Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง

2559 09 24 ๒๔ กันยายน วันมหิดล คัดค้านคุก



 วันเสาร์ บ่ายสองโมง-บ่ายสามโมง วันดีเวลาดี ที่เราจะได้มาพบกัน ในรายการ " คุณหมอ ขอคุย (เรื่องดี ๆ ) "
สถานีวิทยุชุมชน เครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร 100.25 mHz.
ดำเนินรายการโดย นพ.พนมกร ดิษฐสุวรรณ์
โทรศัพท์ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ หมายเลข 055 - 714 417  

วันเสาร์นี้ คุยกันเรื่อง
๑. ความรู้สุขภาพ ... ๒๔ กันยายน วันมหิดล ร่วมรำลึกถึง “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน”
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.531606393521708.145417.100000170556089&type=3

๒. ข้อคิดความเห็น เกี่ยวกับบ้านเรา ...  คัดค้าน "การเปิดคุก(อีกครั้ง)" กลางเมืองมรดกโลก    
https://www.facebook.com/146082892181913/photos/?tab=album&album_id=960652790724915

๓. ข่าวสารการจัดงานในบ้านเรา  :

- วันเสาร์ ๒๔ กันยายน ๒๕๕๙ (เสาร์ที่สองและที่สี่ของเดือน) เวลา ๑๖.๐๐– ๒๑.๐๐ น. ถนนคนเดิน “ฅนกำแพง”
//on.fb.me/24Aq5a8
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1313045535377786.1073742195.100000170556089&type=3

- วันอาทิตย์ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๙ เวลา ๑๖.๐๐ น. (บ่ายสี่โมง) กำแพงเพชรเอฟซี พบกับ อยุธยา วอริเออร์ ณ สนามชากังราวริมปิง
เครดิต FB สโมสรฟุตบอลกำแพงเพชร เอฟซี
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.813659008649777.100000170556089&type=3

- วันที่ ๑ – ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๙ งานสารทไทยกล้วยไข่ และ ของดี เมืองกำแพงเพชร
https://www.facebook.com/146082892181913/photos/?tab=album&album_id=949287985194729

”””””””””””””””””””””””””””””
- เชิญร่วมบริจาคเพื่อสนับสนุนการจัดตั้ง ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี จ.กำแพงเพชร  ณ วัดพระบรมธาตุ นครชุม
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1110300495652292.100000170556089&type=3
- เชิญร่วมสนับสนุน สถานีวิทยุเครือข่ายประชาชนกำแพงเพชร ( สคพ. ๑๐๐.๒๕ MHz)    
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1240372449311762.100000170556089&type=3
- เชิญร่วมบริจาค จักรยาน (ใหม่-เก่า) โครงการ “สองล้อเพื่อน้อง ของขวัญเพื่อโลก" @ กำแพงเพชร
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.1133734349975573.100000170556089&type=3
- เชิญร่วมบริจาคโลหิต  ณ ห้องรับบริจาคโลหิต ตึก 3 ชั้น 2 รพ.กำแพงเพชร ทุกวัน เวลา 08.30 - 16.00 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ)  สอบถามรายละเอียด โทร 055 - 714 223 - 5 หรือ 081- 443 2550
https://www.facebook.com/phanomgon/media_set?set=a.482651328417215.132977.100000170556089&type=3
- ตลาดเกษตรกร หน้าสำนักงานเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร ทุกวันศุกร์ เวลา ๐๗.๐๐ - ๑๗.๐๐ น
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.625007547622776.1073741882.146082892181913&type=3
- ท่องเที่ยวเทศบาลเมืองฯ ด้วยรถไฟฟ้า จุดขึ้นรถบริเวณลานโพธิ์ ไม่ต้องจองล่วงหน้า และ ฟรี   
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.611450205645177.1073741877.146082892181913&type=3
- ชิมชมช๊อป OTOP กำแพงเพชร ณ ศูนย์จัดแสดงสินค้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชุน "ศูนย์โอทอป สาขาในเมือง" ติดกับ สนง.เกษตร จ.กพ (สามแยกหน้าวิทยาลัยเทคนิค) เปิดทุกวัน เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. โทร 086 515 6596
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.474248506032015.1073741854.146082892181913&type=3

