Chill up's Blog คร้าบบบบ ^^
Group Blog
 
All Blogs
 

ไหว้พระที่อยูธยา (วัดใหญ่ชัยมงคลและวัดไชยวัฒนาราม)

ต้องไปทำงานที่อยุธยาตั้งแต่เดือนสิงหาปี 52
ไปเช้าเย็นกลับ มีเวลาว่างแค่ตอนเที่ยง1ชั่วโมง และตอนเย็นหลังเลิกงานอีกชั่วโมงกว่าๆ
เลยไปเก็บภาพวัดต่างๆมาได้นิดหน่อย
วัดที่ได้ไปคือวัดใหญ่ชัยมงคล และวัดไชยวัฒนาราม


วัดใหญ่ชัยมงคล
เดิมชื่อวัดป่าแก้ว หรือ วัดเจ้าไท ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร ปัจจุบันเป็นพื้นที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้ว ภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2544 อีกด้วย
(ที่มา: วิกิพีเดีย)


ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อไร แต่คาดว่าประมาณ พ.ศ. 2443 เป็นที่พำนักของพระภิกษุคณะป่าแก้ว ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธานสงฆ์ จึงได้ชื่อว่า วัดเจ้าพระยาไทยคณะป่าแก้ว


















วัดไชยวัฒนาราม
วัดไชยวัฒนาราม ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2173 โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นบนที่ที่เป็นบ้านเดิมของพระองค์เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา แต่ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือนครละแวกโดยจำลองแบบมาจากปราสาทนครวัด
(ที่มา: วิกิพีเดีย)




































หมดแล้วคร้าบบบ




 

Create Date : 19 เมษายน 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 14:59:09 น.
Counter : 3021 Pageviews.  

ลพบุรี: หุบเขาทานตะวัน

ทริปนี้ไปกับเพื่อนๆเมื่อปลายปี50
เป็นทริปคนโสด ไม่มีอะไรทำ เลยพากันไปดูดอกทานตะวัน กับไปพักไร่องุ่นที่บ้านเพื่อนแถวๆ โคราช








ดอกทานตะวันยาวสุดลูกหูลูกตา










รีวิวนี้พูดน้อย ดูรูปอย่างเดียวครับ :)




ไปเที่ยวต่อที่ไร่องุ้นของบ้านเพื่อน อยู่แถวๆโคราช
บรรยากาศบ้านๆ แต่ได้อากาศเย็นและวิวที่สวยงาม อืมมมม ชิวได้อีก


































หมดแล้วครับ
เป็นรีวิวที่พูดน้อยที่สุดละ ^^




 

Create Date : 14 เมษายน 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 14:56:27 น.
Counter : 1528 Pageviews.  

พาไปเดินเล่นที่เมืองโบราณ

อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เพื่อนสนิทเลยชวนไปถ่ายรูปเล่นที่เมืองโบราณ
อยู่ใกล้แค่นี้ แต่ไม่เคยคิดจะไป ... เอ้า ลองไปดูซักทีเนอะ
ไปมาเมื่อปลายปี 51 เพิ่งมีโอกาสเอามาลง :p

เมืองโบราณ ก่อสร้างโดยคุณ เล็ก วิริยะพันธุ์ (ผู้ก่อตั้งวิริยะ ประกันภัย) ซึ่งเป็นผู้สร้างปราสาทสัจธรรมที่พัทยาด้วย

จุดประสงค์ที่คุณเล็ก ได้สร้างเมืองโบราณขึ้นเพื่อรักษาและเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ให้คนรุ่นหลังได้รับรู้


การเดินทาง
เมืองโบราณตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท(สายเก่า)
-ถ้ามาทางเส้นสุขุมวิท (เอาเป็นว่ามาจากเอกมัย) มุ่งหน้าไปทางบางนา ให้ตรงข้ามสี่แยกสุขุมวิท-บางนาตราด วิ่งเลยโรงเรียนนายเรือ เมื่อถึงศาลากลางจังหวัดสมุทราปราการ ให้เลี่ยวซ้าย วิ่งผ่านช้าง3เศียรไป วิ่งตรงไปเรื่อยๆ เลยห้าง Big C เลยฟาร์มจรเข้ แล้วมองด้านซ้ายหาป้ายที่บอกว่าเมืองโบราณ
-ถ้ามาจากถนนศรีนครินทร์(หน้าห้างซีคอนละกัน) ตรงไปทางเทพารักษ์ลูกเดียว ตรงจนสุดถนน จนเจอ3แยกถนนสุขุมวิท(สายเก่า) ให้เลี้ยวซ้าย วิ่งตรงไปเรื่อยๆ เลยห้าง Big C เลยฟาร์มจรเข้ แล้วมองด้านซ้ายหาป้ายที่บอกว่าเมืองโบราณ


