ปอเปี้ยะหมู-ไข่แดง แบบ Tunesia เมนูนี้ได้มาจากอาหารของ Tunesia ชื่อว่า Brik แต่อ่านออกเสียงว่า บรีก (ออกเสียงยาวๆ หน่อย) ไปอ่านเจอในแมกกาซีน Gourmet ลักษณะเป็นแป้งบางๆ ใส้เป็นปลาทูนา และ ไข่ แต่มาดัดแปลงโดยใช้แป้งปอเปี้ยะ และใช้หมูสับแทนทูนา เพราะไม่มีปลาทูนาอยู่ที่บ้านเลย เริ่มจากการปรุงหมูสับก่อน ปรุงแบบตามชอบ ใส่กระเทียม รากผักชี พริกไทย ซีอิ้ว เหล้าจีน น้ำมันงา นำหมูมาปั้นเป็นวงแหวน วางบนแผ่นปอเปี้ยะ ทางด้านครึ่งของแผ่น ปั้นหมูสับให้มีพื้นที่ตรงกลาง บนแป้งปอเปี้ยะ พื้นที่ว่างจะสำหรับใส่ไข่ ใส่ไข่แดงลงไป ในตรงกลางหมูสับ ตำรับเดิมเขาจะใส่ไข่ทั้งฟอง ใช้ไข่ขาวทาที่ขอบแผ่น พับแป้งปอเปี้ยะมาทับกัน เป็นรูปครึ่งวงกลม นำลงไปทอดในกระทะ ใช้น้ำมันพอท่วมแผ่นปอเปี้ยะเท่านั้น พอด้านล่างสุก เกรียม ก็ พลิกปอเปี้ยะ จากนั้นก็ลองทำใส้เห็ดเข็มทองสับ แทนหมูสับ เพราะมีคนไม่ทานเนื้อ ใช้เห็ดเข็มทองสับคลุกกับไข่ขาวและแป้งสาลีเล็กน้อย ปรุงรส เรียบร้อย เสริฟได้ ทั้งแบบหมูสับ และแบบมังสะวิรัต สำหรับน้ำจิ้มก็ตามสะดวกแล้วกัน ชอบแบบใหนก็จิ้มได้ทั้งนั้น เพื่อนๆ ลองทำดูได้เลย ง่ายๆ เด็กๆ ชอบมาก ผู้ใหญ่ก็ชอบ ทานเป็นอาหารเที่ยงกับ สลัดผัก จะเข้ากันดีมากเลย   Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2552     5 comment Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2552 14:03:47 น.     Counter : 3504 Pageviews.   Share Tweet

หอยลายอบเหล้าสาเก เมนูง่ายๆ เพื่อทานรสของหอยลายแท้ๆ โดยใช้เครื่องปรุงน้อยมาก - หอยลาย 1 กก. เลือกหอยลายตัวโตๆ - เหล้าสาเก 4 ช้อน หรือ 1/2 ถ้วย - มะนาว 1 ผล คั้นน้ำ หอยลายตัวโต ประมาณ 4 ซ.ม. นำหอยลายไปล้างน้ำและแช่น้ำไว้ประมาณ 30 นาที - 1 ช.ม. เพื่อให้หอยคายพวกเม็ดทรายออกมา จากนั้นก็นำหอยใส่ไปในหม้อ เติมเหล้าสาเกลงไป ตั้งไฟประมาณ 5 นาที หอยก็จะสุก เติมน้ำมะนาวลงไป กวนให้เข้ากัน ดับไฟ เหล้าสาเก ใช้ของไทย สำหรับทำอาหาร ราคาประมาณ 30 บาท ถ้าเป็นเหล้าสาเกจากญี่ปุ่นราคาจะแพงกว่านี้มาก การเติมน้ำมะนาวนี้จะไปขจัดกลิ่นคาวของหอยลาย ตักใส่จาน ถ้าชอบรสซีอิ้วญี่ปุ่น ก็เติมซีอิ้วไป 2 ช้อน หลังจากเติมน้ำมะนาว ถ้าไม่มีเหล้าสาเก ก็ใช้ไวน์ขาวได้ เป็นหอยลายอบไวย์ขาวแทน หรือใช้เหล้า Sherry ของเสปนแทนก็ได้ ถ้าทานมากกว่า 2 คน แนะนำให้ใช้หอยลาย 2 กก.   Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552     3 comment Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 18:24:42 น.     Counter : 7308 Pageviews.   Share Tweet

วุ้นเส้นปลาดุกฟู วุ้นเส้น (Mien - เมี่ยน) จะเป็นอาหารพวกเส้นอีกอย่างที่เป็นที่นิยมของชาวเวียดนาม แต่ก็เป็นรองจาก เฝอ (ก๋วยเตี๋ยว) และ บุ๋น (ขนมจีน) ชาวเวียดนามจะทาน วุ้นเส้นแบบวุ้นเส้นน้ำและแห้ง (แบบก๋วยเตี๋ยวน้ำและแห้ง) และ ยังมีวุ้นเส้นผัดด้วย ตามร้านอาหารทะเล จะมีวุ้นเส้นผัดปู ที่เป็นอาหารยอดนิยม วุ้นเส้นที่ฮานอย จะมี MIEN LUON หรือ วุ้นเส้นปลาไหลทอด (LUON คือ ปลาไหล) เขาเอาแล่เอาเนื้อปลาไหลไปชุบแป้งบางๆ แล้วทอดให้กรอบ หน้าตาก็ออกมาเป็นเส้นๆ สีดำ มีทั้งแบบน้ำและแห้ง ปรุงแล้วออกมาเป็นวุ้นเส้นต้มยำแบบของไทยๆ เลย ทานพร้อมปลาไหลทอดกรอบอร่อยดี //www.bloggang.com/mainblog.php?id=chim&month=19-01-2009&group=5&gblog=16 Mien Luon มาเมืองไทยก็ติดใจ Mien Luon นี้ แต่หาปลาไหลทอดไม่ได้ ลองเปลี่ยนเป็นปลาดุกฟูแล้วกัน เพราะทานแล้วกรุบๆ ปลาดุกฟูเนื้อหวานและกรอบ กรุบๆ เลยได้เมนูใหม่ขึ้นมาเป็น "วุ้นเส้นปลาดุกฟู" เมนูนี้ ก็ต้องเตรียมปลาดุกฟูก่อน ไปตลาดก็ไปซื้อปลาดุกย่างมา 4 ตัว เพราะทานกันหลายคน ตัวละ 25 บาท 4 ตัว 100 บาท แกะเนื้อปลาดุกย่างออก เอาแต่เนื้อ ไม่เอาหนัง ขยี้เนื้อให้เป็นชิ้นเล็กๆ ละเอียด ตั้งกระทะใส่น้ำมันเยอะๆ พอน้ำมันร้อนก็ใส่เนื้อปลาดุกลงไป ใส่ทีละนิด เนื้อปลาดุกจะติกกันเป็นแพ กรอบ ตอนทอดปลาดุกก็ให้ระวังน้ำมันไว้ด้วย เพราะน้ำมันจะกระเด็นออกมานอกกระทะ จากความชื้นของปลาดุกย่าง ทอดปลาดุกจนหมด จัดใส่จานไว้ วุ้นเส้นให้ใช้ยี่ห้อ ท่าเรือ หรือ ต้นสน เพราะเส้นจะไม่เปื่อย ตอนลวกให้ใช้เวลานิดเดียวเท่านั้น วุ้นเส้นก็จะนิ่มแล้ว เอาน้ำมันหอมเจียวไปคลุกไว้ ไม่ให้เส้นติดกัน อาหารเวียดนามก็ต้องมีผักสด เครื่องปรุงบนโต๊ะก็จะมี น้ำพริกเผา ใบมะกรูดหั่นละเอียด ถั่งลิสงป่นหยาบๆ พริกป่น น้ำปลา มะนาว น้ำตาล ลวกวุ้นเส้น คลุกน้ำมัน โรยปลาดุกฟู และ ใส่เครื่องปรุงทั้งหลาย วุ้นเส้นปลาดุกฟู รสชาติออกมาใช้ได้เลย รสปลาดุกฟูกรอบ กรุบๆ ไม่ได้ต่างกับปลาไหลทอดของเวียดนาม เมนูนี้ทุกคนที่ทานสรุปว่า เป็นการทานยำวุ้นเส้นปลาดุกฟู   Create Date : 19 มกราคม 2552     1 comment Last Update : 20 มกราคม 2552 17:02:43 น.     