แกงเขียวหวานปลาดุก



แกงเขียวหวานปลาดุกน่าจะเป็นอาหารที่หลายคนชื่นชอบ แต่หาทานตามร้านอาหารค่อนข้างจะยาก ส่วนใหญ่จะมีเพียง ปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ดเท่านั้น

ในเมื่อชอบทานก็ต้องไปซื้อปลาดุกมาทำแกงเขียวหวานทาน  ไปซื้อเนื้อปลาดุกที่หั่นเป็นแว่นๆ มา พร้อมกับ กระชาย มะเขือพวง และ โหระพา  พร้อมกับ กะทิสด 1 กก.

กระชายใส่ไปให้มีกลิ่นหอม น่าจะช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อปลาดุกด้วย 

ส่วนผักประกอบ เลือกใช้ มะเขือพวง เพราะ ผู้ใหญ่ชอบทานกันมาก

พริกแกงเขียวหวานซื้อมาจากตลาดแต่ใส่ กระเทียม หอมแดง กะปิ และ เม็ดผักชี ยี่หร่าเพิ่มเข้าไป เพื่อให้มีรสเข้มข้น และมีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ

แกงเขียวหวาน น้ำแกงต้องมีสเขียว จัดการไปเด็ดยอดพริก มาปั่นกับกะทิใส่เพิ่มเข้าไป ทำให้น้ำแกงออกมาสีเขียว และได้กลิ่นหอมด้วย

ปลาดุกซื้อมาเป็นแว่นๆ จัดการเลาะเอาแต่เนื้อปลาดุกออกมา เพื่อให้ทานสะดวก เสียเวลาเลาะเนื้อ 15 นาที


มะเขือพวง กระชายซอย


โหระพา ใบมะกรูด


ยอดพริกเก็บมาจากต้นพริกที่บ้าน นำมาปั่นกับน้ำกะทิ ไว้ใส่แกง ทำให้น้ำแกงเขียวหวาน มีสีเขียว


เอาหัวกะทิ 1 ถ้วย ตั้งไฟให้เดือด ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไป พร้อมกับเพิ่มเติม หอมแดง กระเทียม ลูกผักชี ยี่หร่าที่ตำละเอียด  ทำให้พริกแกงมีรสชาติดีขึ้น (พริกแกงที่ซื้อมาจะใส่หอมแดง กระเทียมน้อย)  ผัดพริกแกงไป 7 นาที จนพริกแกงแตกมัน


ใส่ปลาดุก


เพิ่มกะทีที่ไปปั่นกับยอดพริก และ หัวกะทิ


พอเดือด ใส่มะเขือพวง กระชาย ปรุงรสด้วยน้ำปลา  รอจนเดือด ใส่โหระพา








ขนมจีนราดแกงเขียวหวานปลาดุก








 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 30 กรกฎาคม 2557 19:53:19 น.   
Counter : 4501 Pageviews.  


เครปเค้กปลาแซลมอมรมควันสำหรับฉลองวันเกิด



ทุกๆ ปี จะต้องทำเค้กสำหรับงานฉลองวันเกิดคุณย่า 
เค้กที่ทำจะเป็นเค้กอาหารคาว เค้กของหวานก็มีลูกหลานจัดหามาฉลองอยู่แล้ว
วันเกิดปีนี้ทำ เครปเค้กปลาแซลมอนรมควัน
ทำแผ่นเครปหลายๆ แผ่น แล้วเอาครีมชีสผสมกับเคเปอร์ หอมใหญ่ซอย ทาที่แผ่นเครป แล้ววางปลาแซลมอนรมควันลงไป เอาแผ่นเครปปิด แล้วทำซ้ำเป็นชั้นๆ ออกมาเป็นรูปขนมเค้ก

เครื่องปรุง

เครป
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 1 ถ้วย
- นม 1/2 ถ้วย
- น้ำ 1/2 ถ้วย
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เนย 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา

ไส้เครป
- ปลาแซลมอนรมควัน
- ครีมชีส 250 กรัม
- หอมใหญ่ซอยละเอียด 1 หัว
- เคเปอร์ 3 ช้อนโต๊ะ
- นม 1/4 ถ้วย

ทำแผ่นเครป
เอาเครื่องปรุงทั้งหมดผสมให้เข้ากันโดยใช้ Food Processor  แล้วเอาแช่ตู้เย็นไว้อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้แป้งดูดซึมซับเครื่องปรุง


 ใช้กระทะเครปเหล็กเพราะว่าทอดแล้วผิฝเตรปเกรียมสวยกว่าทอดด้วยกระทะเทฟลอน  กระทะขนาด 20 ซ.ม.  ตั้งกระทะให้ร้อน เอาเนยทาบางๆ ที่กระทะทอดแผ่นเครป


