รู้หรือไม่? รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยน้ำท่วมสกลนครคันละ 5.4 ล.-บ.เดียว 428.8 ล.



ตามไปดูรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยถูกนำมาใช้ช่วยภัยพิบัติ จ.สกลนคร อีกหลายพื้นที่ ปภ. จัดซื้อคันละ 5.4 ล. เอกชนรายเดียวกวาดเรียบ 2 ลอต 79 คัน 428.8 ล้าน

 

กรณีปัญหาภัยพิบัติ .สกลนครและบางจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประเด็นหนึ่งที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์คือเครื่องไม้เครื่องมือของหน่วยงานภาครัฐโดยเฉพาะกรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย (ปภ.)ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง อาทิ เรือยาง รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยรถยนต์นั่งตรวจการ รถผลิตน้ำดื่ม ที่มีการจัดซื้อจำนวนมาก เหตุใดจึงไม่ถูกนำมาใช้ช่วยเหลือชาวบ้านอย่างทันท่วงที

สำนักข่าวอิศรา //www.isranews.org สืบค้นข้อมูลเครื่องไม้เครื่องมือในการรับมือกับภัยพิบัติบางรายการมาเสนอ

กรณีรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยจากการตรวจสอบพบว่า ในช่วงปี 2558 และ ปี 2559 ปภ.ทำสัญญาจัดซื้อรถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 79 คัน แบ่งเป็น

1. เมื่อวันที่ 27 ..2559 ทำสัญญาจัดซื้อ จำนวน 38 คัน ในราคา 206,340,000 บาท ตกคันละ 5,430,000บาท จาก บริษัท ท็อปเบส์ท จำกัดราคากลาง 209,000,000 บาท นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองอธิบดีปภ.เป็นผู้ลงนามประกาศรายชื่อผู้ชนะ (สัญญาเลขที่ 0604/49/2559)  สิ้นสุดสัญญาวันที่ 22 ..2559 

2.วันที่ 23 ..2559 ทำสัญญาจัดซื้อ จำนวน 41 คัน ในราคา 222,486,500บาท ตกคันละ5,426,500 บาท(สัญญาเลขที่ 0604/28/2560 )จาก บริษัท ท็อปเบส์ท จำกัดจากวงเงิน 222,630,000 บาท ราคากลางคันละ 5,430,000 บาท โดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดี ปภ. (ปลัดกระทรวงมหาดไทย) เป็นผู้ลงนามประกาศรายชื่อผู้ชนะ สิ้นสุดสัญญา วันที่ 19 ..2560

รวม 2 ครั้ง 428,826,500 บาท

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ท็อปเบส์ท จำกัด จดทะเบียนวันที่ 11 ..2554 ทุน 20 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 202/22 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ในเครือ บริษัท อิทธิพรอิมปอร์ต จำกัด คู่สัญญารถจัดเก็บขยะของ กทม.และ บริษัท ท็อปเบส์ท จำกัด เองก็เป็นคู่สัญญาจัดซื้อรถบรรทุกตัดแต่งกิ่งไม้ กับ กทม.จำนวน 52 คัน วงเงิน 405 ล้านเมื่อ 28 .. 2558   และคู่สัญญาจัดซื้อรถบรรทุก(ติดเครนพับได้) จำนวน 64 คันกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เมื่อ 7 ..2559 วงเงิน 210.3ล้นบาท

กรณีรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยของ ปภ. นับจากนี้คงรู้กันแล้วว่า มีทั้งหมดกี่คัน (เฉลี่ยจังหวัดละ 1 คัน) จัดซื้อยุคไหน วงเงินทั้งหมดเท่าไหร่

ส่วนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างต้องไปว่ากัน


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2560    
Last Update : 6 สิงหาคม 2560 8:36:56 น.
Counter : 252 Pageviews.  

