www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
All blogs
 
ไม่งั้นเราจะไม่พบกัน...ตอนที่ ๑๘

การประชุมคณะกรรมการนักกีฬาจบลงอย่างเรียบร้อย ทุกคนเดินออกจากห้องประชุม มิ้นเดินออกมากับเพื่อน ส่วนพี่พลเดินออกมาทีหลังกับโอ๊ต


ได้ยินเสียงเพื่อนคุยกับมิ้นเรื่องการซ้อมเชียร์ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยที่จะถึงนี้


“ตกลงเราต้องมาซ้อมกันพรุ่งนี้จริงๆ หรอมิ้น” เพื่อนว่าพลางทำหน้าไม่ชอบใจนัก


“อืม ถ้าไม่มาพรุ่งนี้ มันจะไม่ทันนะ น้องที่รับมาใหม่ยังต่อท่ากันไม่ครบเลย” มิ้นตอบ


“แต่พรุ่งนี้มันวันสิ้นปีนะ มิ้น” เพื่อนยังโอดครวญต่อ มิ้นยิ้มให้เพื่อนอย่างปลอบใจ


“ก็มันจำเป็นจริงๆ นี่ แต่ว่าก็จะพยายามเลิกให้เร็วแล้วกัน แล้วค่อยพักวันปีใหม่แล้วกันนะ” มิ้นว่า แล้วโอบไหล่เพื่อนเดินออกไป


พี่พลมองตาม โอ๊ตหันมามองหน้าเพื่อน แล้วตบบ่าเบาๆ อย่างปลอบใจ


“เป็นไรเปล่าวะ เพื่อน”


พี่พลหันมามองโอ๊ต แล้วยิ้มนิดๆ ตอบว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปซ้อมกันเหอะ พรุ่งนี้ซ้อมอีกวันเดียวก็จะได้พักแล้ว”


“เออๆ แหม ดีนะยังอุตส่าห์หยุดวันปีใหม่ให้วันหนึ่ง ไม่รู้กีฬามหาลัยเที่ยวนี้มันเป็นอะไรสิน่า มาจัดอะไรช่วงนี้ก็ไม่รู้” โอ๊ตบ่น แล้วลากพี่พลเดินออกไป…



เย็นนี้ที่หน้าตึกคณะ มีกลุ่มของปาล์มนั่งทำโปรเจ็กส์กันอยู่ ต่างคร่ำเคร่งกับการทำงาน ไม่มีใครพูดอะไรกัน จนกระทั่ง มีเสียงหนึ่งดังขึ้น


“พี่ๆ คะ” ทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง แพทนั่นเองที่กำลังยืนยิ้มให้ มือถือถุงขนมถุงใหญ่


“อ้าว เย็นมืดแล้วทำไมไม่กลับบ้านล่ะแพท มาเดินส่งขนมอะไรแถวนี้” บุ้งทัก แพททำหน้ามุ่ย ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ บุ้ง


“แพทขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ กลับไปก็ไม่มีใคร เหงาจะตาย”


“อ้าว ไม่กลับแล้วจะอยู่ทำอะไร” บุ้งทำหน้าแปลกๆ


“ก็ อยู่กับพวกพี่ไงคะ นี่ๆ แพทเอาขนมมาฝากด้วย พวกพี่ต้องหิวกันแน่ๆ เลย” แพทยิ้ม แล้วหยิบขนมออกมาในถุง “ขนมเจ้าอร่อยค่ะ..”


แก้วหันหน้าไปกระซิบกับบุ้ง “เฮ้ย บุ้ง น้องแพทนี่ เค้าไม่มีเพื่อนบ้างหรือไงวะ เห็นมาติดแต่กลุ่มเราเนี่ย”


บุ้งฟังแล้วส่ายหน้าให้เพื่อน กระซิบตอบ “ชั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน”


น้ำเพชรหันมาถามแพท “แพทเหงาไม่นัดเพื่อนไปเที่ยวล่ะคะ ดูหนัง ช็อบปิ้งอะไรก็ได้”


แพทฟังแล้วหน้าม่อยลงไป ตอบเบาๆ ว่า “ไม่ดีกว่าค่ะ แพทไม่รู้จะชวนใคร”