””””””””””””””””””””””””””””””


๑. ความรู้สุขภาพ ...  ๒๔ กันยายน วันมหิดล ร่วมรำลึกถึง “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน”
พระราชประวัติสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลฉบับสมบูรณ์ จาก เวบมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ในพระบรมราชูปถัมภ์
“ วันมหิดล ” ตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายนของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ผู้ทรงมีคุณูปการต่อการแพทย์สมัยใหม่ และทรงได้รับการยกย่องว่าเป็น “ พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน ”สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก คือ สมเด็จพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน พระองค์ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ ๖๙ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จพระศรีสวรินทราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงประสูติเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๔ มีพระนามเดิมว่า “ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชฯ ” ทรงเป็นต้นสกุล “ มหิดล ”
เมื่อทรงพระเยาว์ทรงศึกษาที่โรงเรียนราชกุมารในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ และเสด็จไปศึกษาวิชาการทหารบกที่ประเทศเยอรมัน โดยในปีสุดท้ายได้เปลี่ยนไปศึกษาวิชาการทหารเรือแทน และสำเร็จการศึกษาในปีพ.ศ. ๒๔๕๔ ซึ่งในปีสุดท้ายนี้ทรงชนะการประกวดออกแบบเรือดำน้ำด้วย ทรงได้รับยศเป็นนายเรือตรีในกองทัพเรือเยอรมัน และได้รับพระราชทานยศจากเมืองไทยเป็น นายเรือตรีแห่งราชนาวีไทยเมื่อพระชนมายุได้ ๒๑ พรรษา ครั้นเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ ในปีพ.ศ. ๒๔๕๗ พระองค์จึงได้ลาออกจากกองทัพเรือเยอรมัน และเสด็จนิวัติประเทศไทย เมื่อเข้ารับราชการเป็นทหารเรือ ได้รับพระราชทานยศเป็นนายเรือโท ต่อมาจึงทรงลาออกจากประจำการ เนื่องจากมีทรงอาการประชวรเรื้อรัง ไม่สามารถรับราชการหนักได้
ครั้นต่อมา สมเด็จกรมพระยาชัยนาทนเรนทร ผู้ช่วยปลัดทูลฉลองและผู้บัญชาการราชแพทยาลัย ขณะนั้นทรงพิจารณาเห็นว่า โรงเรียนแพทย์ของไทยอยู่ในฐานะล้าหลังมากเมื่อเทียบกับทางยุโรป จึงตกลงพระทัยจะปรับปรุงเป็นการใหญ่ แต่มีอุปสรรคคือ หาผู้มีวิชามาเป็นอาจารย์ไม่ได้ จึงได้ทรงกราบทูลวิงวอนสมเด็จพระบรมราชชนกให้ทรงช่วยจัดการเรื่องการแพทย์ ซึ่งเมื่อพระองค์ได้รับทราบถึงความขาดแคลนต่างๆในด้านการแพทย์ และการให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ศิริราช จึงตกลงพระทัยจะทรงช่วย โดยเสด็จไปทรงศึกษาวิชาสาธารณสุขและเตรียมแพทย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๐ ซึ่งในระหว่างศึกษาต่อนี้ พระองค์ยังได้พระราชทุนให้แก่นักเรียนแพทย์ไปศึกษาต่อที่สหรัฐฯ อีกด้วย และที่สำคัญคือยังมีนักเรียนพยาบาลอีก ๒ คนที่ได้รับทุนจากสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (นางสาวสังวาลย์ ตะละภัฏ ในขณะนั้น) สมเด็จพระบรมราชชนก ทรงดูแลเอาใจใส่นักเรียนของพระองค์อย่างดี ทรงรับสั่งเตือนสติเสมอว่า “ เงินที่ฉันได้ใช้ออกมาเรียน หรือให้พวกเธอออกมาเรียนนี้ ไม่ใช่เงินของฉัน แต่เป็นเงินราษฎรเขาจ้างให้ออกมาเรียน ฉะนั้นพวกเธอต้องตั้งใจเรียนให้ดี ให้สำเร็จ เพื่อจะได้กลับไปทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และขอให้ประหยัดใช้เงิน เพื่อฉันจะได้มีเงินเหลือไว้ช่วยเหลือผู้อื่นต่อไป ”
ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๖๓ ได้ทรงอภิเษกสมรสกับนางสาว สังวาลย์ ตะละภัฎ (สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี) ก่อนเสด็จกลับไปศึกษาต่อ จนสำเร็จการศึกษาสาธารณสุข ได้รับประกาศนียบัตร C.P.H. เมื่อปีพ.ศ.๒๔๖๔ จากนั้นได้เสด็จยุโรปพร้อมพระชายาประทับอยู่ที่เอดินเบอร์ก แต่เดิมที่เสด็จยุโรปครั้งนี้ ทรงตั้งพระทัยจะศึกษาวิชาแพทย์ให้จบ แต่เนื่องจากทรงประชวรด้วยโรคพระวักกะ (โรคไต) กอปรกับอากาศที่อังกฤษหนาวชื้น ไม่เหมาะกับโรค จึงได้เสด็จนิวัติพระนครอีกครั้งเมื่อปีพ.ศ.๒๔๖๖ และรัชกาลที่ ๖ ได้ทรงโปรดเกล้าฯแต่งตั้งพระองค์ท่านเป็น อธิบดีกรมมหาวิทยาลัย ต่อมาได้ทรงสอนวิชาว่าด้วยกายวิภาคศาสตร์ของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง และวิชาประวัติศาสตร์แก่นักเรียนเตรียมแพทย์
ในปีพ.ศ. ๒๔๖๘ จึงได้เสด็จยุโรปพร้อมพระชายาและพระธิดา และในปีพ.ศ. ๒๔๖๙ ก็ได้ศึกษาต่อวิชาแพทย์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระหว่างปีสุดท้ายทรงใช้เวลาและพลกำลังมากไปเกินเหตุ จนเป็นให้อาการพระโรคกำเริบขึ้น คณะแพทย์คิดว่าพระอาการจะไม่ฟื้นดีขึ้น จึงถวายคำแนะนำมิให้ทรงตรากตรำเข้าสอบไล่ แต่ต่อมาพระอาการดีขึ้น จึงทรงเข้าสอบจนสำเร็จได้เกียรตินิยม เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๑ และทรงได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสมาคมเกียรตินิยมทางการศึกษาแพทย์ Alpha Omega Alpha ก่อนเสด็จนิวัติถึงพระนครเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๗๑ ในครั้งนั้น ทรงมีพระราชประสงค์จะเป็นแพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ทางการไม่อาจสนองพระราชประสงค์ได้ เนื่องจากติดเรื่องพระอิสริยยศและราชประเพณี เป็นเหตุให้ไม่พอพระราชหฤทัย จึงทรงเปลี่ยนความตั้งพระทัยเสด็จไปปฏิบัติหน้าที่แพทย์ประจำบ้านที่โรงพยาบาลแมคคอมิค จังหวัดเชียงใหม่แทน โดยเสด็จถึงเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.๒๔๗๒ และทรงอยู่ร่วมกับครอบครัวดร.อี.ซี.คอร์ท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแมคคอมิคในครั้งนั้น ทรงมีมหาดเล็กรับใช้เพียงคนเดียว และทรงปฏิบัติพระองค์เยี่ยงแพทย์ธรรมดาสามัญคนหนึ่ง แม้ว่าสุขภาพจะไม่อำนวย แต่ทรงมีความสุขเป็นอันมากกับการมีโอกาสเป็นหมออย่างเต็มที่ ชั่วเวลาไม่นาน กิตติศัพท์ของพระองค์ก็แพร่หลายไปทั่วว่ามีแพทย์เป็นเจ้าฟ้ามาทรงปฏิบัติงานอยู่ที่นี่ ผู้ป่วยที่มารับการตรวจรักษาโรคที่โรงพยาบาลครั้งนั้น จึงขนานนามพระองค์ท่านว่า “ หมอเจ้าฟ้า ” เป็นที่น่าเสียดายว่าทรงประทับอยู่เชียงใหม่ไม่ถึงเดือนก็ต้องเสด็จกลับกรุงเทพ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ เนื่องในพระราชพิธีถวายพระเพลิงสมเด็จกรมพระยาภานุพันธ์วงศ์วรเดช จากนั้นทรงประชวรหนัก และได้เสด็จทิวงคตด้วยพระอาการบวมน้ำในพระปัปผาสะ (ปอด) และพระหทัยวาย เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๒ รวมสิริพระชนมายุได้ ๓๘ พรรษา นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์ไทย