ภายในเมืองโบราณ
จะเป็นของจำลองเรื่องราว หรือสถานที่ตามภาคต่างๆ มารวมไว้ในที่เดียว
















อันนี้ถ้าจำไม่ผิด คือวิหารพระศรีสรรเพชญ อยุธยา อยู่ในโซนภาคกลางครับ
(คือที่นี่ เค้าจะแบ่งเป็นโซนตามภาคต่างๆ เหนือ กลาง อีสาน ตะวันออก ใต้)






















ขบวนเรือพระที่นั่ง จำลอง




อันนี้ จำลองวังที่พม่ามาเรย










ภายใน


รูปมุมกว้างเยอะหน่อยครับ
ช่วงนั้นเพิ่งไปถอยเลนส์ไวด์มา (10-22)
เลยเอามาลองดูซะหน่อย




รูปนีคืออนุสรณ์สถานสงครามยุทธหัตถี




พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท




ภายในพระที่นั่ง










พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพฯ


รูปสุดท้ายของเมืองโบราณแล้วครับ
ตอนที่ไป แม้ว่าเป็นปลายปี แต่อากาศค่อนข้างร้อน
ผมไปตอนบ่ายๆแล้วด้วย เลยเดินได้ไม่นาน
บริเวณที่นี่กว้างมากมาย มีจักรยานให้เช่าได้ด้วย หรือจะเสียค่านำรถเข้าก็ได้(แนะนำอย่างหลังมากกว่า)

เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ฝึกถ่ายรูปครับ
มีlocationและมุม ให้ถ่ายมากมายได้ทั้งวัน


ตกแย็นแอบไปนั่งกินข้าวที่ร้านประจำ
ระเบียงทำเล
บรรยากาศดี อาหารสด
















หมดแล้วคร้าบบ
ลาละคร้าบบบบ
ไว้เจอกันรีวิวหน้านะครับ ^ ^




 

Create Date : 11 เมษายน 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 14:53:24 น.
Counter : 5002 Pageviews.  

สวนผึ้ง: เป็นเด็กเลี้ยงแกะที่ The Scenery + บ้านหอมเทียน

หลังจากได้มีโอกาศมาพักที่สวนผึ้ง3คืนกับ3 resorts
(La Toscana, Panalee, บ้านอ้อมกอด)
ก็ได้มีโอกาศมาเล่นกับแกะที่ The Scenery และทานอาหารเย็นที่นี่

ก่อนกลับก็มีโอกาศแวะไปชมบ้านหอมเทียน ที่มีขายเทียนน่ารักๆ ราคาไม่แพง

ลองไปชมกันครับ
The Scenery Resort


แกะน้อยคอยรัก ^ ^


ส่วนของห้องอาหาร
ถ้าใครมาทานวันเสาร์ แนะนำนะครับ เมื่อมาถึงให้จองโต๊ะก่อนเลยแล้วค่อยไปเล่นกะน้องแกะ
จะได้เลือกโต๊ะที่มีวิวดีที่สุด








มองจากโต๊ะที่ผมนั่งทานอาหารครับ


ภายให้ห้องอาหาร Honey Scene




เสต๊กเนื้อ อร่อยมากกกก
ราคาอาหารที่นี่จะแพงหน่อยนะครับ
แต่ไม่ต้องสั่งเยอะนะครับ จานเดียว อิ่มแน่นอน
(แฟนสั่งเสต็กปลาซัลม่อน ทานไม่หมดอะ)


วิวยามค่ำ


พระจันทร์หลบใน


หน้าร้านขายของด้านหน้า ชื่อ Sheepie Sheep




หมดแล้วคร้าบบบบบบ


ไปต่อกันที่บ้านหอมเทียนครับ
ถ้ามาจากตัวเมืองราชบุรีมุ่งหน้าไปอำเภอสวนผึ้ง
บ้านหอมเทียนจะอยู่ก่อนแยกภูผาผึ้ง (ทางแยกไป The Scenery และพนาลี) นิดเดียวเอง ร้านอยู่ด้านขวามือนะครับ
(ไก่ย่างที่นี่อร่อยมาก แต่รออาหารนานมากกกก)






เทียนเยอะมากกก ราคาถูกด้วย


เห็นพี่เจ้าของร้านบอกว่า
มีบางอันที่ส่งไปขายที่ห้าง Harrods กรุงLondon ด้วย
แฟนผมซื้อมาแพ๊คนึงไม่ถึง 50 บาทมั้ง
แต่ที่ Harrods คงหลายปอนด์






มุมประชาชน
เห็นทุกรีวิวกับรูปนี้
ขอเกาะกระแสบ้างคร้าบบบ


อีกสักรูป




แกะน้อยทำจากเทียน (แต่น่ากลัวเล็กน้อย!)

























