www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws www.Bigoo.ws

Group Blog
 
All blogs
 
มนต์รักโคกสาริน...ตอนที่ ๒๐

ที่โรงพยาบาล....

เสี่ยมาย ลูกตาล ปฎลและโอริโอ๋ พากันเดินมาที่ห้องพักของประเวศ

เมื่อเข้าไปก็เจอหมอใหญ่กำลังตรวจอาการอยู่พอดี (อีกแล้ว) และพัดชาเป็นผู้ช่วย

พัดชาเห็นลูกตาลก็ค่อยๆ เลี่ยงออกมา

“สวัสดีครับ คุณหมอ เวศฟื้นแล้วใช่ไหมครับ” ทักหมอใหญ่แล้วตาเลยไปที่ลูกชายคนโตที่นอนอยู่บนเตียง

“ครับ คุณเวศฟื้นแล้วเมื่อคืนนี้เอง ฟื้นเร็วอย่างนี้ แสดงว่าจิตใจดี กำลังใจดีนะครับ”

“อ๋อ แน่นอนอยู่แล้วครับ ก็ผมบอกหมอแล้วไง ว่ากำลังใจดีๆของเค้าน่ะ อยู่โน่น”

แล้วเสี่ยมายก็พยักเพยิดให้หมอใหญ่ดูลูกตาลที่รีบเข้าไปหาประเวศถึงข้างเตียง

หมอใหญ่ยิ้มแล้วว่า “ครับ ถ้ามีกำลังใจดีแบบนี้ อีกไม่นานก็คงหายแน่ ตอนนี้ผมต้องขอตัวก่อนนะครับ...อ้อ คุณเวศฟื้นแล้ว เสี่ยจะจ้างคุณพัดเป็นพยาบาลพิเศษต่อหรือเปล่าครับ”

“อืม....” เสี่ยมายคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “ คงต้องจ้างต่ออีกสักวันสองวันแหละครับ เวศเพิ่งฟื้น คงยังอ่อนเพลียอยู่มาก”

“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ ช่วงนี้ดูแลคุณเวศให้แข็งแรงก่อนดีกว่า....งั้นคุณพัด” หมอใหญ่หันไปมองพัดชา

“ช่วยอยู่ต่ออีกสักวันสองวันได้ไหม”

พัดชายิ้ม เมื่อรู้ว่าจะได้อยู่ข้างๆประเวศอีกครั้ง แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่า เราก็ต้องทนเห็นประเวศกับลูกตาลอยู่ด้วยกันนานขึ้นต่างหาก

คิดได้ดังนั้นจึงรับคำเบาๆ “ค่ะ ได้ค่ะ”

แล้วหมอใหญ่ก็เดินออกจากห้องไป เสี่ยมายเดินเข้าไปที่เตียงของประเวศที่มีลูกตาล ปฎลและโอริโอ๋ ยืนล้อมอยู่

“เป็นไงบ้าง เวศ”

ประเวศยิ้มอ่อนๆ “ก็ ดีขึ้นมากแล้วครับ ป๊า”

“งั้นก็ดีแล้ว เวศต้องพักผ่อนเยอะๆ นะ เรื่องงานการอะไรไม่ต้องห่วง ป๊าให้ดลจัดการแทนให้”

“ใช่ครับ พี่เวศ ดลช่วยจัดการให้” ปฎลช่วยรับรองแข็งขัน

“ตอนนี้ก็พักให้สบาย เดี๋ยวสบายกายแล้ว จะได้มีเรื่องสบายใจต่อ” เสี่ยมายว่าแล้วอมยิ้ม

“อะไรหรอครับ ป๊า สบายใจ” ประเวศงง

เสี่ยมายหัวเราะน้อยๆ หันไปทางลูกตาลแล้วยิ้ม

“เดี๋ยวให้หนูลูกตาลบอกดีกว่านะ....”

ประเวศหันไปมองลูกตาล ลูกตาลยิ้มแล้วก้มไปพูดเสียงเบา ไม่ให้คนอื่นได้ยิน

“เดี๋ยวเวลาเราอยู่กัน 2 คนแล้ว เดี๋ยวชั้นจะบอกนะ”

พัดชามองภาพนั้นแล้ว....เบือนหน้าหนี

“เอ่อ....” โอริโอ๋เกาหัวอยู่ข้างปฎลอยากจะพูดกับเขาบ้าง ทุกคนหันมามอง

“มีอะไรหรอโอ๋ “ ประเวศถาม

“คือ โอ๋ อยากถามพี่เวศหน่อยนึง สงสัยมานานแล้ว คิดจนเครียดเลย คือว่า....”

“พี่เวศเก็บ....ถุง.....”โอริโอ๋ยังพูดไม่ทันจบเสียงโทรศัพท์ของเสี่ยมายก็ดังขึ้นซะก่อน

เสี่ยมายรับโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง ก็หันมาบอกทุกคนว่า

“พอดีมีงานเข้ามาน่ะ เดี๋ยวป๊าต้องไปก่อนนะเวศ แล้วเสร็จงาน ป๊าจะเข้ามาใหม่ ฝากด้วยนะจ๊ะ หนูลูกตาล”

ลูกตาลรับคำ เสี่ยมายจึงเดินออกไปอย่างรีบเร่ง

แล้วทุกคนก็หันมามองโอริโอ๋อีกครั้ง ปฎลเป็นฝ่ายถามว่า

“เมื่อกี้โอ๋ว่าอะไรนะ....”