เอาทัพพีตักแป้งเครปใส่ในกระทะ เอียงกระทะให้แป้งกระจายไปทั่ว  ประมาณ 1 - 1.5 นาที แป้งเครปด้านล่างสุก จักการกลับแผ่นเครปตั้งไฟไปอีกครึ่งนาที ตักเครปใส่จาน




ครีมชีสและเคเปอร์


จัดการผสม ครีมชีส หอมใหญ่ เคเปอร์ และ นม ผสมให้เข้ากัน
ปลาแซลมอนรมควันและครีมชีสที่ผสมแล้ว


จัดการตัดแผ่นเครปให้มีขนาดเท่ากัน โดยใช้ถ้วยเป็นแม่พิมพ์ เอามีดตัดขอบแผ่นเครป


ประกอบเครป

เอาแผ่นเครปวาง เอาครีมชีสผสมทา แล้วเอาปลาแซลมอนรมควันวางทับ


วางแลาแซลมอนรมควันให้ทั่ว เอาแผ่นเครปทับ ทาครีมชีส วางปลาแซลมอนรมควัน ทำแบบนี้ไปจนได้เป็นเค้ก  เอาเค้กไปแช่ไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที








ทำเครปปลาแซลมอนรมควันแบบพับครึ่ง




เครปแบบพับ 2 ครั้ง










 

Create Date : 29 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 6 มกราคม 2558 18:32:15 น.   
Counter : 4180 Pageviews.  


น้ำพริกมะเขือเทศผัด



น้ำพริกมะเขือเทศผัด เป็นน้ำพริกจากเมียนม่า
ดูแล้วคล้ายๆ กับน้ำพริกอ่องของทางเหนือ
เดาว่า เป็นน้ำพริกของชาวไทยใหญ่ที่อยู่ทางตอนเหนือประเทศเมียนม่า
แตกต่างกันที่ เครื่องปรุงน้ำพริกจะไม่ใส่ตระใคร้ แต่ใส่ขิง และ ไม่ใส่หมูสับ

 เครื่องปรุง
- หอมแขก 2 หัว
- กระเทียม 2 หัว
- พริกแห้ง 5 - 10 ดอก ตามรสเผ็ดที่ชอบ
- กะปิ 1 ช้อน
- ขมิ้น 1/2 ช้อนชา
- มะเขือเทศสับ 2 ถ้วย
- ขิงซอย 2 ช้อนโต๊ะ

มะเขือเทศแกะเม็ดออกซอยเป็นชิ้นเล็ก 2 ถ้วย


หอมแขก กระเทียม กะปิ พริกแห้ง และ ขมิ้นผง 1/2 ช้อนชา ตำหรือบดให้ละเอียด


น้ำมัน 1/2 ถ้วย เอาพริกแกงลงไปผัด ผัดให้น้ำพริกสุก มันแยกตัวออกมา


ใส่มะเขือเทศ ขิงซอยลงไปผัด


ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึก เกลือ  เพื่อชูรสมะเขือเทศ ตามด้วยรสเค็มและหวาน


ตั้งไฟอ่อนเคี่ยวไปจนกระทั่งมะเขือเทศนิ่ม  ทานพร้อมผักสด












 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 4 พฤษภาคม 2558 10:09:29 น.   
Counter : 2774 Pageviews.  


สะเต๊ะหมู

อยากทานหมูสะเต๊ะ แต่ขี้เกียจที่จะเอาหมูเสียบไม้
เลยใช้วิธีง่ายๆ หั่นหมูเป็นชิ้นแบบหมูย่าง นำมาหมักเครื่องสะเต๊ะ นำไปย่าง พรมด้วยน้ำกะทิ
แล้วเอาหมูสะเต๊ะมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ทานกับน้ำจิ้มสะเต๊ะ



น้ำจิ้มสะเต๊ะ


 เครื่องปรุง
- หมูสามชั้น 500 กรัม  หั่นเป็นชิ้นบางประมาณ 7 - 10 มม.
- สันคอหมู 500 กรับ หั่นเป็นชิ้นบางประมาณ 7 - 10 มม.

- หางกะทิ 200 ซซ.
- ขมิ้น 1/2 ชอนชา

เครื่่องหมักหมู
- ตระใคร้ 2 ต้น
- หอมแดง 7 หัว
- กระเทียม 2 หัว
- ข่า 4 แว่น
- ขิง 4 แว่น
- ขมิ้นแห้ง 1 ช้อนชา (หรือขมิ้นสด)
- หัวกะทิ 100 ซซ.
- น้ำตาลปึก 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1 ช้อนชา

หอมแดง กระเทียม ตระใคร้ ข่า ขิง


นำไปตำให้ละเอียด แล้วไปผสมกับหัวกะทิ ใส่ เกลือ ขมิ้นผง น้ำตาล คลุกให้เข้ากัน


เอาเนื้อหมูลงไปหมัก แช่ไว้ในตู้เย็น 1 ช.ม.