หมดแล้วครับ
ลากันด้วยภาพนี้คร้าบบ




 

Create Date : 08 เมษายน 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 14:48:01 น.
Counter : 2118 Pageviews.  

น่าน: Road Trip to น่าน (พาเที่ยวหอศิลป์ริมน่าน ดอยภูคา บ่อเกลือ ภูฟ้า ถนนลอยฟ้า แพะเมืองผี(แพร่)

ออกจากตัวเมืองน่านก็บ่ายแก่ๆแล้ว จุดหมายคือบ่อเกลือวิวรีสอร์ต (อำเภอบ่อเกลือ) ซึ่งอยู่ติดชายแดนลาว ที่มีแค่ทิวเขาขวางกั้นระหว่างไทย-ลาว

รู้จักบ่อเกลือวิวรีสอร์ตจากคุณน้าที่เคยไปมาก่อนเมื่อ2-3ปีที่แล้ว แล้วกลับมาเล่าบรรยากาศให้ฟัง ว่าเป็นบ้านอยู่บนภูเขา มีนาขั้นบันไดเล็กๆในตัวรีสอร์ตเลย อาหารอร่อย เมืองสงบ เลยทำให้อยากไปมากๆ

ผมเดินทางออกจากตัวเมืองน่าน เดินทางมุ่งหน้าไปอำเภอท่าวังผา
ผ่านอำเภอปัว และเข้าที่หมายที่อำเภอบ่อเกลือ รวมระยะทางจากเมืองน่านถึงบ่อเกลือประมาณ 133 กม. แต่ใช้เวลาเดินทางมากกว่า 2ชม เพราะจากปัวไปบ่อเกลือเป็นทางขึ้นลงเขาเหมือนไปปายเลย

(จริงๆแล้ว ผมแวะพักที่อำเภอท่าวังผา ชื่อ The Water Side Resort 1 คืน
ที่นี่เป็นที่พักริมอ่างเก็บน้ำอันสวยงาม เช่นเดียวกับบ่อเกลือวิว ขอแยก2ที่พักนี้ เป็นอีกรีวิวอยู่ในกลุ่ม Hotel ที่พักนะครับ)

ตามทางก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวในชมมากมาย ผมจะพาไปเยี่ยมเยียน หอศิลป์ริมน่าน ก่อนจะดูดอกชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา และไปที่อำเภอบ่อเกลือไปดูการทำเกลือสินเธาว์บนภูเขาแห่งเดียวในประเทศไทย




หอศิลป์ริมน่านเป็นสถานที่จัดแสดงงานศิลปะร่วมสมัย ก่อตั้งขึ้นด้วยแรงบันดาลใจและวิสัยทัศน์ของ วินัย ปราบริปู ผู้ศึกษาด้านจิตรกรรมจากมหาวิทยาลัยศิลปากร
ที่นี่เปิดทุกวันยกเว้นวันพุธนะครับ (เวลาเปิด/ปิดคือ 9.00-17.00)


มีภาพต่างๆมากมาย






อาร์ตมากๆๆ












ลายเส้นคุ้นๆไม๊ครับ :)




Long live the King


เฮือนศรีนวล เป็นร้านขายของที่ระลึกและร้านกาแฟภายในหอศิลป์ริมน่านครับ


บรรยากาศภายในเฮือนศรีนวล


เฮือนยอดหล้า ขายพวกเครื่องปั้นดินเผา
อยู่ใกล้ๆกับเฮือนศรีนวล



ภายในเฮือนยอดหล้า


ภาพฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพๆ ครับ


รูปวาดเลียนแบบภาพ'กระซิบ' ที่อยู่ที่ผนังของวัดภูมินทร์




ออกมาด้านนอกบ้างครับ


ระหว่างทางเดินทางไปอำเภอบ่อเกลือครับ
รูปนี้อยู่แถวๆอำเภอปัว เป็นทางผ่านก่อนไปบ่อเกลือ

ถึงที่นี่แนะน้ำให้หาข้าวทาน เติมน้ำมันให้เต็ม และกดเงินสดไว้นะครับ
เพราะระหว่างทางไปบ่อเกลือ เป็นทางขึ้นลงภูเขาตลอด ไม่มีร้านอาหารจนถึงบ่อเกลือ ไม่มีปั้มน้ำมัน (ที่บ่อเกลือเองเห็นมีแค่ปั้มหลอดที่เดียว และไม่มี ATM ที่บ่อเกลือครับ)

