Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

บทเรียนว่าด้วยความรัก








บทเรียนว่าด้วยความรัก


“แง๊ แง๊” “ แง้ แง้ แง้” เสียงเด็กร้องดังระงมไปทั่วๆห้อง
ฉันว่า เด็กๆคงเริ่มหิวกันแล้วแหละ
นั่นไง เหล่าบรรดาคุณแม่คนใหม่พากันเดินเข้ามาพอดี

แล้วฉันก็นั่งมองภาพเหตุการณ์ที่พวกเราชาวห้องเด็กเห็นกันจนชินตา
ภาพเด็กทารกที่ค่อยๆถูกอุ้มจากเตียงทีละเตียงเพื่อนำไปส่งให้กับอ้อมอกแม่
อ้อมอกแห่งความรัก ความเอื้ออาทร

คุณแม่เหล่านี้โชคดีนักที่มีลูกเกิดมาค่อนข้างปกติ แข็งแรงสมบูรณ์
ไม่พิการ ไม่เป็นโรคร้าย
แต่ใครเลยจะรู้ ...... ว่าลูกที่กำลังจะเกิดมาของคุณจะเป็นเช่นนั้นเสมอไป

ก่อนหน้าที่ฉันจะมาอยู่ห้องเด็กอ่อนหรือที่ศิริราชเราเรียกกันว่า “ nursery”
ฉันได้ผ่านหอผู้ป่วยเด็กเล็กมาก่อน
ภาพของสองสถานที่ช่างแตกต่างกันยิ่งนัก

ที่หอเด็กเล็ก มีเด็กหลายต่อหลายคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในหอผู้ป่วยเป็นเวลานาน
บางคนภูมิคุ้มกันต่ำ ต้องอยู่ในห้องแยกพิเศษ ปลอดเชื้อ ใครจะเข้าไป จะต้องสวมหน้ากาก
เด็กน้อยแก้มป่องคนนั้นจะมีคุณแม่คอยดูแลอยู่ตลอดเวลา จนบางทีฉันเองยังเคยนึกสงสัยว่า
คุณแม่เค้าไม่ต้องไปไหนหรือไปทำอะไรเลยหรืออย่างไร

ยังมีน้องอีกคนนึง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวอร์ดเด็ก
ผู้คนที่ผ่านไปมา จะต้องมาแวะทักทายและดูการแสดงเล็กๆน้อยๆที่ไม่ได้จงใจของน้องจีโน่ นักยิมนาสติกประจำวอร์ด
น้องคนนี้อาจเป็นขวัญใจของคนมากมายในวอร์ด สามารถสร้างรอยยิ้มให้ได้แก่คนทั่วไป
แต่ใครจะรู้เลย....ว่าแล้วในหัวใจของผู้ที่เป็นแม่ล่ะ จะเจ็บปวดเพียงใด
ที่ต้องทนเห็นลูกน้อยเป็นโรคที่ทำให้โครงสร้างของร่างกายมีความผิดปกติ กระดูกหักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

และมีอยู่วันนึงที่ฉันได้มีโอกาสได้รับฟังความอัดอั้นจากคุณแม่อีกคนหนึ่ง

“คุณแม่มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ ทำไมดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”

“พอดีน้องเกิดท้องเสียขึ้นมา คุณหมอเลยยังไม่อยากให้กลับบ้านอ่าค่ะ ไม่น่าเลย... ไม่น่าเลยจริงๆ”

“หรอคะคุณแม่ คงต้องอยู่ต่ออีกไม่นานมั้งคะ เดี๋ยวท้องเสียคงหายแหละ อย่าเพิ่งไปคิดมากเลยนะ”

ฉันพยายามพูดปลอบ

“นานสิหมอ คราวที่แล้วก็ท้องเสียเนี่ยแหละ ทำให้ต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้นเป็นเดือน นึกว่าจะได้กลับไปทำงานแล้วแท้ๆ ไม่ได้ไปมาจะสามเดือน นี่ก็จะถูกไล่ออกอยู่แล้ว” คุณแม่ระบายออกมาทั้งน้ำตาพรางทอดสายตาไปยังแม่ลูกอีกคู่หนึ่ง ซึ่งอยู่โรงพยาบาลมานานไม่แพ้กัน

“บ้านอื่นถึงเค้าจะต้องหยุดงานมาเฝ้าลูก เค้าก็ยังมีสามีมาดูแล หาเงินเลี้ยง แต่บ้านพี่ นอกจากจะไม่ช่วยหาแล้วยังจะมาขอแต่เงินไปกินเหล้าอย่างเดียว แล้วคราวนี้ก็เงินจะหมดแล้วด้วย ไม่รู้จะทำยังไงดี”

หลังจากเสร็จสิ้นการสนทนากับคุณแม่คนนั้น ฉันก็กลับมานั่งคิดกับตัวเอง
ซึ่งคุณๆมาลองคิดตามไปพร้อมกันเลยนะคะ

