นประมาณ 2-4 เท่า

โรคหลอดเลือดหัวใจผู้ที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจ มีโอกาสเป็นอัมพาตมากกว่า คนไม่เป็นประมาณ 1-3 เท่า

เบาหวาน

ไขมันในเลือดสูงความอ้วน

การสูบบุหรี่

อัมพาตพบในผู้สูงอายุบ่อยแค่ไหน

จากการศึกษาของต่างประเทศพบว่าอัมพาตจะพบมากขึ้นตามอายุทั้งเพศชายและหญิง เช่น

อายุ45-54ปี พบอัมพาต ประมาณ 1 ต่อประชากร 1000 ราย

อายุ56-64ปี พบอัมพาต ประมาณ 1 ต่อประชา กร 100 ราย

อายุ75-84 ปี พบอัมพาต ประมาณ 1 ต่อประชากร 50 ราย

อายุมากกว่า 85 ปี พบอัมพาต ประมาณ 1 ต่อประชากร 30 ราย

จะวินิจฉัยอย่างไร

อาศัยการซักประวัติตรวจร่างกายทั่วไปและการตรวจทางทางระบบประสาท และการทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) ในบางรายหากสงสัยว่าอาจเป็นอย่างอื่นแพทย์ที่ตรวจอาจให้ตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(MRI) แทนการตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์

การทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ของสมอง จะช่วยให้แยกได้ระหว่างเส้นเลือดตีบหรือแตก ซึ่งการรักษาจะต่างกันไป

รักษาให้หายขาดได้หรือไม่

ปัจจุบันยังไม่มียาใดที่รักษาอาการที่เกิดขึ้นได้โดยตรงแต่ผู้ป่วยแต่ละคนมีโอกาสที่จะดีขึ้นได้เอง โดยเน้นการทำกายภาพบำบัดเป็นหลักซึ่งแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันไปในเรื่องของการฟื้นตัวว่าจะดีขึ้นได้ถึงระดับใดโดยอาจพอบอกแนวโน้มได้คร่าว ๆ หลังเกิดอาการ2-4 สัปดาห์แต่ก็ไม่ได้ทำนายได้ถูกต้องแน่นอนเสมอไป เช่น ถ้าผ่านไป 2 สัปดาห์ อาการอ่อนแรงดีขึ้นมากพอสมควรก็อาจบอกได้ว่ามีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้มาก แต่ถ้าผ่านไป 3 - 6เดือนก็ยังไม่ค่อยดีขึ้นเท่าที่ควร ก็มีแนวโน้มว่าอาจไม่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก

การดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้แล้ว หลักสำคัญๆ ได้แก่

ควบคุมปัจจัยเสี่ยงอย่างเคร่งครัดห้ามขาดยา และมาพบแพทย์ ตามนัด

ทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่องโดยอาจทำเองที่บ้าน การทำกายภาพบำบัดมีส่วนสำคัญที่สุดในการเพิ่มโอกาสที่ทำให้ส่วนที่อ่อนแรง กลับมามีแรงมากขึ้นได้ส่วนยา จะป้องกันเส้นเลือดสมองตีบซ้ำ ดังนั้นถ้าไม่ค่อยทำกายภาพบำบัดอาการก็จะไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร

ให้กำลังใจผู้ป่วยเนื่องจากพบว่าผู้ป่วยมักจะมีโรคซึมเศร้า หรือเครียดร่วมด้วยซึ่งเกิดจากการที่เคยทำอะไรได้ แล้วมาทำไม่ได้

ในผู้ป่วยที่เดินไม่ได้ต้องนอนอยู่กับเตียง จะต้องพลิกตัว จับนั่งบ่อย ๆ อย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมงเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ แผลกดทับ ทางเดินปัสสาวะอักเสบเป็นต้นซึ่งแพทย์และพยาบาลจะสอนการดูแลเหล่านี้ รวมทั้งการให้อาหารทางสายยาง(ถ้าต้องใส่)ก่อนให้ผู้ป่วยกลับบ้าน

ยาที่ใช้รักษามีอะไรบ้าง

ยาที่ใช้ในโรคนี้ใช้เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ เนื่องจากถ้าเป็นครั้งหนึ่งแล้วจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นซ้ำได้ ยาที่สำคัญคือยาป้องกันเส้นเลือดตีบซึ่งแพทย์จะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ไม่ควรซื้อทานเองเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้

ยาที่มีความสำคัญมากอีกกลุ่มหนึ่งคือยาที่ใช้คุมปัจจัยเสี่ยง เช่น ยาเบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นต้นรวมทั้งการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องโดยเฉพาะการควบคุมอาหารที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้