ร่วม'ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ' ชาวไทยพร้อมใจส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9



อีกไม่เกิน 3 เดือนจะเข้าสู่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

 

นอกจากหน่วยงานภาครัฐจะเร่งเตรียมการราชพิธีในทุกขั้นตอน ในส่วนของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศนั้น ก็พร้อมร่วมกันปลูกต้น"ดาวเรือง" หรือต้นไม้สีเหลือง ให้บานสะพรั่งพร้อมกัน ในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

โดยเฉพาะหน่วยงานอย่างกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้เปิดกิจกรรม "ปลูกดาวเรืองด้วยใจ ถวายพ่อ"เชิญชวนประชาชนชาวกรุงเทพฯ และคนไทยร่วมปลูกหรือประดับดอกดาวเรือง เพื่อตกแต่งอาคาร บ้านเรือน ห้างร้าน ริมถนนสายต่างๆ ด้วยดอกดาวเรืองหรือไม้ดอกสีเหลือง ให้เหลืองอร่ามบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วแผ่นดินตลอดเดือนตุลาคมนี้ ซึ่ง"ดอกดาวเรือง" จะใช้เวลาในการเพาะและเติบโตจนแตกดอกประมาณ 70-75 วัน หากต้องการให้ดอกดาวเรืองบานสะพรั่งในช่วงวันที่ 20-29 ตุลาคม นี้ ซึ่งเป็นช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ควรเริ่มเพาะเมล็ดตั้งแต่สัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมนี้

สำหรับขั้นตอนการปลูกดาวเรือง ประกอบด้วย

1.เตรียมถุงเพาะชำ ขนาด 2x4 นิ้ว เจาะรูเพื่อระบายน้ำ 2.ใส่ดินร่อนละเอียดลงในถุง จิ้มเมล็ดดาวเรืองลงในดินให้ส่วนหางชี้ขึ้น รดน้ำให้ชุ่ม 3.รดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าเมล็ดจะงอก หลังจากนั้นรดทุกเช้า วันละ 1 ครั้ง 4.เมื่อต้นกล้าอายุได้ 21-25 วัน (ต้นเริ่มเต็มถุง) ย้ายลงภาชนะที่ใหญ่ขึ้น 5.หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ใส่ปุ๋ย สูตรเสมอ 1 ช้อนชา/ต้น เมื่อดาวเรืองแตกใบจริง 3-4 คู่ ให้ปลิดยอดทิ้งเพื่อกระตุ้นการแตกกิ่ง 6.ใส่ปุ๋ยสูตร 12-24-12 หลังมองเห็นตุ่มดอก เพื่อบำรุงดอกให้สมบูรณ์แข็งแรง

นอกจากนี้ กทม.ร่วมกับบริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด แจกเมล็ดพันธุ์ดอกดาวเรือง จำนวน 1 ล้านดอก ให้ประชาชนทั่วไป ผู้สนใจสามารถรับเมล็ดพันธุ์ต้นดาวเรืองได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ทุกสาขา ดิ เอ็มโพเรียม ดิ เอ็มควอเทียร์ พารากอน และบลูพอร์ต หัวหิน ตั้งแต่วันที่ 4สิงหาคมเป็นต้นไป ขณะเดียวกัน "สำนักสิ่งแวดล้อม" กทม. ได้เตรียมเพาะดอกดาวเรืองและดอกไม้สีเหลืองชนิดอื่นๆ อาทิ ทานตะวัน ดาวกระจาย กระดุมทอง และทองอุไร รวมประมาณ 400,000 ต้น เพื่อประดับตกแต่งสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้สวนสาธารณะต่างๆของกทม. ได้เตรียมเพาะดอกดาวเรืองและดอกไม้สีเหลืองอีกประมาณ 50,000 ต้น

"ดาวเรือง" ถือเป็นดอกไม้มงคล ด้วยชื่อที่มีความหมาย สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง สว่างไสว ความก้าวหน้า ความมีโชคลาภ และ ความที่ดอกดาวเรืองเป็นไม้ดอกที่มีความคงทน รักษาสภาพความสดอยู่ได้นาน ภายหลังจากตัดดอกแล้ว ในประเทศไทย จึงนิยมนำดอกดาวเรืองไปใช้ ร้อยพวงมาลัย ทำบายศรีจัดช่อ จัดแจกัน เพื่อเป็นเครื่องสักการะบูชา เป็นของขวัญอวยชัยให้พร หรือ ขอพรจากผู้ใหญ่ (ที่มา : Cr. NjoyMylife  ตามรอยพ่อ(กปอ.29))

ในเดือนตุลาคมนี้จะเป็นเดือนสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทย หล่อหลวมดวงใจคนไทยทุกดวงเพื่อส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ด้วยดอก"ดาวเรือง" เพื่อถวายพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ในฐานะพสกนิกรของพระองค์ท่านเพื่อแสดงความจงรักภักดี และรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 06 สิงหาคม 2560    
Last Update : 6 สิงหาคม 2560 0:16:45 น.
Counter : 383 Pageviews.  

