ขนมจีนน้ำยาพม่า (Mo Hin Ga) แบบเพี้ยนๆ ถ้ามีคนถามถึงอาหารประจำชาติพม่า คนพม่าก็จะกล่าวถึง Mo Hin Ga ทันที Mo Hin Ga คือขนมจีนน้ำยาที่ทำจากปลา ไม่มีกระทิ จะเรียกว่าน้ำยาป่าก็ได้ ชาวพม่าจะทาน Mo Hin Ga กันในตอนเช้า ร้าน Mo Hin Ga ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแผงลอย อยู่ตามข้างถนน ราคาก็ชามละ 200 - 500 จัต (ประมาณ 6 - 15 บาท) ถ้า 500 จัตก็จะเป็น Mo Hin Ga ในร้าน ตามโรงแรม 5 ดาว บางวันก็อาจจะมี Mo Hin Ga เป็นอาหารเช้าด้วย น้ำยา Mo Hin Ga จะใช้ปลาน้ำจืดเป็นหลักพวก ปลาดุก ปลาช่อน ผักที่ใส่ในน้ำยาก็จะเป็น หยวกกล้วย (ใส้ในต้นกล้วย) และใช้พวกแป้งถั่ว (Chickpea floor) หรือ ข้าวคั่วเพื่อทำให้น้ำแกงข้น จากนั้นก็โรยหน้าด้วย ถั่วเหลืองทอด ไข่ต้ม ปลาเส้นทอด ปลาท่องโก๋ ผักชี ปรุงรสด้วยพริกป่น และมะนาว ไปที่เมืองย่างกุ้ง ก็ให้เพื่อนชาวพม่าพาไปชิม Mo Hin Ga เพื่อนก็พาไปทานที่ร้าน Sein Oo ซึ่งเป็นร้านที่ทำ Mo Hin Ga ได้รางวัลชนะเลิศ ไปถึงร้านก็ตกใจ เพราะเป็นเพิงข้างถนน แต่ทำ Mo Hin Ga ได้อร่อยมาก ภาพ Mo Hin Ga ของร้าน Sein Oo จะเห็นหยวกกล้วยชัดเจนในน้ำยา หม้อน้ำยา Mo Hin Ga หม้อขนาดใหญ่มาก เพราะร้านนี้ขายดีมาก ลูกค้าเยอะ อร่อยดี วันรุ่งขึ้นก็เดินเล่นตอนเช้าไปเห็นร้านขาย Mo Hin Ga ท่าทางสะอาดดี ก็เลยแวะชิมอีกครั้ง เพราะชักติดใจ อยากจะรู้รสชาติแบบต่างๆ ของ Mo Hin Ga ร้าน Mo Hin Ga เครื่องปรุงโรยหน้า Mo Hin Ga Mo Hin Ga ผักชี ถั่วฝักยาว โรยหน้า พริกป่นคั่ว หอมมาก ไม่ค่อยเผ็ด Mo Hin Ga ใน Trader Hotel รสชาติสู้ของชาวบ้านไม่ได้ แผง Mo Hin Ga ริมถนน ทาน Mo Hin Ga แล้ว กลับมาเมืองไทยก็มาลองทำ Mo Hin Ga ทานบ้าง โดยสอบถามสูตรจากภรรยาเพื่อนพม่า พร้อมทั้งค้นจาก web และ ตำราอาหารพม่า สูตร - ปลาช่อน 1 กก. - ตะใคร้ 2 - 3 ต้น เครื่องแกง ปรากฏว่าเป็นสูตรเดียวกันกับเครื่องแกงเผ็ดใต้ ประกอบไปด้วย พริกแห้ง หอม กระเทียม ตะใคร้ กะปิ ขมิ้น แต่จะมีขิงเพิ่ม เลยใช้เครื่องแกงปักษ์ใต้แทน เติมขิงลงไปด้วย 1 แง่ง - น้ำซุปจากการต้มปลาช่อน - หอมใหญ่ซอย 1 หัว - ข้าวคั่วป่น 1 ถ้วย คั่วข้าวให้หอมแล้วมาใส่ครกตำให้ละเอียด