น้ำจิ้มสะเต๊ะ
เครื่องปรุง
- ตระใคร้ 2 ต้น
- หัวกระทิ 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลปึก 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ
- ถั่วลิสงเลาะเปลือกคั่ว 600 กรัม

พริกแกง
- ข่า 12 แว่น
- หอมแดง 100 กรัม
- กระเทียม 50 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 ดอก
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงพริกแกง และ พริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม


พริกแกงที่บดละเอียด


ถั่วลิลงเลาะเปลือกอบหรือคั่วให้สุก  นำไปบด




ใช้หม้อเทฟลอนก้นหนา เพราะว่าเวลาเคี่ยวจะได้ไม่ไหม้
เอาพริกแกงไปผัดกับหัวกะทิ 1 ถ้วย  ผัดให้เข้ากัน


หรี่เป็นไฟอ่อน ผัดไปอีก 10 นาทีจนกระทั่งกะทิแตกมัน ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป


ผัดให้ถั่วบดเข้ากับพริกแกง เติมหางกะทิตามด้วยน้ำจนกระทั่ง ได้เป็นน้ำสะเต๊ะข้นๆ  เร่งเป็นไฟกลาง


พอเดือด  ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึก น้ำมะขามเปียก และ เกลือ ปรุงให้มีรสหวานนำ 
หรี่เป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปอีก 10 นาที ดับไฟ


ปิ้งหมูสะเต๊ะ
เอาหางกะทิมาผสมกับขมิ้น เพื่อพรมสะเต๊ะตอนปิ้ง เนื้อสะเต๊ะจะได้ไม่แห้ง


เอาหมูที่หมักไว้ไปย่างที่เตาบาร์บีคิว ตอนย่างให้พรมน้ำกะทิผสมขมิ้นไปด้วย


หมูสะเต๊ะ


หั่นหมูเป็นชิ้นเล็ก


ทานพร้อมน้ำจิ้มสะเต๊ะ


สะเต๊ะหมูสามชั้นเนื้อจะชุ่มฉ่ำกว่าสะเต๊ะสันคอหมู   ส่วนใหญ่จะชอบสามชั้นกันมากกว่า
น้ำจิ้มสะเต๊ะข้นกำลังดี
แนมสะเต๊ะด้วย อาจาก และ หอมแขก (ลืมถ่ายภาพ)

ครั้งหน้าจะลองใช้สามชั้นที่หั่นบางแบบหมูกระทะมาทำสะเต๊ะ น่าจะอร่อยกว่า




 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 4 พฤษภาคม 2558 10:14:53 น.   
Counter : 2301 Pageviews.  


น้ำจิ้มสะเต๊ะ

เครื่องปรุง
- ตระใคร้ 2 ต้น
- หัวกระทิ 1 ถ้วย
- น้ำมะขามเปียก
- น้ำตาลปึก 4 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ
- ถั่วลิสงเลาะเปลือกคั่ว 600 กรัม

พริกแกง
- ข่า 12 แว่น
- หอมแดง 100 กรัม
- กระเทียม 50 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแห้ง 10 ดอก
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องปรุงพริกแกง และ พริกแห้งแช่น้ำให้นิ่ม


พริกแกงที่บดละเอียด


ถั่วลิลงเลาะเปลือกอบหรือคั่วให้สุก  นำไปบด




ใช้หม้อเทฟลอนก้นหนา เพราะว่าเวลาเคี่ยวจะได้ไม่ไหม้
เอาพริกแกงไปผัดกับหัวกะทิ 1 ถ้วย  ผัดให้เข้ากัน


หรี่เป็นไฟอ่อน ผัดไปอีก 10 นาทีจนกระทั่งกะทิแตกมัน ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป


ผัดให้ถั่วบดเข้ากับพริกแกง เติมหางกะทิตามด้วยน้ำจนกระทั่ง ได้เป็นน้ำสะเต๊ะข้นๆ  เร่งเป็นไฟกลาง


พอเดือด  ปรุงรสด้วยน้ำตาลปึก น้ำมะขามเปียก และ เกลือ ปรุงให้มีรสหวานนำ 
หรี่เป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปอีก 10 นาที ดับไฟ





 

Create Date : 09 กรกฎาคม 2557   
Last Update : 4 พฤษภาคม 2558 10:15:12 น.   
Counter : 2366 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  110  111  112  113  114  115  116  117  118  119  120  121  122  123  124  125  126  127  128  129  130  131  132  133  134  135  136  137  138  139  140  141  142  143  144  145  146  147  148  149  150  151  152  153  154  155  156  157  158  159  160  161  162  163  164  165  166  167  168  169  170  171  172  173  174  175  176  177  178  179  180  181  182  183  184  185  186  187  188  189  190  191  192  193  194  195  196  197  198  199  200  201  202  203  204  205  206  207  208  209  210  211  212  213  214  215  216  217  218  

swin
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 442 คน [?]




[Add swin's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com