|
สิ้นโลก เหลือธรรม - ให้เข้าหาจิต(๐๒)
ดังผู้เขียนเคยได้ยินพระบางรูปพูดวา พระมีศีล ๒๒๗ ข้อ ฆราวาส มีศีล ๕ ข้อ ฆารวาสต้องรักษาศีลให้ดีน่ะ ถ้าไม่ดีมันขาดเอา ถ้าข้อหนึ่งก็คงยังเหลือ ๔ ข้อ ถ้ขาด ๒ ข้อ ก็คงยังเหลือ ๓ ข้อ ถ้าขาด ๓ ข้อก็คงยังเหลือ ๒ ข้อ ถ้าขาอ ๔ ข้อ ก็คงเหลือข้อเดียว ถ้าขาด ๕ ข้อ ก็หมดกันเลย ไม่เหมือนพระภิกษุท่านมีศีล ๒๒๗ ข้อถึงท่านขาด ๙ - ๑๐ ข้อ ท่านก็ยังเหลืออยู่แยะนี่แสดงว่าท่านองค์นั้นท่านรักษาศีลไม่ได้รักษาที่ใจ รักษาแต่กายว่าจา ๒ อย่างเท่านั้น ไม่ได้คิดว่า ใจผู้คิดล่วงละเมิดในสิกขาบทนั้นๆ เป้นบาป แล้วจึงบังคับให้กาย วาจาทำ ก็สนุกดีเหมือนกัน เอาศีลสิกขาบทนั้นๆ มาอวดอ้างกันว่าใครจะมีศีลมากกว่ากัน ความจริงแล้ว พระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้นั้น ทรงบัญญัติเข้าถึงกาย วาจา แลใจ ที่แสดงออกมาทางกาย แลวาจานั้นส่อถึงจิต ผู้คิด ผู้นึกผู้ปรุง ผู้แต่ง แล้วจึงบังคับให้กาย แลวาจากระทำตามต่างหากดังที่อธิบายมาแล้วในข้างต้น
พระพุทธองค์ท่านทรงบัญญัติพระวินัยไว้ เพื่อให้พระภิกษุสามเณร ผู้ไม่รู้พระวินัยให้ปฏิบัติตามนั้น นับว่าเป็นบุญแก่พวกเราอักโขแล้ว ประพฤติสิ่งที่ไม่ดี ไม่งาม ไม่เหมาะสมแกาสมณสารูป พระองค์ห้ามไว้ไม่ให้กระทำ เพื่อความดีของตนเองนั้นแหละ มิใช่เพื่อประโยชน์แก่คนอื่น แลมิใช่เพื่อประ ดยชน์แก่พระองค์ เราหาที่พึ่งไม่ได้แล้ว พระองค์มาเป็นที่พึ่ง ชี้บอกทางให้นับว่าเป็นบุญเหลือล้นแก่พวกเราแล้ว ผู้รักษาศีลไม่เข้าถึงใจ ถึงจิตแล้ว รักษาศีลยาก หรือ รักษาศีลเป็น "โคบาลกะ" ว่า เมื่อไรหนอจะถึงเวลามืดค่ำ จะไล่โคเข้าคอก แล้วเราจะได้พักผ่อนนอนสบาย ไม่เข้าใจว่า เรารักษาศีลเพื่อความบริสุทธิ์สะอาดของ กาย วาจา แลใจ รักษาได้นานเท่าไร มากเท่าไร ยิ่งสะอาดมากเท่านั้น รักษาจนตลอดชีวิตได้ยิ่งดีใหญ่ เราจะได้ละความชั่วได้ในชาตินี้ไปเสียที
Create Date : 18 กันยายน 2551 |
Last Update : 18 กันยายน 2551 11:18:38 น. |
|
0 comments
|
Counter : 228 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|