เห็นทางสวยดี มีดอกเหลืองๆเต็มต้นไปหมด


แถวอำเภอปัว ส้มอร่อยนะครับ แวะซื้อซะหน่อย


วิวข้างทางเมื่อใกล้ถึงอุทยานแห่งชาติดอยภูคา


เข้าเขตอุทยานแห่งชาตดอยภูคาครับ
จ่ายค่าบำรุง(จำไม่ได้ว่า20หรือ 30บาทต่อคน)


วิวทางขึ้น


ก่อนขึ้นไปถึงจุดชมวิวที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จะผ่านที่นี่ครับ
ผมไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร แต่จะมีพระพุทธรูปอยู่ด้านในให้สักการะก่อนเดินทางต่อครับ


ที่เห็นนี่คือดอกเสี้ยว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดน่านครับ






และแล้วเราก็ไปถึงจุดชมวิวครับ


จากจุดชมวิว วิวที่เห็นจะเป็นแบบนี้ครับ




ที่จุดชมวิวนี้ จะมีต้นชมพูภูคาอยู่1ต้น
ต้นชมพูภูคานี้ มีอยู่ที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียงในประเทศ เป็นต้นไม้หายากที่ใกล้จะสูญพันธุ์ชนิดนึงของโลก

จะออกดอกเพียงช่วงเดียวคือประมาณเดือนกุมภา-มีนาของทุกปี
ผมโชคดีมากครับที่ได้เห็น แม้ว่าเพิ่งจะเป็นช่วงออกดอกได้แป๊ปเดียว


ถ่ายยากมากครับ
กิ่งไม้บังไปหมด


ที่นี่จะมีใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นเหลืองและสุดท้ายเป็นสีแดงเข้ม
แต่ต้องมาช่วงปลายฝนต้นหนาว
ใบตอนนี้เลยแค่เขียวๆ


ขับต่อไปไม่นาน ไม่ถึง10กิโลก็ถึงที่หมายของเราอำเภอบ่อเกลือครับ
รวมระยะทางจากตัวเมืองน่านถึงอำเภอบ่อเกลือก็ประมาณ133กิโล
แต่ทางเหมือนขับไปปายเลยครับ รวมใช้เวลาประมาณ2ชมกว่าๆ


บ่อเกลือสินเธาว์บนภูเขาที่เดียวในประเทศ

ปัจจุบันชาวบ้านยังคงต้มแกลือด้วยวิธีแบบดั้งเดิม (ซึ่งทำมา100กว่าปีแล้ว) โดยจะตักน้ำเกลือจากบ่อส่งผ่านมาตามลำไม้ไผ่สู่บ่อพัก ก่อนจะนำน้ำเกลือมาต้มในกะทะใบบัวขนาดใหญ่เคี่ยวจนน้ำงวดแห้ง ใส่ถุงวางขายกันหน้าบ้าน เกลือเมืองน่านไม่มีไอโอดีนเหมือนเกลือทะเลจึงต้องมีการเติมสารไอโอดีนก่อนถึงมือผู้บริโภค








ใส่ถุงขายกันเห็นๆ


บริเวณรอบๆครับ




ทริปนี้นอกจากโชคดีได้เห็นดอกชมพูภูคาแล้ว ยังได้มีโอกาสเห็นช่วงที่ชาวบ้านเค้าปิดบ่อเพื่อเซ่นไหว้เจ้าพ่อบ่อหลวง ซึ่งจะปิดบ่อทุกวันที่ 18-21 กุมภาของทุกปี
และจะมีพิธีการต่างๆ มีการทรงเจ้าด้วย (ผมได้มีโอกาสไปดูพิธีด้วย แต่ไม่กล้าถ่ายรูปงะ




มีชาวบ้านและพระมาดูการทำพิธีมากมาย


ถนนเล็กๆที่บ้านบ่อหลวง อำเภอบ่อเกลือ
ที่นี่จะเป็นชุมชนที่มีคนมากที่สุดแล้ว


ปั้มน้ำมันแห่งเดียวในบ่อเกลือ



ร้านขายของเล็กๆริมทาง


ถนนที่บ่อเกลือ รูปนี้เป็นช่วงทีชุกชุมที่สุดแล้ว
มี3แยกอยู่ด้านหน้า ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาก็ไปภูฟ้า
เลี้ยวซ้ายไปดอยภูแวและน้ำตกสปัน