ชวนคนไทยร่วมรำลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 และชมละครเพลง 'แสงเทียน The Candlelight Blues'



เชิญชวนพสกนิกรร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ “ในหลวงรัชกาลที่ 9” ผ่านบทละครเพลงจากหัวใจ “แสงเทียน The Candlelight Blues” เปิดให้ประชาชนชมฟรี ระหว่างวันที่ 12-14 ส.ค. 60 วันละ 2 รอบ ณ โรงละครเอ็มเธียเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่

 

นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนางสาวปราณี สัตยประกอบ รองปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พรรณศักดิ์ สุขี ผู้อำนวยการศิลป์ คณะละคร มหาวิทยาลัยกรุงเทพนายจิรายุ มนูญผล ผู้ร่วมจัดและผู้บริหารโรงละครเอ็มเธียเตอร์ และ ดร.มัทนา สานติวัตร กรรมการสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ร่วมแถลงข่าวการแสดงละครเพลง เรื่อง “แสงเทียน The Candlelight Blues” เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่สู่ละครเพลง ครั้งที่ 2 ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับ BU Theatre Company ภาควิชาศิลปะการแสดงมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โรงละครเอ็มเธียเตอร์ และหน่วยงานเอกชนจัดขึ้น เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่มีต่อปวงชนชาวไทยตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ ให้ประชาชนได้เรียนรู้และซาบซึ้งในพระอัจฉริยภาพด้านศิลปะวิทยาการ และการดนตรีผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในรูปแบบละครเพลงอันทรงคุณค่า เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนได้สานต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชและน้อมนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย และพอเพียง โดยได้อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์กว่า 13 บทเพลงมาร้อยเรียงเรื่องราวและสอดแทรกพระราชปณิธานของพระองค์ที่ทรงใช้พัฒนาชาติและสร้างความสุขให้กับประชาชนชาวไทยตลอดรัชสมัยของพระองค์

ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดียิ่งที่กรุงเทพมหานคร BU Theatre Company ภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โรงละครเอ็มเธียเตอร์ และองค์กรต่างๆ ได้รวมพลังใจกันด้วยความสำนึกและความระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอันหาที่สุดมิได้ จัดแสดงละครเพลงเรื่อง “แสงเทียน The Candlelight Blues” ขึ้นอีกครั้ง เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณในพระปรีชาสามารถด้านการดนตรี โดยได้อัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์กว่า 13 บทเพลงมาร้อยเรียงเรื่องราวและสอดแทรกพระราชปณิธานของพระองค์ที่ทรงใช้พัฒนาชาติและสร้างความสุขให้กับประชาชนชาวไทยตลอดรัชสมัยของพระองค์

จึงขอเรียนเชิญพสกนิกรร่วมชมละครเพลง เรื่อง “แสงเทียน The Candlelight Blues” ซึ่งได้น้อมนำพระปรีชาสามารถด้านการดนตรีมาเป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์ละครเพลงร่วมสมัย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม จัดแสดงวันที่ 12-14 .. 60 รอบเวลา 14.00 . และเวลา 19.30 . (วันละ 2 รอบ รวม 6 รอบ) โรงละครเอ็มเธียเตอร์ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ นำแสดงโดย พัทฑรียา พะยอม นักศึกษาภาควิชาศิลปะการแสดง ชั้นปีที่ 4 อัครพลปรีชารักษ์ To Be Number idol 2016 และนักศึกษาภาควิชาศิลปะการแสดงชั้นปีที่ 1 ขวัญแก้ว คงนิสัย The Voice Season 3 ศิษย์เก่าภาควิชาศิลปะการแสดง ยศภูมิ ดำรงเดชากูล นักแสดงอิสระ ศิษย์เก่าภาควิชาศิลปะการแสดง ร่วมด้วยนักแสดงรับเชิญ กิตติ เชี่ยววงศ์กุล (วอกเป็นต่อ)ศิษย์เก่าภาควิชาศิลปะการแสดง และนักแสดงมากความสามารถอีกกว่า 100 ชีวิต อำนวยการศิลป์และประพันธ์บท โดย พรรณศักดิ์ สุขี

สำหรับผู้สนใจสามารถสำรองบัตรได้ 2 ช่องทาง ผ่านไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือwww.butheatrecompany.com นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมประดิษฐ์ดอกไม้จันทน์ เพื่อใช้ในการประกอบพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉายภาพยนตร์สั้นเฉลิมพระเกียรติฯ แจกเมล็ดพันธุ์ดอกดาวเรือง ฟรีตลอดงาน สอบถามโทร. 06 2945 9492


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2560    
Last Update : 5 สิงหาคม 2560 20:12:52 น.
Counter : 206 Pageviews.  