“อ๋อ...คือ โอ๋จะถามพี่เวศว่า...พี่เวศเก็บถุง..” อ้าว โอริโอ๋ยังพูดไม่จบอีกแล้ว พยาบาลพัดชาก็พูดขึ้นมาก่อน

“เอ่อ....ขอโทษนะคะ ได้เวลาทานยาแล้วค่ะ” พัดชาว่าพลางหยิบยาเดินมา

ทุกคนจึงถอยห่างออกไปนั่งที่โซฟา

ที่เตียงคนไข้ เหลือเพียงประเวศและพัดชา...ประเวศมองพัดชาไม่วางตา แต่พัดชาทำเป็นไม่สนใจ หยิบยาส่งให้...

แต่ประเวศไม่รับ...พัดชาจึงหันไปมองเห็นสายตาเขาแล้วก็เมินไป

“ทานยาสิคะ” พัดชาพูดเบา ไม่มองหน้า

“ผมไม่ทานยา ถ้าพัดไม่มองหน้าผม” ประเวศตอบเสียงเบาเช่นกัน พัดชาอึ้ง...ค่อยๆ หันมามองหน้าประเวศ นั่นแหละ ประเวศจึงรับยาไปกิน

กินยาเสร็จแล้ว ลูกตาลที่ดูอยู่ ก็รีบเข้ามาทันที...

“เวศ ชั้นมีเรื่องจะบอกแกน่ะ”

“เรื่องอะไร” ประเวศถาม ตามองไปที่พัดชาที่เดินเลี่ยงออกไป

“ก็ชั้นตัดสินใจได้แล้ว แกเป็นคนที่ดีกับชั้นที่สุด” ลูกตาลหยุดพูดก้มหน้า แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้ม “ตกลงว่าชั้นจะหมั้นกับแก”

ประเวศตกใจ หันไปมองหน้า “อะไรนะ ลูกตาล”

ลูกตาลพยักหน้า “ที่แกได้ยินน่ะถูกแล้ว ชั้นมาคิดดูแล้วนะ ไม่มีใครที่รักและหวังดีกับชั้นเท่ากับแกจริงๆ”

“แล้ว คนที่แกชอบคนนั้นล่ะ”

ลูกตาลอึ้งก่อนจะบอกว่า “อย่าไปพูดถึงเค้าเลย...”

“แต่แกก็ยังตัดใจจากเขาไม่ได้ใช่ไหม...”

“ใช่” ลูกตาลยอมรับ “ชั้นยังตัดใจจากเขาไม่ได้ จะว่าไปแล้ว ชั้นไม่เคยตัดใจจากเขาได้เลย แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรนี่ เพราะชั้นตัดสินใจแล้ว ชั้นอยากให้เรื่องมันจบซะที...เวศ”

“แกคงไม่ลืมนะที่เคยบอกชั้น....ว่าถ้าผู้ใหญ่ให้เราหมั้นหมายกัน แกจะไม่ปฏิเสธ.....”

ประเวศฟังแล้วอึ้ง ลูกตาลพูดเสร็จ มองหน้าประเวศอยู่ครู่หนึ่ง ก็เดินเลี่ยงเข้าไปในห้องน้ำ

หยิบการ์ดขึ้นมาดูจะฉีกทิ้ง...แต่แล้วก็เปลี่ยนใจ...แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา....


ผู้ใหญ่พิษณุเดินออกจากตลาดมา....มีประพาสเดินตาม

“พี่ผู้ใหญ่ คิดอะไรน่ะ เงียบไป”

ผู้ใหญ่หันไปมอง “อืม เปล่าจ๊ะ”

“พี่ผู้ใหญ่เชื่อที่ยายสุวัจนั่นพูดหรือเปล่า....ความจริงแล้วมันไม่มีอะไรเลย ปลัดเขามาสะกิดหลังพาส พาสตกใจก็เลยปัดไม้อัดไปทับขาปลัด ก็ล้มกันไปทั้งคู่น่ะ” ประพาสอธิบาย

ผู้ใหญ่พิษณุยิ้ม....เดินมานั่งที่สวนสาธารณะ ประพาสนั่งลงข้างๆ

“พี่ไม่ได้เชื่อคุณสุวัจเขา....พี่เชื่อพาส”

ประพาสยิ้มดีใจ “จริงหรอ....พี่ผู้ใหญ่” แล้วประพาสก็ดีใจลืมตัว คว้าแขนผู้ใหญ่ไปกอด

“พาสว่าแล้ว ว่าพี่ผู้ใหญ่น่ะ เป็นคนมีเหตุผล ไม่เชื่ออะไรใครง่ายๆ”

ผู้ใหญ่พิษณุหันมายิ้ม

“คุณสุวัจนั่น เขาเป็นคนอื่น พี่เพิ่งรู้จักไม่กี่วัน เมื่อเทียบกับพาสที่พี่รู้จักมาทั้งชีวิต พี่จะไปเชื่อเขามากกว่าพาสได้ยังไง จริงไหม”