ถ้ามี แป้ง Chickpea ก็ใช้แทนข้าวคั่วได้ - หยวกกล้วย (หาไม่ได้ เลยไม่ใส่) ปลาช่อน ซื้อมา 2 ตัว มาแบ่งทำน้ำยาปักษ์ใต้ และ Mo Hin Ga พร้อมๆ กัน เพราะกลัวว่าคนที่บ้านอาจจะไม่ชอบ Mo Hin Ga ตั้งน้ำในหม้อ ใส่ตะใคร้ 2 ต้น พอน้ำเดือดก็ใส่ปลาช่อนลงไป ต้มจนปลาสุก ตกปลาขึ้นมา น้ำซุปปลาเก็บไว้ทำน้ำยา Mo Hin Ga ต่อ ปลาช่อนที่ต้มแล้ว แกะเนื้อปลาช่อนออกมา ตั้งหม้อใส่น้ำมันไป 5 ช้อน ใส่เครื่องแกงเผ็ดปักษ์ใต้ไป 3 ช้อน ขมิ้นผงอีก 1 ช้อนชา ไปผัดกับน้ำมันให้หอม เติมหอมใหญ่ซอยไปผัดให้สุก เติมเนื้อปลาช่อนสุกที่แกะไว้ลงไปผัดต่อ ผัดให้เนื้อปลาเข้ากับเครื่องแกง เติมน้ำซุปที่ต้มปลาช่อนไว้ลงไป จากนั้นก็เติม ข้าวคั่วป่น น้ำยา Mo Hin Ga และข้าวคั่ว น้ำยา Mo Hin Ga ก็จะข้นขึ้นเพราะข้าวคั่ว ปรุงรสด้วยน้ำปลา ถ้าชอบหวาน ถ้าชอบรสหวานก็เติมน้ำตาลปี้บลงไปด้วยก็ได้ รอจนเดือด น้ำยา Mo Hin Ga ก็เสร็จสิ้น ตักใส่ถ้วย น้ำยา Mo Hin Ga จะต่างกับที่พม่าตรงที่มีเนื้อปลาช่อนเยอะกว่ามากๆ สีเหลืองกว่า คงเป็นเพราะใส่ขมิ้นเยอะ น้ำยา Mo Hin Ga ของแท้สีคล้ำกว่า ตักราดขนมจีน โรยหอมเจียวไปนิด ทานกับ ไข่ต้ม ถั่วผักยาว และใบชะพลูทอด (แทนถั่วเหลืองทอด) พริกป่นไม่ได้ใส่เพราะน้ำยานี้รสเผ็ดจากเครื่องแกงปักษ์ใต้ น้ำยา Mo Hin Ga แท้รสอ่อน ไม่เผ็ด ต้องเติมพริกป่นคั่ว สรุป ทุกคนที่บ้านทานได้ น้ำยา Mo Hin Ga แบบเพี้ยนๆ หมดก่อนน้ำยาปักษ์ใต้ ครั้งหน้าจะลองทำใหม่โดยจะหา แป้ง Chickpea และ หยวกกล้วย มา รสชาติน่าจะดีขึ้น   Create Date : 27 ตุลาคม 2551     8 comment Last Update : 27 ตุลาคม 2551 18:43:19 น.     Counter : 13081 Pageviews.   Share Tweet

พะแนงซี่โครงหมูอ่อน ตอนกลับบ้านผ่านร้าน CP Freshmart ที่เพิ่งมาเปิด ก็แวะเข้าไปชมหน่อย ไปเห็นซี่โครงหมูอ่อนเป็นแพกเกจอย่างดี กก. ละ 140 บาท ก็เลยซื้อกลับมาบ้าน 1 ถุง ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรกับซี่โครงหมูอ่อนดี จะทอด อบ ตุ๋น ... ถึงบ้านแล้วทางบ้านก็อยากจะทานพวกแกงเผ็ดดู ก็ไปค้นในตู้เจอกระทิกล่องพอดี เลยมาทำพะแนงซี่โครงหมูอ่อนดีกว่า ทำง่ายๆ ซี่โครงหมูอ่อนของ CP นี้ ก็มีข้อดีคือ มาจากหมูปลอดสาร และ แพกมาจากโรงงานก็มีความสะอาดมาก นำเครื่องแกงเผ็ดใต้มา 3 ช้อนลงไปผัดในหม้อ เครื่องแกงเผ็ดใต้นี้จะมีสีเหลืองเพราะใส่ขมิ้น ผัดไฟอ่อนให้หอม นำซี่โครงหมูไปผัดกับเครื่องแกง ผัดให้ด้านผิวของเนื้อหมูสุก เติมน้ำร้อนลงไปให้ท่วมหมู พอเดือดก็หรี่ไฟเป็นไฟกลาง ไม่ต้องปิดขวา เพราะต้องการให้น้ำระเหยไปให้หมด ประมาณ 1 ช.ม. ตอนนี้ซี่โครงหมูก็จะเปื่อย เติมกระทิกล่องเล็กไป 1 กล่อง พอเดือดก็ปรุงรสแกง เติมใบโหระพา ใบมะกรูดลงไป ทิ้งให้กระทิแตกมัน ข้นอีกนิด ตักใส่ถ้วย ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยดี   Create Date : 21 ตุลาคม 2551     0 comment Last Update : 21 ตุลาคม 2551 18:10:29 น.     Counter : 9017 Pageviews.   Share Tweet

ปลาใบขนุนทอด ปลาใบขนุน เป็นปลาที่ทีรสชาติอร่อยมาก เป็นปลาราคาแพง คนรุ่นปัจจุบันคงจะไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่คนรุ่นก่อนจะรู้จักปลาใบขนุนทอดมีขายตามร้านข้าวต้ม ต่อมาปลาใบขนุนก็มีน้อยลง ราคาสูงขึ้นมาก ดังนั้นร้านข้าวต้มทั้งหลายก็เลยไม่มีปลาใบขนุนในรายการอาหารเลย แม้กระทั่งภัตตาคารจีนทั้งหลายก็จะไม่มีปลาใบขนุนในเมนูเลย ที่จำได้มีร้านอาหารในกรุงเทพร้านเดียวที่มีปลาใบขนุนทอดในเมนูคือ ร้าน "บ้านกลางน้ำ" แต่ไม่ได้ไปทานนานแล้ว ตอนนี้ก็ไม่รู้ยังมีหรือไม่ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนกลับมาจากกาญจนบุรี ก็มาแวะทานอาหารค่ำที่ ร้าน "ครัวประสิทธิ์" จังหวัดนครปฐม ทางร้านก็ตั้งปลาโชว์ไว้หน้าร้าน ก็ไปเห็นปลาใบขนุน แต่ก็ไม่แน่ใจต้องถามทางร้านว่าปลาอะไร ทางร้านก็ตอบอย่างภาคภูมิว่า ปลาใบขนุน โดยบอกชื่อเป็นภาษาจีนก่อน ต้องถามอีกครั้งถึงได้คำตอบว่าเป็นปลาใบขนุน ภาพปลาใบขนุนในตะกร้าทางซ้ายมือ ก็สั่งปลาใบขนุนทอดราดซีอิ้วมา 1 ตัว ราคา 300 บาท รสชาติอร่อยมาก คุยกับทางร้านเขาก็บอกว่าหาปลาใบขนุนมาได้ค่อนข้างจะยาก ไม่มีทุกวัน ราคาขายที่ตลาดก็ กก. ละ 400 บาท ที่ กทม. ก็ผ่านไปที่ ตลาดสามย่าน พอดีมีที่จอดรถ ก็เลยแวะเข้าไปดูหน่อยว่ามีอาหารทะเลอะไรน่าซื้อไปประกอบอาหารที่บ้านบ้าง ก็ไปเจอปลาใบขนุนพอดี ทางแผงขาย กก. ละ 