ทำไมบางคนหาหมอพระหรือทานยาหม้อแล้วหายดี กลับมาเดินได้

อย่างที่กล่าวในตอนต้นคือโรคนี้เป็นโรคที่ในระยะแรกๆ ทำนายได้ยาก ว่าแต่ละคนจะดีขึ้นได้แค่ไหนหรือใช้เวลาเท่าใด บางรายอาจดีขึ้นเองโดยไม่ได้ทานยาอะไรเลย บางรายทานยาทุกอย่างทำกายภาพบำบัดเต็มที่ ก็อาจจะไม่ค่อยดีขึ้นมากนักดังนั้นในรายที่ทานยาหม้อหรือรักษาแบบอื่นๆแล้วดีขึ้นมักเกิดจากการที่คนนั้นจะดีขึ้นเองอยู่แล้ว แต่บังเอิญไปทานยาหม้อด้วยจึงเข้าใจว่าขึ้นจากยาหม้อ แล้วบอกต่อกันแต่ในรายที่ไม่ดีขึ้นหรือเกิดผลข้างเคียงจากยาหม้อ คนทั่วไปก็จะไม่ค่อยพูดถึงหรือโทษว่า แย่ลงเป็นจากโรคเส้นเลือดสมองตีบ

ยาบำรุงสมองช่วยได้หรือไม่

มีคนพูดถึงยาบำรุงสมองแปะก๊วย อาหารเสริม ฯลฯ ว่าจะช่วยให้อัมพาตหายได้หรือไม่ รวมทั้งการรักษาอื่น ๆ อีกหลายรูปแบบรวมทั้งยาฉีดบางชนิดที่ราคาแพง ซึ่งทุกอย่างดังกล่าวยังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ทางการแพทย์ว่า ได้ผล และการรักษาบางอย่างอาจเกิดผลเสียกับผู้ป่วยโดยไม่รู้ตัวได้ถ้าไม่แน่ใจ จึงไม่ควรทานหรือฉีด

ยาหม้อเป็นยาที่นิยมมากโดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งนอกจากไม่เกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยแล้วยังอาจเกิดอันตรายได้หลายรูปแบบ แต่คนนิยมทาน เนื่องจากในยาหม้อมักมีสารสเตียรอยด์ ที่ทำให้ทานแล้วรู้สึกสบาย เหมือนจะดีขึ้นแต่เป็นเพียงความรู้สึก และเป็นชั่วคราว และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้หลายอย่างเช่น น้ำตาลในเลือดสูง โรคกระเพาะ ภูมิคุ้มกันต่ำ ติดเชื้อง่าย หน้าบวม ฯลฯบางรายที่ทานนานๆ เมื่อหยุดทานก็จะเกิดอาการไม่สบายได้หลายรูปแบบยาหม้อจึงเป็นยาที่ไม่ควรทานโดยเด็ดขาด

ทำไมแพทย์มักมีอคติหรือปิดกั้นการรักษาแบบอื่นๆที่ไม่ใช่แผนปัจจุบัน

แพทย์ไม่ได้ปิดกั้นหรือมีอคติใดๆ เนื่องจากแพทย์ทุกคนทราบว่าในขณะนี้แผนปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายสนิทได้ทุกรายถ้าญาติผู้ป่วยก็อยากลองพึ่งการรักษาทางอื่นดูบ้าง เผื่อว่าอาจได้ผลแพทย์ส่วนมากก็ให้ลองได้ แต่ต้องเป็นการรักษาหรือเป็นยาที่ไม่เกิดอันตรายใด ๆกับผู้ป่วย แต่การรักษาหลายอย่าง อาจเกิดอันตรายได้ เช่น ยาหม้อการนวดโดยการเหยียบ การนอนในทรายดำ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีอีกประเภทที่ต้องชี้แจง แม้อาจไม่มีอันตรายนักแต่เกิดจากการหวังผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มโดยฉวยโอกาสบนความเดือดร้อนของผู้ป่วยและญาติ เช่น อาหารเสริม เตียงแม่เหล็ก วิตามินบางชนิดยาฉีดแพง ๆ ซึ่งอ้างว่ามาจากเมืองนอก เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการโฆษณาชวนเชื่อเกินความเป็นจริง ในปัจจุบันนี้เริ่มมีการเอาผิดทางกฎหมายกับคนกลุ่มนี้แล้ว

ผลที่เกิดกับผู้ป่วยอัมพาต

ในช่วงเดือนแรกหลังเกิดอาการพบว่ามีอัตราตายถึง 25% และใน 1 ปีมีอัตราตายถึง 40%โอกาสที่จะเป็นอัมพาตซ้ำในระยะ 1 เดือนแรกหลังเกิดอัมพาตพบได้ถึง 3-5 % และ 10% ใน1 ปี

เมื่อเราติดตามผู้ป่วยเหล่านี้ต่อไปจะพบว่าผู้ป่วยจะไม่สามารถทำงานได้ถึง 50% ซึ่งในจำนวนนี้ มีถึง 25%ที่ต้องอยู่ในสถานพยาบาลเป็นเวลานาน นอกจากนี้ 30 %ของผู้ป่วยจะเกิดโรคสมองเสื่อมตามมา