น้ำเพชรฟังแล้วหันไปมองหน้าแก้วกับบุ้ง ส่วนปาล์มหันมามองแพทแล้วว่า


“ดีแล้วล่ะ ที่ไม่ไปเที่ยวน่ะ มีเวลาว่างเยอะ ก็อ่านหนังสือดีกว่า มีประโยชน์กว่าตั้งเยอะ” ปาล์มพูดจบ ทุกคนก็หันมามองหน้ากัน แล้วบุ้งก็พูดขึ้นมายิ้มๆ


“ที่ปาล์มพูดก็น่าสนใจดีนะแพท อ่านหนังสือเยอะๆ จะได้เรียนหนังสือเก่งๆ เหมือนพี่ปาล์มเขาไง แต่ว่า…” บุ้งหยุดแล้วพูดต่อ “ประสบการณ์บางอย่างมันก็หาไม่ได้จากในหนังสือนะ”


“ใช่ๆ อย่างเช่นการท่องเที่ยวที่ต่างๆ อ่านหนังสือหรือจะรู้จริงกว่าไปเอง จริงไหม” แก้วเสริม


“แล้วจะเสียเวลาไปเที่ยวทำไมล่ะ ที่ว่าให้อ่านหนังสือเนี่ย หมายถึงหนังสือเรียนต่างหาก” ปาล์มว่าขรึมๆ แล้วหันไปบอกแพท


“มานั่งนี่ก็อย่าอยู่เฉยๆ เอาหนังสือเรียนมาด้วยหรือเปล่า ถ้าเอามาก็เอาออกมาอ่านไปด้วยสิ จะได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์”


แพมมองปาล์มแล้วพยักหน้า ทำตามอย่างว่าง่าย คว้าหนังสือเรียนออกมาเปิดอ่าน แต่ก็ไม่ลืมที่จะชวนพี่ๆ กินขนมที่เอามา


“แพทจะอ่านหนังสือก็ได้ แต่พี่ๆ ก็ต้องกินขนมของแพทนะ” ว่าแล้วหยิบขนมเอามาให้บุ้ง ”นะพี่บุ้ง กินหน่อย”


บุ้งมองขนมแล้วเบ้หน้า “กินตอนนี้เลยหรอ พี่ยังไม่อยากกินเลย”


“น่าๆ กินหน่อยเหอะ อุตส่าห์เอามาฝาก” แพทคะยั้นคะยอ “ไม่กินเอง เดี๋ยวป้อนนะ” แพทว่า แล้วทำท่าจะยื่นขนมใส่ปากบุ้งจริง ๆ บุ้งตกใจ รีบหลบ


“เฮ้ย เอาจริงหรอแพท” แพทหัวเราะ “จริงหรือเล่นดีล่ะ..”


บุ้งส่ายหัว แล้วเหลือบตาไปมองน้ำเพชร ก็เห็นมองอยู่ จึงยิ้มให้กวนๆ น้ำเพชรจึงเมินหลบไป


“ไม่ต้องเลยแพท ไม่ต้องมาป้อนพี่เลย ไปโน่น ไปป้อนพี่ปาล์มโน่น” บุ้งว่าแล้วยิ้ม แต่แพทชะงัก ทำหน้าเกรงๆ ก่อนจะทำท่ากระซิบ


“ไม่เอาอ่ะ แพทกลัวพี่ปาล์มดุ” บุ้งฟังแล้วขำ จึงหัวเราะออกมา ปาล์มเหลือบตามามอง แล้วก้มหน้าลงทำงานต่อ ส่วนน้ำเพชรตวัดสายตามามองแวบหนึ่ง ก่อนจะทำทีเป็นไม่สนใจ ก้มหน้าทำงานต่อเช่นกัน มีแต่แก้วที่คว้าขนมขึ้นมากินแล้วยิ้มๆ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้…


พี่พลกำลังยืนควบคุมลูกทีมซ้อมอยู่ที่กลางสนาม ในเวลาค่ำ ดวงไฟรอบๆ สนามฟุตบอลเปิดสว่างไสว ดวงตาของพี่พลมองไปที่ลูกทีมที่กำลังซ้อมกันอย่างเอาจริงเอาจัง แต่ในความคิดคำนึงของเขา กลับไม่ได้อยู่ที่ภาพตรงหน้า มันล่องลอยไปไกล ไกลเกินกว่าที่เขาจะตามไปคว้าไว้ได้ทัน….