สมาคมนักข่าวฯยืนยันจุดยืนเดิม หนุนปฏิรูปสื่อ ในหลักการดูแลกันเอง



สมาคมนักข่าวฯยืนยันในจุดยืนเดิม สนับสนุนให้มีการปฏิรูปสื่อ ภายใต้หลักการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพสื่อ ให้มีการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน โดยมีกฎหมายรองรับ และมีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชนทำหน้าที่ตรวจสอบสื่ออย่างเข้มข้น

 

นายปรัชญาชัย ดัชถุยาวัตร โฆษกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากพระราชบัญญัติการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ ..2560 และพระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ .. 2560 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศแต่ละด้านภายใน15วัน นับตั้งแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เพื่อทำหน้าที่จัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศรวมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการจัดทำร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งได้กำหนดให้มีการจัดทำแผนการปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็น 1 ใน11 ด้านนั้น สมาคมนักข่าวฯเห็นว่า คณะกรรมการปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชน มีความสำคัญยิ่งต่อการปฏิรูปสื่อครั้งนี้ หลังจากสมาชิกขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.)เสนอแนวทางการปฏิรูปสื่อแบบถอยหลังเข้าคลองจนถูกต่อต้านจาก30องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน

โฆษกสมาคมนักข่าวฯ กล่าวว่า เพื่อไม่ให้การปฏิรูปสื่อต้องเกิดปัญหาซ้ำรอยแบบสปท.สมาคมนักข่าวฯจึงขอเสนอคุณสมบัติของคณะกรรมการปฏิรูปด้านสื่อ ดังนี้ 1. ต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจในภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไปในยุคที่เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของประชาชนมากขึ้น 2.ต้องมีแนวคิดสนับสนุนและส่งเสริมการกำกับกันเองขององค์กรสื่อ และสนับสนุนองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชนทำหน้าที่ตรวจสอบสื่อ 3.ต้องไม่มีแนวคิด"ควบคุมสื่อ"โดยให้ตัวแทนภาครัฐเข้าไปเป็นกรรมการในสภาวิชาชีพสื่อ ที่มีอำนาจลงโทษออกและเพิกถอนใบอนุญาติผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนได้ 4. ต้องเป็นบุคคลเป็นที่ยอมรับขอสังคมไม่มีประวัติด่างพร้อย โดยเฉพาะในด้านการละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน

"สมาคมนักข่าวฯยืนยันในจุดยืนเดิม เมื่อครั้งที่ตัวแทน 30 องค์กรสื่อ เข้าหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 21 มิ..2560 ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการร่างกฎหมาย ที่ให้มีตัวแทนภาครัฐเข้าไปเป็นกรรมการสภาวิชาชีพ เปิดช่องให้รัฐบาลเข้าแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ซึ่งผิดหลักตรวจสอบถ่วงดุล ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย และพร้อมสนับสนุนให้มีการปฏิรูปสื่อ ภายใต้หลักการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพสื่อ ให้มีการกำกับดูแลกันเองของสื่อมวลชน โดยมีกฎหมายรองรับ และมีองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชนทำหน้าที่ตรวจสอบสื่ออย่างเข้มข้น"โฆษกสมาคมนักข่าวฯ ระบุ

นายปรัชญชัย กล่าวด้วยว่า เมื่อมีคณะกรรมการปฏิรูปด้านสื่อสารมวลชนแล้ว หวังว่าจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาใช้ประกอบในการพิจารณาในการจัดทำแผนการปฏิรูปอย่างทั่วถึง ตรงตามเจตนรมณ์ของกฎหมายดังกล่าวและตามเจตนารมณ์ของมาตรา77ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน


ที่มา thaitribune




 

Create Date : 05 สิงหาคม 2560    
Last Update : 5 สิงหาคม 2560 1:53:00 น.
Counter : 162 Pageviews.  