จะเห็นได้ว่าตลอดพระชนมชีพของสมเด็จพระบรมราชชนก ได้ทรงประกอบพระกรณียกิจเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไพศาล โดยเฉพาะด้านการแพทย์ และการสาธารณสุข ทรงอุทิศกำลังพระวรกาย และพระหฤทัย ตลอดจนทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพื่อการแพทย์ไทยอย่างมากมายเกินกว่าจะกล่าวได้ นับตั้งแต่ทรงจบการศึกษาวิชาการทหารเรือและทรงรับราชการในกองทัพเรือ จนเมื่อทรงประชวรเรื้อรัง ไม่สามารถรับราชการหนักได้ ต้องลาออก แต่ด้วยพระหฤทัยมั่นที่จะทรงเกื้อกูลประเทศชาติ ประกอบกับทรงสนพระหฤทัยในกิจการแพทย์ ก็ทรงพระวิริยะอุตสาหะเสด็จไปศึกษาวิชาการแพทย์ที่สหรัฐอเมริกา จนสำเร็จการศึกษาก็ได้เสด็จกลับและทรงปฏิบัติงานร่ามกับกรมสาธารณสุขอย่างใกล้ชิดเข้มแข็ง ทรงเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ ทรงช่วยเหลือในการขยายกิจการของโรงพยาบาลศิริราช ประทานเงินส่วนพระองค์จัดสร้างตึกคนไข้ จัดหาที่พักสำหรับพยาบาลได้อาศัย ทรงบริจาคทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นทุนไว้สำหรับส่งนักศึกษาแพทย์และนักเรียนพยาบาลออกไปศึกษาต่อ ต่างประเทศ ประทานเงินจัดหาเครื่องมือ เครื่องใช้สำหรับปฏิบัติการในโรงพยาบาล ทรงเป็นผู้แทนติดต่อกับมูลนิธิร็อกกี้ เฟลเล่อร์ให้ดำเนินการช่วยเหลือการแพทย์และพยาบาลไทย โดยปรับปรุงการศึกษา และวางมาตรฐานจนสามารถรับรองกิจการแพทย์ของประเทศได้ดังปัจจุบัน ฯลฯ ด้วยเหตุนี้ บรรดาผู้ที่สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจึงได้พร้อมใจกันเฉลิมพระเกียรติพระองค์ให้เป็น “ พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน ”
นอกจากนี้ผู้ที่เคยได้รับพระกรุณาในด้านต่างๆก็ได้รวบรวมเงินจัดสร้างพระรูปประดิษฐานไว้ ณ โรงพยาบาลศิริราช และในวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๓ นักศึกษาแพทย์ก็ได้ริเริ่มจัดงานขึ้นเป็นครั้งแรกเนื่องในวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ และต่อมาทางคณะแพทยศาสตร์ และศิริราชพยาบาล ก็มีความเห็นพร้องต้องกันว่าให้ยึดเอาวันที่ ๒๔ กันยายนของทุกปี เป็นวันน้อมระลึกถึงพระองค์ โดยให้ชื่อว่า “ วันมหิดล ” และจัดงานอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๙๔ และเมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ อันเป็นวันครบรอบ ๑๐๐ ปี วันพระราชสมภพ
องค์การยูเนสโกก็ได้ประกาศยกย่องสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๕๔๑ กองทัพเรือก็ได้ขอพระราชทานพระยศ “ จอมพลเรือ ”
ขอเชิญชวนให้ประชนชาวไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านด้วยการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ โดยเฉพาะนักศึกษาแพทย์ที่จะเจริญรอยตามเบื้องยุคลบาท พระองค์ทรงกล่าวเสมอว่า “ อาชีพแพทย์นั้นมีเกียรติ แพทย์ที่ดีจะไม่ร่ำรวย แต่ไม่อดตาย ถ้าใครอยากร่ำรวย ก็ควรประกอบอาชีพอื่น ” 