“แน่ใจนะน้องพลอย ว่าอยากมาเที่ยวที่นี่” พี่พลถามหลังจากไปรับพลอยและมิ้นไปเที่ยวตามที่ได้สัญญาไว้ มิ้นเองก็หันมามองหน้าพลอย แต่พลอยยิ้ม พยักหน้าตอบรับอย่างร่าเริง


“ใช่ค่ะ พลอยอยากมาเที่ยวตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีใครยอมให้มาเลย” พลอยว่าแล้วกวาดตาดูไปรอบๆ ที่แห่งนี้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ


ที่นี่คือ…..สวนสนุกดรีมเวิลด์…….


พลอยดูมีความสุขกับที่นี่มาก เดินนำพี่พลกับมิ้นไปที่เครื่องเล่นอย่างร่าเริง พี่พลเหลือบตามามองมิ้น ยิ้มให้


“มิ้นชอบเที่ยวสวนสนุกหรือเปล่าครับ”


มิ้นหันมายิ้มให้ พยักหน้า “ชอบค่ะ แต่ไม่ได้มานานแล้ว”


พลอยหันมามองคนทั้งสองที่เดินตามหลังมา ยิ้มให้แล้วว่า


“พลอยจะขึ้นเรือไวกิ้งค่ะ”


“จะดีหรอน้องพลอย คุณแม่น้องพลอยกำชับพี่ไว้ไม่ให้เล่นเครื่องเล่นอันตรายแบบนี้” พี่พลรีบห้าม พลอยทำหน้ามุ่ย เอ่ยเสียงอ้อนๆ


“แต่พลอยอยากเล่นนี่คะ อยากเล่นมานานแล้วด้วย ให้พลอยเล่นเถอะ”


“ไม่ได้ค่ะ น้องพลอย เชื่อพี่นะ อย่าเล่นเลย”มิ้นห้ามอีกคน ก่อนจะพาน้องพลอยมาเที่ยว คุณแม่ก็ห้ามแล้วห้ามอีกว่า ไม่ให้พลอยเล่นเครื่องเล่นที่สูงๆ และหวาดเสียวทั้งหลาย แล้วยิ่งเรือไวกิ้งกับรถไฟเหาะด้วยแล้ว ห้ามเด็ดขาดเลยทีเดียว


“ว้า นี่พลอยจะไม่ได้เล่นจริงๆ หรอคะ อุตส่าห์ดีใจ” พลอยว่าอ่อยๆ เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะยิ้ม แล้วพูดขึ้นมาว่า


“งั้นพี่ 2 คนไปเล่นนะ”


พี่พลกับมิ้นสะดุ้ง หันมามองหน้ากันทันที แล้วหันไปมองหน้าพลอย


“หมายความว่าไงครับ น้องพลอยจะให้พี่ 2 คนขึ้นไปเล่นเรือไวกิ้งหรอ” พี่พลถาม ทำหน้าแปลกๆ


“ใช่ค่ะ” พลอยพยักหน้าแล้วยิ้ม “ในเมื่อพี่ 2 คนไม่ให้พลอยเล่น งั้นพี่ 2 คนก็ต้องขึ้นไปเล่นแทน แล้วกลับลงมาเล่าให้พลอยฟังด้วยนะคะ ว่าสนุกแค่ไหน”


“จะดีหรอ น้องพลอย” มิ้นเอ่ยขึ้นมา เหลือบตามมองพี่พล


“ดีสิคะ พลอยอยากรู้ว่าความรู้สึกที่อยู่บนเรือไวกิ้งนั่นเป็นยังไง พี่ 2 คนขึ้นไปนะ แล้วพลอยจะคอยมองอยู่ข้างล่าง”


“แล้วน้องพลอยจะอยู่ยังไงคนเดียวล่ะคะ ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนดีกว่าไหม” มิ้นว่า แต่พลอยส่ายหน้า


“พลอยอยู่คนเดียวได้ค่ะ พี่มิ้นนั่นแหละ ต้องไปขึ้นไวกิ้งเป็นเพื่อนพี่พล ให้พี่พลขึ้นคนเดียวได้ไงคะ ส่วนพลอยจะรอดูอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ลำบากอะไรสักหน่อย”


แต่ทั้งพี่พลและมิ้นก็ยังอึกอัก ใจหนึ่งเป็นห่วงน้องพลอยว่าจะอยู่คนเดียว แต่อีกใจหนึ่งก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ เมื่อคิดว่าจะต้องขึ้นไปเล่นเรือไวกิ้งกับคนบางคน แต่ในส่วนลึกแล้วก็แอบดีใจ