“จริงจ๊ะ แหม พาสล่ะ ภูมิใจจังเลย ที่พี่ผู้ใหญ่เชื่อใจพาส”

“พี่รู้ดีว่าพาสเป็นยังไง...” ผู้ใหญ่หัวเราะ หึ หึ

“เออ...แล้วตอนนี้ พาสเจอพัดเขามั่งหรือเปล่า ตั้งแต่วันงานรับนายอำเภอสะอาด ก็ไม่ได้เจออีกเลย”

ประพาสหน้าเศร้าลงเมื่อนึกถึงพัดชา

“เขาคง....กำลังยุ่ง”

“ยุ่งหรอ.....ยุ่งเรื่องอะไรหรอ”

“ก็...คงยุ่งเรื่องสำคัญในชีวิตเขามั้ง” ประพาสตอบพลางค้อนให้คนที่นึกถึง

“เขาอาจจะยุ่งจนลืมอะไรๆไปเลย” ตอบอย่างอดจะน้อยใจไม่ได้ แต่เมื่อนึกได้ว่า พัดชาคงต้องเศร้าเรื่องประเวศมาก จึงเงียบไป

“พี่ว่าไม่มีใครยุ่งจนลืมได้ขนาดนั้นหรอก พาส คนเราน่ะนะ ถ้าใจมันนึกถึงกัน ยุ่งแค่ไหน มันก็นึกถึงกันได้ พี่ว่าพัดไม่ได้ยุ่งจนลืมเราหรอก” ผู้ใหญ่พิษณุว่าแล้วเงียบไป

ประพาสยิ้มให้ผู้ใหญ่ “อืมจริงอย่างที่พี่ผู้ใหญ่ว่า เอาไว้ พาสไปเยี่ยมพัดที่โรงพยาบาลดีกว่า พัดคงไม่มีเวลามากเหมือนเมื่อก่อน เพราะเค้ามีคน เอ่อ คนไข้ที่ต้องดูแล”

ผู้ใหญ่ยิ้ม “อืม ไว้พี่จะไปเยี่ยมด้วย...ว่าแต่....พูดถึงพัดแล้ว พี่ยังไม่รู้เลยเรื่องความลับของพัดน่ะ”

ประพาสหัวเราะ “เป็นความลับที่อยู่ในใจ...เป็นความลับที่อยู่ข้างใน....แต่ไม่รู้จะบอกเธอได้อย่างไร” อุ้ย ร้องเป็นเพลงเชียวนะ....

ผู้ใหญ่พิษณุหัวเราะ “เฮ้อ แล้วเมื่อไหร่พี่จะรู้สักทีล่ะ อย่าลืมนะพาส ว่าความลับไม่มีในโลกน่ะ”

ประพาสยิ้มเอาแก้มแนบแขนผู้ใหญ่ “เอาน่าพี่ผู้ใหญ่ ยังไงพาสก็ไม่เก็บให้พี่ผู้ใหญ่สงสัยไปจนวันตายหรอก”

“อ้าว พูดแบบนี้แสดงว่าจะอยู่ด้วยกันจนตายเลยหรอ”

ประพาสเขิน “แหม ถ้าพี่ผู้ใหญ่ไม่อยากอยู่ ก็ไม่เป็นไร พาสก็จะให้ไป”

ผู้ใหญ่ยิ้มตาหวาน “เอ้า ให้ไปง่ายเลยหรอ..ดีๆ....งั้นไม่ไปหรอก” อ้าว

ประพาสเงยหน้าไปยิ้ม “พูดอะไรก็จำไว้ด้วยนะ ไม่ใช่ลืมง่ายๆ”

ผู้ใหญ่หัวเราะ หึ หึ “พี่พูดอะไรไม่เคยลืม..จำได้ทุกอย่าง”

“พาสก็เหมือนกัน...พูดอะไรไปไม่เคยลืม” ประพาสว่าอย่างมั่นใจ

“ยกเว้นตอนเมา...”ผู้ใหญ่รำพึงเบาๆ แล้วยิ้ม

“เมื่อกี้พี่ผู้ใหญ่ว่าไงนะ...ไม่ได้ยินอ่ะ” ประพาสทำหน้างง

“เปล่า....” ผู้ใหญ่หัวเราะ แล้วมองมาที่แขนตัวเองที่ประพาสกอดอยู่ ประพาสมองตามแล้วรีบปล่อย

ผู้ใหญ่พิษณุยิ้มๆ แล้วขยี้หัวประพาสทีหนึ่ง........


เจ้ากุ๊กเดินกระเผลกออกจากตลาดหน้าบูด....

ปลัดกฤตย์วิ่งตามมา....ตามมาทันก็คว้าแขนเจ้ากุ๊กไว้

“เจ้ากุ๊ก.....” ปลัดเรียก จับตัวเจ้ากุ๊กหันมาเผชิญหน้าด้วย

“รีบผลุนผลันออกมาทำไม....แล้วข้าวเหนียวมะม่วงของชั้นล่ะ” อ้าว...