350 บาท เลยซื้อมา 3 ตัว เพื่อไปทอดทานที่บ้าน น้ำหนักปลารวม 1.4 กก. ราคา 490 บาท ปลาใบขนุนที่แผงปลา ตลาดสามย่าน ปลาใบขนุนก็จะนำมาทอดจิ้มเต้าเจี้ยว 2 ตัว อีกตัวก็จะไปชุบขมิ้นทอด ปลาใบขนุนหมักขมิ้นและเกลือ ทอดปลาใบขนุน 2 ตัวก่อน ตามมาด้วยปลาใบขนุนทอดขมิ้น ปลาใบขนุนทอด ปลาใบขนุนทอดขมิ้น ปลาทอดทั้ง 3 ตัว สรุปอาหารทะเลซื้อมาทำทานที่บ้านถูกกว่าไปทานที่ร้านมาก แต่ต้องเป็นอาหารที่ทำง่ายๆ จ่ายไปไม่ถึง 500 บาท ก็ทานกันได้ทั้งบ้าน   Create Date : 21 ตุลาคม 2551     5 comment Last Update : 21 ตุลาคม 2551 15:23:45 น.     Counter : 12491 Pageviews.   Share Tweet

Frog Leg Paella ข้าวอบ-ขากบ ช่วงนี้เพิ่งจะกลับจากกาญจนบุรี ช่วงที่อยู่กาญจนบุรีก็ไปแวะทาน กบทอดกระเทียม กบผัดเผ็ด ที่ร้านกบทอด และ ที่ร้านหมอชูมา ระหว่างทานกบอยู่ก็นั่งคิดได้ว่า ขากบน่าจะมาทำ Paella ได้ ที่เสปนเขามี Paella หลายประเภท รวมทั้ง Chicken Paella และ Rabbit Pealla (กระต่าย) วันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปตลาดยิ่งเจริญที่สะพานใหม่ ไปที่บริเวณที่ขาย ปลาน้ำจืด จะมี กบขายด้วย ไปเลือกกบโดยดูที่น่องโตๆ มาได้ 7 ตัว หนัก 2 กก. จ่ายไป 140 บาท ได้กบมา รวม 14 ขา ล้างทำความสะอาด ตัดเอาเฉพาะขามา นำเอาเหล้า Masala และ เกลือ พริกไทยขาว มาหมักขากบ ไว้ก่อน ใส่ไว้ในตู้เย็น 3 ช.ม. ขากบที่หมักแล้ว ตั้งกระทะ Paella ใส่น้ำมัน นำขากบลงไปทอดก่อน ทอดให้สุก ตักใส่ชามไว้ก่อน เพราะจะนำไปวางเรียงด้านหน้า นำหอมใหญ่ซอยไปผัดพอสุก ก็เติมข้าวสารไปผัดต่อ ใส่มะเขือเทศ(ลอกเปลือก) สับ ลงไปด้วย เติมน้ำซุป น้ำหมักกบที่เหลืออยู่ ลงไป พร้อมทั้งปรุงรสด้วยเกลือ Paella ครั้งนี้ไม่ได้ใส่ Saffron ลงไปเพราะหาไม่เจอ เด็กที่บ้านไปเก็บไว้ เด็กไม่อยู่พอดี สีPaella เลยไม่เหลืองอร่าม รอจนน้ำซุปงวด ข้าวเริ่มสุก วางขากบเรียงบนข้าว ลดไฟลงเป็นไฟอ่อนๆ ทิ้งไว้ 10 นาที โรยใบหอมซอย Frog Leg Paella ก็เสร็จสมบูรณ์ ตักใส่จาน พร้อมน่องกบ 2 น่อง ทุกคนที่บ้านที่ทานกบก็บอกว่า อร่อยดี คนที่ไม่ทานก็ได้แต่นั่งมองเฉย   Create Date : 20 ตุลาคม 2551     3 comment Last Update : 20 ตุลาคม 2551 16:30:48 น.     Counter : 3754 Pageviews.   Share Tweet