เดี๋ยวไปต่อกันที่ศูนย์ภูฟ้าที่พระเทพท่านทรงริเริ่มโครงการให้ชาวบ้านชาวเขาแถวนี้เลิกปลูกยาเสพติด มีที่ทำกินปลูกพืขผักผลไม้


ออกจากบ่อเกลือ มุ่งหน้าไปภูฟ้า
จะผ่านไร่สตอเบอรี่ครับ
เราขับรถออกจากบ่อเกลือวิว ขึ้นไปทาง3แยก
ตรง3แยกนี้ ถ้าเลี้ยวซ้ายก็จะไป อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่บนสุดของจัวหวัดน่าน ติดชายแดนลาว เส้นทางนี้จะผ่านน้ำตกสปันและทางเดินป่าไปยอดดอยภูแว (ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837เมตร ใช้เวลาเดินถึงยอดดอย 3วัน2คืน)

แต่จาก3แยกเราเลี้ยวขวา ซึ่งเส้นทางนี้ เราจะผ่านไร่สตอเบอรี่และภูฟ้า เป็นเส้นทางมุ่งหน้าไปอำเภอสันติสุข วกกลับเข้าอำเภอเมืองน่านได้

ที่เลือกเส้นทางนี้เพราะคุณทวน(เจ้าของบ่อเกลือวิว)บอกว่า ชาวบ้านเรียกถนนเส้นนี้ว่าถนนลอยฟ้า เพราะถนนจะอยู่บนสันเขาไปตลอดทาง ถนนเส้นเล็กๆ ด้านซ้ายและขวาคือเหวหรือภูเขาลงไป ทางสวยมาก ถนนดี แต่ต้องขับระวัง และที่สำคัญน้ำมันเหลือไม่มาก คุณทวนบอกว่าเส้นทางนี้สั้นกว่า และเร็วกว่า






เห็นวิวโล่งๆแล้วสบายตาจัง






นอกจากสตอเบอรี่แล้ว ที่นี่ก็ปลูกพืชผักต่างๆด้วย
ที่เห็นนี้คือมะเขือเทศจิ๋ว
ขายถูกมากกก โลละ 20 บาทมั้ง!!




แล้วเราก็เดินทางไปกันต่อ จุดหมายอยู่ที่ ภูฟ้า


ศูนย์ภูฟ้า กะว่าจะมานั่งทานกาแฟ ดูของที่ระลึกซะหน่อย
แต่วันที่ไปเค้าปิด เพื่อลาดยางมะตอยเตรียมรับเสด็จพระเทพ










พระตำหนักของพระเทพที่ภูฟ้าครับ




เส้นทางที่นี่สวยจริงๆ รูปนี่ถ่ายตอนออกมาจากภูฟ้าสักพักมุ่งหน้าไปอำเภอสันติสุข ก่อนถึงตัวเมืองน่าน


ดูที่จอ GPS สิครับ
ว่าทางมันวกวนแค่ไหน


วิวข้างทางที่ถนนลอยฟ้า
สวยจนต้องจอดถ่ายเป็นระยะ
แต่ทางนี้ก็เปลี่ยวเหมือนกันนะครับ
ขับไปตลอดทางเป็นชั่วโมงแทบไม่เจอรถเลย


ถ้าหน้าฝนคงเขียวชอุ่มกว่านี้


วิว2ข้างทางจะเป็นแบบนี้ตลอดเลย


และแล้วเราก็มาถึงตัวเมืองน่านโดยสวัสดิภาพ แวะเติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำแล้วออกเดินทางต่อเลย จุดหมายเราคือจะไปนอนที่จังหวัดพิษณุโลก ก่อนเข้ากรุงเทพในวันรุ่งขึ้นครับ
เราไปแวะเที่ยวกันที่วนอุทยานแพะเมืองผี จังหวัดแพร่กันครับ


ตอนไปถึงนี่แดดระอุมากๆ




รีบเดินรีบถ่ายรูปมากๆ


ไม่ไหวละ
เผ่นดีกว่า ร้อนเกิน


จบบริบูรณ์กับทริปเที่ยวน่านทั้ง2รีวิวครับ
ไม่รวมรีวิวทีพักที่อยู่ในกลุ่ม "Hotel ที่พัก" อีก3รีวิวครับ
ขอขอบคุณที่ติดตามครับ




 

Create Date : 28 มีนาคม 2553    
Last Update : 6 มิถุนายน 2553 14:42:48 น.
Counter : 18080 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

Chill up
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Friends' blogs
[Add Chill up's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.