เจ้ากุ๊กค้อนให้ ลืมทำเสียงใหญ่

“ปลัดอยากกินก็ไปซื้อเอาเอง....ถ้าไปซื้อไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน”

ปลัดกฤตย์หัวเราะ “เออ คนใช้บ้านไหนเป็นยังงี้บ้างวะ...ดุเจ้านาย”

เจ้ากุ๊กหน้าบูด “อือๆ ก็ผมมันไม่ดี ถ้าปลัดไม่ชอบ ผมก็ไม่เป็นคนใช้บ้านปลัดก็ได้” แน่ะ มีท้า

“เจ้ากุ๊ก...” ปลัดดุ “โตแล้วนะเรา ไม่ใช่เด็กๆๆ ทำอะไรอย่าใช้อารมณ์” อุ้ย....ไม่เคยเห็นปลัดขรึม

เจ้ากุ๊กชะงัก แล้วสะบัดหน้า “ ฮึ ผมจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ปลัดก็ไม่ต้องสนใจผม”

“ ก็จะสนใจอ่ะ” ปลัดยิ้มกวน “ไป มีอะไรไปพูดกันที่บ้าน”

“ผมไม่ไป ผมเตือนปลัดแล้วใช่ไหม ว่าอย่าเหยียบเรือสองแคมทำไมปลัดไม่เชื่อผม”

ปลัดงง “นี่เอ็งหมายถึงอะไร”

“ฮึ ปลัดก็คิดเอาเองมั่งสิ ผมเห็นปลัดนี่มีคนมาพัวพันเยอะแยะไปหมด “ พูดแล้วก็นึกไปถึงพี่เวศ แล้วยังจะคุณพยาบาล แล้วนี่มาพี่พาสที่รักของเราอีก

“ทำอย่างนี้ได้ไง ชอบใครก็เลือกซะคนได้ไหม ไม่ใช่เหวี่ยงแหไปทั่วอย่างนี้”

“ชั้นไปเหวี่ยงแห กับใครที่ไหน” ปลัดว่า “ถ้าจะหมายถึงพาสละก็ ชั้นอธิบายได้”

เจ้ากุ๊กเชิดหน้า “เหอะ ไม่จำเป็น แค่นี้ผมก็รู้แล้ว”

“อย่ามาอวดดี รู้ไม่จริงอย่ามาพูด ไป กลับบ้าน ไปคุยกันที่บ้าน” ปลัดกฤตย์ดุแล้วตรงเข้ามาจับแขนเจ้ากุ๊กพาเดิน

แต่เจ้ากุ๊กไม่ยอม สะบัดมือ แต่สงสัยสะบัดแรงไปหน่อย....หมวกแก๊บหลุดอีกแล้ว (เป็นครั้งที่ 3)

เจ้ากรรม....เจ้ากุ๊กไม่รู้ตัวอีกตามเคย.......

หมวกแก๊บตกลงไปที่พื้น....ผมยาวของเจ้ากุ๊กปลิวน้อยๆ...ปลัดเหลียวซ้ายแลขวา...รีบหยิบหมวกแก๊บขึ้นมา

ยิ้มนิดๆ...แต่ไม่พูดอะไร...ส่วนเจ้ากุ๊กยืนนิ่ง...ปลัดค่อยๆ รวบผมเจ้ากุ๊กขึ้นไป....แล้วสวมหมวกแก๊บให้เรียบร้อย

เสร็จแล้วก็จ้องตาเจ้ากุ๊ก บอกเสียงเรียบๆว่า

“มีอะไรไปคุยกันที่บ้าน....นะ” เจ้ากุ๊กยังยืนนิ่ง ปลัดจึงคว้ามือพาเดินจูงไปบ้าน

เจ้ากุ๊กเดินตามอย่างว่าง่าย...นึกถึงคำพูดของพี่ผู้ใหญ่ขึ้นมาได้

“ความรักสำคัญที่ความเข้าใจ ที่เป็นทุกข์กันส่วนมาก ก็เพราะความไม่เข้าใจกัน เรากลับไปคิดนะ ว่าเราทำความเข้าใจกันดีพอหรือเปล่า เข้าใจตรงกันหรือเปล่า ไม่ใช่ต่างคนต่างคิดกันไปเอง”


จนมาถึงบ้านปลัดกฤตย์ ปลัดจูงมือเจ้ากุ๊กเข้ามาในห้องรับแขก พามานั่งที่โซฟา แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ

“เอ้า นั่งฟังเฉยๆนะ จะเล่าให้ฟัง”

“ผม...”เจ้ากุ๊กขยับจะพูด แต่ปลัดขัดขึ้นมาซะก่อน

“อ๊ะ อย่าเพิ่ง อย่างเพิ่งขัด ฟังเล่าก่อนให้จบ” ปลัดดุ

“ผมไม่ได้จะขัด แค่จะบอกว่าปลัดมานั่งเบียดผม ที่มีตั้งเยอะ มานั่งเบียดอยู่ได้”

เจ้ากุ๊กหน้ามุ่ยแล้วมองปลัดที่มานั่งชิดตัวเอง (ความจริงเจ้ากุ๊กเขิน เลยแกล้งโวยกลบเกลื่อน)