เฝอราดหน้าหมูยอแบบย่าง และ เฝอราดหน้าเนื้อ เพิ่งกลับมาจากฮานอย และก็ได้ซื้อ หมูยอ-ย่างและเส้นเฝอกลับมาด้วย มาทำอาหารให้ที่บ้านทานกัน หมูยอที่เวียดนามจะมี 2 แบบ แบบแรกเป็นแบบต้มชาวเวียดนามเรียกว่า GIO (GI = Y) อ่านว่า "ยอ" เป็นหมูยอแบบที่เรารู้จักกัน ส่วนอีกแบบเรียกว่า CHA (ฉา) ก็นำหมูบด มาหั้นรอบกระบอกทรงกลม แล้วนำกระบอกนี้ไปย่างให้เนื้อหมูสุก โดยมีการหมุนกระบอกนี้ไปเรื่อย ระหว่างย่างก็ทาเครื่องเทศไปด้วย หมูยอ-ย่างนี้จะเป็นแผ่น รสชาติหอมดี เฝอมีขายในตลาดสดที่ฮานอย ราคา กก. ละ 8000 ดอง ประมาณ 17 บาท เฝอจะมีขนาดเส้นใกล้เคียงกับเส้นเล็กสำหรับทำผัดไทย แต่บางและนิ่มแบบเส้นใหญ่ สำหรับทำก๋วยเตี๋ยวน้ำ (เส้นใหญ่สำหรับทำราดหน้าจะหนากว่า) เฝอที่ฮานอยจะทานกับ 2 แบบ คือ เฝอน้ำเนื้อหรือไก่ และ เฝอราดหน้าเนื้อ เฝอสดในเข่ง แผงขาย เฝอ และ บุ๋น (ขนมจีน) ในตลาดสด เส้นเฝอจะติดกันเป็นมัดๆ ต้องนำเส้นเฝอมาทำการแบ่งออกเป็นเส้นๆ จากนั้นก็จัดการผัดเส้นให้หอม เติมซีอิ้วดำหน่อย ตักใส่จานรอไว้ หั่นหมูยอเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ ใส่จานรอไว้ ตั้งกระทะใส่น้ำมัน 3 - 4 ช้อน ใส่กระเทียมสับไปผัดให้หอม นำหมูยอลงไปผัด ใส่ผักกวางตุ้งใต้หวัน เติมน้ำซุป ปรุงรสด้วย น้ำมันหอยเล็กน้อย ซีอิ้วขาว เหล้าจีน 2 ฝา และใส่แป้งมันฮ่องกง (ละลายน้ำก่อน) ลงไปทำให้ข้น เรียบร้อยตักราดใส่ในจาน เฝอราดหน้าหมูยอ-ย่าง สำหรับคนไม่ทานเนื้อ จากนั้นก็ทำเฝอราดหน้าเนื้อ (ของโปรด) เนื้อวัวหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่ต้องหมักอะไรทั้งสิ้น เพราะต้องการทานรสชาติแท้ของเนื้อ คล้ายกับการทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดรสเด็ด ก็จัดการทำแบบเดียวกับการผัดราดหน้าหมูยอ แต่ใส่ผักกวางตุ้งเยอะหน่อย ที่บ้านเราหาเส้นเฝอไม่ได้ ให้ใช้เส้นใหญ่สำหรับทำก๋วยเตี๋ยวน้ำแทน เส้นบาง นิ่ม คล้ายๆ กัน   Create Date : 24 กันยายน 2551     6 comment Last Update : 24 กันยายน 2551 17:37:42 น.     Counter : 5791 Pageviews.   Share Tweet