นโยบายพลังงาน...เดิมพันประเทศทั่วโลกใน 10 ปีข้างหน้า ทะยานขึ้นหรือดิ่งเหว!!! :พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิส



ประเทศที่มีวิสัยทัศน์ที่สามารถพยากรณ์อนาคตได้แม่นยำกว่า มักจะเป็นประเทศที่ก้าวหน้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก เพราะสามารถมองเห็นแนวทางและกำหนดนโยบายที่ประเทศควรจะเดินต่อไปเพื่ออนาคตได้อย่างเหนือชั้น จึงทำให้ในปัจจุบัน ภาครัฐและภาคเอกชนทั่วโลกได้จับตามอง R&D ในสาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปัญญาประดิษฐ์ (AI),

การวิเคราะห์ข้อมูล Big data, อินเทอร์เน็ต, Biotech โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังงาน เพราะรูปแบบของพลังงานที่กำลังจะเปลี่ยนไปในอนาคตภายใน 10ปีข้างหน้า กำลังจะเป็นต้นตอในการพลิกผันอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโลจิสติกส์, การขนส่ง, ยานยนต์, การก่อสร้าง, การผลิตสินค้า และอื่นๆ ซึ่งสามารถพูดได้ว่าในทุกอุตสาหกรรม

ในห้วงเวลาที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ใหม่ ๆ จากผู้เชี่ยวชาญมากมายเกิดขึ้นว่าเราจะใช้พลังงานทดแทนในทศวรรษต่อ ๆ ไปอย่างไร เราจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมดภายในสองปีหรือไม่ หรือในห้าปีเราจะใช้นิวเคลียร์มากขึ้นหรือน้อยลง ลองมาดูว่าการคาดการณ์ที่น่าตื่นเต้นที่สุด (และที่คาดไม่ถึง) ที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่มีใครบอกได้ว่าสุดท้ายแล้วสิ่งเหล่านี้จะถูกต้องหรือไม่ โดยการคาดการณ์ที่น่าสนใจในด้านพลังงาน สามารถยกตัวอย่างได้ ดังต่อไปนี้
-----------------
การคาดการณ์: พลังงานแสงอาทิตย์จะประหยัดกว่าการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลภายใน 10 ปี

สถาบันวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Institute of Electrical and Electronic Engineers (IEEE)) คาดการณ์ว่าระบบพลังงานแสงอาทิตย์อาจเป็นรูปแบบที่ประหยัดที่สุดในการผลิตกระแสไฟฟ้าภายในทศวรรษนี้ ถ้าอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงพัฒนาประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์อย่างต่อเนื่องและทำให้เกิดการประหยัดจากการใช้ในจำนวนมหาศาล (economy of scale) ได้ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นจริงแล้ว

James Prendergast กรรมการบริหารของ IEEE กล่าวว่า "ทั้งนี้เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ยังคงลดลงเมื่อเทียบกับการผลิตจากแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิม เราจะเห็นการใช้ในตลาดมากขึ้น โดยพื้นฐานนั้นทำให้เชื่อได้ว่าพลังงานแสงอาทิตย์จะกลายเป็นส่วนสำคัญในการแก้ปัญหาด้านพลังงานทั้งระยะสั้นและระยะยาว"
------------------
การคาดการณ์: พลังงานแสงอาทิตย์จะมีราคาถูกเทียบเท่าถ่านหินภายในสองปี

ไม่ต้องรอถึงทศวรรษ ที่นักวิจัยที่ Bloomberg New Energy Finance วิเคราะห์ว่า พลังงานแสงอาทิตย์อาจจะถึงจุด grid parity (คือ จุดที่แสงอาทิตย์มีราคาถูกเทียบเท่ากับพลังงานจากฟอสซิล) ในอีกสองปีข้างหน้าในภูมิภาคที่มีแดดจัด เช่นตะวันออกกลาง และนักวิจัยยืนยันว่าพลังงานแสงอาทิตย์สามารถแข่งขันได้ โดยในปัจจุบันถ่านหินคิดเป็นต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าที่ประมาณ 7 เซนต์ต่อวัตต์ และ 22 เซนต์ต่อวัตต์สำหรับพลังงานแสงอาทิตย์ อย่างไรก็ตามในอีกไม่กี่ปี ต้นทุนเหล่านี้คาดว่าจะเท่ากัน แต่เรายังมีก๊าซธรรมชาติที่เหลือเฟือจนอาจจะทำให้การพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์จะช้าลงหรือไม่? ซึ่งก็ยังเป็นข้อสงสัย
------------------
การคาดการณ์: ก๊าซธรรมชาติจะมาทำลายการใช้พลังงานทดแทน