“อ้าว อ๋อ หรอ” ปลัดกฤตย์กระเถิบออกไปหน่อย

“คืองี้ เมื่อวานชั้นไปที่ห้องแถวหลังตลาด เจอะพาส ก็เข้าไปทัก ทีนี้พาสเขาตกใจ มือเลยปัดไปโดนไม้อัดทั้งกองร่วมลงมา มาทับขาชั้น เราสองคนก็เลยล้มลงไปกองที่พื้น แล้วชั้นขาชายังลุกไม่ได้ ก็เลยนั่งอยู่ที่พื้นครู่หนึ่ง คุณสุวัจเขาก็มาเห็น เรื่องมันก็มีแค่นี้แหละ”

ปลัดหันไปมองเห็นเจ้ากุ๊กเงียบ สักพักก็หาว ปลัดจึงโวย

“เฮ้ย อะไรของเอ็งเนี่ย นี่ชั้นอุตส่าห์อธิบายความจริงให้ฟังนะ มาง่วงเหงาหาวนอนได้ไง”

“อ้าว ก็ผมง่วงคุณปลัดมาห้ามผมได้ไง” เจ้ากุ๊กแอบกลั้นยิ้ม หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวจากปากปลัดแล้วก็อารมณ์ดีขึ้น

เจ้ากุ๊กขยับตัวจะลุกจากโซฟา แต่ปลัดรั้งแขนไว้

“ตกลงเข้าใจชั้นเลยหรอ”

“ผมก็ไม่เห็นมีอะไรที่เข้าใจยากนี่ครับ” เจ้ากุ๊กยิ้มกวน ปลัดจึงยิ้มตอบ เอื้อมมือไปจับหมวกแก๊บ ทำท่าจะถอดออกแล้วกลับจับให้สวมหัวแน่นมากขึ้น

“เข้าใจอะไรง่ายๆก็ดีแล้ว...รู้ไหมชีวิตคนๆหนี่งก็ต้องเจอเรื่องยากๆ มามากแล้ว....อย่าทำเรื่องให้มันยากเพิ่มขึ้นเลยนะ”

เจ้ากุ๊กหัวเราะ “โฮ่ๆๆ ผมน่ะ ไม่ทำเรื่องให้มันยากหรอก คนที่ทำให้ยากน่ะ น่าจะเป็นปลัดมากกว่า”

ปลัดกฤตย์หัวเราะ สบตาเจ้ากุ๊กแล้วว่า

“ชีวิตชั้นน่ะ อะไรๆมันก็ง่ายมาตลอด จะมายากก็ตอนเจอเอ็งนี่แหละ”

ปลัดว่าแล้วยิ้มกริ่ม นึกในใจ...ก็เอ็งเป็นซะอย่างนี้ จะเป็นผู้หญิงก็ไม่ใช่ ผู้ชายก็ไม่เชิง แล้วจะให้เราทำไงวะ

“ปลัดพูดอย่างนี้นี่ หมายความว่ายังไง” เจ้ากุ๊กทำหน้ากวนขึ้นมาทันที

“เฮ้อ...” ปลัดแกล้งถอนใจ “พูดไปเอ็งก็ไม่รับฟังหรอก...ว่าแต่ชั้นสงสัยอะไรอยู่อย่างหนึ่งนะ....

...เมื่อกี้ที่เอ็งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หาว่าชั้นเหยียบเรือสองแคมบ้างล่ะ เหวี่ยงแหบ้างละ เนี่ย มันหมายความว่าไงวะ หรือว่า.....เอ็งจะ....”

“เฮ้ยๆ....ปลัด” เจ้ากุ๊กรีบขัดทันที ไม่ยอมให้ปลัดพูด รีบเอามือปิดปากปลัดไว้

“ปลัดอย่ามาพูดอะไรเหลวไหล ไร้สาระ โตแล้วนะเรา ไม่ใช่เด็กๆ” แน่ะ มีสอน........

ปลัดกฤตย์คว้ามือเจ้ากุ๊กที่ปิดปากตัวเอง มาจับไว้ ยิ้มกริ่ม

“อ๋อ ก็แสดงว่าให้ทำอย่างที่ผู้ใหญ่เขาทำกันใช่ไหม ได้....”

เจ้ากุ๊กสะดุ้งโหยง รีบกระโดดออกจากโซฟาทันที

“ปลัดบ้า....อย่ามายุ่งกับผม....ผมแมนๆ” แล้ววิ่งเขยกๆ ไป ปลัดหัวเราะไล่หลังมาแล้วว่า

“เฮ้ย เจ้ากุ๊ก “บ้านะ” ผู้หญิงเขาพูดกันเว้ย.....เอ้อ....ไอ้แมนนี่..แมนตายละเอ็ง”


กลับมาที่ร้านอาโกชาอีกรอบ....