วันมหิดลวันแรก  Channivat Kashemsant
https://www.facebook.com/channivat.kashemsant/posts/1116471281722739
วันมหิดล 24 กันยายน 2493
เวลา 8.00 น. นศพ.ปีที่ 4 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ( รุ่น 56) เข้าแถวนำ นศพ.ปี 1-3 เดินไปยังพระบรมรูปสมเด็จพระราชบิดา กรมหลวงสงขลานครินทร์ ซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จ ที่ถนนกลาง รพ.ศิริราช แล้วหยุดตรงหน้าพระบรมรูป ตัวแทนคือ นศพ.จิรพรรณ สุกัณหเกตุ( มัธยมจันทร์) และ กำธร ศุขโรจน์ ถวายพวงมาลาแล้วอ่านสัททุลวิกกีฬิตฉันท์ด้วยทำนองเสนาะ ถวายราชสดุดี ไพเราะมาก ประพันธ์โดย นศพ.ภูเก็ต วาจานนท์
เป็นวันมหิดลวันแรกคิดขึ้นโดย นศพ.ปีที่ 4 ขณะนั้น. แต่ไม่เคยมีใครกล่าวถึงเลยว่าเป็นความคิดของพวกเรา
ที่มาคือ นศพ.ปีที่ 4 ขณะนั้นอันมี นศพ.บุญเริ่ม สิงหเนตร หัวหน้า นศพ., ดอนเฉลิม พรมมาส หัวหน้าชั้น, ดวงเดือน คงศักดิ์ รองหัวหน้า, และคนสำคัญคือ ภูเก็ต วาจานนท์ ทีไปค้นคว้าว่าวันที่ 24 กันยายน เป็นวันสวรรคตของสมเด็จพระราชบิดา เราควรจะถวายสักการะเช่นเดียวกับวันที่ 23 ตุลาคม จึงได้จัดพิธีนี้ขึ้น และ เชิญอาจารย์หัวหน้าแผนกทุกท่านมาร่วมงานแต่ไม่มีใครมา นอกจากอาจารย์ สุด แสงวิเชียร คนเดียวที่มาร่วม
บัดนี้เพื่อนร่วมคิดได้จากไปหมดแล้ว นอกจาก อ.กำธร ศุขโรจน์ที่ไปตั้งรกรากที่อเมริกาไม่ได้ข่าวคราว พวกเรารู้สึกภาคภูมิใจมากจึงมาเล่าให้ฟัง น่าเสียดายที่คำฉันท์นั้นไม่มีใครเก็บไว้ แต่ที่พิพิธภัณฑ์ศิริราชก็มีรูปพวกเราติดอยู่ข้างฝาโดยบังเอิญ


๒. ข้อคิดความเห็น เกี่ยวกับบ้านเรา   

คัดค้าน "การเปิดคุก(อีกครั้ง)" กลางเมืองมรดกโลก
ข้อมูลที่เคยสรุปไว้เมื่อ ตุลาคม ๒๕๕๘ .. ผ่านไปเกือบปี ย้อนกลับมาที่เดิม  แต่ผมคิดว่า น่าจะแย่กว่าเดิม เพราะ กรมท่องเที่ยวฯ ดึงงบไปลงที่จังหวัดอื่นที่พร้อมกว่าแทน
๑. ปีงบประมาณ ๒๕๕๘-๕๙ โครงการศึกษาออกแบบการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยจังหวัดกำแพงเพชรได้รับการพิจารณา ให้ได้รับงบประมาณฯ (จากทั้งหมด ๒๔ จังหวัด)
งบในการจ้างบริษัทศึกษาออกแบบและงบก่อสร้างจาก กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา
งบประมาณ ขึ้นอยู่กับพื้นที่แต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน ( แบบร่างของ จ.กพ ประมาณ ๔๘ ล้านบาท) จาก กรมท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาฯ

๒. สถานที่ ยังไม่แน่นอน ?
- ศูนย์ท่องเที่ยว อบจ. (ที่จอดรถไฟฟ้า) ริมปิง ... อบจ. มีหนังสือตอบกลับ ว่า ไม่อนุญาตให้ใช้
- เรือนจำเก่า (ทัณฑสถานวัยหนุ่ม) ... กรมราชทัณฑ์ ไม่อนุญาต เพราะจะเตรียมพื้นที่เผื่อไว้ว่าจะทำเป็นเรือนจำหญิง
- อาคาร กองการศึกษาฯ ของเทศบาลเมือง ... เทศบาลเมือง แต่ติดปัญหา พื้นที่ไม่เพียงพอ
- ศูนย์ท่องเที่ยว อุทยานประวัติศาสตร์ฯ ติดปัญหาเรื่องของ มรดกโลก และ พื้นที่เมืองเก่าฯ
- เกาะกลางน้ำ ... เทศบาลเมือง แต่ ติดปัญหาเรื่อง การขอใช้พื้นที่ว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบดูแล

มีโครงการ มีงบจากกระทรวงฯ แต่ยังหาพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ เพราะ ทุกพื้นที่ " ส่วนราชการ เป็น เจ้าของ " และ " ขอสงวนไว้ใช้ประโยชน์ของหน่วยงานฯ "
ประชาชนคนกำแพงเพชร ก็ก้มหน้ายอมรับชะตากรรม อดทนกันไป เหมือนเช่นที่ผ่านมา ?

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จ.กำแพงเพชร ... ฝัน ที่ยังเป็นแค่ ฝัน ?
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.775820445874818.1073741897.146082892181913&type=3
ตามที่ จ.กพ ได้ผ่านการพิจารณาคัดเลือก ในเบื้องต้นฯ จาก กรมท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาฯ ให้มีการจัดหาพื้นที่ก่อสร้าง ศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวจังหวัด
จึงได้มีการเสาะหาพื้นที่ และพบว่า ทัณฑสถานวัยหนุ่มกำแพงเพชร (เรือนจำเก่า) ถูกปล่อยทิ้งร้างตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๐ (ย้ายผู้ต้องขังไปอยู่ เรือนจำกลาง หนองปลิง)
ทางจังหวัดกำแพงเพชร จึงได้ทำหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่ .. ต่อมา มีหนังสือตอบกลับจากกรมราชทัณฑ์ฯ (หนังสือลงวันที่ ๑๘กพ.๕๙) สรุปว่า ไม่อนุญาตให้ใช้ เรือนจำเก่า ( ทัณฑสถานวัยหนุ่มฯ) สร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพราะจะทำเป็น เรือนจำหญิง โดยมีเหตุผลว่า เรือนจำกลางแออัด เพื่อแยกนักโทษชาย-หญิง และ การดูแลนักโทษหญิงดีขึ้น โดยมีการบรรจุแผนงานไว้ในปี ๒๕๖๑
หลังจากทราบข่าว มีการแสดงความคิดเห็นพูดคุยกัน สรุปว่า ไม่อยากให้ทำเป็นเรือนจำ (อีกครั้ง) พื้นที่แห่งนี้ ควรพัฒนาเป็นพื้นที่สาธารณะ ให้ประชาชนเข้าไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน เช่น สวนสาธารณะ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมสภาพแวดล้อม และ คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแล้ว ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าขายของประชาชนโดยรอบพื้นที่ และ ส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาพรวมของจังหวัดอีกด้วย
................................
ความเห็นส่วนตัว .. ผมเข้าใจเหตุผลความจำเป็นของกรมราชทัณฑ์ ที่ต้องการพื้นที่ทำศูนย์ฝึกอาชีพ สำหรับผู้ต้องขังหญิง (และบุตร) แต่ ผมก็ยังคิดว่า การเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ น่าจะคุ้มค่ากว่า และ มีหลายคนเข้ามาพูดคุย ทั้งหมดไม่เห็นด้วยที่จะมีการย้ายผู้ต้องขังหญิง กลับเข้ามาใช้พื้นที่นี้
จึงอยากจะเปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นผ่านการลงชื่อ เป็นลายลักษณ์อักษร สามารถอ้างอิงได้อย่างชัดเจนกว่าการพูด การบ่นให้กันฟัง
ประเด็นสำคัญที่สุดที่อยากจะเน้น ก็คือ "การเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ ได้รับรู้ และ แสดงความคิดเห็น" เพราะ เมื่อเกิดผลกระทบตามมา ผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือ คนในชุมชนรอบเรือนจำฯ
ถ้า เปิดโอกาสให้ประชาชนลงลายมือชื่อแล้ว มีประชาชนมาลงชื่อน้อย (เช่น น้อยกว่า ๑๐๐ คน) ก็อาจแสดงว่า ประชาชนไม่สนใจเรื่องนี้ หรือ ประชาชนไม่คัดค้าน ผมก็คงต้องปล่อยเลยตามเลย แม้ว่า ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยกับการเปิดคุกกลางเมืองอีกครั้งแบบนี้ ผมเอง ก็ถือว่า ได้ทำหน้าที่แล้ว ในอนาคตจะได้พูดเต็มปากเต็มคำว่า พยายามแล้ว แต่ทำไม่ได้ ( ไม่ใช่ว่า ปล่อยเลยตามเลย ไม่พยายามทำ )
แต่ถ้า มีประชาชนร่วมลงชื่อจำนวนมาก (เช่น มากกว่า ๕๐๐ คน) ก็อยากจะขอให้ทางกรมราชทัณฑ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และ ผู้เกี่ยวข้อง โปรดเห็นใจ เข้าใจ และ ยอมรับ ความต้องการของประชาชนในพื้นที่ และร่วมกันเปลี่ยนแปลงพัฒนาเมืองกำแพงเพชรให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