แต่ว่า มันก็แค่เรื่องเล่นแหละน่า ไม่เห็นจะมีอะไรเลย พี่พลพยายามห้ามใจไม่ให้คิดไปมากกว่านี้ พลางถามย้ำอีกรอบ


“น้องพลอยอยู่คนเดียวได้แน่นะครับ”


พลอยพยักหน้าอย่างแข็งขัน แล้วบอกเสียงใสว่า “อยู่ได้แน่ค่ะ พลอยโตแล้วนะ ดูแลตัวเองได้อยู่แล้วน่า พี่ 2 คนรีบไปเถอะค่ะ เดี๋ยวก็แถวยาวหรอก” ประโยคหลังพลอยรีบเร่ง ทั้งพี่พลและมิ้นจึงเดินออกไปซื้อตั๋วเพื่อขึ้นเรือไวกิ้ง


เมื่อพี่พลและมิ้นออกไปแล้ว พลอยมองตามจนกระทั่งเห็นทั้งสองขึ้นเครื่องเล่นเรียบร้อย ก็ยิ้มกับตัวเอง ไม่ให้เล่นเรือไวกิ้ง ก็ไปเล่นรถไฟเหาะก็ได้ คราวนี้ก็ไม่มีใครมาห้ามแล้ว คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินออกไปทันที…


พี่พลกับมิ้นนั่งอยู่ข้างๆ กันในตอนกลางของเรือไวกิ้ง เหลือบตามาดูกันและกัน พี่พลยิ้มๆ


“มิ้นไม่กลัวใช่ไหมครับ”


“ก็ ไม่แน่ใจค่ะ คือ มิ้นก็ยังไม่เคยขึ้นเหมือนกัน” มิ้นบอกอ่อยๆ หน้าตาหวาดหวั่นเล็กน้อย พี่พลมองแล้วขำ จึงเมินหน้าไปยิ้ม มิ้นเห็นอาการนั้นเผลอค้อนให้


“ขำอะไรคะ”


“เปล่าครับ” พี่พลรีบหันหน้ามาตอบ “ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ไม่มีอะไร แค่ร้องให้ดังๆก็พอ”


“ร้องให้ดังๆ หรอคะ” มิ้นทวนคำ พี่พลพยักหน้า


แล้วเรือไวกิ้งก็เคลื่อนตัวสู่จุดสูงสุดและเลื่อนลงต่ำสุด เสียงคนร้องกรี๊ดดังก้องเมื่อเวลาเรือไวกิ้งแล่นเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดสูงสุดและปล่อยลงมาทันทีอย่างรวดเร็ว


มิ้นรู้สึกเหมือนใจจะขาด มันวูบไปวูบมา ปั่นป่วนและโหวงๆในท้อง เมื่อเรือขึ้นสู่จุดสูงสุดและปล่อยลงมาต่ำสุดทีไร ใจมันก็เหมือนจะวูบหายไปทุกที


พี่พลที่นั่งอยู่ข้างๆ หันมาเห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมาบนใบหน้ามิ้น ก็เอื้อมมือมาจับมือไว้ข้างหนึ่ง แล้วบอกมิ้นว่า “ร้องดังๆ ครับมิ้น ตะโกนออกมาเลย”


มิ้นหันมามอง แล้วตัดสินใจตะโกนออกมาเสียงดัง ตะโกนออกไปแล้ว รู้สึกดีขึ้นจริงๆ แฮะ ว่าแล้วก็ตะโกนอีก แล้วจับมือพี่พลแน่น พี่พลหันมามองมือที่ทั้งสองจับกันอยู่แล้วกระชับมือมิ้นใว้ในอุ้งมือให้แน่นอีกครั้ง แอบยิ้มในใจ มิ้นคงไม่รู้ตัวน่า


จวบจนเครื่องเล่นไวกิ้งหมดรอบแล้วจอดในที่สุด ผู้คนทะยอยลงจากเรือไวกิ้ง บางคนก็โซซัดโซเซ บางคนก็สนุกสนานตื่นเต้น มีเสียงหัวเราะพูดคุยกันไม่ขาดปาก


มิ้นนั่งเงียบ สูดหายใจลึกๆ อีกครั้ง พี่พลหันมามองแล้วถามอย่างเป็นห่วง


“เป็นไงครับมิ้น ไหวไหม”