สุวัจนียังนั่งอยู่ที่เดิม หลังจากที่ทุกคนลุกไปกันหมดแล้ว เห็นนั่งคิดอะไรไม่รู้ ท่าทางจะถูกใจ เพราะยิ้มมุมปากถึง 2 รอบ

อาโกชาเริ่มเหล่.....มานั่งร้านตูนานแล้วนะ ลูกค้าหายหมดเลย

สักพักเห็นตาหลักเดินมาแต่ไกล

“อ้าว โก ล็อตตารี่ไหม วันนี้วันหวยออกนะ” ตาหลักเดินเข้ามาในร้าน

“ล็อตตารี่หรอ เออ เอาเลขไรดีล่ะ ตาหลัก” โกชาถาม

“ถ้าถามข้า ข้าก็ต้องว่า 12 สิเลขนี้....ข้าชอบ” ตาหลักเตรียมเอาให้

“เฮ้ยๆ เดี๋ยวตาหลัก 12 ข้าไม่ค่อยชอบวะ แต่ชอบเลข 2 กับอีกตัวนึง....เอาอะไรดีน้า”

เจ้าฟู่เด็กเสิร์ฟ ยื่นหน้ามาตอบ “เอาเลข 4 สิโก ฟู่ว่ามันดูเข้ากันดีนะ”

“เออๆ ดูๆ มันก็เข้ากันดีเหมือนกันนะ 24 เหรอ เออ งั้นเอาคู่นี้แหละ”

ตาหลักส่งล็อตตารี่ให้แล้วว่า “ นี่ๆ แกรู้ไหมโก พ่อดีเจภูธรเขามาแล้วนะ”

“อ้าว พ่อดีเจฯ ที่ว่าไปติดต่อธุรกิจอะไรที่เมืองนอกน่ะเหรอ” อาโกถาม

“ เออๆ นั่นแหละ เห็นเขาว่างั้นนี่ นี่ๆ เห็นแกกลับมาแล้ว แกว่าจะกระจายเสียงหนังจีนกำลังภายในภาคสองให้เราฟังกันแล้วนะ “

“แหม จริงหรอ งั้นข้าคงต้องรอฟังแล้วล่ะ พักนี้มันมีแต่นิยายน้ำเน่าว่ะ ข้าจะเลี่ยนแย่แล้ว” ฮิฮิ...

“เอ่อ....” เสียงสุวัจนีดังขัดขึ้นมาระหว่างการสนทนา

ทั้งตาหลักและอาโกชาหันมามอง

“คุณดีเจฯ ที่ว่าเนี่ย....หล่อมั้ยอ่ะ” อูย...สยอง


ที่โรงพยาบาล.....

ผู้ใหญ่พิษณุกับประพาสเดินเข้ามาที่เคาน์เตอร์ ถามหาพัดชา....ก็ได้รับคำตอบว่า อยู่ที่ห้องพักคนไข้พิเศษของประเวศ...

ทั้งสองจึงขึ้นไปที่ห้องประเวศ พัดชาเป็นคนไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นใครเท่านั้น ก็ทำหน้าเหมือนจะร้องให้

“พี่ผู้ใหญ่ พี่พาส”

พัดชาสบตาประพาสเศร้าๆ ประพาสยื่นมือมาจับมือพัดชา

“พัด เป็นไงบ้าง”

พัดชาสบตาประพาสแล้วพูดไม่ออก ผู้ใหญ่เข้ามาจับมือพัดชาอีกข้าง

“พัดดูเหนื่อยมากเลย นี่ทำงานไม่ได้พักเลยหรอจ๊ะ”

พัดชารับคำเบาๆ “ค่ะ

“พี่ขอเข้าไปเยี่ยมคุณเวศหน่อยนะ” ผู้ใหญ่พิษณุว่า พัดชาจึงจูงมือทั้งสองคนมาที่เตียงของประเวศ

ลูกตาลกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงประเวศ หันมามอง

แล้วทั้งห้า ก็อึ้งกันไปหมด.....

คนทั้งห้ามองหน้ากัน....ประเวศหน้าหมองลงไป...

ผู้ใหญ่พิษณุก็หน้าขรึมลงไป....

ประพาสก็หน้าขรึมลงไป.....

พัดชาก็หน้าหมองลงไป...

ลูกตาลก็หน้าหมองลงไปเช่นกัน.....

ไม่มีใครรู้ว่า ทั้ง 5 คนนั้นคิดอะไรกันอยู่...ห้องเกิดบรรยากาศเงียบเกินกว่าที่ใครๆจะเข้าใจ

บรรยากาศเงียบไปครู่หนึ่ง....ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอะไร

ผู้ใหญ่พิษณุรู้สึกตัวก่อนกล่าวทักทายขึ้นมา

“สวัสดีครับ ทุกคน....” ผู้ใหญ่พิษณุหันไปมองประเวศ “คุณเวศ เป็นยังไงบ้างครับ ผมกับพาสมาเยี่ยมครับ”

ประเวศมองพัดชาที่จูงมือซ้ายประพาสและขวาผู้ใหญ่พิษณุแล้วฝืนยิ้ม

“ครับ ตอนนี้ก็รู้สึกดีมากขึ้นแล้วครับ ไม่เจ็บแผลแล้ว”

“พาสว่า เดี๋ยวคุณเวศก็คงหายดี คุณเวศแข็งแรงจะตาย เนอะ พัด”