Counter : 4448 Pageviews.   Share Tweet

มะเขือม่วงนึ่งหมูสับ เมนูนี้ได้มาจากร้านข้าวแกงที่ ฮานอย เวียดนาม ที่เวียดนาม ก็จะมีร้านข้าวแกงเหมือนที่เมืองไทยเหมือนกัน ในร้านก็จะมีอาหารใส่ถาด หม้อ ให้เลือก ร้านใหญ่ก็มีอาหารให้เลือกเยอะประมาณ 20 - 30 อย่าง ร้านเล็กก็ประมาณ 10 อย่าง ส่วนใหญ่ชาวเวียดนากก็จะทานเป็นอาหารมื้อเที่ยงกัน มือค่ำก็ยังมีร้านข้าวแกงเปิดบ้างแต่ไม่เยอะ สูตร - มะเขือม่วง 1 ลูกใหญ่ ประมาณ 400 กรัม - หมูสับ 300 กรัม - หอมใหญ่ซอยละเอียดกระเทียม - รากผักชี - ไข่ 1 ฟอง - แป้งมัน 1 ช้อน - น้ำปลา มะเขือม่วง ปอกเปลือกมะเขือม่วง แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ประมาณ 1 ซ.ม. ใส่น้ำมันพืช 1 ช้อน และ เกลือ 1 ช้อนชา ไปคลุกกับมะเขือ หมักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง เตรียม หมูสับ หอมใหญ่ซอย แป้งมัน ไข่ น้ำปลา คลุกให้เข้ากัน อาหารเวียดนามนี้จะใช้น้ำปลาในการปรุงรส ไม่ใช้ซีอิ้ว จากนั้นก็นำถ้วยขนาดใหญ่มา 2 ใบ เอาน้ำมันพืชทาที่ถ้วยก่อน เพื่อที่หมูจะได้ไม่ติดกับถ้วย ใส่มะเขือลงไปที่ก้นถ้วยก่อน เอาหมูสับปิดทับมะเขือ นำไปนึ่ง 30 นาที นึ่งสุกเรียบร้อย ใช้ซ่อมแซะตามขอบด้วยให้หมูไม่ติดกับถ้วย เอาจานปิดถ้วยแล้วคว่ำถ้วยบนจาน ก็จะได้ มะเขือม่วงนึ่งหมูสับ ออกมาสวยงาม   Create Date : 14 มกราคม 2552     6 comment Last Update : 14 มกราคม 2552 18:23:23 น.     Counter : 3485 Pageviews.   Share Tweet

พอร์คชอป และ สันคอหมู ราด ซอส Balsamic Vinegar. สูตรอาหารจากอิตาเลียน ซอส Balsamic Vinegar จะมีรสเปรี้ยวอมหวาน ตามรสของน้ำส้ม Balsamic เมนูนี้ น่าจะตั้งชื่อว่า "หมูเปรี้ยวหวานอิตาเลียน" จะได้ดู ไฮโซหน่อย พอร์คชอปเปรี้ยวหวานอิตาเลียน สันคอหมูเปรี้ยวหวานอิตาเลียน สูตร - พอร์คชอป (สันนอกหมู) หรือ สันคอหมู (เลือกเอาได้) ประมาณ 700 กรัม - หอมใหญ่ซอยละเอียด 2 