ทำอย่างไรจึงจะป้องกันอัมพาตได้

การป้องกันในระยะที่ยังไม่มีอัมพาตเป็นสิ่งที่แพทย์สามารถให้คำแนะนำได้ ในผู้ที่มีอายุมากกว่า 45ปี ขึ้นไปโดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่จัด มีประวัติเบาหวานในครอบครัวจำเป็นต้องได้รับการตรวจร่างกาย วัดความดันโลหิต เอ็กซเรย์ปอด คลื่นไฟฟ้าหัวใจตรวจเลือดหาระดับน้ำตาล ไขมัน ตลอดจนการตรวจหาเชื้อ ซิฟิลิสในเลือด อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง ซึ่งจะทำให้เราทราบว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่เมื่อพบว่ามีโรคเหล่านี้ตั้งแต่ระยะแรกๆ จะทำให้การควบคุมและป้องกันผลแทรกซ้อนของโรคสามารถทำได้ง่าย

สำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีโรคอัมพาตอยู่แล้วและกำลังรักษาอยู่ สิ่งที่สำคัญก็คือ ทำอย่างไรให้อาการนั้นดีขึ้นและป้องกันไม่ให้เกิดอัมพาตซ้ำ การควบคุมอาหารเลือกรับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่น

ผู้ป่วยที่มีโรคเบาหวาน ควรควบคุมอาหารรสหวานทุกชนิด เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ผลไม้รสหวานทุกชนิด อาหารจำพวกแป้ง เป็นต้น แนะนำให้รับประทานผลไม้จำพวกส้มหรือมะละกอ

ส่วนผู้ที่มีไขมันในเลือดสูง ควรงดอาหารเช่น ไข่แดง ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ ปลาหมึก หอยนางรม กุ้ง เป็นต้น ควรรับประทานยาและออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอรวมทั้งหมั่นไปพบแพทย์ เป็นระยะๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอัมพาตซ้ำ


๒. ข้อคิดความเห็น เกี่ยวกับบ้านเรา ...ร่วมเปลี่ยนประเทศไทย ร่วมใจลงประชามติ ๗ สค.๕๙ (ตอน๒)

1เสียงของคุณ ชี้อนาคตประเทศไทย

วันอาทิตย์ที่7 สิงหาคม 2559 นี้ มาร่วมกันออกเสียงประชามติ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

เตรียมพร้อมก่อนออกเสียงประชามติ7 สิงหาคม 2559 นี้

• ติดตามข้อมูลข่าวสารของร่างรัฐธรรมนูญและการออกเสียงประชามติ อย่างใกล้ชิด

• วิเคราะห์หลักเหตุและผลอย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงคะแนนออกเสียงประชามติ

• ทำความเข้าใจขั้นตอน และ วิธีการในการลงคะแนนออกเสียงประชามติ

คุณคือผู้มีสิทธิออกเสียง

>มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญญาชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี

>อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ ในวันออกเสียง (เกิดก่อน 9สิงหาคม2541)

>มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตออกเสียงมาแล้วไม่น้อยกว่า 90 วัน(ย้ายมาก่อน 10 พฤษภาคม 2559)

อย่าลืม!!หลักฐานแสดงตน

บัตรประจำตัวประชาชน(บัตรหมดอายุใช้ได้) หรือหลักฐานอื่นที่ทางหน่วยงานของรัฐออกให้โดยมีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชน เช่น

-บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ

-บัตรประจำตัวผู้รับบำเหน็จบำนาญ

-ใบขับขี่

-หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)

....................

ร่วมเปลี่ยนประเทศไทยร่วมใจลงประชามติ ๗ สค.๕๙

https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1323748904307449.100000170556089&type=3




7สิงหานี้ อยากให้การออกเสียงประชามติมีคุณภาพปราศจากการทุจริตต้องร่วมเป็นหูเป็นตากับแอพฯ "ตาสับปะรด"

แอพพลิเคชั่น“ตาสับปะรด” นี้ทำขึ้นเพื่อให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาในการออกเสียงครั้งนี้เพื่อความสุจริตเที่ยงธรรมประชาชนสามารถร่วมกันสอดส่องและแจ้งเหตุทุจริตได้ทันทีที่พบผ่านแอพพลิเคชั่นเมื่อประชาชนพบเห็นก็สามารถถ่ายภาพนิ่ง ถ่ายวีดิโอ หรือบันทึกเสียงแล้วส่งผ่านแอพฯนี้ได้เลย

การใช้งานเพียงแค่กรอกเลขประจำตัวประชาชน13 หลัก แล้วแอพฯ จากนั้นกรอกสถานที่เกิดเหตุว่าอยู่ในจังหวัดใด วัน เวลาที่เกิดเหตุ และรายละเอียดเพียงสั้นๆ จากนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปยัง กกต.กลาง และกกต.จังหวัด เพื่อตรวจสอบต่อไป

สามารถดาวน์โหลดฟรีได้แล้ววันนี้ที่AppStore หรือ Google Play และพิมพ์คำว่า กกต.

https://www.facebook.com/Pr.Ect.Thailand/videos/647224735435602/




Create Date : 29 กรกฎาคม 2559
Last Update : 29 กรกฎาคม 2559 16:52:28 น. 1 comments
Counter : 613 Pageviews.  

 
สวัสดีนะจ้ะ เราแวะมาทักทาย สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: nokyungnakaa วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:13:01:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]