หันไปพยักเพยิดกับพัดชา พัดชายิ้มรับ แต่พอมองเห็นสายตาประเวศที่มองมาก็หลบ

ทั้งสี่คนสนทนากันเหมือนลืมใครไปคนหนึ่ง ลูกตาลยืนเมินๆอยู่ครู่หนึ่ง ก็สะบัดหน้าหนีไป...ทั้งสี่คนมองตาม พัดชารีบบอก

“คุณลูกตาลเธอมาช่วยดูแลคุณเวศด้วยน่ะค่ะ...เพราะเห็นว่ากำลังจะมีข่าวดี” กล้ำกลืนพูด

“ข่าวดีอะไรหรอ” ประพาสและผู้ใหญ่พูดขึ้นพร้อมกัน

“ก็...เอ่อ...”ประเวศพูดพลางมองหน้าพัดชา “ยังไม่มีข่าวดีอะไรตอนนี้หรอกครับ ป๊าผมเพียงแต่คิดไปก่อนล่วงหน้าเท่านั้น”

“งั้นผมคงต้องขอแสดงความยินดีล่วงหน้าเลยนะครับ” ผู้ใหญ่พิษณุยิ้มนิดๆ

“ครับ ขอบคุณมาก”

“นี่ เรามารบกวนคุณเวศหรือเปล่า” ประพาสถามขึ้น เมื่อเห็นสีหน้าประเวศหมองลงเรื่อยๆ

“เปล่านี่พาส ผมดีใจมากนะ ที่ผู้ใหญ่กับพาสมาเยี่ยม”

“งั้นวันหลังจะชวนเจ้าเปรี้ยวมาเยี่ยมด้วยนะคุณเวศ” ประเวศฟังแล้วยิ้ม แต่ตายังมองไปที่มือพัดชาทั้งสองมือ

“เออ ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่มาเยี่ยมกะทันหัน ไม่ได้เอาอะไรมาเลย”

ผู้ใหญ่พิษณุพูดแล้วนึกขึ้นได้ “งั้น เดี๋ยวผมจะเอาของในฟาร์มมาเยี่ยมคุณเวศแล้วกันนะครับ”

“ผู้ใหญ่ไม่ต้องลำบากหรอกครับ แค่มาเยี่ยมผมก็ดีใจแล้ว”

“งั้น คุณเวศอยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพาสเอามาให้”

“ก็...ไม่อยากกินอะไรนะ...ก็แค่...”หยุดพูดแล้วมองพัดชา “อยากกินคุ๊กกี้....”

พัดชาสบตาแล้วเมินไป

“อ๋อ คุ๊กกี้หรอ คุณเวศ ได้ๆ เดี๋ยวพาสเอามาให้ ของเค้าดีจริงๆ เนอะ”

ประเวศยิ้มแล้วก้มหน้า...คุ๊กกี้เค้าดีจริงๆแหละแต่....คุ๊กกี้ที่ดีเหมือนกันทุกถุง....ไม่ได้หมายความว่าคนกินจะรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้กิน

บางครั้งกินเล่น....บางครั้งกินเพื่อประทังความหิว....บางครั้งกินเพื่อไม่ให้เสียกำลังใจ

แต่บางครั้ง...ก็กินอย่างมีความสุข...ก็คุ๊กกี้เหมือนกันนั่นแหละ

แต่คุ๊กกี้ที่ไหน....ก็คงไม่ทำให้เรามีความสุขได้เท่า....คุ๊กกี้ 2 ถุงที่เราได้รับจาก มายเกิร์ล

ประเวศคิดแล้วเศร้า ก็พัดเขามีคนข้างกายเป็นคนดีๆ อยู่ตั้ง 2 คน

คนหนึ่งก็หล่อ คนหนึ่งก็เท่ห์ แล้วเขาจะเอาอะไรไปสู้ได้...ดูจากมือที่จับกันแนบแน่นทั้ง 2 คนแล้ว...เขาก็เข้าใจว่าไม่มีสิทธิ...

พัดชามองประเวศแล้วเมินไป เมื่อได้ยินคำว่า คุ๊กกี้ขึ้นมาได้...เขาคงไม่ได้หมายถึงเราหรอก...เขาคงหมายถึงคุ๊กกี้ที่ไปกินกับคุณลูกตาลมากกว่า

คุ๊กกี้ของเราจะไปสู้คุ๊กกี้ไฮโซราคาแพงของคุณลูกตาลเขาได้อย่างไร....พัดชาคิดแล้วก้มหน้า ประพาสสังเกตเห็นจึงกระซิบถาม

“พัด เป็นอะไร” พัดชาจึงเงยหน้าขึ้นมา จับมือประพาสแล้วว่า

“ขอตัวสักครู่นะคะ” แล้วก็จูงมือประพาสเข้าไปในห้องน้ำ มีผู้ใหญ่พิษณุกับประเวศมองตามไป

ผู้ใหญ่มองตามด้วยความสงสัย ....มีความลับกันอีกแล้ว

ส่วนประเวศมองด้วยความปวดร้าว..ดูเขาสนิทกันมากจริงๆ

ในห้องน้ำนั้นเอง....ประพาสลูบหลังพัดชา พูดเสียงเบา

“ทำใจดีๆ ไว้พัด”

พัดชาเงยหน้ามามองประพาส แล้วว่าเสียงเครือ “พัดพยายามแล้ว พี่พาส พัดรู้ว่า ถ้าพัดอยู่ตรงนี้ พัดจะเจ็บปวด แต่พัดก็ยอม เพื่อว่าพัดจะได้รับความสุขเพียงน้อยนิดที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาบ้าง”

“แล้วพัดมีความสุขหรือเปล่า” พัดชาพยักหน้า “แล้วพัดมีความทุกข์หรือเปล่า” พัดชาก็อึ้งไป แล้วพยักหน้าอีกครั้ง

“อย่างไหนมีมากกว่ากัน”ประพาสถามต่อ พัดชาส่ายหน้า “พัดไม่รู้...”