วันนึงในอนาคต ในวันที่เรามีลูก
ถ้าคุณพบว่า ลูกของคุณที่เพิ่งคลอดออกมา
เป็นโรคที่ต้องรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานๆ หรือเป็นโรคที่ต้องดูแลเป็นพิเศษตลอดชีวิต

เราจะต้องเจ็บปวดและเหนื่อยใจขนาดไหนกันนะ
พวกเรา......จะต้องเสียสละเวลา และความฝันในชีวิตมากมายแค่ไหนกัน
จากที่เคยคิดไว้ว่า ครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าอย่างมีความสุข พ่อแม่ลูก
บ้านที่มีเด็กตัวเล็กๆ พูดจาเจื้อยแจ้ว วิ่งเล่นไปมา บ้างมาอ้อนแม่ บ้างก็เอาแต่ใจ
ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลับกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน

จะเป็นอย่างไร หากเราต้องกลับมาเผชิญกับความจริงอันน่าโหดร้าย
ความจริงที่ว่าเราและลูกต้องใช้ชีวิตอยู่ภายในห้องเล็กๆแคบๆอุดอู้ที่เต็มไป ด้วยผู้ป่วยเด็กและบรรดาแม่คนอื่นๆ.....ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกัน

ถ้ามีวันนั้น พวกเราจะเข้มแข็งเหมือนคุณแม่เหล่านี้ได้มั้ยนะ

เมื่อได้คิดดังนั้น ฉันจึงมองคุณแม่เหล่านี้ด้วยความชื่นชมและนับถืออย่างใจจริง

การที่ฉันได้มาอยู่วอร์ดเด็กทำให้ฉันเรียนรู้สิ่งที่มากกว่าแค่เรื่องโรค
เพราะนอกจากเตียงผู้ป่วยที่อยู่เต็มภายในห้อง ฉันยังมองเห็นสายใยรักระหว่างแม่ ลูก อันอัดเต็มอยู่แน่นไม่แพ้กัน

ที่นี่ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าสายใยแห่งความรัก ความผูกพันที่ “แม่” สามารถมอบให้ได้แก่ลูกคนนึง มันมากมายซะจนเกินกว่าที่จะประเมินค่าได้
และฉันเชื่อว่า ที่อื่นๆก็คงมีความรักดีๆเช่นนี้ซ่อนอยู่ รอก็แต่ว่า เมื่อไหร่คุณจะใช้หัวใจค้นหามัน


ความรัก อาจเป็นคำสั้นๆ แต่เมื่อเราพิจารณาความหมายของมันกลับพบว่า ช่างยิ่งใหญ่นัก

ความรัก สิ่งดีๆที่ถูกส่งต่อจากคนหนึ่งไปสู่คนอีกหลายๆคน

อนาคตไม่ใช่สิ่งที่แน่นอนตายตัว เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
ปัจจุบัน คือสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเรา เป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ดีที่สุด

ดังนั้น ตัวฉันและคุณในวันนี้ ควรทำหน้าที่ในฐานะของเราให้ดีที่สุดด้วยหัวใจของคนเป็นแพทย์
เพื่อที่จะเป็นส่วนช่วยให้พ่อ แม่ ลูกได้กลับไปใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุขที่บ้าน
โดยที่มีสุขภาพทั้งกายและใจ ....ดีที่สุดเท่าจะดีได้


ความรักเกิดขึ้นได้มากมาย ทั้งแบบครอบครัว คนรัก เพื่อนร่วมอาชีพ หรือเพื่อนร่วมสังคม
ถึงแม้ไม่รู้ว่า ใครจะได้พบเจอความรักแบบใด หรือไม่ในตอนนี้

แต่ ฉันก็มั่นใจว่า อย่างน้อยๆพวกคุณทุกคนเองก็เคยได้รับสิ่งนี้ จากแม่ของพวกคุณเช่นกัน
ดังนั้นต่อจากนี้ เรามาช่วยกันส่งต่อสิ่งสวยงามเหล่านี้ให้คนรอบๆข้างของเรา

เพียงรอยยิ้มบางๆ ก็ช่วยให้โลกใบนี้สดใสขึ้นมาได้

ว่าแล้ว....ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วล่ะค่ะ ที่จะกลับมาถามว่า
พวกคุณพร้อมหรือยัง กับ “บทเรียนว่าด้วย....ความรัก” ที่กำลังจะเริ่มต้นรอบๆตัวคุณ นับจากนี้ไป



นศพ.ภัทราภรณ์ พุ่มเรือง
นศพ.ปี 5 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล



Create Date : 26 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2551 16:40:08 น. 2 comments
Counter : 995 Pageviews.  

 
ซึ้งมากค่ะ ความรักจากแม่เป็นรักแท้ที่ไม่มีเงื่อนไข


โดย: Tang_Siri วันที่: 26 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:33:55 น.  

 
เห้นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ


โดย: chabori วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:19:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]