ก๊าซธรรมชาติจะมาทำลายเศรษฐกิจของพลังงานทดแทนในอีกหลายปีข้างหน้าตามรายงานจากรอยเตอร์ ในขณะที่ราคาพลังงานแสงอาทิตย์และลมยังคงลดลง ก๊าซธรรมชาติยังราคาสูงอยู่ เนื่องจากถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวว่าลมนอกชายฝั่งมีต้นทุนเท่ากับก๊าซธรรมชาติในปี 2015 (ตามที่ E.ON สาธารณูปโภคของเยอรมนีคาดการณ์ไว้) และยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการสร้างระบบสำรองสำหรับรองรับเวลาที่ลมไม่พัด ตราบใดที่ราคาถูก ก็ง่ายสำหรับสาธารณูปโภคที่จะเลือกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลแทนที่จะเป็นแหล่งพลังงานทดแทน
------------------
การคาดการณ์: รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมการขนส่งและสร้างปัญหาใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันภายในปี 2030

จากหนังสือเรื่อง Clean Disruption ที่เขียนขึ้นในปี 2014 การพลิกโฉมใหม่ของพลังงานและการขนส่ง โดย Tony Seba อาจารย์แห่ง Stanford University เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของปรากฏการณ์พลังงานสะอาดที่พลิกโฉมโลก เขาได้พัฒนา model การพยากรณ์เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีจากประสบการณ์หลายปีในขณะที่เขาเป็นผู้ประกอบการ โดยเขาคาดการณ์ว่าจะมีการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด และ Tony Seba ยังเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EVs) จะเปลี่ยนอุตสาหกรรมการขนส่งและสร้างปัญหาใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันภายในปี 2030

Tony Seba คาดการณ์ว่าภายในปี 2020 อุตสาหกรรมยานยนต์จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถขับได้ระยะทาง 320 กิโลเมตรในราคาประมาณ 30,000 เหรียญสหรัฐ (ยังไม่ได้รับการสนับสนุน) ซึ่งเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับรถยนต์ทั่วไป ดังนั้นในเพียงอีกไม่กี่ปี รถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาถูกกว่าที่จะซื้อกว่ารถยนต์อเมริกันทั่วไป และจะถูกลงโดยเฉลี่ย 5-10 เท่าสำหรับการบำรุงรักษา เขาคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 รถยนต์ที่ผลิตทั้งหมดจะเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า
------------------
การคาดการณ์: เราสามารถใช้พลังงานได้ 100% ด้วยพลังงานทดแทนภายในปี 2050

แน่นอนว่ามันไม่น่าเป็นไปได้ แต่ทีมวิจัยของ Stanford เชื่อว่าเราสามารถขับเคลื่อนโลกด้วยพลังงานทดแทนภายในปี 2050 ได้ หากเราบังคับว่าโรงงานผลิตพลังงานที่สร้างใหม่ทั้งหมดต้องใช้พลังงานทดแทนภายในปี 2030 และแปลงโรงงานที่มีอยู่แล้วภายในปี 2050 จากการมองในแง่ดีนี้ 90% ของการผลิตพลังงานจะมาจากพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์และอีก 10% จะมาจากพลังน้ำ พลังงานความร้อนใต้พิภพและพลังงานจากคลื่น (น้ำขึ้นน้ำลง) รถยนต์ รถไฟ เรือและการขนส่งรูปแบบอื่นๆ จะใช้เซลล์เชื้อเพลิงที่ใช้ไฮโดรเจนและเครื่องบินจะใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนด้วย และอาจจะทำให้อุตสาหกรรมพลังงานฟอสซิลหายไปทั้งหมด นี่อาจจะเป็นความฝัน แต่อย่างน้อยก็เป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่เราควรจะกลับมาย้อนดูเมื่อถึงปี 2050 แล้ว

ที่มา thaitribune




 

Create Date : 04 สิงหาคม 2560    
Last Update : 4 สิงหาคม 2560 20:30:08 น.
Counter : 216 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  

p_chusaengsri
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 52 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add p_chusaengsri's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.