มิ้นหันกลับมายิ้มให้พี่พลอ่อนๆ “ไหวค่ะ มิ้นรู้สึกดีขึ้นแล้ว” ตอบแล้วหันมาเตรียมตัวจะลุกขึ้นจากเรือไวกิ้ง ก็เพิ่งสังเกตว่ามือหนึ่งของตัวเองนั้น มีมือพี่พลเกาะกุมไว้ มิ้นหันมามองหน้าพี่พล


พี่พลก็มองตอบ แล้วก้มลงไปมองมือ ชะงักกึกเมื่อเห็นตัวเองกำลังจับมือมิ้นอยู่ รีบปล่อยทันที แล้วยิ้มเก้อๆ มองมิ้นแล้วว่า


“มิ้นเหงื่อแตกเลย ร้อนหรอครับ” ว่ายิ้มๆ มิ้นรีบยกมือลูบหน้าทันที ก็เห็นว่ามีเหงื่อจริงๆ จึงยิ้มเขิน หยิบผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋ามาซับหน้า


“ร้อนน่ะไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ แต่กลัวมากกว่า” พูดแล้วก็รีบออกมาจากเรือไวกิ้ง มึนเล็กน้อย เดินเกือบเซ แต่พยายามทรงตัวไว้ พี่พลที่เดินมาข้างหลังรีบถาม


“ไหวไหมมิ้น”


มิ้นหันหน้ามาตอบ “ไหวค่ะ เดี๋ยวก็ชิน เรารีบไปหาน้องพลอยกันดีกว่า ดีนะที่ไม่ให้น้องพลอยขึ้นเรือไวกิ้ง”


พี่พลพยักหน้าเห็นด้วย แล้วทั้งสองก็รีบเดินไปที่เดิมที่พลอยบอกว่าจะรออยู่…แต่ เมื่อไปถึงกลับไม่มีใครอยู่เลย


ทั้งสองมองหน้ากัน พี่พลมีสีหน้ากังวล “น้องพลอยหายไปไหนเนี่ย”


“นั่นสิคะ ไหนบอกว่าจะรอตรงนี้” มิ้นเองก็มีสีหน้ากังวลไม่แพ้กัน ต่างกวาดสายตาหาที่ใกล้ๆ บริเวณนั้น แต่ก็ไม่มี


“หรือว่าน้องพลอยจะไปซื้อน้ำคะ” มิ้นตั้งข้อสังเกต พี่พลฟังแล้วพยักหน้า


“อืม อาจจะเป็นไปได้ งั้นเราไปหาที่ร้านน้ำกัน” แล้วทั้งสองก็พากันวิ่งไปที่ร้านน้ำอย่างรีบเร่ง


เมื่อไปถึงร้านน้ำก็ยังไม่เห็นวี่แววของพลอย ทั้งสองมองหน้ากันอย่างกังวล แต่แล้วสายตาของพี่พลก็เหลือบไปเห็นคนมุงดูอะไรกันอยู่กลุ่มใหญ่ ห่างออกไปทางเครื่องเล่น….รถไฟเหาะ…



Create Date : 25 มกราคม 2549
Last Update : 5 มีนาคม 2549 14:47:05 น. 0 comments
Counter : 249 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมเช้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชมเช้า..มาจาก ชมเช้า ชมสาย ชมบ่าย ชมเย็น ชมค่ำ ทุกกาลเวลาช่างน่าชื่นชม จะเวลาไหนก็เลือกชมเอาตามสะดวก..

...เวลาเช้า เป็นเวลาที่รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูสดใส จอมแก่นแสนซน ที่ไหนได้ ใครๆ เห็นชื่อแล้วบอกว่า 40 ขึ้นแน่ๆ บ้างก็ว่าป้า..เอ่อ เป็นงั้นไป...ขอบอกว่ายังห่างค่ะ ห่างมาก อิอิ...

ตอนนี้มีภารกิจเพื่อชาติให้ปฏิบัติค่ะ รู้สึกภูมิใจจังเลย (โบกมือแบบนางงาม) ดิฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ อิอิ...

คุณที่เข้ามาอย่าเพิ่งงงค่ะ ภารกิจอะไรขอเก็บไว้เป็นความลับ(ว่าแต่ ไม่ได้มีใครเขาอยากรู้สักหน่อย ^^") แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อ้อ อีกอย่าง เป็นแฟนหงส์ค่ะ (เกี่ยวไหมเนี่ย อิอิ)

Friends' blogs
[Add ชมเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.