หัว (ถ้าใช้ หอมแขก จะได้รสดีกว่า แต่ต้องใช้ 4 - 5 หัว) - น้ำส้มสายชู Balsamic 2/3 ถ้วย - น้ำตาลเล็กน้อย - น้ำซุปหมู 1/2 - 1 ถ้วย - เกลือ - พริกไทย พอร์คชอป คือ สันนอกหมูที่ติดซี่โครงมาด้วย ต้องไปซื้อที่ฟูดแลนด์หรือวิลลา ถึงจะมีขาย (แพง) แต่ ใช้หมูสันนอกแทนได้เลย เพียงแต่ความสวยงามมันต่างกันเท่านั้น หมูสันคอ มีขายทั่วไป เนื้อหมูจะเหนียวกว่าสันนอกหมู แต่ถ้าเคี่ยวให้เปื่อย เนื้อจะอร่อยกว่าสันนอกเพราะมีไขมันมากว่า นำเนื้อหมูมาคลุกเกลือและพริกไทยดำก่อน ตั้งกระทะ ไฟกลาง ใส่น้ำมันไป 2 - 3 ช้อน ทำการทอดหมูก่อน ทอดพอสุกเท่านั้น เพราะจะนำหมูไปเคี่ยวในน้ำซอสทีหลัง ทอดหมูสันนอก หมูสันคอ หมูที่ทอดเสร็จแล้ว นำหอมใหญ่ซอยไปผัดในกระทะประมาณ 5 นาที ไฟอ่อนกลาง จนกระทั่งหอมสุก เติมน้ำส้มสายชู Balsamic ลงไป น้ำส้มสายชู Balsamic หอมใหญ่ผัดใส่น้ำส้มสายชู Balsamic ตอนนี้ก็ให้ชิมน้ำซอสในกระทะก่อน เพราะน้ำส้มสายชู Balsamic นี้ รสชาติของแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันไป อาจจะเปรี้ยวมาก เปรี้ยวน้อย หวานมาก หวานน้อย จากนั้นก็ปรุงรส ด้วยน้ำตาล และ เกลือ รสน้ำซอสนี้จะเปรี้ยวนำ ตามด้วยหวาน นำหมูลงไปเคี่ยวในน้ำซอส พร้อมกับใส่น้ำซุปลงไปในซอสให้ท่วมหมู เคียวด้วยไฟอ่อน พอร์คชอป เคี่ยวประมาณ 5 นาที ตักขึ้นใส่จาน ได้เลย ส่วนสันคอหมูนั้นต้องเคี่ยวประมาณ 20 นาที จนนิ่ม ตักขึ้นใส่จาน น้ำซอสในกระทะก็เร่งไฟให้แรง เพื่อให้ข้น จากนั้นก็ตักราดหมู พอร์คชอปเปรี้ยวหวานอิตาเลียน สันคอหมูเปรี้ยวหวานอิตาเลียน อาหารจานนี้ก็จะหอมรสเปรี้ยวหวานของน้ำส้มสายชู Balsamic หาน้ำส้มสายชู Balsamic ดีๆ ก็จะชูรสได้อีกมาก น้ำ ส้มสายชู Balsamic นี้มีขายที่วิลลา ฟูดแลนด์ คาร์ฟู ราคาก็มีแบบถูกและแพง และ แพงมากๆๆๆ (บ้านเราไม่มี) ที่แพงมากๆๆๆๆ นี้เขาไปทำขนมหวานทาน เมนูนี้ จะใช้กระดูกหมูอ่อนทำก็ได้ แต่ หมูสามชั้นไม่แนะนำ ไม่ค่อยจะเข้ากับรสเปรี้ยวหวาน ทานกับข้าวสวย หรือ ขนมปังตามสะดวก กระดูกหมูอ่อนและหมูสามชั้น เปรี้ยวหวานอิตาเลียน ที่ลองทำดู   Create Date : 13 มกราคม 2552     3 comment Last Update : 13 มกราคม 2552 19:27:16 น.     Counter : 14215 Pageviews.   Share Tweet