“ถ้างั้นพัดก็ต้องเลือกละว่า จะเดินหน้า หรือ จะตัดใจ...แต่พี่ว่านะ” ประพาสหยุดนิดหนึ่ง

“ถ้าพัดจะเดินหน้า เส้นทางต่อจากนี้ มันจะเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าสุดทาง เราจะได้รับสิ่งที่ต้องการหรือเปล่า หรือว่าสุดทางแล้วเราจะพบกับความว่างเปล่า...”

“แต่ถ้าพัดจะตัดใจตั้งแต่ตอนนี้นะ แรกๆ มันอาจจะเจ็บปวดแสนสาหัส แต่ต่อไป มันก็จะเริ่มชิน และทำใจได้ในที่สุด สุดท้ายถึงแม้เราอาจจะไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ แต่ก็ยืนยันได้ว่า ต่อไปเราจะไม่ต้องเจ็บปวดอีก”

พัดชาเงยหน้าขึ้นมาฟัง “แต่ พี่พาส”

“พี่ไม่ตัดสินใจให้พัดหรอก พัดคิดเอาเองแล้วกัน แต่รู้ไว้แล้วกันนะ ว่าพี่หวังดีกับพัด ไม่อยากให้พัดเจ็บปวด”

ด้านนอกห้อง ลูกตาลยืนกระวนกระวายอยู่ บอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรกันแน่

แต่แล้วก็ตัดสินใจ ปลุกปลอบกำลังใจตัวเอง ฝืนยิ้มร่าเริงเข้าไปในห้องอีกครั้ง

ลูกตาลเดินเข้าไปชิดเตียงประเวศ ก้มหน้าลงไปพูดกับประเวศน้ำเสียงร่าเริง

“เวศ เดี๋ยวลูกตาลกลับก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาเยี่ยมใหม่ เวศหายเร็วๆ นะ เราจะได้มาคุยเรื่องของเรากันซะที”

แล้วลูกตาลก็หันไปมองหน้าคนทั้งสามแวบหนึ่ง แล้วเมินหน้า เดินออกไปจากห้อง

ทันทีที่ปิดประตูห้อง น้ำตาหยดหนึ่งก็ร่วงออกมาทันที ลูกตาลใช้หลังมือป้ายน้ำตาแรงๆ แล้วเดินออกไปอย่างมั่นใจ

เดินมาถึงริมแม่น้ำ ที่เคยมาคุยกับประเวศวันนั้น ลูกตาลก็หยิบกระดาษที่หยิบมาจากโต๊ะเขียนแบบของประเวศ

กระดาษที่เขียนหัวข้อว่า.....My Girl......

ลูกตาลหยิบขึ้นมาดู แม้ยังวาดไม่เสร็จแต่ก็รู้ทันทีว่าเป็นใคร...

ลูกตาลมองเหม่อไปข้างหน้า...แล้วค่อยๆ ปล่อยกระดาษแผ่นนั้นให้ปลิวไปในสายลม.....




Create Date : 20 ธันวาคม 2548
Last Update : 5 มีนาคม 2549 12:39:43 น. 0 comments
Counter : 180 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชมเช้า
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ชมเช้า..มาจาก ชมเช้า ชมสาย ชมบ่าย ชมเย็น ชมค่ำ ทุกกาลเวลาช่างน่าชื่นชม จะเวลาไหนก็เลือกชมเอาตามสะดวก..

...เวลาเช้า เป็นเวลาที่รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา ดูสดใส จอมแก่นแสนซน ที่ไหนได้ ใครๆ เห็นชื่อแล้วบอกว่า 40 ขึ้นแน่ๆ บ้างก็ว่าป้า..เอ่อ เป็นงั้นไป...ขอบอกว่ายังห่างค่ะ ห่างมาก อิอิ...

ตอนนี้มีภารกิจเพื่อชาติให้ปฏิบัติค่ะ รู้สึกภูมิใจจังเลย (โบกมือแบบนางงาม) ดิฉันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ เอาใจช่วยด้วยนะคะ อิอิ...

คุณที่เข้ามาอย่าเพิ่งงงค่ะ ภารกิจอะไรขอเก็บไว้เป็นความลับ(ว่าแต่ ไม่ได้มีใครเขาอยากรู้สักหน่อย ^^") แต่ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ อ้อ อีกอย่าง เป็นแฟนหงส์ค่ะ (เกี่ยวไหมเนี่ย อิอิ)

Friends' blogs
[Add ชมเช้า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.