หรือ ถ้าจะให้ดีกว่านี้ อยากจะให้ทางกรมราชทัณฑ์ เปิดทำ "ประชาพิจารณ์" ให้ข้อมูล ชี้แจงเหตุผล ตอบข้อสงสัย ของประชาชน จะได้ข้อมูลชัดเจนขึ้นว่า ประชาชนชาวกำแพงเพชร สนใจ ใส่ใจ อยากได้ "คุก" กลับมาอยู่กลางเมืองอีกครั้ง หรือไม่ ?
.............................
ประเด็นสำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คือ " การคัดค้าน ไม่ให้เปิดคุก (อีกครั้ง) "
ถ้าการคัดค้านประสบความสำเร็จ กรมราชทัณฑ์ คืนพื้นที่ให้ กรมธนารักษ์ เรียบร้อยแล้ว .. ค่อยมาร่วมกันคิดว่า จะทำอะไรต่อไป รูปแบบไหน เช่น ทำเป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ทำเป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม หรือ เปลี่ยนคุกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
ภาระกิจสำคัญในตอนนี้ คือ ต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ ชวนกันมาลงชื่อคัดค้านการเปิดคุก เพราะ ถ้าการคัดค้าน ไม่สำเร็จ ก็จะได้ "คุก กลับมา" จะคิดจะฝันเรื่องอื่นไป ก็เท่านั้น
สามารถร่วมลงชื่อคัดค้านฯ ได้ที่ ...
๑. ร้านตากุฎ ตรงข้ามเรือนจำเก่า
๒. ร้านวสันต์ศิลป์การช่าง (บอยศิลป์) ตรงข้ามเรือนจำเก่า
หมายเหตุ .. เอกสารลายมือชื่อ คัดค้านฯ จะนำส่ง ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ศูนย์ดำรงธรรมฯ วันศุกร์ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๙
...............................






Create Date : 24 กันยายน 2559
Last Update : 24 กันยายน 2559 21:48:25 น. 1 comments
Counter : 1529 Pageviews.  

 
สักคิ้ว 6 มิติ ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้วลายเส้น เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ

ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ


โดย: nokyungnakaa วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:18:10:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]